บทที่3. ข้อเสนอ

1597 คำ
จรสจันทร์ล้างฟองน้ำยาล้างจานออกไปจากมือจนสะอาด รีบลุกขึ้นไปทำงานตามคำสั่งของพีลาด้วยความว่องไว จนคนงานสาวหลายๆ คนแอบหมั่นไส้พีลาที่ดูจะมีเมตตาเอ็นดูเด็กใหม่เกินกว่าคนงานทุกคน ทั้งที่พีลาหวงเกอร์เตส จนไม่ยอมให้สาวๆ คนงานได้เฉียดเข้าใกล้ถ้าพีลาอยู่ในบริเวณนั้น แต่กลับอนุญาตให้เด็กสาวใบหน้าหมดจดเป็นคนยกอาหารไปเสิร์ฟให้เจ้านาย จึงสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนงานสาวๆ หลายคนที่กำลังกินอาหารกันอยู่ เพราะแอบอิจฉาความโชคดีของจรสจันทร์ ที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์แบบเกอร์เตส กัลตาโว ถาดอาหารถูกวางตรงหน้าเกอร์เตส อาหารฝีมือของพีลาอร่อยขึ้นชื่อ จนคนงานพากันฝากท้องที่โรงอาหารเป็นแถว วันนี้คงจะถูกปากใครๆ หลายคนเพราะเมนูเด็ดวันนี้คือ กวัวคาโมลี(1) อาหารสไตล์เม็กซิกันมีชื่อเสียงกระจายไปทั่วโลกในรสชาติเผ็ดร้อน เกอร์เตสเหลือบมองมือเรียวบางที่วางถาดลงตรงหน้า ก่อนจะถอยหลังจากไปเงียบๆ เพื่อทำงานในหน้าที่ตัวเองต่อ ไม่มาวอแวอยู่ใกล้ๆให้ชายหนุ่มรำคาญเหมือนคนงานสาวๆ ที่มีโอกาสใกล้ชิด มุมปากหนาหยักยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ใช้ช้อนตักอาหารตรงหน้ากินอย่างสบายอารมณ์ เหลือบมองเด็กสาวแบบไม่ให้เจ้าตัวรู้ตัวเป็นระยะ แต่กลับตกอยู่ภายใต้การสังเกตของพีลาอยู่ตลอด สาวใหญ่อดเป็นห่วงจรสจันทร์ตามประสาผู้หญิงเหมือนๆ กันไม่ได้ พีลาได้แต่หวัง ว่าเด็กสาวจะไม่เหมือนกับคนงานสาวคนอื่นๆ แต่ถ้าจรสจันทร์เหมือนสาวๆ ทุกคนที่เข้าไปพัวพันกับเกอร์เตสเพราะหวังสบาย นางก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย “หนูรส…รู้ใช่ไหมว่าเจ้านายนะตัวอันตราย” พีลากระซิบถามจรสจันทร์เมื่อหล่อนเดินผ่าน เด็กสาวชะงัก ก่อนจะพยักใบหน้ารับคำพีลาเบาๆ “ดีแล้ว...อยู่ให้ห่างไว้ถ้าอยากมีอนาคตดีๆ เกอร์เตสไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อน พีลาหวังดีนะถึงเตือน” “ขอบคุณพีลามากๆ ค่ะ รสจะระวังตัว” “ระตัวอย่างเดียวไม่พอนะหนูรส ต้องระวังใจด้วย เสน่ห์เกอร์ เตสนะล้นเหลือ ถ้าพีลาเป็นสาวๆ ละก็จะลองลงสนามดูซักตั้งล่ะ” พีลาเอ่ยสัพยอกเจ้านายหนุ่มที่ฟีโรโมนล้นเหลือ กระจายหอมฟุ้งจนคนงานสาวๆแทบจะฆ่ากันตายเพื่อแย่งชิงหนุ่มเจ้าของเหมืองไปครอบครองบนเตียงนอนของสาวๆ เหล่านั้น “ค่ะพีลา…” จรสจันทร์เหลือบมองเกอร์เตส เมื่อพีลาเอ่ยถึงเสน่ห์อันหอมหวนของชายหนุ่ม จนได้สบนัยน์ตากันจังๆ เมื่อเกอร์เตสก็เหลือบมามองมาทางจรสจันทร์พอดี สายตาสองคู่จับจ้องมองกันอย่างหลงลืมเหมือนมีกระแสไฟอ่อนๆ วิ่งจากแววตาคมกล้า มาสู่ดวงตากลมโตของจรสจันทร์จนเด็กสาวใจสั่นกระตุก แก้มใสซับสีระเรื่อ เมื่อเลือดสูบฉีดอย่างรุนแรงจนแก้มใสแดงก่ำ เธอจึงเสหลบสายตาพัลวัน “รสไปล้างจานต่อนะคะ” เสียงหวานสั่นๆ บอกพีลาแม่บ้านก่อนจะรีบหนีไปจากตรงที่ยืนอยู่ เมื่อเธอยังรู้สึกถึงสายตาคมดุที่จับจ้องอยู่จึงรีบหนีไปให้พ้น เมื่อหัวใจไม่รักดีเริ่มหวั่นไหว มันเต้นระรัวจนแทบหายใจไม่ทัน (1)กวัวคาโมลีอาหารขึ้นชื่อของเม็กซิโก ที่ทำจากอโวคาโด หัวหอม และผักชี เสิร์ฟคู่กับแป้ง Tortillas (แป้งทอเทีย) อาหารจานนี้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก เนื่องจากรสชาติที่รุนแรงตามสูตรเม็กซิกัน แต่เรานั้นสุดชอบความมันของอโวคาโด อีกทั้งความหอมฉุนของผักชี เมื่อกินคู่กับแป้งกรอบที่เสิร์ฟมาคู่กันนั้นอร่อยจนลืมไม่ลงทีเดียว จรสจันทร์แหงนหน้ามองดวงจันทร์ยามกลางคืน ท้องฟ้าสว่างไสวเพราะแสงจันทร์เรืองอร่าม บานหน้าต่างเปิดกว้าง เธอเกยคางกับเรียวแขนที่วางอยู่บนขอบหน้าต่าง สายตาเหม่อมองแสงจันทร์อย่างเลื่อนลอย ความคิดลอยเคว้งคว้าง เมื่อเธอยังหาทางออกแทนพ่อกับแม่ไม่ได้ ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็เหมือนถูกบีบอัดจนแทบจะขาดใจตายทั้งๆ ที่ยังมีลมหายใจ ท้องฟ้าในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ? มันหม่นหมัวหรือสว่างจัดจ้าเหมือนที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้ หญิงสาวอาภัพคิดไปร้อยแปดพันเก้า เธอเดินทางรอนแรมมาไกลก็เพราะหวังว่าจะได้ช่วยเหลือพ่อและแม่ได้อีกทาง โดยการมาขายแรงงานไกลถึงต่างแดน แต่เหตุการณ์พลิกผัน!! ไม่เป็นเช่นที่หวังไว้ เธอเกือบเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่ต่างแดนไกลและไม่สามารถช่วยพ่อและแม่ได้แม้ซักนิดเดียว หญิงสาวกังวลเธอเป็นห่วงบิดา มารดา ป่านนี้ท่านทั้งสองคงกำลังเป็นห่วง เมื่อข่าวคราวของเธอหายเงียบไป จรสจันทร์ให้ราเชษฐติดต่อกับบิดา มารดา ขอเลขบัญชีธนาคารเพื่อจะได้ส่งเงินกลับบ้าน แม้มันจะไม่สามารถไถ่ถอนที่ดินกลับคืนมาได้ บุพกาลีก็จะได้ไม่ลำบากนัก เมื่อทั้งสองท่านแก่เฒ่าจนไม่สามารถเริ่มต้นทำงานหนักๆ ได้อีกถ้าที่ดินถูกยึดไปจริงๆ อะแห้ม!! เสียงกระแอมดังขึ้น ไม่ไกลจากบริเวณที่จรสจันทร์นั่งอยู่ เธอจึงกวาดตามองหา ก่อนจะผลุบศีรษะหลบเมื่อมองเห็นเกอร์เตสเจ้านายของคนทั้งเหมือง ยืนดำทะมึนท่ามกลางความมืดยามราตรี “นอนไม่หลับรึไง?” จรสจันทร์พิงแผ่นหลังกับพนังห้อง ฟังเสียงทุ้มๆ ที่เอ่ยถามโดยไม่ได้ตอบกลับไป เกอร์เตสยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อสังเกตเห็นชายผ้าขยับไหว แสดงว่าหญิงผู้นั้นยังไม่ได้หลบไปไหน หล่อนยังคงนั่งฟังอยู่ แต่ไม่ยอมแสดงตัว “เธอมีเรื่องกลุ้มใจอะไรเหรอ? ป่านนี้ถึงยังไม่นอน มีอะไรให้ฉันช่วยไหมล่ะ ถ้ามีก็บอกมาฉันจะได้หาทางช่วย อยากกลับบ้านหรือไงกัน” คำถามสุดท้ายกระทบหัวใจเด็กสาวอย่างจัง จนน้ำตาเม็ดเล็กๆ ไหลริน เสียงสะอื้นแผ่วๆดังท่ามกลางความเงียบสงัด เกอร์เตสจึงอดทนรอเวลา “ว่าไงอยากให้ช่วยหรือเปล่าล่ะ???” ชายเจ้าเล่ห์ถามย้ำ “คุณจะช่วยรสจริงๆ หรือคะ ไม่ได้หลอกกันนะ รสมีเรื่องให้คุณช่วย แต่รสไม่มีอะไรตอบแทนคุณเลยค่ะ มีแค่เงินแรงงานกับร่างกายที่พร้อมจะทำงานใช้หนี้คุณ จนกว่าจะหมด” เสียงหวานสั่นพร่า เมื่อเจ้าตัวกลั้นสะอื้นก่อนจะถาม “ออกมาคุยกันข้างนอกเถอะ เดี๋ยวพีลาตื่นเธอจะถูกดุเปล่าๆ”เกอร์เตสเอ่ยชวน เมื่อได้จังหวะที่หญิงผู้นั้นเผลอแสดงความสนใจข้อเสนอของเขาออกมา “เดี๋ยวรสออกไปค่ะ คุณรอแปบนะคะ ขอรสไปล้างหน้าล้างตาก่อน” เกอร์เตสยิ้มสมใจ เมื่อกวางสาวหลงติดบ่วงนายพราน จากข่าวคราวที่ได้ยินมา จรสจันทร์กำลังดิ้นรนหาทางกลับบ้านเนื่องจากมีปัญหาหนักอกรออยู่ เขาจึงคิดว่าใช้เงินซักก้อน เป็นเหยื่อล่อ ก็คงได้ชิมเนื้อกวางหวานๆ สมใจ แค่คิดถึงรสชาติหวานละมุนของผู้หญิงที่พึงใจ กายแกร่งประจำกายก็ผงาดง้ำ มันขยับขยายลำตัวใหญ่คับหน้าขา “ใจเย็นไอ้ลูกชายไม่นานเกินรอหรอก” ชายหนุ่มกระซิบปลอบใจตัวเอง เสียงแหบพร่า รีบข่มกลั้นความรู้สึกของตัวเองสุดฤทธิ์ ก่อนที่ไก่จะตื่นเตลิดหนีหลุดมือไป กลิ่นแป้งหอมอ่อนๆ ลอยมาตามสายลม ก่อนที่จรสจันทร์เดินมาถึง เกอร์เตสก็สูดดมกลิ่นหอมๆ จนชื่นฉ่ำใจเก็บไว้ปลุกปลอบใจตัวเอง “คุณเกอร์เตสคะ?!!” เสียงสั่นพร่าร้องเรียก “อืม” ชายหนุ่มครางรับ เขาหมุนกายกลับมา พร้อมกับสายตาเย็นเฉียบทอดมอง “ว่ามาซิ...ฉันกำลังรอฟังอยู่ อยากให้ช่วยอะไรบ้างลองพูดมา เผื่อเรื่องที่เธอต้องการความช่วยเหลือ ฉันจะสามารถช่วยได้” คำพูดเหมือนผู้ใหย่ใจดี “รสจะบอกคุณยังไงดีคะ รสไม่มีอะไรซักอย่างมายืนยัน แล้วคุณจะเชื่อรสหรือเปล่าก็ไม่รู้” “ลองพูดมาก่อน ฉันจะตัดสินใจเอง เชื่อไม่เชื่อนั้น...ฉันเป็นคนตัดสินใจ” “ค่ะ” หญงสาวจำใจเล่าปัญหาคับอกให้คนแปลกหน้าฟัง บางทีเขาอาจจะมีหนทางช่วย เมื่อเกอร์เตสคือฟางเส้นสุดท้ายที่ลอยผ่านมา...ตรงหน้า เสียงสั่นพร่าเล่าถึงความคับแค้นใจที่ถูกหลอกลวงมาขายแรงกาย กับความตึงเครียด เมื่อปัญหาใหญ่ ขยับใกล้เข้ามาทุกทีๆ กำหนดเวลาสำหรับการไถ่ถอนที่ดิน ที่เอาไปจำนองไว้กับเจ้าหนี้แถวบ้าน เพื่อหาเงินก้อนมารักษามารดาที่เจ็บป่วยกะทันหัน บุพกาลีทั้งสองแก่เกินกว่าจะไปรับจ้างทำงานหนักๆ ถ้าที่ดินถูกยึดไปจริงๆ ที่ทางไม่ได้มาก แต่มันคือหยาดเหงื่อของพ่อที่หามาตลอดชีวิต จรสจันทร์จึงอาสามาทำงานต่างแดนหวังได้เงินกลับไปไถ่ที่ดินบ้าง เวลามันกระชันจนเธอเผลอตัว ไม่ได้ตรวจสอบบริษัทจัดหางานให้ดี จึงเป็นโอกาสให้ถูกหลอกได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ยังโชคดีหนีรอดมาได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม