บทที่ 7
เงื่อนไขการแต่งงานของเมฆา
สองวันต่อมา
เช้านี้ที่บริเวณหน้าบ้านไม้สักหลังใหญ่ มีการกางเต็นท์จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่มาร่วมงานเป็นคนงานในไร่ และคนในอำเภอนี้ที่สนิทกันกับพ่อเลี้ยงพสุธา โดยแขกภายนอกที่มาร่วมงานรู้แค่ว่าวันนี้จะมีงานแต่งงาน แต่ไม่รู้ว่าใครจะแต่งกับใคร
กลางลานพิธีมีบายศรีที่ทั้งใหญ่และสวยงามตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ แต่ป้ายชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกปิดไว้ด้วยผ้าม่านสีชมพู ทำให้แขกที่มางานยังไม่รู้อยู่ดี
“ท่านนายอำเภอ สวัสดีครับ ขอบคุณมากนะครับที่ให้เกียรติมาด้วยตัวเอง เชิญท่านนายอำเภอและคุณปลัดข้างบนบ้านก่อนดีไหมครับ”
พ่อเลี้ยงพสุธารีบออกมาต้อนรับทันทีที่เห็นแขกคนสำคัญเดินทางมาถึงบ้าน
“อย่าพิธีรีตองเลยครับพ่อเลี้ยง เรามันก็คงกันเองทั้งนั้น”
นายอำเภอพูดขึ้น แต่ก็เดินตามพ่อเลี้ยงขึ้นไปบนบ้าน แต่ปลัดเดชาเอ่ยขอตัวขึ้นมา นั่นทำให้พ่อเลี้ยงพสุธาชะงักไปเล็กน้อย
“ผมขอเดินเล่นข้างล่างดีกว่านะครับ ว่าจะไปขอกาแฟจากน้องดาวสักแก้ว น้องดาวชงกาแฟอร่อยมากนะครับ”
“เอ่อ วันนี้ดาวคงไม่สะดวก เพราะกำลังช่วยกันแต่งตัวอยู่บนบ้าน อีกหลัง ลุงว่าปลัดขึ้นไปกินกาแฟข้างบนดีกว่านะ” พ่อเลี้ยงพูดขึ้นเพื่อปิดทางของปลัดหนุ่มที่ชอบแวะมาเทียวไล้เทียวขื่อเพียงดาวบ่อยๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอรบกวนด้วยนะครับ” เมื่อเจ้าของบ้านเชิญอีกรอบ ทำให้ปลัดเดชาไม่มีทางปฏิเสธ จำใจต้องเดินขึ้นไปบนบ้าน
“พ่อเลี้ยงสวัสดีครับ” แต่ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะนำแขกขึ้นบ้านไป ก็ ได้ยินเสียงทักทายจากแขกที่เขาตั้งใจเชิญมาอีกสามคนพร้อมกัน
หมอชัยโย คุณหมอพ่อหม้ายลูกติดและลูกของเขายังเป็นเพื่อนกับเวหาด้วย ทั้งชัยชนะ เกษตรอำเภอที่เพียงดาวต้องขอคำแนะนำเกี่ยวกับไร่อยู่บ่อยๆ และสุดท้ายพ่อเลี้ยงคมเดชที่มาพร้อมกับคมกริชลูกชาย
“อ้าว สวัสดีครับทุกคน เชิญๆ ขึ้นไปดื่มกาแฟข้างบนบ้านด้วยกันครับ” พ่อเลี้ยงยิ้มให้แขกทุกคน พร้อมกับเชิญทุกคนขึ้นบ้าน
“สรุปวันนี้ใครจะแต่งงานกันแน่ครับพ่อเลี้ยง”
พ่อเลี้ยงคมเดชเป็นคนแรกที่เอ่ยถามเจ้าของบ้านและเจ้าของงานในวันนี้ขึ้น เขากับพ่อเลี้ยงเป็นเพื่อนกันมานาน
“อย่าใจร้อนไปสิครับพ่อเลี้ยงคมเดช อีกไม่นานทุกคนก็จะได้รู้แล้วครับ” พ่อเลี้ยงพสุธาพูดขึ้นยิ้มๆ และจงใจยิ้มเจ้าเล่ห์ไปที่เพื่อนของเขา
“แล้วคุณอรไปไหนเสียแล้วล่ะ วันนี้ยังไม่เห็นเลยนะ”
พ่อเลี้ยงคมเดชถามขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมองไปรอบๆ เพื่อมองหา อรอินทร์ น้องภรรยาของเพื่อน ที่เขาเทียวไล้เทียวขื่อมาตลอดตั้งแต่ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วด้วยโรคร้าย
‘ถ้าไอ้ดินเพื่อนของเขาทำตัวเป็นไก่ได้พลอยอยู่แบบนี้ เขานี่แหละจะเป็นคนแย่งพลอยเม็ดงามไปครองเอง’
“อรกำลังช่วยกันแต่งตัวอยู่น่ะ ผู้หญิงก็แบบนี้ แต่งตัวนานมากๆ ทั้งที่ไม่ต้องแต่งอะไรมากก็สวยอยู่แล้ว” พ่อเลี้ยงพสุธาพูดยิ้มๆ อีกครั้ง
“ใช่ครับ ผู้หญิงบางคนไม่ต้องแต่งหน้าก็สวย อย่างคุณดาวนั่นไงครับ ไม่แต่งหน้าก็ยังสวย” ชัยชนะพูดขึ้นยิ้มๆ
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว น้องดาวสวยน่ารักมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว”
คราวนี้เป็นคมกริชที่พูดขึ้น และเรียกเพียงดาวว่าน้องดาวอย่างสนิทสนม เพื่อขิงคู่แข่งอย่างชัยชนะ
“ผมเห็นด้วยครับ นอกจากสวยแล้วยังใจดี ตาวาโยของผมก็ติด คุณดาวมาก วันหยุดก็มักจะขอให้ผมพามาหาคุณดาวและเวหากับอิงฟ้าอยู่บ่อยๆ ไอ้ผมก็คนตามใจลูกซะด้วยสิ เลยต้องมารบกวนคุณดาวอยู่เรื่อย”
หมอชัยโยเกทับด้วยการยกลูกขึ้นมาอ้างบ้าง
“แล้วนี่ผู้กองแทนไทไปไหนครับลุงดิน ตั้งแต่ผมมาถึงยังไม่เห็นเลย ไปหาที่โรงพักก็บอกว่าลางานหนึ่งอาทิตย์ ผมโทรไปก็ไม่รับสายเลย พอดีผมมีเรื่องงานจะปรึกษาด้วยครับสักหน่อย” ปลัดเดชาเอ่ยถามขึ้นเมื่อมองไป ไม่เห็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหลานรักของพ่อเลี้ยงพสุธาและเป็นเพื่อนเขาด้วย
“อ๋อ เดี๋ยวก็มาถึงแล้วล่ะ พอดีลุงให้เขาไปจัดการอะไรนิดหน่อย”
พ่อเลี้ยงพูดยิ้มๆ ก่อนจะขอตัวไปรับโทรศัพท์เมื่อมีสายเรียกเข้าจากคนที่ปลัดเดชาถามถึง
“ว่าไงแทน ถึงไหนแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงก็ถึงเวลาฤกษ์แล้วนะ”
“กำลังจะถึงไร่แล้วครับ ลุงดินจะให้ผมพาไอ้เมฆไปที่ไหนครับ”
“พามันไปที่บ้านเดชเลย เดี๋ยวลุงจะไปพบที่นั่นก็แล้วกัน”
“ครับลุงดิน”
เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ พ่อเลี้ยงก็โทรตามอรอินทร์ให้ออกมารับหน้าแขกไว้ก่อน ส่วนตัวเขาแอบลงทางหลังบ้านและขึ้นรถที่นายแมนขับรถมารอรับตามที่สั่งไว้
บ้านนายคงเดช
แทนไทจอดรถแล้วปล่อยให้เมฆาลงไป เสร็จแล้วเขาก็ขับรถออกไปทันที จุดหมายคือบ้านไม้สักหลังใหญ่ที่เป็นที่จัดงานนั่นเอง
ส่วนเมฆาเดินลงจากรถก็เดินเข้าไปในบ้านอย่างคุ้นเคย บ้านหลังนี้เขามาวิ่งเล่นตั้งแต่เด็กจนโต จึงรู้ทุกซอกทุกมุมของบ้าน
“ทำไมเงียบจัง น้านวลกับน้าเดชไปไหนเนี่ย”
“ผมอยู่นี่ครับนายเมฆ” คงเดชเอ่ยทักออกไปเมื่อได้ยินเสียงของเจ้านายน้อยของไร่
“อ้าวน้าเดช สวัสดีครับ” เมฆาเดินเข้าไปหาคงเดชที่นั่งอยู่บนโซฟาไม้หน้าทีวี เขานั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้
“สวัสดีครับนายเมฆ นายเมฆพึ่งมาถึงหรือครับ” คงเดชมองชุดของชายหนุ่มแล้วอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“ใช่ครับ พอดีผมมีงานด่วนที่ประเทศจีนนิดหน่อยเลยเพิ่มมาถึง” เมฆาตอบคงเดชด้วยถ้อยคำที่สุภาพอ่อนน้อม เพราะเขารักคงเดชมากเหมือนกัน
“มาแล้วเหรอไอ้ตัวดี ตกลงแกจะแต่งหรือไม่แต่ง ตอบมา”
ก่อนที่ทั้งสองจะได้พูดคุยกันต่อ พ่อเลี้ยงพสุธาก็เดินเข้ามาพอดีและเอ่ยถามลูกชายขึ้น
“ผมไม่แต่ง พ่อคิดอะไรถึงจะมาบังคับให้ผมแต่งงานกับยัยดาว ผมไม่ได้รักยัยดาว และจะไม่มีวันรักด้วย ผู้หญิงอะไร ท้องทั้งที่ยังเรียนอยู่แล้วยังเป็นการท้องไม่มีพ่ออีก คนแบบนี้พ่อยังจะให้ผมแต่งงานด้วยเหรอ”
เมื่อถูกพ่อถามด้วยสีหน้าที่กดดัน ทำให้เมฆาตอบกลับแบบเผ็ดร้อน โดยลืมนึกไปว่าเขากำลังอยู่ที่ไหนและอยู่กับใครบ้าง
“ไอ้เมฆ แกจะพูดอะไรก็หัดเกรงใจน้าเดชของแกด้วย เพียงดาวเป็นลูกสาวของเดชนะ แกลืมไปแล้วหรือไง ไอ้ลูกเวร” พ่อเลี้ยงพสุธารีบตวาดลูกชายทันที เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคงเดช
“น้าเดชครับ ผมขอโทษ” เมฆารีบยกมือไหวเดชทันที
“ไม่เป็นไร พ่อเลี้ยงครับ ถ้าอย่างนั้นเราล้มเลิกงานแต่งงานวันนี้ดีกว่าไหมครับ ผมไม่อยากบังคับจิตใจใคร” คงเดชยิ้มให้นายเมฆ ก่อนจะพูดขึ้นกับพ่อเลี้ยงพสุธา
“ไม่ได้ ฉันว่าเราคุยกันเรื่องนี้กันแล้วนะเดช แกอย่ามากลับคำตอนนี้สิ อย่าลืมว่าแกรับปากยกหนูดาวกับหลานๆ ให้ฉันแล้ว”
“แต่.../ ไม่มีแต่ วันนี้ยังไงก็ต้องมีงานแต่งงานเกิดขึ้นแน่”
คงเดชยังไม่ทันได้โต้แย้ง พ่อเลี้ยงพสุธาก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ทำไมพ่อต้องบังคับผมด้วย แล้วถ้าแต่งผมจะได้อะไร และถ้าไม่แต่งจะเป็นยังไง” เมฆาถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“ฉันจะให้แกแต่งงานกับเพียงดาวสองปี พร้อมกับแกต้องเซ็นรับรองลูกของหนูดาวเป็นลูกของแก แลกกับการที่ฉันจะไม่บังคับอะไรแกอีกต่อไปและฉันจะยกไร่โชคอนันต์ให้แกทั้งหมดเมื่อครบสองปี ส่วนเมื่อผ่านสองปี ไปแล้ว แกอยากจะหย่ากับหนูดาวก็เรื่องของแก ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวและ ไม่ห้ามอะไรแกอีก ว่าไงตกลงแกจะแต่งหรือไม่แต่ง”
“ไอ้แต่งงานสองปีผมพอเข้าใจนะพ่อ แต่จะให้รับเด็กที่เป็นลูกของใครก็ไม่รู้มาเป็นลูกของผม ผมไม่เข้าใจว่าพ่อคิดอะไรอยู่ หรือพ่อรู้ว่าเด็กสองคนนั้นเป็นลูกของใคร หวังว่าคงจะไม่ใช่ลูกของพ่อหรอกนะ”
เมฆาเมื่อได้ฟังเงื่อนไขเขาก็ถามกลับอย่างแปลกใจ
“ไอ้ลูกเวร คิดแต่เรื่องไร้สาระ แกคิดว่าพ่อแกเลวระยำขนาดข่มขืนผู้หญิงเลยเหรอวะ” พ่อเลี้ยงอยากจะชกหน้าลูกชายสักที แต่ก็กลัวว่าหน้าของมันจะมีรอยก่อนเข้าพิธีแต่งงาน จึงอดใจไว้สุดฤทธิ์
“ใครจะไปรู้ล่ะ เห็นหน้าตาเด็กๆ ก็เหมือนพ่ออยู่นะ โอ๊ย พ่อตีผมทำไมเนี่ย เจ็บนะ” เมฆายังพูดไม่หยุด จนพ่อเลี้ยงอดไม่ได้ เขาใช้หัวไว้เท้าที่ถือมาด้วยเคาะไปที่หัวของลูกชายอย่างแรง
“เจ็บสิดี ไอ้คนผีเจาะปากมาให้พูด พูดไม่คิด สรุปแกจะแต่งงานหรือไม่แต่ง รีบๆ ตอบมา เพราะอีกไม่นานก็ถึงเวลาฤกษ์ดีแล้ว”
“ถ้าผมไม่แต่งล่ะ พ่อจะทำยังไง” เมฆาใช้มือลูบหัวปอยๆ ถามขึ้น
“วันนี้ฉันก็จะเข้าพิธีแต่งงานแทนแกยังไงล่ะ แล้วฉันจะยกไร่นี้และสมบัติของฉันทุกอย่างให้หนูดาวกับเวหาและอิงฟ้า ส่วนแกจะไปไหนก็ไป”
พ่อเลี้ยงจ้องหน้าเมฆาและพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“พ่อ พ่อพูดอะไรออกมารู้ไหมครับ พ่อนี่นะจะแต่งงาน เดี๋ยวก็ได้ตายคาอกหรอก ข่าวออกไปคงน่าอายชะมัด พ่อเลี้ยงพสุธาตายคาอก เมียสาว” เมฆาพูดสวนกลับอย่างจริงจังพอๆ กัน
“ฉันจะตายคาอกใครมันก็เรื่องของฉัน ตกลงแกจะเอายังไง จะแต่งหรือไม่แต่ง ตอบมาเร็วๆ ถ้าแต่งก็ใส่ชุดที่ไอ้แมนมันถือมาให้ แล้วไปเข้าร่วมพิธีที่บ้านใหญ่ แต่ถ้าไม่แต่ง แกมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย”
พ่อเลี้ยงเร่งเอาคำตอบโดยไม่ทิ้งช่วงให้เมฆาได้หายใจ
“แล้วถ้าพ่อแต่งงาน น้าอรจะเป็นยังไง พ่อคิดบ้างไหม”
“ก็ไม่เห็นอรว่ายังไงนิ เขาอาจดีใจด้วยซ้ำที่ฉันจะแต่งงาน วันนี้ก็เห็นไปช่วยกันแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด แล้วเห็นว่าเสร็จงานแต่งงานเขาจะกลับบ้านที่ภาคใต้” พ่อเลี้ยงพสุธาพูดแบบไม่ใส่ใจ
“พ่อ....ก็ได้ ก็ได้ ผมยอมแต่งก็ได้ แต่แค่สองปีนะพ่อ แล้วพ่อก็รักษาสัญญาด้วยที่บอกว่าจะไม่บังคับอะไรผมอีกและจะยกไร่ให้ผมด้วย”
เมฆาจำใจที่จะต้องทำตามที่พ่อของเขาต้องการและเขาตั้งใจว่าจะตอบแทนผู้หญิงคนนั้นให้สาสมกับที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้
“ฉันเคยไม่รักษาสัญญาแกเหรอ ไป ไปแต่งตัวได้แล้ว เราจะต้องรีบไปเข้าพิธี” พ่อเลี้ยงดันหลังลูกชายให้เข้าไปในห้องห้องหนึ่งหลังจากที่เขารับเสื้อผ้าจากแมนแล้ว
“ห้องใครวะ” เมฆามองไปรอบๆ ห้อง เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนไม่เคยมีห้องนี้ แต่ไม่มีเวลาสำรวจมากนักเพราะได้ยินเสียงเร่งของพ่อเลี้ยงดังเข้ามา
“ไปได้แล้ว” พ่อเลี้ยงบอกแมนเมื่อขึ้นมานั่งในรถที่แมนสตาร์รออย่างรู้หน้าที่
“ครับพ่อเลี้ยง”
แมนขับรถออกไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ข้างๆ เขามีชายหนุ่มในชุดแต่งงานแบบล้านนาเหมือนกับชายสูงวัยที่แต่งตัวคล้ายๆกัน