โยษิตานั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ในห้องพักคนใช้ หยาดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่า ที่เธอปล่อยให้มันไหลรินออกมา การไม่รู้ว่าตัวเองมีที่มายังไงว่าเจ็บปวดแล้ว การที่ได้รับรู้ว่าเธอเป็นฆาตกร ทั้งที่จำอะไรไม่ได้เลยมันยิ่งเจ็บปวดมากกว่า ถ้าหากว่าเธอจำอะไรได้ก็คงจะดี เธออยากรู้เหมือนกันว่าเธอมีเหตุผลอะไรถึงได้ฆ่าเพื่อนรักได้ เธออยากรู้ว่าทำไมเธอถึงเป็นคนชั่วร้ายใจร้ายได้ขนาดนั้น
ความผิดบาปที่กัดกินในใจของโยษิตามันมากมาย เธอไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ สายตาของราชันและทุกๆคนในไร่ฉายความเกลียดชังเธออย่างชัดเจน เขาตอกย้ำด้วยคำพูดและการกระทำ ว่าเธอเป็นคนฆ่าคนรักของเขา ราชันประกาศกร้าวว่าเธอคือฆาตกร แค่นี้ใจเธอก็เจ็บปวดเจียนจะขาดใจแล้ว กับความรู้สึกผิดบาป
"ฮึกๆริตาฉันขอโทษ" เธอร้องไห้สะอื้นฮัก กอดเข่าตัวเองร่ำไห้อย่างเวทนา เธออยากจะจำทุกอย่างได้ เพราะอะไรกันเธอถึงทำแบบนั้น ผีห่าซาตานตนใดสิงหัวใจ ขณะที่เธอลงมือฆ่า
ปึง! ปึง! ปึง!
เสียงทุบประตูรัวๆ โยษิตาใช้มือปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ขาเรียวสวยก้าวเดินไปเปิดประตู
"เอาเสื้อผ้ามาให้! "กระถินพูดห้วนๆ มองหญิงสาวก่อนจะยื่นเสื้อผ้าให้โยษิตาอย่างไม่เต็มใจนัก เธอไม่ชอบโยษิตา ตั้งแต่รู้ว่าเธอฆ่าคนรักของเจ้านายแล้ว
"ขอบคุณนะ" โยษิตาเอ่ยขอบคุณ พลางยิ้มเศร้าๆให้กระถิน
"ฉันไม่ได้อยากจะเอามาให้เธอ แค่ทำตามป้ามลบอกแค่นั้น ฆาตกรอย่างเธอ ไม่มีใครอยากมาทำดีด้วยหรอก"
"แต่ก็ขอบคุณอยู่ดี" โยษิตาเอ่ยขอบคุณก่อนจะปิดประตู
ด้านภาสกร เขาเปิดภาพกล้องกล้องวงจรปิดที่ทางคอนโดให้มา พร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนัก ภาพที่โยษิตาวิ่งออกมา มันเหมือนคนที่วิ่งหนีเพราะความกลัวมากกว่า ดูไม่เหมือนคนที่ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น มันดูแปลกๆ เขามองดูราชันที่นอนหลับไหลไม่ได้สติ เพราะฤทธิ์น้ำเมา ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วหยิบกำไลที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู
ครืด~ครืด~
เสียงโทรศัพท์ของภาสกรมันผ่านเสียงร้องเสียงดัง ชายหนุ่มเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขามองเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอ แล้วรีบกดรับทันที
"ฮัลโหล ได้เรื่องไหมคนอง"
(เรื่องที่ให้ไปสืบ ได้เรื่องแล้วครับคุณกร )
"ได้อะไรมาบ้าง"
(ภาพกล้องวงจรปิดของร้านหลังคอนโดคุณริตา ถ้าคุณกรเห็นแล้วต้องตกใจแน่นอน สิ่งคุณที่สงสัยดูเหมือนจะเป็นจริง)
"รีบส่งมาเลย"
(ครับ)
ติ๊ง! ภาพถูกส่งมา ภาสกรรีบปิดดูทันที ภาพกล้องวงจรปิดหลังคอนโดของริตา มันทำให้ภาสกรถึงกับเบิกตากว้างทันที เขามองดูเวลาที่มันขึ้นโชว์หรา ตรงกับเวลาที่ริตาตาย ได้มีหญิงสาวอีกคนวิ่งออกมาด้วยรีบเร่งออกทางด้านหลังคอนโด ก่อนจะขึ้นรถหรูของเธอขับแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว
" นะ... เนี่ยมัน" ภาสกรมองภาพวงจรปิดในโทรศัพท์ ก่อนจะรีบเดินไปหาราชัน
"ไอ้ชันๆตื่นสิวะ!" ภาสกรพยายามเขย่าตัวเพื่อนรักให้ตื่น
"อืม!" ราชันครางในลำคอเบาๆแต่ไม่ลืมตาขึ้น ชายหนุ่มอยู่ในสภาพเมามาย ภาสกรถึงกับส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆในสภาพของเพื่อนรัก
"กูจะไปหาคำตอบเรื่องนี้เอง! "ภาสกรเอ่ยอย่างมาดมั่น เขาจะไขข้อข้องใจเรื่องนี้เอง เพราะมันไม่ใช่แค่โยษิตาที่วิ่งออกมาจากคอนโด แต่มันกลับมีบุคคลอื่นที่วิ่งออกมาเช่นกัน แล้วคนที่วิ่งออกมามันยิ่งทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ตกดึกของคืนนั้น โยษิตานอนไม่หลับเพราะความหิว เธอเดินออกมาเดินเล่นที่ข้างสวนดอกไม้ บรรยากาศยามค่ำคืน เสียงแมลงกลางคืนร้องดังไม่ไกล สายลมเย็นยะเยือกพัดมากระทบผิวกายของหญิงสาว จนเธอต้องกอดอกเหม่อมองไปบนท้องฟ้า พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นอยู่บนนภา ดวงดาวพรั่งพราวระยิบระยับ
"ทำไมถึงยังไม่นอนอีก" เสียงทุ้มดังขึ้น โยษิตาถึงกลับสะดุ้งตกใจ เธอรีบลุกขึ้นจากม้านั่ง แล้วหันหลังทำท่าจะเดินไป "ไม่ต้องกลัวฉันหรอก ฉันไม่ทำอะไรหรอก ในเมื่อเจอกันแล้ว ก็อยู่คุยกันก่อน"
"____"หญิงสาวชะงักปลายเท้า หันมองชายหนุ่มหน้าหวาน แสงจันทร์สาดส่องทำให้เห็นใบหน้าของผู้มาใหม่อย่างชัดเจน เป็นเขานั่นเอง ชายหนุ่มจิตใจดีคนนั้น "มะ... มีอะไรคะ"
"ฉันถามว่าทำไมถึงยังไม่นอน มานั่งทำอะไรตรงนี้ ดึกมากแล้วนะ ทำไมถึงยังไม่หลับไม่นอนอีก" ภาสกรมองใบหน้าเนียนสวยของโยษิตา ถึงแม้ว่าจะมองเห็นไม่ชัดมาก แต่หญิงสาวตรงหน้าเขา หน้าตาสระสวยมากทีเดียว ใบหน้าเรียวรูปไข่ จมูกรั้นริมฝีปากเผยอเล็กน้อย ดวงตากลมโต เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆ
" ผิง... เอ่อ... "โยษิตาเลิ่กลั่ก ภาสกรขมวดคิ้วเป็นปมอย่างสงสัย จ้องใบหน้าเธอแล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
" เธอหิวใช่ไหม"
"เอ่อ..." เธอหิวจริงๆแต่ก็ไม่อยากรบกวนเขา
"เอ่อ.. ฉันชื่อกร หรือภาสกรนะ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรมาให้กิน"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ อย่ามาสนใจผิงเลย แล้วคุณทำไมถึงยังไม่นอนคะ"
"มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย นั่งรออยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ อย่าลำบากเลย"
"เถอะน่า! ฉันเอาขนมให้เธอเสร็จ ฉันจะไปทำธุระที่กรุงเทพ เธออยู่นี่ก็ทำตัวดีๆนะ พยายามหลบหน้ามัน ไอ้ชันจะได้ไม่ทำร้ายเอา"
" ค่ะ"
" นั่งรอแป๊บเดียว เดี๋ยวฉันมา"ภาสกรเดินออกไป โยษิตาเดินกลับมาที่ม้านั่ง ผ่านไปไม่นาน ชายหนุ่มหน้าหวานก็เดินกลับมา พร้อมถุงใบใหญ่ ในมืออีกข้างถือจานขนมเค้กเดินมานั่งข้างๆเธอ" กินซะ ส่วนพวกของกินพวกอาหารกระป๋อง เธอก็เก็บเอาไว้กิน ส่วนพวกของใช้สบู่ยาสีฟัน เธอเอาไว้ใช้"
" คุณเอาของมา ผิงกลัวว่า..."
"พวกของกินของใช้ ฉันให้ป้ามลไปซื้อให้ตอนบ่าย หลังจากที่ฉันเอาขนมไปให้เธอแล้ว"
"ลำบากคุณแย่เลย"
"ลำบากอะไรกัน เรื่องเล็กน้อย ส่วนนี่..." เขายื่นเงินให้เธอ
"ให้ทำไมคะ" โยษิตาขมวดคิ้วมุ่นเอ่ยถามภาสกร
"เงินนี้เก็บเอาไว้ใช้ ฉันจะไปทำธุระสำคัญก่อน ถ้าเสร็จจะรีบมาเลย รับไปสิฉันให้ เอาไว้ซื้อกิน ซื้อพวกของใช้พวกของจำเป็นอื่น ฉันคิดว่าเธออาจจะต้องการซื้อของ"
"ค่ะ" โยษิตารับเงินจากภาสกร
" พระจันทร์สวยดีเนาะวันนี้"ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์
" ค่ะ แล้วคุณไม่เกลียดผิงเหรอคะที่....."
"ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะเกลียดเธอ"
" แต่ผิงฆ่าริตา.. "
" เธอมั่นใจเหรอ ว่าเธอฆ่าริตาจริงๆโยษิตา"
" ผิงไม่รู้! "เธอส่ายหน้าเบาๆ
"ช่างเถอะ! อีกไม่นานเธอจะได้รู้ว่าใครฆ่าไม่ฆ่า ฉันไปก่อนแล้วกัน จะกลับกรุงเทพไปทำธุระ ตอนแรกว่าจะมาสักอาทิตย์ แต่ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่าให้ทำ"
"ค่ะ" ภาสกรเดินกลับไปที่บ้านสวน โยษิตาได้แต่มองตามร่างหนาจนสุดสายตา เธอนั่งกินขนมเงียบๆ นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนมองเธอด้วยความโกรธเคือง
" เฮ้อ! "โยษิตาถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เรื่องที่ภาสกรถามว่าแน่ใจหรือเปล่าว่าเธอฆ่าริตา หญิงสาวไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น เพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลย เธอใช้เวลานั่งเล่นอยู่ที่ม้านั่งร่วมชั่วโมง ก่อนถือถุงขนมเข้าไปในห้อง เธอเก็บถุงขนมไว้ในตู้ แล้วเดินไปล้มตัวนอนบนเตียง เธอค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับหลับไป จนกระทั่งถึงตอนเช้าของอีกวัน
ปึง!
เสียงถีบประตูเข้ามาจนประตูหลุดกระเด็น โยษิตาถึงกับสะดุ้งตกใจดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ร่างสูงกำยำปรี่เข้ามากระชากตัวของเธอทันที
"กรี๊ด! จะทำอะไรผิง!" หญิงสาวกรี๊ดร้องออกมาด้วยความตกใจ ใบหน้าแดงของราชันแดงกล่ำรามไปถึงใบหู แววตาลุกโชนไปด้วยความโกรธ
"คนงานบอกว่ามึงแอบไปขโมยข้าวของที่บ้านกู อีคนสารเลว "
"ผิงไม่ได้ทำ!"
"ไปค้นห้องมัน ถ้าเจอของกลางที่มึงขโมยไป กูเอามึงตายแน่!" เขาเอ่ยเสียงเหี้ยม มองโยษิตาด้วยความโกรธแค้น ฝ้ายมองโยษิตา ก่อนจะเบ้ปากแล้วเดินไป แค่คิดว่าฆาตกรอย่างโยษิตาถูกทำร้าย เธอก็สะใจแล้ว