บทที่ 3
ยัยเห็บเหา
“จริงๆ นะคะเมฆ ถ้าคุณไม่กลับไปจัดการให้เด็ดขาด ไร่โชคอนันต์ของคุณ โดนคนอื่นยึดแน่ๆ อย่างน้อยก็ยัยผู้จัดการไร่บ้านนอกนั่น” เกรชพูดขึ้นพร้อมกับเบะปาก
“ใครครับ ผู้จัดการไร่” เมฆาถามอย่างสงสัย
เพราะเท่าที่เขาจำได้ ผู้จัดการไร่คือลุงเดช คนงานเก่าแก่ของไร่ ที่บุกเบิกไร่มาพร้อมๆ กับพ่อของเขา และดูแลไร่ให้ในช่วงที่พ่อของเขาเสียใจจนไม่ทำอะไร...
ถ้าไม่มีลุงเดชในตอนนั้น คงไม่มีไร่โชคอนันต์ในวันนี้
“ก็ยัยเพียงดาวไงคะ ตอนนี้ยัยนั่นมาคุมไร่แทนพ่อของนาง เพราะพ่อของนางได้รับอุบัติเหตุ ตอนนี้นางคุมทั้งหมดด้วยนะคะ ทั้งงานในไร่ ทั้งงานสำนักงาน ได้ข่าวว่ากร่างน่าดู ทำตัวเป็นเจ้านายมากกว่าลูกจ้าง พวกคางคกขึ้นวอ” เกรชพูดอย่างหมั่นไส้เมื่อนึกถึงหญิงสาวที่ชื่อเพียงดาว
“ยัยดาวไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ดาวขยันทำงานจนได้รับความไว้วางใจจากลุงดินต่างหาก” แทนไทเถียงออกมาอย่างอดไม่อยู่
“แหม..แตะต้องไม่ได้เลยนะ ก็เป็นแฟนนายนิ แต่ระวังนะว่าจะโดนแฟนสวมเขา ฉันเห็นเขาไปปลัดเดชาบ่อย ๆ และยังมีคนอื่นๆ อีก ทั้งหมอ ทั้งเกษตรอำเภอ ไหนจะคุณคมกริชลูกชายพ่อเลี้ยงคมเดชอีก ก็แบบนี้แหละพวกกระดังงาลนไฟ” เกรชพูดขึ้นอีกพร้อมกับเบะปากเมื่อพูดถึงผู้หญิง อีกคน
“ไม่ใช่สักหน่อย เพียงดาวไม่ใช่แฟนฉัน เธออย่ามาพูดให้คนอื่นเสียหายสิเกรช อีกอย่าง คนพวกนั้นที่ดาวต้องไปมาหาสู่ด้วย ก็เป็นคนที่ ยัยดาวต้องติดต่องานด้วยเท่านั้น อย่าเอามาตรฐานของตัวเองมาใช้กับ คนอื่นสิ” แทนไทเถียงกลับทันที
“แล้วเรื่องกระดังงาลนไฟล่ะ นายจะว่ายังไง ถ้าเป็นคนดีจริง คงไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องไม่มีพ่อ จนมีลูกออกมาตั้งสองคนหรอกนะ” เกรชยัง ไม่ยอมหยุด เธอยังลอยหน้าลอยตาถามออกไป
“ถึงดาวจะท้องไม่มีพ่อ แต่ก็เก็บเด็กที่น่ารักทั้งสองคนเอาไว้ ไม่ไปทำแท้งเหมือนใครบางคนหรอกนะ” แทนไทที่ตอนนี้ตอบกลับมาด้วยสีหน้าจริงจัง และจ้องหน้าเกรชกลับเพื่อให้รู้ว่า ใครที่เคยทำแท้ง
“นี่..นาย...” เกรชลุกขึ้นกระทืบเท้าชี้หน้าแทนไทเมื่อโดนสวนกลับแบบแทงใจดำ
“หยุด!!!!!” เมฆาต้องรีบห้ามอีกครั้ง
ยัยเพียงดิน ยัยเห็บเหา เธอแน่มาก ขนาดอยู่ตั้งไกลยังทำให้ฉันปวดหัวได้ เดี๋ยวเธอเจอกับฉันแน่ เมฆาคิดอาฆาตหญิงสาวที่ทำให้เขาปวดหัว
“หึ เกรชหยุดก็ได้ ว่าแต่เมฆจะกลับเมื่อไรค่ะ”
เกรชยอมยุติสงคราม ก่อนจะนั่งลงออดอ้อนเมฆาต่อ โดยพยายาม ไม่สนใจแทนไทที่นั่งกินกาแฟอยู่
“อีก 2 วัน!!! ผมจะกลับบ้านในอีก 2 วัน” เมฆาตอบอย่างเลื่อนลอยเหมือนตอบตัวเองมากกว่าจะตอบหญิงสาว
“ดี..งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ จะได้ไปซื้อตั๋วเครื่องบินและติดต่อสถานทูต” แทนไทพูดจบก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะได้ยินเสียงกรีดร้องของเกรช
“กรี๊ดดดดดไอ้บ้า ไอ้ลามก” เกรชร้องออกมา เพราะภาพตรงหน้าเธอคืองูใหญ่ที่ตั้งหน้าชูชันใส่เธอผ่านกางเกงบอลที่เนื้อบางเบา
“เงียบ....จะร้องทำไม มันก็แค่ตื่นมาเคารพธงชาติตามปกติ ทำอย่างกับไม่เคยเห็นไปได้ มากกว่าเคยเห็นก็เคยมาแล้วไม่ใช่เหรอ แต่ก็นะเธอคงไม่เคยเห็นขนาดที่ใหญ่อย่างของฉัน” แทนไทยืนเท้าสะเอวพูด ก่อนจะรีบเอามือบังไว้เพราะเกรชปาสิ่งของใกล้มือใส่งูใหญ่ของเขา
“ไอ้แทน ไอ้คนทุเรศ ไอ้บ้า” เกรชด่าแทนไทออกมาเป็นชุด
“ไอ้แทน มึงไปได้แล้ว ก่อนที่ห้องข้างๆ จะมาด่า ไอ้ห่า” เป็นเมฆาที่อดไม่ได้ ต้องไล่เพื่อนตัวเองให้เข้าไปอาบน้ำ
หลังจากที่แทนไทหายเข้าไปในห้อง เมฆาก็ลุกขึ้นเดินไปนั่งที่ระเบียงห้อง ภาพตรงหน้าเป็นวิวที่เขาชอบ เพราะช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มองไปทางไหนก็สวยงามไปหมด เหมาะกับการขับรถเที่ยวไปเรื่อย ๆ ซึ่งเขาก็ตั้งใจว่าจะทำแบบนั้น แต่ก็ต้องยกเลิกแผนการทั้งหมดไป
“เมฆคะ ทำไมต้องรีบกลับด้วย เกรชพึ่งมาเองนะ เกรชอุตส่าห์จะให้เมฆพาเที่ยวสักหน่อยอ่ะ” เกรชที่นั่งเก้าอี้ข้างๆ กอดแขนเขาเอาไว้ พร้อมกับเอาหัวถูไถกับแขนเขาเหมือนแมวน้อย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะก้มลงไปหอมหัวเธออย่างที่เคยทำตอนเป็นแฟนกัน แต่ตอนนี้เธอแต่งงานแล้ว เป็นเมียคนอื่นแล้ว เขาจึงทำเพียงนิ่งเฉย
“พ่อโทรมาตามน่ะ บอกว่ามีธุระด่วน เกรชก็เที่ยวกับเพื่อนสิ ไหน ๆ ก็มาแล้ว ฤดูนี้ของแคนาดาน่าขับรถเที่ยวมากนะ เพราะไม่หนาวเกินไป”
เมฆาบอกไปตามความรู้สึกของคนที่มาอยู่ที่นี่ 5 ปี
“ก็คงอย่างนั้น เพราะเกรชมีตั๋วกลับในอีก 7 วันข้างหน้า แต่ถ้ากลับไปแล้วเมฆรอเกรชที่เมืองไทยก่อนนะคะ อย่าเพิ่งกลับล่ะ ไม่งั้นเกรชจะงอน” เธอพูดออกมาอย่างแง่งอน จนเมฆพูดไม่ออก
“ตกลงครับ เพราะผมคงต้องทำอะไรหลายๆ อย่าง คงยังไม่ได้กลับมาง่ายขนาดนั้น” เขาตอบออกไปตามจริง เพราะเขาก็ไม่รู้ว่ามีอะไรรอเขาอยู่บ้าง
“ดีใจจัง งั้นวันนี้เมฆพาเกรชเที่ยวนะคะ เพราะเพื่อนเกรชคงอยู่กับแฟน เกรชไม่อยากไปขัดจังหวะคนรักกัน อิอิอิ”
“ก็ได้ครับ วันนี้ผมจะพาเกรชเที่ยวเอง แต่คงได้แค่แถวๆ นี้นะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็ดีแล้ว” เกรชพูดด้วยรอยยิ้ม
วันนี้เธอตั้งใจจะควงเขาเที่ยวรอบเมืองนี้ ให้คนที่นี่รู้ว่าเขามีแฟนแล้วคือเธอ “เราไปเลยไหมคะ เกรชหิวแล้วอ่ะ” เกรชลุกขึ้นพร้อมกับดึงแขนเมฆาขึ้นมาด้วย เธออยากออกไปก่อนอีกคนจะออกมาจากห้องนอน
“ป่ะ ฉันก็หิวเหมือนกัน” แทนไทในชุดพร้อมออกจากบ้านเดินมาที่ระเบียง และได้ยินพอดีจึงพูดขึ้น
“ใครจะให้นายไปด้วยย่ะ” เกรชพูดสะบัดหน้าใส่แทนไท
“เอ้า พูดไม่คิด ก็ฉันนะสิที่ให้ฉันไปด้วย ไป ๆๆ จะได้ไปหาอะไรกิน แล้วไปดูตั๋วเครื่องบิน ไหนจะต้องไปซื้อของฝากอีก ถ้าไม่มีของฝากน่ะ น้าอรกับแม่ฉันมีงอนแน่ ๆ เลยเมฆ ไปเถอะ”
แทนไท พูดพร้อมกับเดินไปหยิบกุญแจรถเดินออกไปจากห้องก่อนใคร โดยไม่มีช่องว่างให้ใครได้ออกความเห็นหรือปฏิเสธเลย
เกรชมองตามด้วยสีหน้าอยากฆ่าคน แต่ก็ต้องเดินตามเมฆาไปโดยที่ขัดไม่ได้ เมื่อลงมาที่ข้างล่าง เธอก็รีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างหน้าทันที ก่อนที่จะตกใจเมื่อ...
“นายขึ้นมาทำอะไรตรงนี้” เกรชถามเสียงเขียว
“ถามโง่ๆ อีกแล้ว ก็มาขับรถไง ไม่มีตามองหรือไงฮะ”
แทนไทตอบกลับหน้าตาเฉย ก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไปเมื่อเมฆาขึ้นมานั่งที่เบาะหลัง
“เมฆคะ....” เกรชหันกลับมาจะเรียกร้องความสนใจ แต่เห็นเมฆายกไอแพคขึ้นเพื่อให้เธอรู้ว่าเขาจะทำงาน
“เกรช ...ผมขอจองตั๋วเครื่องบินแป๊บนะ และต้องเคลียร์งาน นิดหน่อย คุณก็นั่งชมเมืองไปก่อนแล้วกัน ผมขอสมาธิแป๊บหนึ่ง”
พูดจบเมฆาก็ก้มหน้าลงทำงานตามที่บอก แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากจองตั๋วเครื่องบินเสร็จ เขาก็เข้าโปรแกรมเกมและเล่นเกมอย่างหน้านิ่ว คิ้วขมวด เกรชหันมามองก็คิดว่าเขากำลังตั้งใจทำงาน จนเธอไม่กล้ากวน
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ แทนไทก็ขับรถพาเที่ยวรอบเมือง โดย ที่เธอเห็นเมฆายังตั้งใจทำงาน จนบ่ายก็พากันไปเดินซื้อของฝากจนเธอหมดแรง เพราะแทนไทใช้วิธีเดินแทนการนั่งรถ
จนหลังจากอาหารค่ำ ชายหนุ่มทั้งคู่จึงขับรถไปส่งเกรชที่โรงแรม ที่พัก ซึ่งเธอก็ไม่งอแงหลังจากขอตัวไปโทรศัพท์พักหนึ่ง แล้วกลับมาบอกว่าอยากกลับโรงแรม ทำให้แทนไทสงสัยเป็นอย่างมาก
“แปลกนะ ฉันนึกว่าเกรชจะเกาะแกเป็นปลิงซะอีก ไม่น่าเชื่อว่าจะยอมกลับไปง่ายๆ แบบนั้น” แทนไทพูดขึ้นในตอนที่กลับมาถึงห้องพัก
“ไอ้บ้าแทน แกไปว่าเกรชซะเสียเลย เธอไม่ใช่ปลิงซะหน่อย แต่ฉันก็แปลกใจนะที่เกรชยอมกลับไปง่ายๆ แบบนั้น” เมฆาบอกกับแทนไทด้วยความแปลกใจพอกัน
เขาไม่ใช่รังเกียจเธอ แต่เขาไม่อยากยุ่งกับเมียชาวบ้าน จะว่าเขารักเธอมากไหม เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เพราะตอนนั้นเกรชเป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน โดยที่เขาก็ไม่ปฏิเสธเธอเพราะครอบครัวของทั้งสองคนมี ไร่อยู่ในจังหวัดเดียวกันแต่คนละอำเภอ ทำให้สนิทสนมกันเมื่อมาเรียนในตัวจังหวัดรวมทั้งแทนไท วายุ และเพียงดาวด้วย
ในตอนนั้นเขาคิดว่าการได้เป็นแฟนและจะแต่งงานกับเกรชจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด โดยที่เขาไม่รู้ว่าทำไมพ่อเลี้ยงพสุธาพ่อของเขากับ น้าอรจึงไม่เห็นด้วยกับความรักของเขา ซึ่งแตกต่างจากพ่อเลี้ยงโตมรพ่อของเกรชที่เห็นดีเห็นงามกับความรักของพวกเขา
เมื่อพ่อยื่นเงื่อนไขมาให้ว่าต้องมาเรียนให้จบปริญญาโทด้านการ แปรรูปผลิตผลทางการเกษตรก่อน ถึงจะให้แต่งงานกับเกรช เขาจึงมาเรียน
แต่ที่ทำให้เขาเลิกกับเกรชในตอนนั้นมันเกิดจากเรื่องคืนนั้น......
“ปลิงน่ะถูกแล้ว แต่ที่ยอมกลับไปง่ายๆ สงสัยไอ้ก้องภพโทรตาม”
“ไอ้ก้องภพ ผัวของเกรชน่ะเหรอ ไหนว่าเลิกกันแล้วไง”
เมฆาถามกลับไป เพราะเกรชบอกเขาว่าเลิกกับสามีแล้ว เลยมาเที่ยวแคนาดากับเพื่อนๆ
“เลิกผ้าน่ะสิ คู่นี้ไม่เลิกกันง่ายหรอก ปลิงกับแมงดา เหมาะสมกันอย่างกับผีเน่ากับโลงผุ” แทนไทตอบกลับไปอย่างมีอารมณ์ เพราะเขาจับไม่ได้ไล่ไม่ทันไอ้ก้องภพสักที
“ไอ้ตำรวจปากเสีย ปากแกไม่น่าเป็นตำรวจนะ น่าจะไปเป็นอย่างอื่นมากกว่า ไอ้ก้องภพมันทำอะไรฉันก็พอรู้ แต่ไปว่าเกรชเป็นปลิงมันเกินไปนะ ปลิงน่ะควรจะเป็นยัยเพียงดินมากกว่ามั้ง” เมฆาพูดอย่างเข่นเขี้ยว เมื่อนึกขึ้นมาได้
“อ่อ...กลับไปแกก็จะรู้เองแหละว่าใครเป็นปลิง ใครเป็นนางฟ้า”
แทนไทพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อคิดถึงหน้าหญิงสาวที่เขารักเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง
เขากับเมฆา วายุและเพียงดาวถูกเลี้ยงมาด้วยกัน แม้เพียงดาวจะมีอายุน้อยกว่าถึง 2 ปี แต่ก็ติดสอยห้อยตามกันไปตลอด เพราะในกลุ่มของเขายังมีวายุหรือลม พี่ชายของเพียงดาวรวมอยู่ด้วย