บทที่3
เหมันต์ฤดู พัดผ่านอีกคร่า ดรุณีน้อยนั่งเท้าคางที่มุมหน้าต่างมองหิมะแรกยามเช้าตรู่
จูไป๋เสวี่ยเข้าสู่วัย 17 หนาว ที่ผ่านมาฝันร้ายตามมาหลอกหลอนไม่เลิกราเป็นนางเองที่ยังจำฝังใจ ใครเลยจะลืมสายตาเย็นชาจากเลือดในอกตนเองได้ลง ตราบาปที่นางเคยฆ่าชิงพรากพลาญชีวิตผู้อื่น ทำให้นางจำอดีตชาติเลวร้ายที่ตนเองทำเอาไว้ทั้งหมด
“คุณหนูเจ้าค่ะ ถูกหิมะจนผมชื้นหมดแล้ว เข้าไปอาบน้ำสระผมแช่น้ำให้ตัวอุ่นเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”
ไป๋เสวี่ยเอี้ยวตัวมาส่งยิ้มหวานให้สาวใช้ประจำตัว ฮวาเจียวเป็นดั่งคนรู้ใจ เหมือนพี่สาวที่ดูแลนางมาตั้งแต่จำความได้ จูไป๋เสวี่ยมีพี่ชายทั้งหมดสี่คน พี่ใหญ่ อายุ21 เป็นองค์รักษ์เกราะทอง พี่รองอายุ 20เปิดโรงหมอรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ไม่ไกลจวนสกุลจูเท่าไหร่ ส่วนพี่สามและพี่สี่ช่วยบิดาดูแลโรงเตี้ยมและเหลาอาหาร อายุ18-19ตามลำดับ เกิดหัวปีท้ายปี เท่านี้ก็บ่งบอกแล้วว่าบิดาของนางรักมารดามากขนาดไหน หากไม่เพราะวันที่คลอดนาง จูฮูหยินตกเลือดจนเกือบเสียชีวิต นางคงมีน้องๆ วิ่งตามหลังอีกเป็นขบวณ
สกุลจู เป็นเพียงคนค้าขายเปิดโรงเตี้ยมและเหลาอาหาร อยู่หัวเมืองติดกับแคว้นฉู่ แม้จะห่างไกลเมืองจากเมืองหลวงแต่ก็เป็นเมืองค้าขายเพราะติดชายแดน ทำให้โรงเตี๊ยมและเหลามีผู้คนใช้บริการมากมาย
จูไป๋เสวี่ย ได้อยู่อย่างสงบสุขท่ามกลางพี่ชายทั้งสี่ บิดารมารดารักใคร่กลมเกลียว จวนสกุลจูไม่ใหญ่โตมากนักมีบ่าวรับใช้ไม่กี่คนเท่านั้นจึงง่ายต่อการควบคุมและดูแล งานในจวนก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือมากมายเท่าไรเพราะนายแต่ล่ะคนก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย หากใครว่างงานก็สามารถไปช่วยงานที่โรงเตี๊ยมได้เบี้ยหวัดเพิ่ม
“พี่ฮวาเจียว วันนี้ข้าจะไปโรงหมอของพี่รอง ให้คนเตรียมรถม้าให้ที” ไป๋เสวี่ยเดินเข้าห้องอาบน้ำที่สาวใช้คนสนิทเตรียมไว้รอ
“เจ้าค่ะ” ฮวาเจียว นำเสื้อผ้าชุดใหม่มาพาดเตรียมรอไว้ที่ราว มองแผ่นหลังคุณหนูเล็กเดินผ่านเข้าห้องอาบน้ำ ทุกย่างก้าวล้วนน่ามอง เวลาเยื้องกรายดุหงส์สยายปีก กริยางดงามจับตาราวสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้าเล็กเพียงฝ่ามือ ผิวขาวเนียนราวหิมะ แก้มชมพูอิ่มเอิบรับกับริมฝีปากบางราวกลีบดอกไม้ ทุกครั้งที่นางออกไปช่วยงานที่โรงหมอของคุณชายรอง หรือไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อนช่วยงานนายท่าน เหล่าคุณชายทั้งหลายจะมาแอบยืนมองไม่กันวางตา ก็ใครจะอดใจไหวกัน ขนาดนางเป็นหญิงเห็นกันมาตั้งแต่อยู่ในห่อผ้าอ้อม ยังอดตกตะลึงในความงามนี้ไม่ได้
เทียบหมั้นหมายมีมาไม่ขาดสายตั้งแต่วันเข้าพิธีปักปิ่น แต่นายท่านปฏิเสธไปหมด นายท่านทั้งรักทั้งหลงบุตรสาวคนเดียว ไม่ใช่แค่นายท่าย คุณชายทั้งสี่ก็หวงน้องสาวไม่ต่างกัน จึงไม่มีคุณชายบ้านใดได้เข้าใกล้ชิดหรือเข้ามาสานสัมพันธ์ได้โดยไม่ถูกขัดขวาง อีกทั้งคุณหนูของนางก็ไม่ได้สนใจใครเลย
‘ลูกสาวคนเดียวข้าเลี้ยงได้ ข้าจะให้นางแต่งกับคนที่นางรักเท่านั้น’ คือคำที่นายท่านประกาศ ตอนที่แม่สื่อมาค่อนแคะว่าอายุเริ่มมากหากเล่นตัวจะไม่มีชายใดมาสู่ขอ