บทที่ 7 เที่ยวสวนสนุก

1528 คำ
พรรษาลืมตาขึ้นมองเห็นผ้าม่านสีเทาก็ค่อยระลึกได้ว่าตนเองนอนอยู่ในห้องของธเนศ สัญญาระหว่างเธอกับเขาได้เริ่มต้นอย่างแท้จริงแล้ว แสงโคมบนหัวเตียงส่งแสงสว่างไปเกือบทั้งห้อง พลันหญิงสาวก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ได้ ร่างของเธอเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่ม ท่อนแขนของธเนศรัดใต้ราวนมของเธอไว้แน่น หญิงสาวค่อยๆ ขยับดู เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังหลับสนิทก็วางใจ เธอรีบเข้าไปในห้องน้ำสวมเสื้อคลุมสีขาว ย่องออกมาเก็บเศษขยะที่เขาหย่อนทิ้งไว้ข้างเตียงนอน แล้วออกไปห้องรับแขก เธอเก็บซากถุงยางอนามัยและทิชชูในถุงขยะใบน้อยใส่ถุงดำอันเล็กขมวดปมมัดจนแน่นหนา หาผ้ามาเช็ดโซฟาจนแน่ใจว่าสะอาด เก็บขวดไวน์ไปทิ้งใส่ขยะ หยิบแก้วไวน์ไปล้างแล้วคว่ำไว้ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็พ่อลมหายใจฟู่ออกมา “คุณตื่นเร็วดีนี่” เสียงของธเนศดังอยู่ข้างหลัง พรรษาสะดุ้ง หันกลับไปก็เห็นชายหนุ่มสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียวใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กยกขึ้นเช็ดผมที่เปียก ช่วงอกที่แน่นด้วยซิกแพ็กของเขาชวนให้เธอคิดลึก หญิงสาวหน้าแดงเมื่อเขามองมาคล้ายกำลังสำรวจเรือนร่างของเธอ “ค่ะ ฉันต้องตื่นไปทำงานที่ฟาร์มทุกเช้า” “เก็บกวาดเรียบร้อยแบบนี้คงกลัวจะมีคนรู้สิ ไม่ต้องห่วงหรอก แม่บ้านที่นี่ไม่เปิดปากพูดเรื่องส่วนตัวของผมเด็ดขาด แต่คุณทำความสะอาดก็ดี ถ้าเกิดแม่บ้านเห็นของพวกนี้เข้าอาจจะอดคันปากอยากเล่าให้คนอื่นฟังไม่ได้” พรรษาหน้าม้าน เธอจะมาที่นี่เพียงสามเดือน ไม่อยากจะทิ้งเรื่องราวเอาไว้ให้คนนินทาตามหลัง หากปล่อยให้ห้องพักของเขามีขยะพวกนี้อยู่ เธอคงจะถูกมองเป็นผู้หญิงสกปรกซกมก “ของพวกนี้ ไม่ควรจะทิ้งไว้ให้คนอื่นเห็นหรอกนะคะ” “คุณไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวผมจะทำอาหารเช้าให้” “คุณทำอะไรบ้างคะ?” พรรษาจำได้ว่าเขาเรียนอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก เรื่องอาหารการกินก็น่าจะทำเป็น “กาแฟ ขนมปังปิ้ง ไข่ดาว ถ้าคุณอยากได้แฮมหรือไส้กรอกก็บอกผมได้” พรรษาส่ายหน้า “กาแฟ ขนมปังปิ้ง ไข่ดาวน่ะพอไหว แต่แฮมกับไส้กรอก ฉันไม่ทานค่ะ ปกติฉันจะทานโจ๊ก” “ได้ ผมทำเท่าที่คุณขอก็แล้วกัน” เธอหายเข้าห้องน้ำไปได้พักใหญ่พอกลับออกมา อาหารเช้าก็ถูกวางอยู่บนโต๊ะแล้ว ที่น่าประหลาใจคือมีโจ๊กหอมกรุ่นอยู่ด้วยถ้วยหนึ่ง เธอเงยหน้ามองนาฬิกาแขวนผนัง ตอนนี้เพิ่งหกโมงเช้า “ไม่ต้องมองหน้าผมแบบนั้นหรอก? ผมไม่ได้ทำ สั่งให้แม่บ้านไปซื้อที่หน้าตึกมาน่ะ เจ้านี้แม่บ้านบอกว่าอร่อยมาก” ทั้งสองนั่งรับประทานอาหารกันไปเงียบๆ กระทั่งอิ่มแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเก็บจานกับช้อนไปล้าง “ผมทำเอง เช้านี้สั่งเลขาไว้แล้วว่าให้มารับเจ็ดโมง ยังมีเวลา แล้วคุณล่ะ วันนี้จะไปไหน?” “ฉันจะพาแสนรักไปเที่ยวแถวๆ นี้ล่ะค่ะ ตอนเย็นค่อยพบกันนะคะ” ได้ยินว่าพรรษาต้องคอยดูแลลูกสาว ธเนศเหมือนจะเบาใจ เขาหวังว่าเธอจะไม่นัดพบกับภาคิณอีก พอเธอสะพายกระเป๋าใบน้อยลงลิฟต์ไป เขาก็กดโทรศัพท์โอนเงินให้กับเธอตามสัญญา พรรษาเห็นยอดเงินที่เด้งเข้าบัญชีตนเองก็ตื่นเต้น ‘หนึ่งล้าน รอดตายแล้วเรา คงไม่ต้องหน้ามืดเรื่องหาค่าแรงให้กับคนงานไปอีกพักใหญ่’ แทนพงษ์กอดน้องสาวด้วยความดีใจ “เราคิดไม่ผิด ธเนศสมแล้วกับฉายาเพลย์บอยสายเปย์ นี่แสดงว่าเขาชอบพีชมากเลยนะ ทั้งๆ ที่ข้อตกลงไม่มีเงินล้านนี้ด้วยแท้ๆ แต่เขาก็ให้ พีชคงไม่ทำตัวนางเอกไปบอกเขาว่าไม่รับแล้วนับเป็นเงินยืมแทนหรอกนะ” พรรษาส่ายหน้า “ไม่ไหวอ่ะพี่แทน ขืนไปพูดว่ายืมเงินเขาเป็นล้าน สงสัยต้องหาเงินใช้หนี้จนหัวโต” “ฉลาดแล้วนี่เรา ได้มาอีกล้านก็พอจะพยุงไปได้อีกสักพัก”​ “หวังว่าจะดึงเกมไปจนถึงตอนที่โปรเจกวินเนอร์เริ่มนะพี่แทน” ชายหนุ่มหน้าสวยยกมือขึ้นลูบไหล่น้องสาว “ต้องทันน่า เราพยายามกันมาขนาดนี้แล้ว พีชต้องทำได้สำเร็จ พี่เชื่อฝีมือน้องสาวของพี่”​ “วันจันทร์ค่อยเอาเงินเข้าระบบแล้วให้พี่เผ่าเป็นคนจ่ายค่าแรงคนงาน ถ้าขืนส่งไปตอนนี้ ถ้าบ้านใหญ่เห็นเขาก็สมองใสคิดหาเงินออกนอกระบบไปอีก” พูดถึงบ้านใหญ่ แทนพงษ์ก็หน้าตึง “ถึงอยากได้ก็ไม่ให้อีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะลุงใหญ่โลภมาก พวกเขาก็คงไม่กลายเป็นเทวดาตกสวรรค์กันแบบนี้” “ช่างเถอะน่าพี่แทน พีชบอกไปแล้วว่าเราจะช่วยครอบครัวนั้นแค่ครั้งเดียว ตอนนี้ก็เท่ากับส่วนแบ่งของพวกเขาหมดไปแล้ว” “ใช่ ส่วนแบ่งของฟาร์มหมดไปแล้ว แต่ยังขยันพูดเรื่องเก่าๆ ไม่เลิก ตอนนี้คงภาวนาให้พวกเราบริหารล้มเหลวจะได้ขอส่วนแบ่งขายที่” “ไม่มีทาง พีชไม่ยอมขายฟาร์มกับที่ทุ่งตรงนั้นแน่” “สัญญาห้าปี จะช่วยฟื้นฟูการเงินให้ฟาร์มของเรากลับคืนมาได้ ถึงวันนั้นก็เอาเงินฟาดหัวให้พวกเขาออกไปจากฟาร์มซะ พวกเขาแค่ต้องการเงินก้อนสุดท้าย ถ้าเงินมากพอ พวกเขายอมย้ายออกไปจากบ้านใหญ่แน่” “แม่พีช มาแย้ว!” เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งมากอดขาของมารดา “แสนรัก วันนี้แม่จะพาไปเที่ยวนะคะ” “เย้ๆ แม่พีชมีเงินแย้ว” แทนพงษ์หัวเราะ ทรุดตัวลงนั่งยองๆ ใช้สองมือบีบแก้มยุ้ยด้วยความเอ็นดู เมื่อคืนเขาบอกกับหลานสาวตัวน้อยว่าพรรษาต้องไปทำงานหาเงินเพื่อมาเลี้ยงดูแสนรัก ก่อนนอนเด็กน้อยก็อธิษฐานว่าขอให้แม่พีชได้เงินมาเยอะๆ “วันนี้ แม่พืชจะพาหนูไปสวนสนุกนะคะ” เด็กหญิงรีบก้มหน้าก้มตากินข้าวกับไข่ดาวจนหมดจาน สะพายเป้ใบน้อยที่ลุงแทนของเธอเตรียมของใช้ส่วนตัวใส่เอาไว้ให้ ยืนยิ้มต่อหน้ามารดา “แสนยัก พร้อมแย้วค่ะ” เด็กหญิงยังออกเสียงตัวรอเรือไม่ชัด ชื่อแสนรักของเธอ เมื่อเจ้าตัวเรียกจึงกลายเป็น ‘แสนยัก’ “ถ้างั้น เราไปกันได้” แทนพงษ์อุ้มเด็กหญิงจนตัวลอย พรรษาล็อกบ้านเรียบร้อย ก็เข้าไปนั่งเบาะหลังรถ ด้านหน้าแทนพงษ์จัดให้แสนรักนั่งในที่นั่งสำหรับเด็กและคาดเข็มขันนิรภัยเรียบร้อย “ไปสวนสนุกค่ะ พี่แทน วันนี้เราพาแสนรักเที่ยวให้เต็มที่”​ แทนพงษ์หัวเราะร่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเขากับพรรษากำลังปวดหัวกับเงินค่าใช้จ่ายกันอยู่เลย แต่ชั่วข้ามคืนเรื่องราวก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ธเนศเข้าไปถึงบริษัทก็เซ็นเอกสารในแฟ้มที่วิษณุเตรียมเอาไว้ให้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ เขาหันไปมองโทรศัพท์ พอเห็นชื่อพี่ชายก็รีบรับ “เนศ หลานชายแกโวยวายใหญ่แล้ว” “เรื่องอะไรล่ะ?” “ก็อยากจะไปเที่ยวสวนสนุกวันนี้น่ะสิ ฉันอธิบายแล้วนะว่าแกจะพาไปพรุ่งนี้แต่น้องพืชไม่ยอม บอกว่าต้องไปวันนี้ให้ได้ เพิ่งวางสายไปเมื่อกี้นี่เอง แกไม่มีงานแล้วนี่ พาหลานไปเที่ยวหน่อยเถอะ เอาเลขาไปช่วยดูแลด้วยสักสองคนนะ” “ได้ครับ ท่านประธานใหญ่” ธเนศหันไปหาวิษณุ “ได้ยินแล้วใช่ไหม? เอาผู้ชายนะ ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะจะวิ่งไล่ตามเด็กด้วย” ธเนศลงไปที่ลานจอดรถ วิษณุนำเสื้อผ้ามาส่งให้เขาที่หน้าห้องน้ำ ชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบเพื่อให้สะดวกในการพาหลานชายขึ้นเครื่องเล่น เด็กชายธนาธิปหรือน้องพืชวัยอนุบาลสามยิ้มกว้างเมื่ออาเนศบอกว่าจะพาไปเที่ยวสวนสนุกใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ “ไชโย! พืชจะได้ไปเที่ยวแล้ว ชวนทิกเกอร์ด้วยนะครับ” “ได้ๆ เอาสิ” เด็กชายรีบกดเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนสนิทในนาฬิกาข้อมือ ทิกเกอร์เป็นลูกชายของปกรณ์ซึ่งก็เป็นญาติของธเนศด้วย รถตู้สีดำคันใหญ่แวะไปรับทิกเกอร์ที่หมู่บ้านจัดสรรเดิมที่น้องพืชเคยอยู่ ไม่ห่างจากบ้านหลังใหม่มากนัก “ไปสวนสนุกกันทิกเกอร์” น้องพืชโผล่หน้าไปโบกมือให้กับเพื่อนซี้ ********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม