Area 26 : ความลับของชายปริศนาคนนั้น

2837 คำ
ชายปริศนาภายใต้หมวดใบใหญ่ปกปิดครึ่งหน้า จนไม่สามารถทำให้น้ำค้างมองเห็นสีหน้าของคนที่ตนพยายามร้องขอความช่วยเหลือได้เลยสักนิด กระทั่งชายผู้นี้มีท่าทีด้วยการขยับขาถอยหนี ราวกับว่าจะจากกันไปทั้งแบบนี้โดยไม่คิดจะช่วยเหลือกันเลย จนมือเล็กต้องรีบฉวยรั้งข้อเท้าอีกคนเอาไว้ด้วยความอดสู น้ำค้างแทบจะกราบกรานชายปริศนาตรงหน้าให้ช่วยเหลือกัน จนมองดูน่าอเนจอนาถใจยิ่งหนัก "ขอร้อง ฮึก ข้าขอร้องละ ท่านต้องการอะไร ท่านจะให้ข้าทำอะไรตอบแทนก็ได้ เพียงแค่ช่วยเขา ช่วยเขาด้วยเถอะ ฮื้อออ" ใบหน้านองน้ำตายอมเดิมพันด้วยชีวิตของตนเอง ต่อจากนี้ ขอเพียงแค่มีคนเข้าไปช่วยเหลือซามูร์ที่มีอาการย่ำแย่สาหัสก็พอ น้ำค้างจะขอยอมทำทุกอย่างให้ได้แน่นอน เพื่อใช้แลกชีวิตกับซามูร์ให้กลับมามีชีวิตปกติเช่นดังเดิมได้ "ฮึ เจ้าพูดเองนะ" น้ำเสียงแค่นขำในลำคอเอ่ยถามออกมา น้ำค้างต้องยอมจำนนด้วยการพยักหน้าหงึกหงัก อย่างกับคนที่ยอมให้แล้วซึ่งทุกอย่างที่จะสามารถแลกได้ แม้จะหวั่นใจยิ่งนักที่ได้ยินเสียงราวกับเย้ยหยันกันในลำคอที่เปล่งออกมาถามย้ำกันแบบนี้ก็ตาม ทว่าชายปริศนากลับขยับขาหนีออกห่างไปอยู่ดี จนน้ำค้างใจแป้วและรีบเกลือกกลิ้งตัว ขยับไล่ตามตะครุบท่อนขาของคนตรงหน้าเอาไว้ให้ได้ แต่กลับตามไม่ทันอยู่ดี ทั้งที่คิดว่าจะมีคนมาช่วยให้เป็นดั่งแสงสว่างอยู่ตรงหน้าอยู่รำไร แต่ชายผู้นั้นกลับเดินลุยฝ่ากระแสน้ำข้ามฝั่งหนีกันไปทั้งแบบนี้เลย ความหวังก่อนหน้าจึงสูญมลายหายสิ้นไปในพริบตาเดียว น้ำค้างเหยียดยิ้มสมเพชให้ตัวเองที่เหมือนกับเป็นคนที่ช่างดูไร้ค่าอะไรเช่นนี้ คนเสียใจจึงทำได้แค่ก้มหน้าปล่อยให้หยาดน้ำใสหลั่งรินสู่พื้นดิน เมื่อรู้แล้วว่าถูกปฏิเสธการช่วยเหลือแน่นอน ขนาดบอกว่าจะยอมทำทุกอย่าง แต่ชายผู้นั้นคงรู้สินะว่าชีวิตของน้ำค้างไม่ได้มีค่าอะไรมากพอ ที่จะใช้ต่อรองแลกในการให้ความช่วยเหลือได้เลยสักนิด หยาดน้ำตาใสหลั่งรินออกมาจากกระบอกตาบอบช้ำจนแดงก่ำอย่างไม่ขาดสาย ไม่ต่างกับสายธารน้ำไหลที่หลากเชี่ยวกรากตรงเบื้องหน้านี้เลย "ขึ้นมา!" เสียงทุ้มตะโกนดังขึ้นเรียกสติคนที่ยังคงฟุบตัวตรงกอหญ้า ใบหน้าที่ร่ำไห้จนตัวโยน ซึ่งเหมือนกับหมดความหวังจนโลกถล่มไปแล้วยังไงยังงั้น น้ำค้างรีบยกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าที่แดงก่ำ พลางต้องเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตากับภาพของชายปริศนาคนนั้น ที่เจ้าตัวเดินหนีหายไปเมื่อครู่ แต่บัดนี้ได้กลับมาอยู่ตรงหน้านี้แทนแล้ว "เร็วๆ สิ เสียเวลาข้า เจ้าคนโอ้เอ้" น้ำค้างยงโย่ยงหยกรีบจัดท่าทางเงอะงะปีนขึ้นบนหลังม้าทันที แต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจคนที่ส่งสายตาคมดุมองลอดผ่านภายใต้ปีกหมอกใบกว้างกันอยู่ ป่านนี้คงได้รับสายตาไม่พอใจต้องคิดว่าตนนั้นต้องเป็นคนหยิบโหย่งขึ้นควบม้าไม่เป็นแน่นอน กระทั่งน้ำค้างได้ยินเสียงของคนที่คุมบังเ**ยนอยู่ได้สบทจิ๊จ๊ะออกมาใส่กัน บ่งบอกให้เจ้าตัวได้รับรู้ว่าอีกคนน่าจะกำลังเอือมระอากันอยู่ ชายปริศนาต้องโดดลงจากอานหลังม้าอีกรอบ เพื่อมายกตัวคนที่ดูอ่อนปวกเปียกทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง จนน่า หงุดหงิดใจไปหมด ฝ่ามือใหญ่คว้าจับเอวบางได้แล้วจึงโยนตัวน้ำค้างให้ขึ้นไปนั่งบนอานม้าอย่างไม่เบาแรงนัก "โอ๊ะ ข้าเจ็บนะ" ริมฝีปากแดงก่ำรีบกัดเม้มเอาไว้จนแน่น หลังจากเผลอหลุดสบทออกมาอย่างลืมตัว หลังถูกจับโยนขึ้นนั่งบนอานม้า ได้สักที ทว่าบริเวณก้นมันดันไปกระแทกลงกับอานแข็งๆ เข้าอย่างจัง ซ้ำหัวเข่ายังไปโขกเข้ากับเหล็กที่เหยียบขึ้นบนหลังม้าด้วยอีก ทำเอาคนที่เจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด คาดว่าเลือดที่เคยแห้งกรังไปแล้ว มันน่าจะไหลซึมออกมาอีกเพราะบาดแผลมันได้ปริแตกออกมาใหม่แน่นอน "เจ้าพูดมากน่ารำคาญ เวลาอยู่กับข้าช่วยหุบปากด้วย ข้าไม่ชอบคนพูดมาก ข้าถามเจ้าค่อยตอบ" น้ำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจจากลำคอ สู่การพูดเสียงแข็งใส่คนที่นั่งตัวเกร็ง เพราะกลัวจะตกม้าที่ถูกควบด้วยความเร็วสูงเสียก่อน คนนั่งตัวแข็งทื่อจึงเลือกที่จะเงียบเสียงลงไปโดยที่ไม่พูด ไม่หือไม่อือตามที่คนคุมบังเ**ยนม้าด้านหลังต้องการ "ถ้ำตรงนู้นใช่ไหม" น้ำค้างพยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ หนึ่งม้าสองคนได้วิ่งผ่านบริเวณป่าทึบจนได้ออกมาถึงบริเวณป่าต้นไม้ใหญ่แล้ว ที่แห่งนี้ยังคงมีซากศพไร้หัวปรากฏให้เห็นจนน้ำค้างต้องรีบหลับตาปี๋หลบภาพน่ากลัวชวนขวัญผวาตรงหน้าไปเลย "หืมม ไอ้โจรพวกนี้น่ะรึ หึ" ชายปริศนาเลือกที่จะหยุดม้าตรงบริเวณนี้ เพื่อกระโดดลงจากอานหลังม้าแล้วได้รีบปรี่ขาเข้าไปดูพวกซากศพไร้หัวที่มันได้กระจัดกระจายอยู่รอบๆ อาณาบริเวณจนทั่วด้วยความสนใจ ปลายหัวรองเท้าหนังทำมือกระแทกเข้ากับใบหน้าของไอ้โจรที่มีผ้าโพกหัวหลุดลุ่ยครอบอยู่ แววตาเกิดความข้องใจปรากฏภายใต้หมวกใบใหญ่ที่ไม่มีใครมองเห็นด้วย ฝ่ามือใหญ่จึงเลือกที่จะยื่นมือเข้าไปกระตุกถลกผ้าโพกศีรษะออก จนซากหัวกระดอนออกไปทางม้าที่มีน้ำค้างนั่งรออยู่ จนต้องพากันสะดุ้งตกใจทั้งคนทั้งม้า "อื้อออ หึหึ" ริมฝีปากเหยียดยิ้มอยู่คนเดียว ทันทีที่ดวงตาคมดุได้สบมองเห็นใบหน้าของโจรที่มีแต่ส่วนหัว ส่วนท่อนร่างกายที่ขาดออกจากกันนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจกับสภาพร่างของมันสักเท่าไรนัก คงเพราะได้ถูกพวกกองทัพแร้งกาจิกทึ้งกินไปบ้างแล้วมันถึงได้ดูเละเทะเช่นนี้ ทว่าฝ่ามือใหญ่กลับหยิบลูกดอกธนูที่ตกอยู่ข้างซากร่างศพขึ้นมาดู จึงได้เห็นว่ามันมีคราบติดอยู่ที่ปลายลูกดอกธนูอยู่ด้วย ทำเอาคิ้วเข้มได้รูปต้องขมวดมุ่นแล้วจำต้องลองสูดดมทันที ชายปริศนาขยับตัวลุกขึ้นยืนแล้วได้เดินเข้าไปไล่ถลกผ้าคลุมออกจากศพที่ส่วนหัวกับตัวขาดออกจากกันจนครบทั้ง 4 ศพแล้ว จึงกระโดดกลับขึ้นมาบนหลังม้า เพื่อ เดินทางต่อ ทั้งคู่พากันควบไกลห่างออกจากบริเวณถ้ำมาจนเหมือนเป็นนอกเส้นทางแล้ว ทำเอาน้ำค้างที่นั่งตัวเกร็งมาตลอดทางเริ่มออกอาการลุกลี้ลุกลนจนคนที่คุมบังเ**ยนอยู่สังเกตได้ "เจ้านั่งดีๆ สิ เดี๋ยวก็ตกลงไปคอหักตายซะก่อน" น้ำเสียงดุดันดังขึ้น จนทำให้น้ำค้างยอมกลับมานั่งตัวเกร็งสงบเสงี่ยมเหมือนเดิมแต่โดยดี แต่ทว่าเมื่อดวงตากลมล่อกแล่กมองไปทั่วอาณาบริเวณแล้ว เกิดความกลัวขึ้นมาว่าหากชายผู้นี้จะหลอกตัวเองอยู่ แล้วไม่ยอมไปช่วยซามูร์แบบที่ตกลงกันไว้ละ เล่นพาวิ่งออกมานอกเส้นทางจนห่างไกลถึงที่ไหนก็ไม่รู้แล้ว "ท่าน ท่าน ถ้ำอยู่ตรงนู้นนะ ซามูร์รอข้าอยู่" น้ำเสียงหวาดหวั่นทั้งกล้าๆ กลัวๆ เปล่งออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น "หึ เจ้านั่นจะตายเพราะถูกพิษหอยทากใช่มั้ย? กระจอกชะมัด!" น้ำค้างหันขวับกลับมามองคนพูดอย่างกะทันหัน จนคอแทบจะหัก เมื่อตกใจในสิ่งที่อีกคนรู้ได้อย่างไรว่าซามูร์ถูกยาพิษชนิดไหนเล่นงานอยู่ "ข้าต้องไปหายาสมุนไพรก่อน" น้ำค้างได้ยินคำตอบ แววตาที่เคยสิ้นหวังกลับเริ่มมีความหวังขึ้นมา จนเผลอเผยรอยยิ้มสดใสออกมาทั้งน้ำตา ชายปริศนาเห็นคนตรงหน้าแล้วรู้สึกหมั่นไส้ จึงผลักใบหน้ายกยิ้มกว้างให้หันกลับไปมองทางข้างหน้าดังเดิมแทน ชายผู้ที่เป็นความหวังหนึ่งเดียวของน้ำค้าง ได้เดินหายตัวเข้าไปในดงป่าต้นไม้แปลกตาไปหมดสำหรับน้ำค้าง คราแรกน้ำค้างจะขอวิ่งตามเข้าไปด้วย ทว่ากลับโดนห้ามปรามแบบจริงจัง แถมยังพูดจาปากคอเราะรายทิ้งท้ายใส่กันอีกด้วย "อยู่กับม้าข้านี่แหละ เจ้าเข้าไปก็มีแต่จะเกะกะเป็นภาระเพิ่มให้ข้าเสียเวลามากกว่าเดิม ดูม้าข้าไว้ให้ดีด้วยล่ะ ห้ามหาย!" หลังคนปากคอเรอะร้ายพูดจบก็เดินหายวับเข้าป่ารกชัฏนั่นไปเลย น้ำค้างกับม้าคู่ใจของชายผู้สวมหมวกใบใหญ่จึงเล่นกันไปพูดคุยกันไป ตอนนี้น้ำค้างเอาแต่ลูบตัวม้าแถมยังหาใบหญ้ามาให้กินด้วย ดูแลดีกันสุดๆ ราวกับคุยกันรู้เรื่องเข้าใจกันเป็นอย่างดีเลย "ไป ออกเดินทางต่อได้แล้ว เดี๋ยวแวะตรงลำธารแล้วก็รีบไปต้มยาแก้พิษได้แล้วล่ะ" เสียงเข้มดังขึ้นมาทำให้น้ำค้างลูบไล้ขนดำคลับสวยของเจ้าม้าถึงกับต้องหยุดมือ แล้วหันหน้าไปฟังเสียงของคนเดินกลับออกมาจากในดงป่ารก ดวงตากลมมองใบยาหลากหลายชนิดในมือใหญ่ จนถูกยื่นให้น้ำค้างรับมาถือไว้เอง แล้วตัวน้ำค้างก็ถูกยกลอยสูงลิ่วขึ้นไปอยู่บนหลังม้าในทันทีเช่นกัน ☘ "อะไรกัน นี่เจ้าใกล้จะตายแล้วรึ ซามูร์..." คำทักทายแรกของชายปริศนาภายใต้หมวกใบใหญ่ที่น้ำค้างไปขอความช่วยเหลือมา ทำให้น้ำค้างใจตกฮวบไปถึงตาตุ่มทันที ยิ่งริมฝีปากแสยะยิ้มยกขึ้นสูงจนดูน่ากลัวทำเอาชวนหวั่นใจไปหมด น้ำค้างเห็นซามูร์กับใบหน้าไร้สี นอนซมไข้ทุรนทุรายสาหัสอยู่ แต่ชายปริศนาที่ตนได้พามากลับแค่นขำราวกับเยาะเย้ยใส่คนป่วยใกล้ตายแบบไม่ได้รู้สึกเศร้าสลดใจเลยด้วยซ้ำ แต่กล้บหัวเราะออกมาใส่กันได้ซะงั้น ตอนนี้น้ำค้างหน้าเสีย ซึ่งไม่รู้ว่าไปขอให้มาช่วยถูกคนรึเปล่า ถ้าหากเป็นพวกอริที่ไม่ชอบซามูร์อยู่ก่อนแล้ว ตนดันได้เป็นคนที่พาโจทก์มาถึงที่นี่เพื่อหมายจะเอาชีวิตซามูร์แทนละ จะทำยังไงดีละทีนี้?!! ใบหน้าเล็กตึงเครียดที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนเลยว่ากำลังกลัดกลุ้มออกมาทันที หากว่านี่กลายเป็นการชักศึกเข้าบ้านมาจะทำเช่นไร "ฮ่าๆ ทำไมเจ้าทำหน้าอย่างนั้น่ละ ข้าดูเหมือนคนที่จะมาฆ่าซามูร์ทิ้งรึไง" น้ำค้างอ้าปากค้าง เมื่อถูกล่วงรู้เข้าแล้วถูกเอ่ยแซวใส่แบบนี้ จนเพิ่งรู้สึกตัวว่าความคิดวิตกกังวลภายในใจ มันคงส่งผลให้เผลอแสดงออกมาทางสีหน้าจนหมดสิ้นแล้วสินะ "เจ้าไปตั้งไฟต้มน้ำไว้หน่อย แล้วเอาใบยาที่ข้าฝนไว้กับหินนี่ลงหม้อต้มได้เลย" ชายปริศนารีบสั่งงานเปลี่ยนบรรยากาศกระอักกระอ่วน หลังจากเห็นอีกคนอึกอักพูดอะไรไม่ออก "ใครดาษปิดปากแผลเนี่ย" เมื่อเห็นรอยแผลที่ถูกลูกดอกอาบยาพิษปักก่อนหน้านี้ แล้วดันดาษแผลด้วยไฟจนมันแห้งแล้วก็จริง แต่เมื่อถูกพิษเล่นงานแบบนี้ก็ต้องเปิดปากแผลใหม่อยู่ดี "ข้า ข้าเอง ตอนนั้นซามูร์เลือดออกมากจนเขาจะตาย" น้ำค้างเสียงสั่นพลางยอมรับสารภาพ เมื่อถูกถามด้วยน้ำเสียงเข้มดุ ชายปริศนาที่สวมหมวกใบใหญ่จำต้องถอดหมวกวางไว้ด้านข้าง ก่อนจะนำใบมีดไปลนกับเปลวไฟ แล้วนำมาลง มือกรีดเปิดปากแผลให้ของเหลวสีแดงพวยพุ่งออกมาเหมือนกับน้ำพุพุ่งก่อนหน้านี้แบบไม่ผิดเพี้ยน ฝ่ามือใหญ่นำใบสมุนไพรยาที่ฝนกับแท่นหิน จนได้เป็นเนื้อเดียวกันโปะลงบนบาดแผลที่เปิดปากแผลแล้ว บีบคั้นเอาเลือดเสียออกมาให้ได้มากที่สุด ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าชื้นเหงื่อของผู้ถูกพิษไข้เล่นงานจนตัวร้อนจี๋ ริมฝีปากเริ่มมีสีม่วงคล้ำ หากปล่อยไว้นานกว่านี้คงได้สิ้นลมหายใจอย่างแน่นอน "เจ้าเอาอันนี้ไปต้มให้ข้าด้วย" มือใหญ่ยื่นชิ้นผ้าสะอาดผืนใหม่ที่เจ้าตัวมักจะพกติดตัวเอาไว้เสมอ ให้กับคนนั่งอยู่หน้ากองไฟที่กำลังเคี่ยวน้ำยาสมุนไพรอยู่ น้ำค้างจุ่มชิ้นผ้าในหม้อน้ำที่เดือดจนควันขึ้นโขมง แล้วปล่อยชิ้นผ้าจุ่มแช่ทิ้งไว้สักระยะ ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นมาดูชายปริศนาที่กำลังสาระวนอยู่กับการพอกยาสมุนไพรลงบนบาดแผลมีพิษ "ท่านช่วยสอนข้าบ้างได้มั้ย" ดวงตากลมจ้องมองการกระทำของคนตรงหน้าทุกอิริยาบถกับการกรีดแผล เพื่อรีดพิษออกจากตัวของคนไข้แบบไม่กะพริบตาเลย "ไปเอาผ้ามาให้ข้า" น้ำค้างไม่ได้รับคำตอบแต่กลับได้รับคำสั่งมาแทน เจ้าตัวจึงจำต้องลุกขึ้นไปเอาผ้าที่ต้มไว้มาให้คนที่กำลังช่วยชีวิตซามูร์อยู่ ชิ้นผ้าผืนเล็กๆ เมื่อครู่กลับขยายขนาดออกเป็นผืนใหญ่ได้เมื่อถูกต้มแล้ว "เจ้าต้องป้อนยาเขาทุกสามชั่วโมงนะ" ยาแก้พิษกระบอกแรกถูกกรอกเข้าไปยังร่างของคนที่ถูกช้อนตัวขึ้นมานั่งพิงอยู่กับโขดหินพร้อมกับสั่งคนที่คอยช่วยจับตัวคนไข้ไม่รู้สึกตัวเอาไว้ให้มั่นด้วย มือเล็กๆ คอยเช็ดคอยซับน้ำยาสมุนไพรที่ไหลย้อยกลับออกมาจากริมฝีปากหยัก จนถูกเสียงทุ้มสั่งใหม่อีกรอบ "เอาเขานอนลงบนตักเจ้าดีกว่า ไม่งั้นยาออกนอกปากหมด ไม่ได้กินลงกระเพาะกันพอดี" น้ำค้างยอมเชื่อฟังและรีบทำตามคำสั่งแต่โดยดี เจ้าตัวรีบลุกขึ้นมานั่งลงพร้อมกับช้อนหัวของคนป่วยให้ลงมานอนหนุนตักของตนไว้ แล้วให้ชายปริศนาได้ทำการกรอกยาใส่ปากคนถูกพิษเล่นงานได้อย่างง่ายดายยิ่งกว่าเดิม หลังเช็ดตัวให้ซามูร์เรียบร้อยแล้ว น้ำค้างรีบวิ่งตามคนที่เข้ามาช่วยเหลือกันจนเสร็จสิ้นแล้วก็จะกลับออกไปทางหน้าปากถ้ำทันที "ท่าน! ท่าน! เขาจะหายแน่ใช่มั้ย ซามูร์จะหายดีใช่มั้ย" นัยน์ตาสีนิลสั่นระริกแสดงออกมาพร้อมกับสีหน้าท่าทางเป็นห่วงเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด "หายสิ ถ้าเจ้าหมั่นกรอกยาเจ้านั่น ดูแลเขาซะ" "แล้วท่านจะกลับมาอีกได้มั้ย" ใบหน้าวิตกกังวลที่พยายามเค้นน้ำเสียงแห่งความหวั่นใจออกมาพูดคุยกับคนตรงหน้า ทำให้ชายปริศนารู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาเช่นกัน "รุ่งเช้า ข้าจะให้คนมารับตัวเจ้านั่นไปพักฟื้นที่เผ่าของข้าก็แล้วกัน" ใบหน้าขึงขังตอบกลับเช่นกัน "แล้วถ้า ถ้าซามูร์อาการไม่ดีขึ้นละ ข้ากลัวจะเสียเขาไปเหลือเกิน" แววตาเศร้าสร้อยของคนตรงหน้าทำเอาชายปริศนาเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้วยความสนใจเสียแล้ว "หึหึ อยู่ที่เจ้าแล้วละ ว่าจะพยายามดูแลเขาได้ดีขนาดไหน เวลาที่กรอกยาแล้วเขาจะสำรอกออกมาตลอดนะ เจ้าจะทำได้มั้ยล่ะ" น้ำค้างพยักหน้าอย่างมีแววตามุ่งมั่น จนทำให้คนที่มองกันอยู่เข้าใจได้ในทันทีและสามารถสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างระหว่างสองคนนี้ที่มันน่าจะมีมากกว่านั้น "ข้าไปละ" "รุ่งเช้า ท่าน ท่านจะกลับมาที่นี่จริงๆ ใช่มั้ย พรุ่งนี้ท่านจะมารับซามูร์แน่ๆ ใช่มั้ย" น้ำเสียงสั่นเครือรีบเปล่งถามในตอนที่ชายปริศนากำลังจะหันหลังเดินจากกันไป เมื่อน้ำค้างเริ่มเกิดความกังวลใจเมื่อชายปริศนาตรงหน้าไม่ยอมปริปากตอบยืนยันกันให้แน่ชัดเลย เอาแต่ยืนจ้องมองหน้าของตนอยู่นานสองนานอย่างไม่เข้าใจในความคิดของคนตรงหน้าเลยสักนิด "ข้าต้องกลับมาสิ..เพราะเจ้านั่นเป็นพี่ชายของข้าเอง"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม