บทที่ 3 เริ่มแผน

2400 คำ
เวลาต่อมา... ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ฟังสิ่งที่พี่สาวคนสนิทบอก เธอตกใจและไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ “พี่จะบอกว่าเราจะไปยกเค้าเขาเหรอคะ” “ไม่ใช่อย่างนั้น แค่เล็ก ๆ น้อย ๆ คนพวกนี้มันไม่กล้าแจ้งความหรอก ตอนนี้พี่มีเหยื่ออยู่คนหนึ่ง เป็นนักการเมืองที่กำลังลง สส. ปีนี้” “หือ...” “เป็นนักการเมืองน่ะ นักการเมืองหวงหน้าตา ชื่อเสียงมากกว่าดาราซะอีก ถ้าได้นอนกับผู้หญิงคนไหนแล้วโดนหลอกลักทรัพย์ ยังไงก็ไม่มีทางแจ้งจับ” “อึก มันไม่เสี่ยงไปเหรอคะ” ถามด้วยความกังวล แต่ก็ได้รับใบหน้าแสดงความมั่นอกมั่นใจของพี่สาวคนสนิท “หึ ถ้าเสี่ยงป่านนี้พี่โดนจับไปละ” “อ้าว หมายความว่าพี่ทำบ่อยเหรอคะ” “หึ แน่สิ...ก็รับแค่แขกที่มีชื่อเสียง พวกนี้ร้อยทั้งร้อยไม่กล้าแจ้งตำรวจ เพราะอายไง” รินลณีกลืนน้ำลายลงคอ ชั่งใจไม่กล้าทำสิ่งผิด “ไม่ทำก็ได้นะ แต่ถ้าอยากได้เงินสองหมื่น...ก็ไปรับแขกวันละห้าคน เอาไหมล่ะ” “มะไม่เอาค่ะ” เธอยกมือขึ้นปาดเหงื่อ ลำพังแค่คนเดียวยังไม่คิดว่าตัวเองจะไหว นี่จะให้รับแขกห้าคนต่อวันอย่างนั้นหรือ “ถ้าไม่เอาก็เอาตามแผนที่พี่ว่า ตอนนี้เล็งไว้คนหนึ่ง เคยมาใช้บริการที่นี่ เขาเป็นตัวพ่อเรื่องแบบนี้อาจจะต้องใช้มารยาหน่อย” รินลณีพยักหน้ารับ ก่อนจะอ้ำอึ้งนึกถึงบางเรื่อง “แล้วเขา...เอ่อ หน้าตาเป็นยังไงคะ” เธอก็เกรงว่าจะเป็นเสี่ยอ้วนลงพุง อย่างน้อยครั้งแรกก็อยากได้แขกที่ดูดีหน่อย “โคตรหล่อ!! คุณธันวามาที่นี่ไม่บ่อย แต่มาทีเด็ก ๆ แย่งตบกันอ่ะ แต่เดี๋ยวนี้เขาทรีซั่มด้วย” “ห๊า...ทะทรีซั่ม” “ก็สามคนเลย เห็นมีคนบอกว่าช่วงนี้เขาไม่มาที่นี่แล้วเพราะกำลังลงสมัคร สส. อาจจะไปเที่ยวคลับหรู เดี๋ยวจะลองถามให้ แล้วเราก็เริ่มทำแผนเลย” “เขาจะไม่แจ้งความแน่ ๆ นะคะ” “ไม่หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องห่วง คุณธันวาคงไม่อยากให้ตัวเองเป็นข่าวหน้าหนึ่ง พาดทุกสำนักหรอกว่าโดนผู้หญิงหลอกทั้ง ๆ ที่ตัวเองกำลังลงเลือกตั้ง” สิ่งที่พี่สาวคนสนิทพูดก็น่าเชื่อถือ ตอนนี้อะไร ๆ ก็คงยอมไปก่อน อย่างน้อยก็เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้มีเงินมาใช้หนี้... วันต่อมา... คลับหรูใจกลางกรุง แสงสีเสียงภายในคลับหรูนี้ทำให้รินลณีรู้สึกเวียนหัว เธอมองไปยังผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่กับเพื่อนผู้ชายกลุ่มใหญ่ เมื่อวานรุ่นพี่สาวเอารูปเขาให้ดู แผนง่าย ๆ คือเธอต้องหลอกล่อให้เขาคนนั้นติดกับ เป้าหมายคือนาฬิกาเรือนหรูที่อยู่ในข้อมือของเขา ...ธันวา วัชรเตชวานิช อายุ 36 ปี เขาเป็นลูกชายนักการเมือง สังกัดพรรครัฐบาลที่เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พ่อของเขาจะถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคพร้อมลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหากว่าพรรคของเขาถูกเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เป็นปีแรกที่ตัวเขาเองจะลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ธันวามีส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร สูงมากกว่ามาตรฐานชายไทย คงเป็นเพราะญาติฝั่งแม่ของเขานั้นเป็นคนอังกฤษ ชายหนุ่มเป็นลูกเสี้ยว ทำให้เขามีผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวแดง ไม่ใช่ขาวซีดเหมือนกับคนเอเชีย ผู้ชายคนนี้เลยคำว่าหล่อไปมาก เขามันโคตรหล่อ... รินลณีได้รับข้อมูลต่าง ๆ จากจอย ซึ่งพี่สาวคนสนิทมีเส้นสายเยอะมาก ด้วยความที่ทำงานอยู่ในวงการสีเทา คนรู้จักก็มีแต่กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพสีดำ การล้วงลึกถึงข้อมูลผู้ทรงอิทธิพลคนนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับจอย จอยบอกกับเธอว่า...เขาคนนี้ชอบผู้หญิงสวย ไม่เคยนอนกับผู้หญิงซ้ำหน้า เลี้ยงเด็กวัยเอ๊าะ ๆ บ้างแต่ไม่นาน เป็นผู้ชายบ้ากาม หื่นและมีความซาดิสม์อยู่มากพอสมควร เขามีชื่อเสียงในการเที่ยวเลานจ์ อ่างอบนวด วงการนี้รู้ดีว่าเขา...มักมากแค่ไหน เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเคยกินสุกี้หม้อรวม เขามันมั่วแต่เลือกหน้า ผู้หญิงที่ได้ขึ้นเตียงกับคุณธันวาต้องถูกคัดสรรมาอย่างดี ต้องสวยและหุ่นต้องได้ เพราะฉะนั้นวันนี้รินลณีจึงต้องแต่งกายด้วยชุดซีทรูสีดำอวดทรวดทรง รัดติ้วเห็นสัดส่วนโค้งเว้าชัดเจน ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมที่พี่สาวคนสนิทหามาให้ การแต่งกายนั้นดูดีไม่ให้เขาดูออกว่าเธอเป็นมิจฉาชีพ แก๊งต้มตุ๋น รินลณีหายใจเข้าลึก ๆ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็หันมามอง หญิงสาวทำทียกแก้วไวน์ในมือขึ้นเชิงเชื้อเชิญให้เขามาหา แต่เขาก็ไม่ได้มาในทันที คงเป็นเพราะมีผู้หญิงอีกหลายคนที่กำลังยั่วยวนเขาผ่านทางสายตาไม่ต่างจากเธอ “เอาไงดี” ริมฝีปากบางขมุบขมิบเอ่ยพูด วันพรุ่งนี้ก็ต้องเอาหนี้ไปคืน หากคืนนี้ไม่ได้ตามแผนทุกอย่างคือจบ กว่าจะหาเหยื่อใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย ดารานักแสดงที่หวงชื่อเสียงนักหนาก็ใช่ว่าจะเจอได้บ่อย ๆ โลกเหวี่ยงผู้ชายคนนี้มาแล้วก็ต้องรีบจับให้ทัน ทว่าขณะนั้นเองที่สายตาเหลือบมองเห็นฟลอร์เต้นที่มีผู้ชายยืนอยู่เป็นจำนวนมาก ตีวงกว้างให้ผู้หญิงออกมาเต้นยั่ว ริน-ลณีดวงตาเป็นประกาย หากจะทำให้เขาสนใจแค่เธอ...ก็ต้องเป็นจุดสนใจให้ได้ก่อน สองเท้าก้าวเดินนวยนาด ฝ่าฝูงชนที่หลีกทางให้อัตโนมัติ เพียงแค่เดินไปหยุดที่กลางฟลอร์เต้น มือข้างหนึ่งยังถือแก้วไวน์อยู่ส่วนอีกข้างยกขึ้นเหนือศีรษะ ค่อย ๆ ลูบศีรษะตัวเองเบา ๆ โยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเสียงเพลง หากไม่ได้ทำงานเสิร์ฟเธอก็มักได้เป็นนางโชว์บนเวที แน่นอนว่าทักษะการเต้นเธอมีมาก มากจนทำให้คนทั้งคลับตอนนี้หันมาสนใจเธอเป็นตาเดียว รวมถึงเขาคนนั้น... หญิงสาวยกไวน์ขึ้นดื่มเบา ๆ จิบอย่างช้า ๆ ส่งสายตายั่วยวนให้กับเป้าหมายที่กำลังจ้องเธอตาไม่กะพริบ บุรุษหนุ่มผุดลุกขึ้นยืนอัตโนมัติจนเพื่อน ๆ นั้นต้องมองตาม เขาไม่ได้ยินเสียงเอ่ยถามจากคนเป็นเพื่อน ธันวาลุกขึ้นยืนอิงสะโพกกับพนักพิงโซฟาทางด้านหลัง จ้องมองไปยังสาวสวยที่กำลังเต้นโชว์อยู่ท่ามกลางผู้คน บอกได้คำเดียวว่าเธอเซ็กซี่มาก เขาเห็นแล้วล่ะ...เห็นว่าเธอมองมาที่เขาก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มรู้สึกถูกชะตา รู้สึกเหมือนกับต้องมนต์เสน่ห์ที่จะต้องหยุดมอง เสน่ห์ของเธอค่อย ๆ ถูกปล่อยออกมาผ่านสายตา ท่าทางยั่วยวน สรีระหุ่นสุดเอกซ์ที่เห็นแล้วอาวุธลับกลางกายสามารถตั้งลำได้ทันที ร่างอรชรอ้อนแอ้นนั้นกำลังร่อนเอวตามจังหวะเสียงเพลง เขายกแก้วไวน์ทักทายเธอที่กำลังมองมาตาไม่กะพริบนี้ สีผิวของเธอสะท้อนกับแสงไฟสลัว ๆ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ เห็นแล้วก็อยากเข้าไปทักทาย พอเสียงเพลงนั้นค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเพลงใหม่ สองฝ่าเท้าก็ขยับเข้าหาหมายมั่นจะเข้าไปทักทาย ทว่า “เฮ้ย! ไอ้ธัน” เสียงทุ้มของเพื่อนกลับเอ่ยเรียกเสียก่อน ไม่วายยกมือขึ้นตบไหล่เขาอีก คงเป็นเพราะเขาไม่ได้ยินและกำลังตกในภวังค์ความคิด “หือ...ไรวะ” คราวนี้ถึงกับต้องหันมา ตวัดสายตามองเพื่อนสนิทอย่างชนินทร์ หรือที่ใคร ๆ มักเรียกว่าคุณใหญ่ตามคำใช้แทนเชื้อพระวงศ์ “กูบอกว่ากูจะขอกลับก่อน” “อือ กลับก็กลับดิ” คราวนี้คนเป็นเพื่อนถึงกับยิ้มกรุ้มกริ่ม เพราะก่อนหน้านี้อีกฝ่ายบอกว่าไม่อยากให้กลับไว แซวเขาไปต่างนานาว่าติดเมีย ติดลูกบ้างล่ะ ทว่าคราวนี้กลับไล่เขากลับหน้าด้าน ๆ เสียอย่างนั้น “หึ เจอสาวที่ถูกใจแล้วงั้นสิ” เพื่อนสนิทมักรู้ดี ก่อนที่คุณใหญ่จะถอดเขี้ยวเล็บก็เป็นนักล่าไม่ต่างกัน แค่มองตาก็รู้ใจ “คนนั้น โคตรสวย” ว่าพร้อมกับพยักพเยิดหน้าให้เพื่อนมองตาม ชนินทร์เห็นแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่ท่าทีของเขาไม่ได้แสดงความสนอกสนใจผู้หญิงสวย ๆ อีกแล้ว “ก็เข้าไปจีบ งั้นกูกลับก่อน” ถ้าธันวาเห็นใครถูกใจเท่ากับว่าวันนี้ไม่ได้กลับบ้านแน่นอน “เออ ขับรถดี ๆ” “หึ ระวังไว้ล่ะ ระวังผู้หญิงหลอก” ว่าไปงั้น แต่พอได้ยินอย่างนี้ธันวาถึงกับของขึ้น “ว่าไงนะ ผู้หญิงหลอกเหรอวะ ถุย~ ไม่มีใครหลอกกูได้หรอกเว้ย!” ว่าเสียงดัง ใครมันจะกล้าหลอกเขา แต่ถ้าหลอกคิดว่าคนอย่างเขาจะโง่ให้ใครมาหลอกหรือไง...ฝันไปเถอะ “หึ โอเค” คนเป็นเพื่อนพยักหน้ารับรัว ๆ เอาที่ธันวาสบายใจ เถียงกับธันวาเหมือนกับเอาเวลาไปสูญเปล่า นอกจากจะไม่ชนะแล้วเพื่อนของเขาก็จะเอาชนะให้ได้ “เพลา ๆ ล่ะ เดี๋ยวเลือกตั้ง ภาพหลุดออกมามึงจบแน่” “หึ...” ธันวาหัวเราะเบา ๆ เขาก็ไม่ได้อยากลงสมัคร สส. ถ้าพ่อไม่บังคับก็อย่าหวังจะได้เห็นเขาเล่นการเมือง ซึ่งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าชายหนุ่มต้องพักเรื่องพวกนี้แล้ว ก็เลยออกมาเที่ยวให้หนำใจ ...คิดได้อย่างนั้นก็ก้าวขาเดินไปหาสาวสวยเมื่อเห็นว่าเธอกลับมานั่งบาร์บริเวณหน้าบาร์เทนเดอร์แล้ว ชายหนุ่มเดินไปอิงสะโพกที่บาร์เหล้า เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงทรงเสน่ห์ “ชื่อไรครับ” เขาพอรู้ว่าเธอเองก็รู้ว่าเขาจ้องอยู่ มาถึงก็ไม่อิดออดยืดเยื้อ เอ่ยถามทันที “ฉันเหรอคะ?” เอียงคอถามกลับ รินลณีมองเขาด้วยสายตาอยากได้อย่างไม่เปิดเผย ต่างคนต่างสบตาสื่อสารความรู้สึกให้กันและกัน ...เขาหล่อมากอย่างที่สาวรุ่นพี่บอก ใบหน้าละอ่อนเกินกว่าจะบอกว่าเขาอายุสามสิบหกปี เชิ้ตสีครามขับกับผิวขาวจั๊วะทำให้ยิ่งดูดีไปกันใหญ่ แผ่งอกแกร่งแน่นเปรี๊ยะแทบทำให้เม็ดกระดุมกระเด็นออก สันกรามคมสันปั้นเป็นกรอบหน้ารองรับเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบ จมูกของเขานั้นโด่งคมไม่มีรอยฮัมพ์เป็นทรงเรียบตรงแต่ปลายเชิดขึ้นรั้งริมฝีปากหนาให้สูงเล็กน้อย “คุณครับ...” พอไม่เห็นว่าเธอจะตอบคำถาม ริมฝีปากหยักได้รูปสีชมพูซีดก็ขยับถามอีกครั้ง “ได้ยินผมหรือเปล่าครับ” เธอสังเกตทุกอย่างบนใบหน้าของเขาราวกับถูกต้องมนต์เสน่ห์ ริมฝีปากหนานั้นข้างในมีสีคล้ำคงเป็นเพราะเขาสูบบุหรี่ ธันวาเอ่ยถามพร้อมกับเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น “เอ่อ...คะ?” รินลณีจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยทีเดียว “คุณยังไม่ทันได้บอกชื่อผมเลยนะ” เธอตกเข้าไปในภวังค์ชั่วขณะ เผลอสำรวจหน้าตาของเขาจนไม่ได้ยินเสียงเอ่ยพูดของเขาแม้แต่น้อย คนหน้าตาดีมีอิทธิฤทธิ์ทำลายล้างได้จริง ๆ “เอ่อ พิ้งค์กี้ค่ะ” เธอโกหก ไม่ยอมบอกชื่อจริง “พิ้งค์กี้เหรอ ชื่อน่ารักครับ...ผมธันวา” “ฉันรู้แล้วค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่วเบา เพราะอยากให้เขารู้ว่าเธอสนใจเขาอยู่แล้ว เปิดเผยออกมาให้หมด ไม่มีเวลามาเล่นตัวอะไรมากนัก “หือ...แอบติดตามผมเหรอครับ” “หึ จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะฉันเจอคุณบ่อยเลย แต่ไม่มีโอกาส” หน้างอเล็กน้อย ระหว่างพูดก็กรีดกรายปลายนิ้วขึ้นทัดผมอีกด้วย พี่สาวคนสนิทบอกให้งัดมารยาหญิงออกมาให้หมด ซึ่งเธอไม่เคยใช้กับใคร จำมาจากพนักงานทำงานตอนกลางคืนเท่านั้น “ครับ” แต่ก็ตกเขาได้ เห็นจากแววตาหยาดเยิ้มของเขาแล้ว “ไม่รู้ว่าพลาดตรงไหน ผมถึงไม่เคยเจอคุณเลย” “หึ หรือไม่สังเกตกันแน่ คุณมีสาว ๆ เยอะจะตาย” “หืม แต่...ก็ไม่มีใครสวยเท่าคุณ” เขาทำให้เธอชะงักไปพร้อมกับหัวใจเต้นระรัว ลำคอแห้งผากกลืนก้อนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอแทบไม่ได้ “หึ คุณก็...” ยกมือขึ้นเสยผมเล็กน้อย รินลณีทำตัวไม่ถูก ยิ่งตอนถูกจ้องมองตาไม่กะพริบก็ยิ่งเขิน แต่พอเสมองไปทางอื่นสายตาก็พลันไปสบกับพี่สาวคนสนิทที่มองอยู่ สติจึงได้กลับมาอีกครั้ง “เพื่อนไม่ว่าเหรอคะ คุณเดินมาแบบนี้” “ไม่หรอกครับ ทุกคนคงรู้ว่าผมเดินมาทำไม...คุณสวยซะขนาดนี้” เสน่ห์ของเขาแพรวพราวมาก มากจนทำให้เธอใจสั่น ถ้าไม่ได้มาเพื่อทำภารกิจตามแผน ป่านนี้สาวเจ้าคงอ่อนระทวยหาทางกลับไม่เจอไปแล้ว “หึ ปากหวานจังเลยค่ะ” “หวานเฉพาะกับบางคน โดยเฉพาะคนอย่างคุณ” โดนไปอีกหมัด เขามันตัวพ่อหาตัวจับได้ยาก ไม่ง่ายเลยที่จะไม่หลงกลพ่อเสืออย่างเขา จากที่มาล่อเขาตอนนี้เป็นเธอเสียเองที่กำลังหลงกล รีบปล่อยหมัดฮุกใส่เลยดีกว่า “แล้ววันนี้...มีไปต่อที่ไหนไหมคะ” ส่งสายตายั่วยวน “_” “ฉันอยากได้ด้วย” รีบซัดเข้าอีกหมัด เอาให้ตรงเป้า เอาให้เขาจ้องมองแบบนี้ เอาให้เขา...ล้มทั้งยืน “ผมยินดีเลยล่ะครับ” ธันวาว่าเสียงเคลิ้มฝัน ถ้าได้ฟันสาวสวยคนนี้ในคืนนี้ คงดีไม่น้อย...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม