บทที่ 1 ตัวแทนที่เขาไม่รัก
“เธอชื่ออะไร” น้ำเสียงยานคาง พร้อมกลิ่นองุ่นหมักทำให้ใบหน้าเล็กผงะไปทางด้านหลัง “บอกฉันสิว่าเธอชื่อดาว”
“พี่เมามากแล้ว ขึ้นห้องไปนอนนะคะ” เธอพยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุด แม้นจะเสียใจกับคำถามของเขาเมื่อครู่
ทำไมกันนะ ทำไม...ทำไมยังไม่ลืมเสียที
“พูดสิวะ!”
“อ๊ะ!” เขาออกแรงผลักเธอแรง ๆ จนคนตัวเล็กเซถลาไปทางด้านหลัง กระนั้นก็ไม่ได้ห่วงว่าตัวเองจะล้ม ห่วงคนเมาต่างหาก
“ระวังล้มค่ะ”
“ออกไป! อย่ามาจับฉัน!”
“จะล้มหัวฟาดพื้นเอานะคะ” ปานเดือนรีบเข้าไปพยุงแม้นว่าเขาจะผลักไส คนตัวโตโอนเอนจะล้มอยู่รอมร่อแต่ก็ยังดื้อดึงผลักเธออยู่เรื่อย
“ออกไป...เธอไม่ใช่ดาว”
“_”
“อึก ดาว...ดาว”
“พี่เปรม...” เปรมนัตย์น้ำตาไหลพราก พึมพำเรียกชื่อหญิงสาวที่เขารัก ทำให้คนที่มองอยู่นั้นแข้งขาอ่อนแรง เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ก่อนจะทำในสิ่งที่เขาชอบ ชอบให้เธอ...เป็นตัวแทนของน้องสาวฝาแฝด
“ดาวอยู่นี่ไงคะ” เธอยิ้มออกมาบาง ๆ ซึ่งชื่อนี้ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง เขามองผู้หญิงตรงหน้าผ่านม่านน้ำตา
“ดาว...ดาวเหรอ” ปานเดือนเงยหน้าขึ้นมองเพดานบ้าน เกรงว่าน้ำตาจะไหล แล้วการเป็นตัวแทนในครั้งนี้จะล้มเหลว
“ค่ะ” เธอตอบรับพร้อมกับขยับเข้าหา ก่อนที่เขาจะรั้งเธอเข้าไปกอดแรง ๆ
“พี่คิดถึงเธอเหลือเกิน” อ้อมกอดเขานั้นอบอุ่น จะดีไม่น้อยหากคนที่เขาคิดว่ากำลังกอดนี้เป็นผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วย เป็นผู้หญิงที่ชื่อปานเดือน...ไม่ใช่ดุจดาว
“ขึ้นห้องนะคะ”
“หึ...เธอยังไม่ตายสินะ”
“ฉันอยู่กับพี่ตลอดค่ะ”
“ใช่...พี่รู้สึกแบบนั้นตลอด เธออยู่ในใจของพี่ตลอด” น้ำเสียงของเขาอาลัยอาวรณ์ยิ่ง ปานเดือนกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะพยุงคนเป็นสามีให้เดินขึ้นบันไดบ้านไป
...โชคยังดีที่เขายังมีแรงพอพยุงตัวเองได้ ทำให้ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักให้เธอหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ กระนั้นคนตัวเล็กก็ต้องออกแรงมากอยู่ดี
ฟุบ!
พอถึงเตียงนอน หญิงสาวก็ปล่อยให้เขานอนบนที่นอนขนาดใหญ่นี้ ทว่าพอเธอจะลุกขึ้นยืนเขากลับคว้าข้อมือของเธอไว้
“ไปไหนเหรอ ขึ้นมานอนกับพี่สิ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ” เพราะทุกครั้งที่เขามีสติ สร่างเมาแล้ว เขาก็มักจะโวยวาย ด่าทอว่าเธอมานอนกับเขา
“ทำไมล่ะ พี่คิดถึงเธอ”
“เพราะฉันไม่ใช่...” ดาว เธอไม่ได้พูดจบประโยค มองสามีหนุ่มที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
“หือ...”
“พี่เปรมนอนเถอะนะคะ พรุ่งนี้ฉันจะทำอาหารร้อน ๆ ให้แก้แฮงค์”
“ไม่เอา เธอมานอนกับพี่ พี่คิดถึงเธอ” เพราะใบหน้าที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ฝาแฝดแท้ที่เหมือนกันทุกอย่างแม้กระทั่งเสียง ทำให้เปรมนัตย์มักบังคับให้เธอแทนตัวเองว่าดาวเสมอ
“เดี๋ยวฉัน...อ๊ะ! พี่เปรม” ร่างบางของเธอล้มลงทาบทับร่างของเขา ชายหนุ่มกระตุกแขนของเธออย่างแรงจนเสียหลักล้มลง มุมปากของเขากระตุกยิ้มเบา ๆ
“ดวงใจของพี่ เธอสบายดีหรือเปล่า” ปลายนิ้วมือเรียวนี้ค่อย ๆ เกลี่ยปอยผมของเธอ ชายหนุ่มนั้นเหมือนกับคนที่กำลังละเมออยู่
“_”
“หือ...”
“ฉัน...อึก” น้ำตาของเธอคลอเบ้า แต่งงานกันมาห้าปีแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นแบบนี้ตลอด ไม่รักไม่ว่าแต่อย่าบังคับเธอนักเลย ซึ่งตอนนี้เธอก็เหนื่อยมากเกินกว่าจะมาทะเลาะกับเขา แถมตอนนี้ยังเมาพูดไม่รู้เรื่องอีกด้วย
ทว่าพอเธอเงียบ
พรึ่บ!
เขาก็ฉวยโอกาสพลิกตัวเธอให้มาอยู่ใต้ร่างทันที
“พี่เปรม...ไม่นะคะ” เธอพอรู้ว่าเขาจะทำอะไร ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นซี่ฟันเรียงกันสวย
“ทำไมเหรอ เราฝันจะสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่งงาน มีลูก...ไม่ใช่เหรอ”
“แต่ฉันไม่ใช่...อือ~” พอเธอจะปฏิเสธ เขาก็ฉวยโอกาสจูบริมฝีปากของเธอเสียอย่างนั้น จูบของเขานั้นขมแอลกอฮอล์ หากแต่ว่าการจูบช่างละมุนละไม ยามที่เธอสวมรอยเป็นผู้หญิงที่เขารัก เขามักจะอ่อนโยนเสมอ หากวันใดเขามีสติ รับรู้ว่าเธอคือปานเดือนแล้วอยากรังแกเธอ วันนั้นมันเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น
...เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องด้วยความรวดเร็วโดยฝีมือของหนุ่มวัยกลัดมัน เปรมนัตย์วัยสามสิบเอ็ดปีนี้หุ่นแน่นหนัด กล้ามเนื้อของเขาเป็นมัด ๆ ไร้ที่ติสมกับชายชาตรีที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
“อือ~ พี่เปรม” น้ำตานอง แต่เขาก็ไม่ได้หยุด ชายหนุ่มนั้นคิดถึงหญิงที่รักเป็นอย่างมาก มากจนมักจินตนาการว่าผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างคนนี้คือเธอ
เขาค่อย ๆ กระทำอย่างนุ่มนวล ด้วยความที่คิดว่าเธอเป็นหญิงที่รัก ชายหนุ่มบีบเคล้นอกอวบใหญ่นี้เบา ๆ อ้าปากครอบงำอย่างหื่นกระหาย สลับสับเปลี่ยนจนเลอะเปรอะเปื้อนน้ำลาย
ด้านปานเดือนปล่อยใจไม่ขัดขืน หัวอกผู้หญิงแล้วไม่มีอะไรทรมานเท่ากับการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่เต็มใจหรอก มันทรามานราวกับเนื้อตัวถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้น ๆ ยิ่งเขาทำเพราะคิดว่าเธอเป็นคนอื่นก็ยิ่งเจ็บปวด
“อืม...เธอ คิดถึงพี่หรือเปล่า” เขาหยัดกายขึ้นคร่อมเธอจนมองไม่เห็นจากทางด้านบน ชายหนุ่มเอ่ยถามชิดใบหูเล็ก
ปานเดือนเพียงแค่มองเขาผ่านม่านน้ำตา
“ร้องไห้เหรอ คิดถึงพี่เหมือนกันใช่ไหม ดาว”
“ทำเถอะ จะได้จบสักที”
“หือ...อยากแล้วเหรอ” เขานั้นชักจะสติไม่เหลือแล้ว ร่างหนาแทรกกายเข้าหว่างขา ชักรูดความใหญ่โตเกินมาตรฐานนี้สองสามครั้ง ก่อนจะกดกระแทกเข้ามา
“อือ~” ร่างบางสะดุ้งเฮือก เธอขบริมฝีปากล่างไว้ ฝ่ามือข้างหนึ่งกำผ้าปูที่นอนแน่นจนยับยู่ยี่ ส่วนอีกข้างก็จิกปลายเล็บที่ต้นแขนของเขา เปรมนัตย์นั้นค่อย ๆ ขยับตามจังหวะเพราะรู้ว่าขนาดตัวของเธอเล็ก ตรงนั้นก็ไม่ได้ต่างกัน
“อ๊ะ อ๊า~” เสียงเล็ก ๆ ส่งเสียงครางไม่ขาดสาย ทั้งจุก เจ็บ และเสียวในคราวเดียวกัน เธอมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังกระทำตัวเธอ เขามีสีหน้าสุขอุรา ใบหน้าฟิน ๆ ปนเสียวซ่านนั้นพลอยทำให้เธอมีความสุขอยู่บ้าง อย่างน้อย...เธอก็ทำให้เขามีความสุขดี
“อึก...” เสียงครางมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาตามหางตาเมื่อนึกขึ้นได้ ปานเดือนไม่อาจทนที่จะไม่นึกถึง แม้นจะทนมาแล้วหลายปี หากเลือกได้เธอก็อยากให้เขาทำรุนแรงในฐานะผู้หญิงที่ชื่อปานเดือน เพราะทุกครั้งที่เขาอ่อนโยน เขาทำเพราะคิดว่าเธอคือ...ดุจดาว
เช้าวันต่อมา...
ความหนาวเหน็บของฝนยามเช้าตรู่ทำให้คนตัวเล็กเริ่มขยับควานหาความอบอุ่น เรียวแขนยาวสอดเอวหนา โอบกอดเขาจนคนที่ถูกกอดรู้สึกตัวตื่น
“อืม...” เปรมนัตย์ส่งเสียงครางเล็กน้อยเมื่อถูกรบกวน เปลือกตาหนาข่มลงแรง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดขึ้น ใบหน้าที่เห็นตรงหน้านั้นเรียกได้ว่าอยู่ในระยะประชิด
“ปานเดือน...” เขาออกแรงผลักออกทันทีราวกับว่าเนื้อตัวเปรอะเปื้อนขยะเน่าเหม็น
พลั่ก!
“บ้าฉิบ!”
“อ๊ะ!...” คนที่ถูกปลุกให้ตื่นกะทันหันนั้นร้องเสียงหลง หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับวูบตกลงตึกสูงสามสิบชั้น เธองงงวยก่อนจะตั้งสติได้
“ขอโทษค่ะ” รีบก้มหน้า เมื่อเขาตวัดสายตามอง
“เธอ...” เปรมนัตย์ทำหน้าไม่พอใจ คิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน ชายหนุ่มจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด
“ออกไปซะสิ นั่งโง่อยู่ทำไม!” ตะคอกเสียงดังลั่นห้อง จนคนตัวเล็กสะดุ้งโหยง ลนลานทำตัวไม่ถูก หญิงสาวค่อย ๆ ลงจากเตียง พอเห็นร่างบางเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยร่องรอยของตัวเองใบหน้าหล่อเหลาก็เบือนหนี ราวกับไม่อยากรับรู้ว่าตัวเองได้ทำเรื่องน่าอัปยศไป
“เดี๋ยว!..” ทว่าพอเธอจะหอบเสื้อผ้าออกไปจากห้องนอน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโมโหก็เอ่ยเรียก
“คะ?”
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำให้ฉันเข้าใจผิดว่าเป็นดาว” เธอก้มหน้าลง หากบอกว่าเป็นเขานั่นแหละที่คิดไปเอง แต่ถ้าพูดเขาก็ไม่เชื่อเพราะมันเลือนในความทรงจำของเขา
“ขอโทษค่ะ...” เป็นเธอเสมอที่เอ่ยคำนี้ หญิงสาวค่อย ๆ เดินออกจากห้องนอนของสามีหนุ่ม โดยไม่ลืมที่จะปิดประตู...