บทที่ 4 ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ
ทันทีที่ประโยคนั้นจบลง ลมหายใจของฉันก็กระตุกเฮือกอย่างหวาดระแวงอย่างห้ามไม่ได้ ตอนนี้ล่ามเหมือนเป็นซาตานร้ายที่พร้อมจะเล่นงานฉันได้ทุกเมื่อ ทั้งแววตาที่วาวโรจน์ และน้ำเสียงที่กดต่ำจนน่าขนลุก
ทุกอย่างมันทำให้ล่ามในตอนนี้ดูน่ากลัวที่สุด
“อย่าเรียกฉันแบบนั้นนะ”
“ทำไม เกิดอยากถือตัวขึ้นมาเหรอ?”
“….”
“ไม่ทันแล้วมั้ง”
“นายมันทุเรศ! ที่พี่โรมไปสั่งสอนนายมันก็ถูกต้องแล้วล่ะ”
“เธอทำให้พี่น้องเขาต้องมาต่อยตีกันเองน่ะเหรอที่บอกว่าถูก โคตรงี่เง่า!!”
ล่ามสาดคำด่าที่ฟังแล้วทำเอาฉันหัวร้อนหน้าชาราวกับกำลังมีกองไฟกองใหญ่ๆ สุมเข้ามาที่หัวฉันโดยมีน้ำมันชั้นดีคอยทำให้ไฟลุกโชน นั่นก็คือคำพูดเสียดสีของคนตรงหน้า!!!
“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าให้มันสาสมกับคนชั่วช้าสามานย์อย่างนายดี!”
“ด่าไปคิดว่าฉันเจ็บเหรอ”
“ลืมไป ว่าคนที่ทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้หญิงไม่มีทางสู้อย่างนายคงไม่มีจิตใต้สำนึกอะไรหรอก!”
“หยุดพูดซะ!! และอย่าให้รู้ว่าเธอไปเป่าหูอะไรเฮียอีก วันนี้ไปไหนกันมาอย่าคิดว่าฉันไม่รู้” มือหนาฉกเข้ามาจับคางฉันพร้อมกับออกแรงบีบจนบริเวรนั้นเกิดอาการเจ็บจี๊ดจนฉันต้องเบ้ปากน้ำตาซึม
“ปล่อยนะมันเจ็บ!”
“ครั้งที่แล้วฉันคงสั่งสอนเธอเบาไป เธอถึงได้กล้ามาต่อปากต่อคำกับฉันอีก”
“ปล่อย อื้อ!!!”
ริมฝีปากหนากดทับลงมาที่ริมฝีปากเล็กอย่างจาบจ้วงและป่าเถื่อนที่สุด! เขาจูบฉัน!!! ไอ้บ้านี่กล้าดียังไงมาขโมยจูบแรกของฉัน!!!
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ไม่ว่าฉันพยายามออกแรงทุบหรือว่าหาทางต่อต้านคนตัวสูงยังไงก็ไม่สามารถสู้แรงมหาศาลของล่ามได้เลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังเป็นการยั่วโมโหปีศาจร้ายส่งผลให้ล่ามยิ่งบดขยี้ริมฝีปากของฉันหนักหน่วงขึ้นยิ่งกว่าเดิมจนปากฉันระบมจนชาไปหมด เขามันเลว เลวชนิดที่ว่าไม่มีใครเทียบติด!!!
และฉันก็เกลียดผู้ชายคนนี้มากขึ้นทุกครั้งที่เจอกัน
“อื้อ!”
“ทีนี้จะหยุดปากดีได้รึยัง” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยถามที่ข้างหู ในขณะที่ใบหน้าของเราอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ผละออกจากริมฝีปากฉันเล็กน้อยหลังจากที่ปล้นจูบจนพอใจแล้ว ก่อนจะพ่นคำร้ายกาจใส่ฉันอีกครั้ง
“นายมัน…” ฉันได้แต่มองหน้าหล่อตาขวางอย่างโกรธแค้น แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ไม่ได้เลย!
นี่แหละข้อเสียเปรียบของการเป็นผู้หญิง มักแพ้แรงผู้ชาย
“ด่าอีกคำ ไม่จบแค่จูบแน่”
“ทำยังไงนายถึงจะเลิกตามมาวุ่นวายกับชีวิตฉันสักที ฉันเบื่อขี้หน้านายจะแย่อยู่แล้วนะ”
“เลิกยุ่งกับเฮียและเอวาซะ แล้วฉันจะไม่เฉียดเข้าใกล้คนอย่างเธออีก”
“ผิดแล้ว ทุกวันนี้ฉันไม่เคยยุ่งกับยัยนั่นสักนิด แต่กับพี่โรมน่ะใช่ แล้วนายก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามเราด้วย”
“เรา?”
“ใช่ ฉันกับพี่โรมเราสนิทกันมาตั้งนานแล้ว และถ้าเราสองคนอยากจะเลื่อนสถานะเป็นอย่างอื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่นายต้องมาเดือดร้อน!!”
“ลองดูสิว่าจะได้เลื่อนมั้ยถ้าฉันยังอยู่ตรงนี้”
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับนายนะ”
“แต่เฮียกำลังจะหมั่นกับเพื่อนฉัน ถ้ายังพอมีความเป็นคนอยู่บ้างเธอน่าจะเห็นใจเอวาในฐานะผู้หญิงด้วยกัน และหยุดมันซะตั้งแต่ตอนนี้”
“….”
“แต่ถ้ายังดึงดันที่จะไปต่อ เราได้เห็นดีกันแน่ญดา!!”
“นี่นาย!!!”
“แล้วเธอจะได้รู้ว่านรกมีจริง!”
“จะทำอะไร”
“ทุกอย่าง เพื่อกันเธอออกให้ห่างจากเฮียฉันทำหมด”
“นายมันถนัดเรื่องชั่วๆ อยู่แล้วสินะ”
“ใช่ เพราะฉันมันสารเลวไง”
“….”
“อยู่ให้ห่างเฮีย ถ้าไม่อยากเดือดร้อน”
“แล้วถ้าฉันไม่ทำล่ะ?”
“ฉันจะไม่พูดซ้ำอีก”
ปัง!!
ล่ามว่าจบก็เดินปิดประตูเต็มแรงและหายไปจากห้องของฉันดั่งพายุลูกใหญ่ที่พัดผ่านมา แล้วก็พัดผ่านไป ทิ้งให้ฉันยืนเก็บอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลอยู่ภายในอกเพียงคนเดียว
มือเล็กเผลอกำหมัดแน่นจนเล็บยาวๆ จิกทิ้มเข้าไปในเนื้อที่ฝ่ามือบาง
ฉันเกลียดเขาที่สุด ยิ่งเจอก็ยิ่งเกลียด!!!
[บันทึกพิเศษ : ล่าม]
“ฮัลโหล ไอ้อสูร”
[เออ ว่า?]
“ว่างอยู่มั้ย”
[ว่าง ทำไมวะ]
“สืบทีว่าพรุ่งนี้นางแบบที่ชื่อญดามีงานที่ไหน สืบตารางทั้งเดือนได้ยิ่งดี”
[มึงจะอยากรู้ไปทำไม]
“กูจะจับตาดูยัยตัวแสบไว้ เอาเป็นว่าถ้ามึงรู้แล้วรีบบอกกูเลยนะ”
[เดี๋ยวนี้ติดสาวจนต้องสืบเรื่องของเขาเลยเหรอวะ ไปแดกยาตัวไหนมา]
“ไม่ใช่ไอ้สัส! เลิกพูดเลย”
[เออ ไว้จะดูให้ แต่ได้ข่าวว่านางแบบคนนี้โคตรสวย เล่นของสูงเลยนะมึง]
ติ้ด!
ผมกดตัดสายไอ้เพื่อนปากมากทั้งที่มันยังพล่ามไม่จบประโยคด้วยซ้ำ ขี้เกียจฟังมันพูด ไอ้นี่ยิ่งพูดก็ยิ่งกวนประสาท แต่เรื่องเส้นสายผมต้องพึ่งพามันจริงๆ เพราะไอ้อสูรนับว่าเป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวางคนหนึ่งในแถบนี้เลยล่ะ ผมถึงขอให้มันช่วยสืบตารางงานของญดาให้ไง และมันสืบได้แน่
ผมจะไม่ปล่อยยัยนั่นไปง่ายๆ หรอก ตราบใดที่เธอยังไม่หยุดเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเฮียและเอวา!
[จบบันทึก]
≪•◦ ❈ ◦•≫
เอาเลยค้าาา ตอนแรกๆ ไรท์อนุญาตให้ด่าอิล่ามได้เต็มที่เลย เพราะหลังๆ ลีดอาจจะเปลี่ยนใจกลายเป็นสงสารนางแทนตอนที่อิล่ามถูกน้องญดาของเราเอาคืน ฮุฮุ