ได้ผล เพราะอีกคนนิ่งอึ้ง เขาจึงย่ามใจ ด้วยการก้มลงไปจูบอย่างรวดเร็ว มือก็ซุกซนไปหาอกนุ่มอยู่เนิ่นนาน จากนั้นก็ไซ้จมูกลงมาหาซอกคออ้อยอิ่งไปมาซ้ายขวา มือก็ยังคงกอบกำอกทั้งสองข้าง แม้จะมีเจ้าของยกมือขึ้นมาปัดป้องไว้ยังไงก็ไม่แคร์
เพราะเดาได้ไม่ยาก ว่าวิโรจน์กำลังจ้องมองการกระทำของเขาอยู่อย่างเจ็บช้ำใจ ที่ต้องเห็นลูกสาวมีสภาพไม่ต่างจากอีตัวชั้นสูง ที่เขาจ่ายหนัก ๆ มาคอยเอาอกเอาใจเพื่อน ๆ นั่นเอง
“ปล่อย!!! ฉันจะกลับบ้าน!!!”
ในที่สุด ความอดทนของลูกคู่อริก็จบสิ้นลง เมื่อเขาลดมือลงไปลูบไล้ต้นขาขาว แล้วทำทีจะถลกขึ้นเพื่อก้าวล้ำไปยังจุดซ่อนเร้น จึงผลักอกเขาสุดแรง แล้วรีบลุกวิ่งหนี
แต่ชาครีย์หรือจะยอม ให้วินาทีสำคัญผ่านพ้นไป โดยไม่ได้ทรมานสองพ่อลูกให้หายแค้นก่อน จึงลุกตามไปคว้าแขนเอาไว้ได้ตรงหน้าประตู
“คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!!! คุณต้องอยู่ในนี้ให้ความสุขกับผมจนกว่าผมจะพอใจ!!!”
ตามด้วยคำสั่งอย่างหนักแน่น แต่กัณหาก็ไม่คิดจะยอม เพราะมันเกินจะรับได้
“ฉันไม่อยู่!!! เพราะฉันไม่ใช่สัตว์ จะสมสู่รวมกันเป็นหมู่เป็นฝูง ให้ใคร ๆ มานั่งดูอย่างไม่อายฟ้าดิน!!!”
ไม่ต่างจากวิโรจน์ รีบลุกพรวดขึ้น เมื่อเห็นลูกวิ่งหนี ใจก็กลัวว่าลูกจะฟิวส์ขาดจนเสียเรื่อง แต่อีกใจก็เห็นด้วยที่ลูกลุกมาขัดขืนบ้าง
“ผมต้องย้ำสิทธิ์ของคุณอีกครั้งหรือเปล่า!!! เลือกเอาจะกลับไปนั่งให้ผมหาความสุขต่อดี ๆ หรือจะหอบผ้ากลับบ้านไปอยู่อย่างหมาจนตรอกรวมกับโคตรเง้าของคุณ!!!”
ชาครีย์ส่งสายตาดุดันไปหา จนทุกคนในห้องต่างหันมามองเป็นตาเดียวกัน
“ให้ฉันตายยังจะดีกว่า จะต้องไปนั่งสมสู่ไม่เลือกที่เหมือนหมาเดือนสิบสอง”
“รู้สึกคุณจะชอบหมาจังเลยนะ!!! พูดถึงบ่อยเหลือเกิน!!! งั้นก็มายืนสมสู่อย่างหมา ๆ ให้พ่อคุณดูเป็นขวัญตาหน่อยเป็นไงล่ะ จะได้รู้ว่าลูกสาวมีความสุขแค่ไหนเวลาถูกผมเอา!!!”
“ปล่อยฉันนะ!!! ปล่อย!!!”
เมื่อถูกเขารวบตัวดันไปพิงกับประตู กัณหาก็ร้องห้ามจนคนในห้องแตกตื่น วิโรจน์ลุกพรวดพราดขึ้นจะเข้าไปหา หมายจะช่วยลูก แต่ถูกเพื่อน ๆ เขากันเอาไว้ก่อน
“อย่า!!! บอกให้ปล่อยไง!!!”
มือที่พอจะมีแรง ก็ฟาดฟันขัดขวางอย่างที่สุด เมื่อเขาก้มลงไประดมจูบอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจคนในห้องเลย เสียงเพลงกำลังถูกสาวสวยขับขานก็เงียบกริบลง
สายตาทุกคู่ต่างมองไปยังคนทั้งสอง กำลังนัวเนียกันไปมาอย่างไม่วางตา โดยฝ่ายหญิงเป็นคนดิ้นรนให้หลุดรอดจากการรังแกจากเขา แต่เขาเองก็ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ
‘เพี๊ยะ’
สุดท้ายหญิงสาวก็เป็นฝ่ายชนะ ด้วยการผลักอกเขาออกแรง ๆ แล้วฟาดมือลงไปที่แก้มเขาอย่างลืมตัว ทำเอาคนในห้องตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
แต่สำหรับวิโรจน์แล้ว สะใจที่สุดกับภาพนั้น ส่วนเจ้าของแก้มยกมือขึ้นลูบตำแหน่งถูกตบ ควบคู่กับส่งสายตาดุดันไปหาเจ้าของมือ
“ชอบความรุนแรงอีกแล้วเหรอ!!! ได้!!! ประเดี๋ยวไอ้เสือจะจัดให้!!!”
สิ้นคำเขาก็กำแขนเล็กแล้วลากออกไปจากห้องทันที
“ปล่อยฉันนะ!!! จะพาฉันไปไหน!!! ปล่อย!!!”
กัณหาพยายามขัดขืน แต่เขาไม่สนใจ ยังคงลากแขนเล็กขึ้นไปตามบันไดอย่างรวดเร็ว เพื่อตรงไปห้องนอนใหญ่โตหรูหราของเขา แล้วจับร่างนุ่งสั้นโยนไปหาเตียง แล้วตามขึ้นไปค่อมไว้ทันที
“ปล่อยฉันนะ!!!”
“ทำไมต้องปล่อย!!! คุณเองไม่ใช่เหรอเรียกร้องให้ผมใช้ความรุณแรง!!! ก็กำลังจะจัดให้อยู่นี่ไง!!! อดใจรอหน่อยซี้คุณหนูมิว ใจร้อนไปได้”
เสื้อผ้าหลุดออกจากกายสาวในไม่กี่วินาทีเมื่ออารมณ์เขาเริ่มครุกรุ่น
“อย่า!!! ปล่อยฉันออกไป!!! บอกให้ปล่อย!!!”
“จะร้องทำไม!!! คุณชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ!!!”
“โอ๊ย!!! ไม่!!! ฉันไม่เคยชอบ!!! หยุดนะปล่อยฉัน!!! ปล่อย!!! โอ๊ย!!!”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมานอกห้อง ผองเพื่อนทั้งสี่ที่ตามขึ้นมาชะเง้อคอดูตรงบันได ต่างได้ยินกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่วิโรจน์ที่ยืนรั้งท้ายกลุ่ม
แต่เขาไม่คิดจะอยู่รอฟังเสียงร้องของลูกอีกต่อไปแล้ว จึงหุนหันออกจากบ้านไปด้วยความโกรธแค้น เพราะช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย
“มันต้องทำรุนแรงกับเขาขนาดนี้เลยเหรอวะ!”
หมอปองศักดิ์อดสงสัย อดเห็นใจหญิงสาวผู้ตกเป็นจำเลยให้เพื่อนไม่ได้ ตามนิสัยส่วนตัว ที่มักจะช่วยผู้คนให้คลายทุกข์ มากกว่าจะหยิบยื่นทุกข์ให้ แม้จะรู้และเข้าใจดี ว่าเพื่อนถูกระทำจากคู่อริมายังไงในอดีต
เพื่อนทั้งสามต่างหันมามองเป็นตาเดียวกัน เพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกมาได้ ด้วยต่างคน ก็ต่างไม่เคยเห็นเพื่อนทำรุนแรงกับเพศหญิงอย่างนี้มาก่อนเช่นกัน
“อย่าไปสนใจเลยวะ ไอ้เสือก็คงจะมีเหตุผลของมันล่ะมั้ง ไปสนุกต่อดีกว่าพวกเรา”
ศรศิลป์ตัดบท แล้วเดินนำเพื่อนลงมาตามบันไดอย่างคนไม่คิดมาก เพื่อน ๆ จึงว่าไงว่าตามกัน แต่ดนัยก็ไม่วายเอ่ยลอย ๆ ตบท้าย
“โชคดีนะป้าแก้วไม่อยู่ ไม่งั้นป่านนี้มันได้ถูกจัดการไปแล้ว โทษฐานพาลูกคู่อริขึ้นมาทำอะไรบนบ้าน”
“เอ่อ! ฉันก็ว่างั้นล่ะ ไอ้นี่แผนมันสูงนะ มิน่าล่ะถึงชวนมานี่แถมกำชับให้หอบสาว ๆ มาด้วย เพราะมันจะจัดการนายวิโรจน์กับลูกสาวนี่เอง”
ศรศิลป์เองก็เพิ่งจะตามแผนเพื่อนทัน