เธอรับรู้ว่าเขาจะทำอะไร...ร่างอรชรถูกรวบเข้าหาอย่างแรง เปรมนัตย์ยกมือข้างหนึ่งบีบกรามของเธอจนริมฝีปากเล็กห่อเข้าหากัน
“ตอนทำไม่คิด เธอกล้ามากที่มาตบหน้าฉัน!”
“ฮึก ฉะฉันขอโทษ อึก...” ริมฝีปากเล็กห่อเข้าหากันจนเป็นรูปตัวโอ “อือ~”
“เหรอ...ก่อนที่ดาวจะตายเธอคงเห็นว่าน้องทรมานมาก แต่ทำไมเธอถึงไม่ช่วยดาว” ชายหนุ่มรื้อฟื้นแต่เรื่องเดิม ๆ
“อึก...” เธอส่ายหน้า อย่างไรก็ไม่สามารถช่วยได้ทัน เขาพูดออกมาได้ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นจะไปรู้อะไร
“สิ่งที่เธอเจอไม่เท่ากับดาวต้องเจอหรอก” ว่าแล้วก็ดันร่างเล็กไปที่โซฟา ข้อมือก็เจ็บ ร่างกายจิตใจของเธอแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เลยก็ว่าได้
“ฉันไม่พร้อม...พี่เปรมฉันเหนื่อย” พอเขาผลักเธอลงบนโซฟา ร่างบางที่พยายามขัดขืนก็ถูกกดหัวไหล่ไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว พละกำลังของเขานั้นเหลือเฟือสำหรับเธอ
“หึ...” เขาชอบเห็นเธอทรมาน ผู้หญิงใต้ร่างคนนี้คือปานเดือน ไม่ใช่ดุจดาว...คนที่เขารัก
...เปรมนัตย์เปลื้องอาภรณ์ท่อนร่างของตัวเองออก เผยให้เห็นความเป็นชายที่กำลังรอการปลุกเร้า เขาไม่ได้เล้าโลมอะไรเธอ เพราะรู้ว่ามีไม่กี่อย่างที่ผู้หญิงจะเจ็บปวด หากทำร้ายร่างกายไม่ได้ ก็มักจะทำร้ายจากภายในนี่แหละ
“อือ~” เธอกัดฟันแน่น พอเขาถกกระโปรงของเธอขึ้น นิ้วเรียวหยาบกร้านนี้ก็เกี่ยวขอบซับในของเธอออก สอดแทรกความใหญ่โตเข้ามาในทันที มันยังใหญ่ไม่เต็มที่มากนัก แต่พอเจอความนุ่มนิ่มในกายเธอ แก่นกายอุ่นร้อนก็แข็งชันขึ้นมาทันที
น้ำตาไหลซ้ำแล้วซ้ำเล่า...มีหลายทางที่จะทำให้เธอคนนี้หย่ากับเขา แต่จนแล้วจนรอดการได้เห็นเธอทรมานแบบนี้ต่างหากที่ทำให้เขามีความสุขที่สุด
“ฮึก...ฮือ~” แม้นจะปวดร้าวที่แขนมากเพียงใด แต่เธอก็ยกขึ้นมาดันหน้าท้องของเขาให้ขยับออก ร่างบางนั้นเจ็บร้าวไปทั่วทั้งกายใจ ข้างล่างก็ระบมตั้งแต่เมื่อคืน
“หึ...มองหน้าฉัน” เขายื่นมือไปบีบกรามเล็ก ขณะที่ช่วงล่างยังคงขยับจังหวะเข้าใส่ ไม่รู้ว่าน้ำรักหรือว่าเลือดกันแน่ที่กระเซ็นเต็มต้นขา
...แววตาของปานเดือนกับดุจดาวต่างกันมาก เขาสามารถแยกออกได้ เพราะเหตุนี้เวลาเมาที่สายตาพร่าเลือนเขาจึงมักจำไม่ได้ ทว่าตอนนี้สติของเขาครบเต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
ปึก! ปึก! ปึก!
“ฮึก...” เธอจับข้อมือของเขาทั้งสองข้าง ข้อมือที่กำลังบีบกรามให้สนใจหน้าเขาอยู่ “ฮึก ฮืออ~”
“ร้องอีก ร้องให้พ่อแม่เธอมาช่วย ร้องดัง ๆ อ้อ ให้ไอ้เพื่อนเธอมันมาช่วยด้วย หึ ถ้ามันมาเห็นตอนนี้จะเป็นไงนะ จะช็อกตายเลยไหม ฮ่า ๆ”
“อึก...” ร่างบางสั่นระริก หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับร่างกายถูกฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ เจ็บช่องทางรักที่ไม่มีแม้แต่น้ำหล่อลื่น เขาเอาเข้ามาได้ทั้ง ๆ ที่มันแห้งผาก การดันทุรังฝืนธรรมชาตินี้ทำให้เธอบาดเจ็บจากภายใน เลือดที่ซึมออกมานั้นเขาไม่ได้ก้มมองดูเลยสักนิด
“พี่เปรม...อึก ฉันเจ็บ ฮึก ขอร้อง...ฉันขอโทษ” เธอยังไม่รู้เลยว่าทำอะไรผิด แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว
“ทำไม...เสียวไหม” เธอส่ายหน้า
“เจ็บ...”
“เหรอ แต่ฉันเสียว” ยิ่งพูดก็ยิ่งเสียว เปรมนัตย์ขยับสะโพกกดกระแทกเข้าหาอย่างไม่ปรานี ยิ่งแห้งผากก็ยิ่งฟิตแน่นมาก ชายหนุ่มมีใบหน้าเหยเกบ้าง แต่เขาก็ชอบความทรมานนี้
ต่างจากเธอ
“อื้ออ~” ปานเดือนกัดฟันแน่น ภาวนาให้วินาทีแห่งการทรมานนี้จบลงเสียที แต่เขาก็เป็นแบบนี้ นานและก็สนุกอยู่ฝ่ายเดียว
“อ๊ะ...”
“ร้องออกมาอีก”
“อือ~” เธอไม่อยากครางอะไรทั้งนั้น มันไม่มีความเสียวเอาเสียเลย เปรมนัตย์โน้มตัวเข้าหา ท้าวฝ่ามือที่เหนือหัวไหล่ หากเธอเป็นปานเดือนบอกได้คำเดียวว่าจูบไม่ลง แต่ทว่าตอนนี้...อารมณ์มันพาไป
“อือ...” ริมฝีปากหนาประกบจูบอย่างรุนแรง สอดปลายลิ้นหนาเกี่ยวตวัด ไล่ต้อนจนเธอจนมุม หญิงสาวยอมศิโรราบทุก ๆ อย่าง เธอพยายามไม่ขัดขืนแม้นจะเจ็บปวดมากเพียงใด
...รสจูบของเขานั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง ขบเม้มริมฝีปากของเธอจนบวมเจ่อ ฝ่ามือหนาหยาบกร้านก็เคล้นคลึงหน้าอกของเธอผ่านเสื้อแขนยาวที่ยังไม่ได้ถอดออก
“หึ...” เขาหยัดกายขึ้น แค่นหัวเราะพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดที่ได้ลิ้มรสผ่านริมฝีปาก เปรมนัตย์ขบริมฝีปากล่างของเธอจนได้เลือด
“อือ~ พะพอได้แล้ว” เขาสนเสียเมื่อไรกัน สามีหนุ่มยึดเอวบางไว้ ก่อนจะกระแทกกระทั้นเข้าในอารมณ์ห้วงสุดท้าย อารมณ์ที่ทำให้เธอดิ้นทุรนทุราย
“อืออ~”
“ซี้ด!!...” ริมฝีปากหนาครางเสียว ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากหลังจากได้ปลดปล่อย เขาดึงท่อนเขื่องที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดนี้ออก ก่อนจะเห็นว่ามันถูกเคลือบด้วยเลือด
...เปลือกตาหนากะพริบเบา ๆ ก่อนจะเลื่อนสายตามมองใบหน้าของปานเดือน เธอหอบหายใจอย่างหนัก ใบหน้าอิดโรยนั้นซีดเผือด
“เลือด” เธอเพิ่งเห็น คิดไว้ไม่มีผิด หญิงสาวรู้สึกเจ็บกว่าครั้งไหน ๆ อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนก็เจ็บ ครั้งนี้รุนแรงเลยได้เลือด ขณะเดียวกันคนตัวโต เขาคว้าทิชชูมาเช็ดคราบเลือดออกจากเจ้าโลกด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
“ถ้าพรุ่งนี้ไม่หาย ก็ไปหาหมอ อย่าโง่อยู่เฉย ๆ”
“_”
“แล้วอย่าให้พ่อแม่ฉันรู้” เขาขู่เสียงเข้ม เปรมนัตย์สวมกางเกงกลับด้วยความรวดเร็ว แต่ก็นึกอะไรบางอย่างได้ “ไม่ต้องกินยาคุม มีหลานให้พ่อฉัน”
“แต่ว่า...” เธอยังไม่พร้อม
“เธอก็น่าจะดีใจนี่ หึ...ลูกของเธอคงได้มรดกจากพ่อฉันต่ออีก คราวนี้ครอบครัวเธอคงยิ้มหน้าบาน” เขาว่าอย่างคนนึกสมเพช คราวที่ให้แต่งกับดุจดาวชายหนุ่มไม่เคยมีความคิดต่ำทรามในหัว ทว่าพอดุจดาวจากไป พ่อแม่ของเธอก็ยังยัดเยียดผู้หญิงคนนี้ให้กับเขาอีก ไม่จบไม่สิ้นเสียที
“_” ปานเดือนพูดอะไรไม่ออกสักคำ แม้นจะยังไม่ท้อง แต่ก็นึกสงสารลูกแล้ว หากลูกได้ยินถ้อยคำแบบนี้ก็คงเสียใจไม่ต่างจากเธอตอนนี้ หญิงสาวนอนมองแผ่นหลังหนาที่เดินขึ้นบ้านไป โดยที่เขาไม่ได้หันหลังกลับมามองเธออีกเลยแม้แต่นิดเดียว
...นานสองนานที่นอนขดแน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แม้นจะอยู่ในฐานะสามีภรรยา แต่สิ่งที่เขาทำมันก็เหยียบย่ำเธอจนไม่อยากรับรู้อะไรอีก
“ฮึก...ฮือ~” ร่างเล็กนอนสะอื้นไห้บนโซฟาจนตัวโยน ไม่รู้ว่าแผลน้ำร้อนลวกเมื่อเช้า ความบวมช้ำที่ช่วงล่าง หรือจิตใจของเธอที่เจ็บมากกว่ากัน ยิ่งเขารู้ว่าเธอเคยชอบเขามากแค่ไหน เขาก็ยิ่งเกลียดเธอ ปานเดือนหวนนึกถึงวัน...วันที่ความลับของเธอแตก
...วันนั้นเป็นวันดี วันที่เธอเอาฟิล์มรูปถ่ายมาล้างเอง ด้วยความที่เรียนถ่ายภาพและมัลติมีเดีย เธอมีความรู้มากพอที่จะล้างฟิล์มจากกล้องฟิล์มได้ด้วยตัวเอง ทว่า
โชคชะตาคงไม่เข้าข้างเธออีกแล้ว อยู่ ๆ เขาก็เข้ามาเห็น
“ทำไม...ทำไมเธอมีรูปพี่เยอะขนาดนี้” ดวงตาคมของเปรมนัตย์มีคำถามเต็มไปหมด ความสงสัยที่เห็นรูปของตัวเองที่ถูกแอบถ่ายในหลาย ๆ อิริยาบถ ชายหนุ่มในวัยยี่สิบสองนั้นฉงนใจ
“เอ่อ ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่คะ เข้ามาได้ยังไง” ปานเดือนพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ไม่เผยพิรุธใด ๆ ออกมาแม้นภายในใจตอนนี้จะหวั่นใจมากแค่ไหน จะให้เขารู้ไม่ได้ว่าตัวเองแอบรักแฟนของน้องสาว
“พี่ถามเธอก่อนนะ เธอแอบถ่ายรูปพี่เหรอ” เข้ามาได้อย่างไรนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลย ก็เขามาบ้านของเธอบ่อย แน่นอนว่าห้องเธอกับห้องของแฟนสาวคือห้องเดียวกัน
“คือว่า...”
“เธอชอบพี่เหรอ” ชายหนุ่มพอดูออก แววตาของเธอเวลามองเขานั้นทำให้รู้สึกว่าเธอชอบเขาจริง ๆ แต่ก็ไม่อยากคิดแบบนั้น เพราะยังไงเขาก็เป็นแฟนกับน้องสาวของเธอ ทว่าพอเห็นรูปภาพเหล่านี้ สิ่งที่คิดในหัวก็ชัดเจนขึ้น
“คือว่าฉัน...” จะปฏิเสธมันก็ติดอยู่ในลำคอ เพราะมันเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“เธอรู้สึกกับพี่แบบนี้มันไม่ถูกนะ เธอจะทำให้เรามองหน้ากันไม่ติด” เปรมนัตย์พูดจากใจ การที่ปานเดือนชอบเขาอาจจะทำให้ดุจดาวไม่พอใจ จนพลอยทำให้ทะเลาะกันหนักกว่าเดิม
“ฉันพยายามอยู่ค่ะ พี่ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฉันไม่ทำอะไรหรอก” เขาคงกลัวว่าเธอจะเข้าไปแทรกกลางความสัมพันธ์ของเขากับแฟนสาว ปานเดือนปณิธานกับตัวเองว่าจะไม่มีทางทำอย่างนั้น
“แล้วรูปพวกนี้ล่ะ ถ้าเธออยากตัดใจจากพี่ ก็ไม่น่าถ่ายมันไว้” ความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอก ชายหนุ่มเองก็เข้าใจ แต่ความรักที่มาในรูปแบบนี้ มันไม่เหมาะสมและไม่ควรเกิดขึ้น
“ฉันกำลังฝึกถ่ายกล้องฟิล์ม บังเอิญเจอพี่ก็เลยถ่ายเก็บไว้ พี่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันเอาไปทิ้ง”
“ไม่ต้องเดี๋ยว เอาไปทิ้งตอนเลย” เขาออกคำสั่ง ทำเอาคนแอบรักจุกในอก แต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย
“โอเคค่ะ” น้ำตาร่วงเผาะลง ทำนบน้ำตาที่พยายามฝืนไว้พังลงในพริบตาเดียว ปานเดือนหันหลังไปรวบรูปภาพทั้งหมดไปทิ้งตามที่เขาต้องการโดยไม่ลืมที่จะขย้ำจนไม่เหลือชิ้นดี ซึ่งพออีกฝ่ายเห็นก็รู้สึกพอใจ เปรมนัตย์หมุนตัวออกจากห้องของเธอไป ทิ้งให้เธอยืนมองอยู่อย่างนั้น
เธออยากถามเหลือเกิน ทำไมถึงเลือกดุจดาวแทนที่จะเป็นเธอ ทั้ง ๆ ที่เธอก็เฝ้าเขียนจดหมายไปหาเขาเช่นกัน...