ฝนยังตกกระหน่ำตอนที่รถตู้คันงามเลื่อนเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ แม้กชนิภาจะพยายามหาทางหนีมาตลอดทาง แต่เนคไทสามเส้นที่มัดมือมัดขาและมัดปากก็ทำให้เธอไม่สามารถเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของคนแปลกหน้ากลุ่มนี้ได้เลย!
“ไปเรือนเล็กหลังสวน”
เสียงห้าวร้องสั่ง ขณะพยายามกดตัวเธอให้หยุดดิ้น เขากระตุกเนคไทที่รัดข้อมือเธอจนมันยิ่งรัดแน่นแทบจะบาดผิวเนื้อ กชนิภาคราง ในคอด้วยความเจ็บและกลัวจนแทบจะหยุดหายใจให้มันรู้แล้วรู้รอดไป หากแต่รถตู้คันนั้นก็จอดสนิทที่สุดปลายถนน ก่อนเธอจะถูกแก้มัดที่ ข้อเท้าและถูกฉุดลงจากรถลากให้เดินตามเขาไปในทางเดินชื้นแฉะรกเรื้อด้วยต้นไม้ใหญ่อย่างไร้ความปรานี
“เอารถไปเก็บ แล้วอย่าบอกใครเรื่องนี้เด็ดขาด”
เขาหันไปสั่งครู่หนึ่ง ก่อนฉุดต้นแขนเธอกระชากให้เดินตามไปอีกโดยไม่สนใจอาการสะบัดหนีและเบรกเท้าตัวเองของกชนิภาเลยสักนิด
เมื่อเธอพยศมากเข้า เขาก็หันมาสบถหยาบคายก่อนรวบตัวเธอขึ้นพาดบ่าอีกหนอย่างง่ายดายเหมือนแบกถุงใส่นุ่น
“อ่อยอั๋นอ๊ะ (ปล่อยฉันนะ)”
เสียงนั้นอู้อี้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ หญิงสาวจึงยกมือที่ถูกมัดขึ้นแล้วทุบไปที่หลังของเขาสุดแรงหลายต่อหลายครั้งติดกัน แต่ให้ตายเถอะ! ผู้ชายคนนี้เนื้อตัวทำด้วยเหล็กหรืออย่างไร ยิ่งทุบ ยิ่งตี มือเธอยิ่งเจ็บแปลบและเป็นรอยปื้นแดง
ในขณะที่คนถูกตีไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด!
กชนิภาอุทานในคอด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ก็ถูกทุ่มตัวลงกับความแข็งกระด้างของฟูกนอนเก่าๆ ในเรือนไม้เก่าๆ กลิ่นอับอบอวลไปทั่ว ความมืดและไอหนาวเข้าครอบคลุมทั่วบรรยากาศ
ชายแปลกหน้าหันกลับไปดึงประตูห้องปิดดังปัง! นั่นทำให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดและเงียบงัน ก่อนไฟเพดานจะสว่างวาบ จนหญิงสาวสะดุ้งสุดตัว
กชนิภาถัดกายหนีเมื่อร่างสูงใหญ่ก้าวพรวดเข้ามาดึงเนคไทลงจากริมฝีปากที่สั่นระริก เธอหดคอลงอย่างกริ่งเกรงและหวาดกลัว ก้อนสะอื้นตีขึ้นมาที่อกอย่างไม่อยากจะคาดเดาชะตากรรมของตนเลย
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอยังอยู่ในห้องสอบของมหาวิทยาลัย เธอกำลังจะเรียนจบ กำลังมีอนาคตที่สดใส แต่ตอนนี้เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเธอดับวูบ หมดสิ้น ไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะหายใจอยู่ได้อีกกี่นาที ก่อนถูกผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ฆ่าตายทั้งที่เธอไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร ต้องการอะไร!
“ไอ้กสิณมันหายหัวไปไหน!”
ไหล่บางสะดุ้งโหยง ก่อนส่ายศีรษะเป็นระวิงทั้งน้ำตานอง
“ไม่รู้” เธอสะอื้นฮัก “พ่อไปทำงาน ไป... ไปตั้งแต่เช้า”
กชนิภากัดริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้น ก่อนเอ่ยถามเสียงสั่น
“พวกคุณตามหาพ่อทำไม พ่อฉันทำผิดอะไรเหรอคะ พวกคุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า”
จักรธนแค่นยิ้มดุดันกับคำถามซื่อๆ ของหญิงสาวตรงหน้า... ลูกสาวของไอ้คนระยำที่ครอบครัวเขาไว้ใจนักหนาและชุบเลี้ยงให้ข้าวให้น้ำมายาวนานนับสิบปี!
กสิณ คุณาลัย เป็นมือขวาของพ่อนับแต่บิดาของจักรธนริเริ่มเปิดผับ Fullmoon House มาได้ระยะหนึ่ง เป็นผู้ช่วยที่บิดาของเขาวางใจและไว้ใจถึงขนาดที่เข้าออกบ้านเขาได้เป็นว่าเล่น
และสนิทสนมกับเจลกา... น้องสาวของจักรธนดี
บิดาของจักรธนรักผับนี้มาก และกสิณเองก็ทำผลงานไว้ดีเยี่ยม ถึงขั้นเคยช่วยชีวิตบิดาเขามาแล้วจากการถูกลอบยิง นั่นทำให้กสิณถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างเต็มที่
แต่คนโลภมันก็โลภอยู่ดี
ได้ไปเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ!
นัยน์ตาคมมองสบดวงตาตื่นตระหนกเปรอะน้ำฝนน้ำตาของหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา แม้ใจจะร้อนรนดุจไฟเผา แต่เขาก็เชื่อที่เธอบอกว่าไม่รู้เรื่องของกสิณ
แน่ละ ก็ไอ้คนเลวนั่นมันเพิ่งจะหนีจากเขาและตำรวจไปสดๆ ร้อนๆ วันนี้!!!
แต่เป็นพ่อลูกกันจะไม่รู้จริงหรือว่าผู้ให้กำเนิดของเธอแอบทำระยำอะไรไว้ในบริษัทเขามาตั้งหลายปี!
จักรธนหยุดยืนนิ่งคิดหาวิธีเค้นความจริงจากคนตรงหน้า เขากวาดสายตาไปทั่วร่างบอบบางของวัยสาวอย่างพินิจพิจารณาเสื้อนักศึกษาหลวมๆ สีขาวสะอาดตอนนี้แนบไปกับทรวงอกขาวสล้างภายใต้เสื้อซับในสีขาวที่เปียกน้ำจนไม่อาจปกปิดความงามของเนินเนื้อนุ่มที่บดเบียดชิดกันอยู่ในบราเซียตัวจิ๋วได้ มองลงมาถึงกระโปรงพลีทสีดำยาวคลุมเข่า
เธอดึงขาขาวๆ หลบจากสายตาเขา รวมถึงยกมือที่ถูกพันธนาการไว้ขึ้นปิดอกด้วยใบหน้าแดงก่ำลามลงมาจนถึงคอ