เผชิญหน้า…13/1

1866 คำ
คิ้วเข้มเหนือดวงตาคมขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินเสียงที่คล้ายว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนานมากแล้ว นานจนเกือบจะหายไปจากความทรงจำ จวินหันตัวกลับมามองเบื้องหลังช้า ๆ ด้วยสีหน้ามั่นคง แล้วก็ใช่ เป็นมนต์มีนา! เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วขณะทันทีที่ดวงตาสองคู่สบกันอีกครั้งหลังจากที่เขาได้ทิ้งความทรงจำที่ร้าวรานไว้ให้เธอพร้อมกับมอบของขวัญล้ำค่าไว้ให้คราวเดียวกัน เวลาเดินไปหลายวินาทีเป็นจวินมากกว่าที่แสดงสีหน้าออกมาว่าตกตะลึงที่พบมนต์มีนาอีกครั้ง ซึ่งตรงข้ามกับหญิงสาวที่มองเขาด้วยสีหน้าแววตาปกติ แม้ริมฝีปากอิ่มสีชมพูจะมีรอยยิ้มบาง ๆ แต้มติด ทว่าภายในจิตใจก็ปราศจากความรู้สึกใด ๆ กับผู้ชายคนนี้แล้ว ตอนที่ชวัลดนย์บอกว่าเป็นลูกค้าวีไอพีเธอก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นคนคุ้นเคยที่กลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกันไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าเธอกับเขาจะได้โคจรมาพบกันอีกครั้งและเหตุการณ์ก็เหมือนกับครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน ทว่าครั้งนี้มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป และจะไม่มีอะไรมาทำให้ความรู้สึกเหมือนวันแรกที่เจอกันกลับคืนมาได้อีก มนต์มีนาเผชิญหน้ากับเขาอย่างเข้มแข็ง เธอจะต้องไม่หวั่นกลัวในเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น เว้นแค่เรื่องเดียว...คือเรื่องลูก เพราะไม่รู้ว่าเขาจะยินดีให้เธอแสดงว่าเคยรู้จักเขาหรือไม่ มนต์มีนาจึงตัดสินใจแนะนำตัวตามปกติ และไม่แสดงออกว่าเคยรู้จักเขามาก่อน “ดิฉัน มนต์มีนา เป็นพนักงานขายที่คุณโชแปงมอบหมายให้มาดูแลคุณลูกค้าค่ะ” “...” ชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปนิดหนึ่ง เกิดความรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็ก ๆ ไม่คิดว่ามนต์มีนาจะแสดงทีท่าว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มนต์มีนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ กลั้นความรู้สึกบางอย่างที่กำลังตีแผ่ไปทั่วหัวใจไว้ใต้สีหน้าติดรอยยิ้มนิด ๆ ก่อนร่างบางในชุดพนักงานเรียบร้อยสีเข้มจะเดินอ้อมตัวรถมาหยุดยืนเผชิญหน้าฝั่งตรงข้ามกับเขา โดยที่มีสายตาของจวินมองตามแผ่นหลังที่เห็นส่วนโค้งเว้าของบั้นท้ายลงมายังปลีน่องขาวเนียนนั้น จวินไม่เคยรับรู้ว่าตลอดเวลาสี่ปีกว่าที่เขาหายออกไปจากชีวิตมนต์มีนา เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างไร แน่นอนเขาไม่มีวันได้ล่วงรู้การเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเธอแน่ แต่เท่าที่เขาเห็นเธอในวันนี้คือ มนต์มีนามีชีวิตที่สุขสบายดี ได้ทำงานเป็นเซลส์ขายรถในโชว์รูมหรู ๆ แบบนี้ซึ่งเป็นการงานที่เธอถนัด แถมยังดูสวยเปล่งปลั่งขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า ไหนกรภพเคยบอกว่าเป็นแม่ค้าขายเครื่องสำอางออนไลน์ไง ตอนที่เขาอยู่กับมนต์มีนาใหม่ ๆ เธอเป็นสาวมหาวิทยาลัยอายุเพียงยี่สิบปี แต่ตอนนั้นทั้งเขาและเธอก้าวผ่านช่วงหนุ่มสาวตอนต้นมาเป็นวัยผู้ใหญ่ ในตอนนี้มนต์มีนาน่าจะอายุประมาณยี่สิบแปดปีน่าจะได้ เขาไม่แน่ใจเหมือนกัน จวินไม่เคยจดจำรายละเอียดเรื่องพวกนี้เลย แต่มนต์มีนาที่เขาเห็นในตอนนี้คือ สวยขึ้น ทั้งบุคลิกหน้าตาและรูปร่าง สีหน้าและแววตาของเธอดูสงบนิ่งมากขึ้น ใช้สายตาคิด วิเคราะห์ ภาพของมนต์มีนาที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่นานจวินก็ยกยิ้มที่มุมปาก แสดงว่าเงินที่เขาให้ไว้ก้อนสุดท้ายหญิงสาวคงนำมาดูแลตัวเองสินะ ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าทำถูกแล้วที่ให้เงินเธอไปแบบนั้น ดูเหมือนเธอจะไม่ได้อาลัยอาวรณ์อะไรกับเขาแล้วกระมัง หึ... ก็ได้เงินไปอีกก้อนนอกเหนือจากที่ได้ทุกเดือนอยู่แล้ว คงไม่ได้ลำบากอะไรนี่นา มีเงินไปทำทุนตั้งตัว หรือไม่อีกทีสวย ๆ แบบนี้เธออาจจะมีคนเลี้ยงดูใหม่หลังจากแยกจากเขาแทบจะทันทีเลยด้วยซ้ำ พริตตีตัวท็อปอย่างเธอเรื่องหาคนเลี้ยงไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยนี่ แล้วเขาจะยังคิดอะไรกับเธออยู่ล่ะ “คุณเป็นเซลส์ที่จะมาดูแลผมงั้นเหรอ” “ใช่ค่ะ...ถ้าคุณลูกค้าต้องการเปลี่ยนเซลส์สามารถบอกได้นะคะ” รอยยิ้มและน้ำเสียงของมนต์มีนาสุภาพไม่ได้เจืออารมณ์อื่นใด จวินแค่นหัวเราะ ความไม่พอใจเริ่มก่อตัวมากขึ้นโดยไม่มีเหตุผล นี่เธอทำท่าว่าไม่รู้จักเขาไม่พอยังจะเลี่ยงที่อยู่กับเขาได้อย่างมีชั้นเชิงอีกด้วย “เปลี่ยนทำไม หรือคุณมีอะไรกับผม ถึงไม่อยากทำหน้าที่ดูแลผมคุณโชแปงมอบหมายคุณมาไม่ใช่หรือไง เป็นลูกจ้างก็ทำหน้าที่ให้สมเงินเดือนหน่อยสิครับคุณพนักงานขาย ไหนลองทำหน้าที่ของคุณมาหน่อยสิ รถคันนี้พิเศษยังไงผมถึงต้องซื้อ” จวินรวนใส่หญิงสาวเต็มที่ ท็อปเซลส์อย่างเธอยิ้มมุมปากขึ้นมาเหมือนกัน สบตาจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังยืนล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง มองเธอด้วยท่าทางยโส ท่าทางบ่งบอกว่าอยากลองภูมิหรือแกล้งตีรวนเธอมากกว่า “ดิฉันคาดว่าคุณคงศึกษารายละเอียดรถคันนี้มาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะคุณโชแปงแจ้งว่าคุณสนใจรถรุ่นนี้มาก และอยากได้รถคันนี้อยู่แล้ว” ข้อมูลนี้เธอได้มาจากชวัลดนย์ที่บอกว่าลูกค้าคนนี้ต้องการเปลี่ยนรถ และอยากได้รถรุ่นนี้มานานแล้ว จวินยกยิ้มสู้กลับ ฝีปากของเธอตอนนี้คมกว่าเมื่อก่อนเยอะ “ใช่ แต่ทำไมผมต้องซื้อที่นี่ด้วย” “เพราะที่นี่เป็นบริษัทเดียวที่นำเข้ารถค่ายนี้มาจากต่างประเทศค่ะ” “จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นรถค่ายนี้ ถ้าผมไม่พอใจ ผมอาจจะเลือกซูเปอร์คาร์ค่ายอื่นก็ได้ หรือไม่ก็สั่งตรงมาจากต่างประเทศซึ่งผมไม่ได้มีปัญหาตรงนั้นอยู่แล้ว ว่าแต่คุณอยากขายรถให้ได้รึเปล่า ถ้าอยากขายก็ช่วยอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับรถคันนี้ในมุมของเซลส์ขายรถยนต์อย่างคุณให้ผมฟังหน่อย เผื่อจะเก็บไว้พิจารณา” มนต์มีนาสบตากับเขาอย่างไม่มีอคติเรื่องส่วนตัวในแววตา ริมฝีปากอิ่มสีชมพูเผยยิ้มบาง ๆ ออกมาโดยหารู้ไม่ว่ารอยยิ้มนั้นทำให้ใครบางคนที่จ้องมองถึงกับใจสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ “ได้ค่ะ ดิฉันยินดีให้รายละเอียดเกี่ยวกับรถคันนี้ในมุมของพนักงานขายให้คุณฟังว่ามีความพิเศษอย่างไรบ้าง และเหมาะสมควรค่าแก่การตัดสินใจซื้อของคุณนะคะ” มนต์มีนาเดินไปหยุดที่ตัวรถส่วนแรกก่อนจะเริ่มพรีเซนต์พาหนะสุดหรูพร้อมอธิบายรายละเอียดชัดเจนทุกส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นรถคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่น นวัตกรรมที่ล้ำสมัย สิ่งที่พัฒนาเพิ่มเติมต่อยอดมาจากรถรุ่นเดิม เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะที่ไม่มีในรถยนต์ของค่ายอื่น ๆ และเปรียบเทียบคุณสมบัติต่าง ๆ ของรถของค่ายอื่นที่เปิดตัวออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่ออธิบายจบแล้วหญิงสาวจึงหยุด รอฟังความคิดเห็นจากเขา จวินแสยะรอยยิ้มออกมา เลิกคิ้ว ก่อนจะหันไปสบตากับหญิงสาวที่มองอยู่ก่อนแล้ว “โอ้โห รู้ละเอียด แต่ท่าทางการพรีเซนต์นี่คุ้น ๆ นะ ถ้าไม่ใช่เซลส์ขายรถตามที่บอกล่ะก็ ต้องคิดว่าเป็น...” จวินหยุดไปนิดหนึ่ง เบะริมฝีปากหยักก่อนจะพูดต่อว่า “...พริตตีกำลังเสนอขายรถในงานมอเตอร์โชว์แน่ ๆ” ชายหนุ่มพูดกึ่งแขวะเบา ๆ เพราะมนต์มีนาเคยทำงานเป็นพริตตีจึงทำให้ทั้งคู่มาเจอกัน ซึ่งในตอนนั้นนอกเหนือจากหน้าตารูปร่างที่โดดเด่นดึงดูดลูกค้าให้แวะเวียนเข้าชมสินค้าแล้ว เธอต้องทำหน้าที่พิธีกรแนะนำและประชาสัมพันธ์สินค้าให้เกิดความน่าสนใจ ถ่ายทอดนำเสนอสินค้า ตอบทุกข้อคำถามของลูกค้าและแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่มีความรู้แค่ผิวเผิน ต้องทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลของสินค้าที่ดูแลอย่างละเอียด จวินยังพูดต่อเหมือนอยากแกล้งให้หญิงสาวจนมุมเล่น ๆ ว่า “รถอีกค่ายหนึ่งก็คล้าย ๆ กัน อ็อปชันเสริมก็เยอะ ไม่เห็นจะต่าง แถมราคายังถูกกว่าด้วย คุณไม่คิดว่า ‘ของเขา’ น่าสนใจกว่า ‘ของคุณ’ หรือ” มนต์มีนาเข้าใจความนัยของคำที่จวินเน้น แต่ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาแขวะเธอทำไม เธอไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดที่เขาพูดจาเสียดสี ได้แต่ฟังอย่างใจเย็นและก็ตอบกลับด้วยสีหน้ามีรอยยิ้มว่า “ถ้าอย่างนั้นก็คงแล้วแต่คุณลูกค้าจะพิจารณาแล้วล่ะค่ะ เพราะความชื่นชอบหรือรสนิยมส่วนบุคคลก็เป็นตัวตัดสินในการเลือกซื้อสินค้าโดยทั่วไปอยู่แล้ว ถ้าหากว่ารถจากค่ายอื่นมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ราคาก็เป็นปัจจัยในการพิจารณาที่ดีค่ะ แต่ในความเหมือนก็มีความต่าง เพราะฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับคุณลูกค้าว่าจะพิจารณาตัดสินใจจากอะไรเป็นหลักค่ะ” หากเป็นลูกค้าคนอื่นหญิงสาวคงพยายามโน้มน้าว ชักจูงมากกว่านี้... คำตอบของพนักงานขายที่ฟังดูไม่อยากขายเท่าไหร่ แถมยังมีเหน็บอย่างแยบยลว่าที่เขาบอกว่าเหมือนนั้นมันมีความต่างซึ่งเขาก็รู้ดี ทำให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบา ๆ ตอบกลับว่า “ขึ้นอยู่กับว่าจะพิจารณาจากอะไรเป็นหลักหรือ อืม...งั้นก็เหมือนกับผู้หญิงสินะ ถ้าความสวย รูปร่างหน้าตา คุณสมบัติดีงามใกล้เคียงกันโดยตัดสินจากรสนิยมส่วนตัวแล้ว หากจะเลือกจริง ๆ ก็คงต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นแล้วอะนะ คุณคิดว่าควรเลือกจากปัจจัยไหนดีล่ะ” มนต์มีนายิ้มเย็น ตอบที่เขาถามมา “ก็คงต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดมั้งคะ” “ใช่ ต้องเลือกที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด” ^ ^ ^ แกได้สิทธิ์เลือกทุกอย่างที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเองแล้วจ้ะ ทุบเลยจ้า ฮ่า ๆ ***ตอนนี้คือลงเยอะตามคำขอแล้วนะคะ ฮ่า ๆ นักอ่านรุมหยุมหัวไรท์จนผมบางหมดแล้ว พรุ่งนี้จะมาอัปอีกหนึ่งตอน และจะเข้าถ้ำหลายวันจริง ๆ แล้ว ฮี่ ๆ ค้างอยู่อีกมั้ย ถ้ายังค้างก็แสดงว่าเรื่องนี้มันเจ้มจ้นทุ๊กๆๆๆ ตอนงั๊ยจ๊า ฝากเป็นกำลังจุยให้กันด้วยน้า พรุ่งนี้แวะมาหย่อนไว้อีกตอน อ่านเรื่องอื่นของมนสิก่อนได้น้า เรื่องอื่นก็น่าหยุมบ้างน่ารักบ้างค่า เข้ามาพูกคุยสอบถามนิยาย รูปเล่ม ได้ทางช่องทางเฟซบุ๊ค มนสิกานต์ได้นะคะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม