บทที่ 8 ไม่ได้นัด

1387 คำ
เด็กชายสองคนขึ้นรถปุ๊ปก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงของทั้งสองเจื้อยแจ้วจนผู้ชายสามคนไม่ได้สงบหู พอถึงสวนสนุกคนที่เห็นต่างประหลาดใจกับการที่ชายฉกรรจ์หน้าตาดีสามคนพาเด็กชายสองคนมาเที่ยวสวนสนุก เด็กชายทั้งสองมีกระเป๋าคาดอกใบเล็กใส่เงิน นามบัตรของธเนศ ผ้าเช็ดหน้าและทิชชู “ถ้าหลงทางหรือหาอาไม่เจอ ให้เอานามบัตรนี่ให้เจ้าหน้าที่ดูนะ เขาจะได้โทรตามอาได้”​ “พวกเรามีโทรศัพท์อยู่นะครับ” “เราต้องเผื่อเอาไว้นะครับ เผื่อโทรศัพท์ของน้องพืชหรือทิกเกอร์เกิดใช้ไม่ได้ขึ้นมา นามบัตรนี้จะช่วยได้ อาให้พี่นิวเคลือบเอาไว้แล้วต่อให้โดนน้ำก็ไม่เปียกครับ” เด็กสองคนพยักหน้ารับแล้ววิ่งนำหน้าเมื่อผ่านเข้าประตูสวนสนุกไปได้ ธเนศเดินตามหลังไปช้าๆ เด็กชายสองคนอยากนั่งรถไฟของเล่น “ให้พี่นิวพาขึ้นนะครับ เดี๋ยวอาไปซื้อกาแฟมานั่งรอตรงข้างๆ รั้วนี่” “ได้ครับ อาเนศตามสบาย” คนเป็นอาหัวเราะหึๆ เป็นเขาต่างหากที่ต้องบอกให้เด็กชายสองคนไปเล่นเครื่องเล่นได้ตามสบาย “ครับผม เชิญครับคุณพืช คุณทิกเกอร์”​เขาผายมือล้อเลียน เด็กน้อยยิ้มกว้างแล้ววิ่งจากไป ธเนศเดินตรงไปยังร้านกาแฟแบรนด์คุ้นเคยที่มาตั้งขายอยู่ในสวนสนุก พอได้กาแฟรสประจำก็เดินกลับออกมามองหาที่นั่งใกล้รางรถไฟ “รถฟาย จงน้านค่ะ” เด็กหญิงใบหน้ากลมขาวแก้มย้วยร้องเสียงดัง ธเนศที่กำลังหย่อนก้นจะนั่งลงที่เก้าอี้ด้านใน มองเห็นก็คิดถึงหลานสาวตัวน้อยที่อายุเพิ่งจะครบขวบไปได้ไม่นาน ลูกสาวคนเล็กของธนากำลังหัดเดินเตาะแตะ ‘เหมือนน้องเพียวมาก แค่โตกว่าหน่อยเดียว นี่ถ้าอุ้มมาบอกว่าเป็นลูกของธนาก็น่าเชื่อมากเลย คงต้องจับตรวจดีเอ็นเอถึงจะหายสงสัย’ ชายหนุ่มคิดพลางดูดหลอดกาแฟ พลันชายหนุ่มที่เดินตามเด็กหญิงมาทำให้เขาสะดุดจนต้องหลบหลังคนที่นั่งอยู่ด้านหน้า “แสนรัก ช้าๆ หน่อยลูก” แทนพงษ์วิ่งตามมา ธเนศได้ยินชื่อเด็กน้อยก็นึกว่านี่คือลูกสาวของพรรษาและผู้ชายที่คอยดูแลเด็กหญิงก็คือแทนพงษ์พี่ชายที่หล่อเกินชายคนนั้น แทนพงษ์เข้าไปอุ้มเด็กหญิงแล้วพาเดินไปต่อคิวเพื่อขึ้นรถไฟจำลอง จังหวะนั้นมีคนกลุ่มใหญ่เดินเข้ามานั่งบังธเนศเอาไว้ เขาแอบเหลือบมองก็เห็นพรรษาเดินตามมาด้านหลัง เธอตามไปเข้าคิวกับแทนพงษ์ด้วย คนทั้งสามดูเหมือนครอบครัวหรรษาที่พาลูกสาวตัวน้อยมาเที่ยวสวนสนุกในวันหยุด ธเนศเผลอบีบแก้วกาแฟพลาสติกแรงขึ้น เมื่อเช้าเขาเพิ่งโอนเงินให้เธอไปหนึ่งล้าน แต่ตอนสายกลับมาเจอเธอโดยบังเอิญที่นี่ เขาหันไปมองหลานชายสองคนที่กำลังนั่งรถไฟอย่างสนุกสนาน นับว่าโชคช่วย เด็กหญิงแสนรักเกิดหิวขึ้นมากะทันหัน “แม่พีช แสนยักอยากกินฮามค่ะ” “หิวแล้วเหรอคะ?” “ค่ะ อยากกินฮาม” “ไม่ใช่ฮามจ้ะ แฮมเบอร์เกอร์” คนเป็นแม่พยายามพูดคำที่ถูกต้องบ่อยๆ เพื่อให้เด็กน้อยจดจำ “คงจะหิวแล้วล่ะ พาไปกินก่อนเถอะ รถไฟไม่ค่อยมีคนเล่น เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่” แทนพงษ์มองที่คิวที่ใกล้จะถึงตนเองแล้วจึงหันไปบอกน้องสาว ธเนศถอนใจเมื่อเห็นคนทั้งสามถอนตัวออกจากการรอเล่นรถไฟจำลอง เขารออยู่ไม่นานหลานชายสองคนก็เดินนำหน้าพี่เลี้ยงจำเป็นเข้ามาหา “ไปเล่นเรือทางโน้นดีกว่านะครับ อาเนศอยากเล่น” ธเนศรีบหาข้ออ้าง เขากลัวว่าถ้าอยู่ตรงนี้นาน พรรษาจะกลับมาเจอ “ดีครับ พืชอยากเล่นเรือลอยได้” ธเนศนิ่วหน้า หันไปมองเลขาของตน “อะไร?” “น่าจะเป็นเรือล่องแก่งน่ะครับ อยู่ด้านโน้น” ธเนศรีบจูงมือหลานชายคนละข้างแล้วเดินไปยังเครื่องเล่นที่ปล่อยเรือลอยไปตามลำคลองเล็กๆ ดันให้ขึ้นที่สูงแล้วปล่อยลงมา ท่านประธานหนุ่มมองดูหนุ่มสาวที่กรี๊ดร้องในช่วงที่เรือถูกปล่อยลงมาแล้วก็ทำหน้าหนักใจ หันไปหาหลานชาย “พืช ทิกเกอร์ ไหวแน่นะครับ?” เด็กสองคนกระโดดโลดเต้นแสดงความกระตือรือร้นที่จะขึ้นไปบ้าง “อาเนศบอกว่าจะขึ้นเป็นเพื่อนเรานะครับ” ธเนศทำหน้าแหยๆ แต่รับปากหลานชายไปแล้ว จะผิดคำพูดก็ไม่ได้ “ตกลง พวกเราไปขึ้นด้วยกันทุกคนนี่ล่ะ” คนทั้งห้าไปต่อแถวเพื่อรอเข้าเล่น ธเนศพยายามท่องเอาไว้ว่าเขาจะต้องรักษามาดของท่านประธานผู้น่าเกรงขามเอาไว้จะกรีดร้องออกมาเหมือนพวกที่เล่นเมื่อครู่ไม่ได้ แต่พอเรือถูกเครื่องจักรใต้น้ำดันขึ้นไปบนที่สูง ธเนศก็เผลอกำราวเหล็กด้านหน้าแน่น “ตื่นเต้นจังเลยครับ” น้องพืชอ้าปากกว้าง “ใช่ๆ ตื่นเต้นมาก” ทิกเกอร์ที่นั่งข้างหลังติดกับวิษณุเอ่ยขึ้น ธเนศนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ พอเรือที่พวกเขานั่งไปค้างตำแหน่งบนสุดชายหนุ่มก็อ้าปากร้องแต่สะกดใจไม่ให้เปล่งเสียงออกมา พอเรือถูกปล่อยลง เสียงคนทั้งลำก็กรีดร้องออกมาพร้อมกัน ซู่….! เรือกระทบถึงผิวน้ำด้านล่างเกิดเสียงดัง น้ำกระจายออกทั้งด้านซ้ายและขวา กระเซ็นออกจากช่วงลำคลองจำลอง ใบหน้าของธเนศเผือดสีลงพอสมควร เขารู้สึกถึงอาการชาเพราะใบหน้าปะทะลมตามแรงโน้มถ่วง ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ๆ แล้วหายใจเขาลึกๆ “สนุกจังเลย!” น้องพืชตะโกนลั่น ‘สนุกกับผีน่ะสิ ไม่น่ารับปากขึ้นมาด้วยเลย’ ธเนศโวยวายในใจ ผู้ช่วยของวิษณุที่นั่งอยู่ข้างน้องพืชหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจกับหลานชายตัวน้อยของบอส “อาเนศ ขึ้นอีกรอบหนึ่งได้ไหมครับ?” “หา! จะเล่นอีกรอบเหรอ?” “ครับ พืชชอบ” “ถ้างั้น อาเนศลงไปรออยู่ด้านหลัง ให้พี่ๆ ขึ้นเป็นเพื่อนก็แล้วกันนะครับ” พอครบรอบที่สอง ทิกเกอร์ก็บ่นว่าหิว ธเนศจึงพาหลานชายทั้งสองไปร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกล เด็กชายทั้งสองกินข้าวมันไก่ทอดเหมือนกัน พออิ่มแล้วก็เร่งให้วิษณุพาไปดูรถไฟเหาะตีลังกา “น้องพืชไม่กลัวเหรอครับ?” “กลัวครับ พืชไม่ขึ้น แค่อยากไปดูเฉยๆ” ทิกเกอร์รีบพยักหน้าสนับสนุน “ใช่ครับ ทิกเกอร์ก็แค่อยากดู” “ไปเถอะนิว เด็กๆ อยากเห็นอะไรก็พาเดินดูกันให้ทั่ว” ธเนศรีบสนับสนุน “ถ้างั้น รอผมสักครู่นะครับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำสักแป๊บ” วิษณุรีบหันไปเรียกผู้ชายของเขาให้ไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยในช่วงที่บอสกำลังดูแลหลาน พอเดินอ้อมร้านอาหารไปก็จะเป็นห้องน้ำสองอาคารอยู่ติดกัน แยกเป็นห้องน้ำหญิงกับชาย วิษณุที่กำลังจะเลี้ยวเข้าห้องน้ำ มองเห็นพรรษากำลังอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยเดินเข้าห้องน้ำก็ตะลึง เขารีบเข้าไปปัสสาวะอย่างรีบร้อนแล้วมาซุ่มดูคู่สัญญาของบอส “พี่นิว แอบดูใครอ่ะ?” “บัส แกกลับไปบอสก่อน เดี๋ยวพี่ตามไป” วิษณุรีบโบกมือไล่ให้ลูกน้องไปหาเจ้านายก่อน อีกฝ่ายไม่กล้าซักได้แต่ทำตามคำสั่ง ไม่นานนัก วิษณุก็เดินกลับเข้ามาในร้านอาหาร เขาเข้าไปกระซิบกับธเนศ “คุณพีชมาที่นี่กับลูกสาวครับบอส” “เออ ฉันเห็นแล้ว เขาบอกอยู่ว่าจะพาลูกมาเที่ยว ไม่คิดว่าจะมาที่เดียวกัน บังเอิญจริง” สีหน้าวิษณุดูอึกอัก ธเนศเห็นแล้วก็รีบเอ่ย “มีอะไรอีก?” “ผมเห็นคุณภาคิณรอเธออยู่ด้วยนะครับ บอสเห็นหรือยัง?” *******************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม