ตอนที่ 10 กลิ่นหอม
มาวินทิ้งตัวลงนอนที่เตียงนุ่มของริสา ก่อนจะผายแขนอีกข้างเพื่อให้ริสาลงนอนหนุนที่แขนของเขา
“มา นอนไวๆ กูง่วงแล้ว จะรีบกลับห้องล่ะ” มาวินทำท่าเหมือนแค่ทำให้จบๆ ไป ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก
ริสาลังเลอยู่พัก จึงล้มตัวลงนอนข้างๆ เขา เมื่อเห็นท่าทีของมาวินที่ดูปกติ คงจะไม่รุ่มร่ามอะไรกับเธอ แค่รูปถ่ายอีกรูปเดียวเธอคงรอดจากนายแม็กซ์อะไรนั่น เธอรีบล้มตัวลงนอนหนุนแขนมาวินทันที มาวินรีบกระชับแขน ดึงร่างริสาเข้ามากอด
“อ๊ะ กะกอดทำไม อย่ากอดแน่นแบบนี้สิ”
“แค่ถ่ายรูปเพื่อความสมจริงน่า รีบๆ ถ่ายสิ กูจะแกล้งหลับ มึงก็ถ่ายไป เร็วกูง่วง”
-แต่ในอ้อมกอดแบบนี้ทำไมกลิ่นโรลออนแบบนี้คุ้นๆ -
ริสาขมวดคิ้วเป็นปม แต่ก็ตัดสินใจกดกล้องจากมือถ่ายภาพสองสามภาพ
“เสร็จแล้ว ปล่อยแขนสิ เราถ่ายรูปเสร็จแล้ว” ริสาขยับตัวดิ้นในอ้อมแขนของมาวิน แต่เขาก็เหมือนแกล้งหลับแต่กลับกอดเธอเอาไว้แน่น
“ตัวมึงหอมว่ะ กอดแล้วง่วงชิบ” มาวินพูดพำพึมราวกับละเมอ แต่ไม่ยอมปล่อยแขน
“อื้อปล่อยนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้” ริสาเริ่มเอามือทุบแขนเขาทันที
“มึงจะนอนเฉยๆ ให้กูกอดแบบนี้ หรือมึงจะดิ้นแล้วให้กูมีอารมณ์ มึงโดนกูปล้ำไม่รู้นะ”
ได้ผล พอโดนมาวินขู่แบบนี้ ริสาถึงกับชะงักกึก นอนตัวแข็งทื่อ
-ไม่น่าพลาดให้หมอนี่มานอนกอดแบบนี้เลย-
มาวิน กระชับอ้อมกอดเข้ามาแน่น ใบหน้าสวยของริสา ซุกลงอยู่ภายใต้อกแกร่งของเขา มาวินแอบลืมตาขึ้นมามองอดที่จะยิ้มไม่ได้ ก่อนจะเขาจะหอมลงตรงผมของริสา มือใหญ่ลูบผมของริสาเบาๆ เหมือนจะกล่อมให้เธอเคลิ้มจนหลับไป
รุ่งเช้า
ริสาสะลึมสะลือตื่นขึ้น ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับเอามือกอดที่เอวของมาวินเสียแน่นตั้งแต่ตอนไหน เงยหน้าขึ้นมาเห็นมาวินตื่นขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว
“อ๊ะ” ริสารีบผละมือออกจากมาวิน
“ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุก” ริสาอายที่เป็นฝ่ายนอนกอดมาวิน ทำเป็นบ่นแก้เขิน
“ยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก” มาวินหน้าตาอิดโรยลุกขึ้น
“นายทำอะไรไม่ได้นอน”
“แขนชา ปวดแขน มึงหนุนแขนกูทั้งคืน”
“ห๊ะ จริงดิ ก็ใครใช้ให้นายมาตีมึนนอนกอด ทีหลังปลุกสิ” ริสาพูดหน้างอ
“กูมัวแต่สงบจิตสงบใจต่างหาก ใครใช้ให้มึงมากอดกูแน่นทั้งคืน” ว่าแล้วมาวินก็ลุกขึ้นอย่างเพลียๆ
“เอ่อ…” ริสาอายหน้าแดง
“อาบน้ำแต่งตัวรอละกัน เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน จะได้ไปทำงาน”
-ไม่ควรนึกแผนการบ้าๆ มาทรมานตัวเองแบบนี้เลยมาวินเอ้ย-
จริงๆ เมื่อคืนก็อยากจัดการริสา แต่อยู่ๆ มาวินก็รู้สึกสงสาร เพราะตอนที่กลับเข้ามาเจอเธอ สีหน้าดูแย่มาก
ริสารีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู จำได้ว่านายแม็กซ์นั่นขู่จะขอรูปเธอกับแฟนคู่กัน แปลกที่มันไม่ได้ส่งไลน์มารังควานเธออีก ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้ส่งรูปไปให้มันเลยด้วยซ้ำ
ริสารีบกดไลน์ส่งรูปของเธอกับมาวิน ไปที่ไลน์ของนายแม็กซ์ทันที ก่อนจะเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในไลน์เป็นรูปของเธอกับมาวิน
: นี่รูปฉันกับแฟน ต่อไปเลิกมารังควานฉันได้แล้ว
เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในไลน์ไม่ถึงสิบนาทีไม่ช้าเพื่อนของเธอ นัชชาก็รีบ Facetime มาทันที
“อะไรอ่ะ ริสา ตัวเองกับมาวิน คบกันยังงั้นหรอ เห็นตัวเองเปลี่ยนรูปในไลน์”
“เปล่าๆ แค่ให้เป็นไม้กันหมาหน่ะ”
“อะไรใครเป็นไม้กันหมาว่ะ” มาวินที่กลับไปอาบน้ำแต่วตัวที่ห้องตัวเองเสร็จแล้ว เปิดประตูห้องริสาเข้ามา เพราะตอนออกไปเขาไม่ได้ล็อคห้อง
“เสียงนายมาวินหนิ ริสาทำไมไอหมอนั่นอยู่ในห้องตัวเองล่ะ”
“เอ่อคือ”
มาวินโผล่หน้าเข้ามาในกล้อง ก่อนจะดึงโทรศัพท์มาคุยแทน
“กูสองคนนอนด้วยกันเมื่อคืน”
“บ้า ไม่ใช่นะ นัชชา” ริสาเข้าไปยื้อแย่งโทรศัพท์กับมาวิน เขายกโทรศัพท์ขึ้นเหนือหัวจนริสากระโดดแย่งไม่ถึง ไม่ช้าร่างบางก็กระโดดเซจนแนบไปกับอก
สองคนสบตากันอยู่พัก ก่อนที่มาวินจะก้มตัวลงมาคล้ายจะจูบ
“อ๊ะ อย่านะ” ริสารู้สึกตัวรีบผลักใบหน้าเขาให้ออกห่าง
“ก็ปากมึงหน้าจูบ”
“แต่คนปากหมาอย่างนาย ไม่คู่ควรที่จะสัมผัสปากของฉัน” ริสาผลักมาวิน “เอาโทรศัพท์คืนมาฉันจะคุยกับเพื่อน” ริสาชักสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะไปคุยกับเพื่อนต่อ ทิ้งให้มาวินอารมณ์ค้าง ฮึดฮัดที่โดนเธอดูถูกอีกแล้ว
“นัชชาขอโทษนะ นายมาวินมันแกล้งนะ ไม่มีอะไรฉันก็แค่ขอติดรถเขาไปที่ทำงาน”
“อ่อ อ่อจ๊ะ แล้วตัวเองนึกไงไปเปลี่ยนรูปไปรไฟล์คู่กับนายนั่น”
“รำคาญพวกโรคจิตมาวอแวนะ ไม่มีอะไรหรอก” ริสาหันไปเบ้ปาก ค้อนใส่มาวินทีนึง
“งั้นวันศุกร์ตอนเย็นเจอกันหน่อยไหม พี่ที่ทำงานฉันว่าจะพาไปเปิดหูเปิดตา”
“ไปสิไป ส่งโลเคชั่นมานะ เดี๋ยวศุกร์เย็นเจอกัน
“โอเคร แล้วเจอกัน”
ริสาวางสายจากนัชชา ก่อนรีบกันไปบอกมาวินที่ยืนหน้ามู่อยู่
“วันศุกร์เรานัดกับนัชชากับปลายฟ้าไปปาร์ตี้นะ ไม่ได้กลับบ้านพร้อมนายนะ”
“ไม่ให้ไป!”
“เอ๊ะ แปลกคน นายมีสิทธิ์อะไรมาห้าม”
ริสาเชิดหน้าขึ้นไม่พอใจ เขาไม่มีสิทธิ์มาห้ามให้เธอไม่ให้เธอไปไหนมาไหนด้วยซ้ำ
“ทำไมไม่มีสิทธิ์ว่ะ ก็กู…...”
“อะไร”
“เพราะกูอยู่หอเดียวกับมึง”
“ถ้าเลือกได้ก็ไม่ได้อยากอยู่ด้วยสักหน่อย”
ทันทีที่ริสาตอกหน้า มาวินได้แต่พ่นลมหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนที่เขาจะหุนหันออกจากห้อง แต่ก็ยังไม่วายหันไปบ่นใส่เธอ
“ไม่ไปทำงานหรือไง ตามมา”
ริสารีบคว้ากระเป๋าก่อนจะวิ่งตามมาวินลงไปที่รถเพื่อไปทำงานทันที
ทั้งอาทิตย์ มาวินยังคงมารับส่งริสาตามปกติ จะมีก็แต่อารมณ์ที่ดูจะหงุดหงิดเป็นพิเศษ แม้กระทั่งตอนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ก็ดูจะพูดน้อยลงกว่าทุกครั้ง
เขาเองก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงอารมณ์เสียอย่างตอนนี้ แค่ริสาจะไปปาร์ตี้กับเพื่อนเอง ส่วนริสาไม่ได้สนใจอารมณ์ที่แปรปรวนของมาวินเท่าไหร่นัก เพราะเธอไม่ได้คิดสนใจเขาอยู่แล้วตั้งแต่แรก
ศุกร์เย็นตามนัด เมื่อพนักงานเริ่มแยกย้ายกันกลับบ้าน ริสาเปลี่ยนชุดที่เตรียมมา เป็นสายเดี่ยวสีดำรัดรูปตัดกับผิวขาวเนียนใสของเธอ ก่อนจะไปหาเพื่อนตามที่นัดไว้
นัชชา ปลายฟ้า และ รุ่นพี่ที่ฝึกงานอีกราวๆ ห้าคน เห็นริสาที่ตามเข้ามาทีหลัง ยังอดชมในความสวยของริสาไม่ได้ สองสาวรีบ แนะนำริสากับรุ่นพี่ที่ฝึกงาน ซึ่งหนุ่มๆ เริ่มกระดี๊กระด๊าตาเป็นมัน ออกอาการจีบริสาทันที
“เพื่อนเราหรอ น้องนัช สวยจังนึกว่าดารา” พี่เอกหนึ่งในรุ่นพี่ของกลุ่มที่ชวนสองสาวมา เอ่ยทัก
“ใช่ค่ะ กลุ่มเดียวกัน ตอนแรกก็มีรายชื่อฝึกงานที่นี่กันสามคนแต่อยู่ดีๆ ชื่อริสาก็โดนเปลี่ยนให้ไปทำที่อื่น” นัชชาตอบ พร้อมเรียกริสาให้เข้ามานั่งใกล้ๆ
“เสียดายจังนะครับ น้องริสาถ้าฝึกงานที่นี่ด้วยกันก็จะดี ไม่งั้นเราคงได้สนิทกันมากกว่านี้” เอกเริ่มทำตาหวานเยิ้มส่งสายตาจีบให้ริสา
ริสาได้แต่ยิ้มแห้งๆ แทนคำตอบกลับ ก่อนจะหันไปคุยกับนัชชาและปลายฟ้าต่อ
“ฉันไม่คิดว่าจะมีคนมาด้วยเยอะขนาดนี้” ริสาหันไปกระซิบกับเพื่อน
“ตอนแรกมีแค่รุ่นพี่ผู้หญิงสองคนที่แผนกชวนมา แต่ที่เหลือพี่ผู้ชายสามคนนี้อะตามมาทีหลัง” นัชชากระซิบกลับ
“ขอโทษนะ เค้าเองก็ไม่รู้ว่าจะมีคนตามมาเยอะขนาดนี้” ปลายฟ้าเอ่ยขึ้นบ้าง
“ไม่เป็นไร แค่เค้าได้เจอตัวเองสองคนก็ดีแล้ว คิดถึงมาก ว่าแต่ฝึกงานเป็นยังไงบ้าง”
“งานหรอ ไม่มีอะไรมาก เค้าสนิทกับ พี่ๆ ผู้หญิง พี่นก พี่ตาล กลุ่มนี้ แล้วตัวเองอะ”
“เค้าสนิทกับพี่ดาวที่เป็นเลขาบอสแค่สองคน เพราะว่าเค้านั่งกันอยู่หน้าห้อง ไม่ได้ใกล้แผนกอื่นเลย”
เธอจะไปสนิทกับใครได้ล่ะ เมื่อนึกถึงนายมาวินจึงพูดต่อ
“ตอนเช้าก็ทำงานกับมาวิน ตอนเที่ยงออกไปกินข้าวกับมาวิน ตอนเย็นกลับบ้านกับมาวิน แทบไม่ได้รู้จักกับคนอื่นเลย อึดอัดจะแย่”
“หูย แบบนี้เค้าว่า มาวินมันกลับมาตามจีบตัวเองใหม่แหงเลย แล้วเมื่อเช้ามันยังไงกันนะ ที่มาวินโผล่มาที่ห้องตัวเองอะ”
“จีบหรอก คงไม่หรอก นายนั่นคงกะล่อนไปทั่ว เค้าไม่มีทางเป็นเหยื่อมันหรอก ตัวเองก็รู้เค้าไม่ชอบคนพูดจากูๆ มึงๆ แบบนั้น คือ แค่มีคนโรคจิตตามรังควานฉันเลยขอความช่วยเหลือจากนายนั่นเท่านั้นเอง”
“สามสาว บลูฮาวายครับ พี่สั่งมาให้ กินกันก่อน” พี่เอก ขัดจังหวะการสนทนาของสามสาว ก่อนส่งสายตาหวานเยิ้มให้ริสา ตลอดเวลาที่นั่งกินกัน สายตารุ่นพี่แอบลอบมองริสาอยู่ตลอดเวลา
เดิมทีเขาตั้งใจจะเคลมปลายฟ้า เพราะดูจะเรียบร้อยไม่ทันคน พอมาเจอริสาที่ดูสวยแบบลูกคุณหนูเอาแต่ใจก็ถูกชะตาทันที
สามสาวเอาแต่จับกลุ่มคุย ไม่ทันระวังตัวด้วยซ้ำว่ารุ่นพี่ผู้ชายทั้งสามคน ไม่ได้เจตนาดีเท่าไหร่นัก
——————————-