บทที่ 16 คนใจร้าย

1486 คำ
บทที่ 16 คนใจร้าย “ช่วยด้วย!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือเอ่ยกับคนตัวสูง เมื่อร่างบางตกลงไปในแม่น้ำเย็นเฉียบ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ริมฝั่งมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาเห็นหญิงสาวตะเกียกตะกายโผล่ขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำ แล้วจมลงอีกครั้ง ไอด้า … ผู้หญิงที่เคยได้แชมป์ว่ายน้ำระดับประเทศ หญิงสาวตรงหน้าคงกำลังเล่นละครอีกแล้ว เขาคิดในใจด้วยความเหนื่อยหน่าย “เลิกแสดงได้แล้วมั้ง?” เขาพึมพำกับตัวเอง ทว่าในแววตายังจ้องมองไปที่เธอไม่วางตา โจชัวเคยได้ยินจากครูฝึกว่ายน้ำว่า ถึงแม้คนที่สูญเสียความทรงจำ แต่ความสามารถของพวกเขาจะยังคงอยู่ หากว่ายน้ำเป็นแล้วคงไม่ลืมง่าย ๆ หญิงสาวในน้ำเริ่มกระเสือกกระสน แรงของเธอเริ่มหมด เหมือนร่างกายอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอพยายามตะเกียกตะกาย เธอก็สำลักน้ำหนักขึ้น สุดท้ายเธอหมดแรงจนจมหายไปใต้น้ำอย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้นเองชายหนุ่มเริ่มรู้สึกผิดปกติ ตัดสินใจจะกระโดดลงไปช่วย ทว่าทันใดนั้นกลับมีชายคนหนึ่งที่มาไม่รู้ตัว กระโดดลงน้ำอย่างรวดเร็ว ว่ายตรงไปยังร่างหญิงสาวที่จมดิ่งลงไปใต้น้ำ ตู้ม! โจชัวมองชายหน้าตาดี ซึ่งเขาคือ “หมอภู” เดินผ่านมาทางนี้พอดี เห็นเหตุการณ์เข้าจึงไม่รอช้า หมอภูดึงตัวหญิงสาวขึ้นมาที่ฝั่งอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง นายแพทย์หนุ่มดึงดารินขึ้นมาจากผืนน้ำ ก่อนวางเธอลงบนพื้นหญ้าข้างริมธาร ร่างเล็กนิ่งไม่ไหวติง เห็นดังนั้นภูวดลจึงย่อตัวลงและเขย่าร่างของเธอเบา ๆ พูดเรียกด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล “คุณครับ ตื่นครับ… ได้ยินไหม ตื่น!” เสียงทุ้มเรียกอยู่สามครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองจาก คนตัวเล็ก ด้วยสัญชาตญาณความเป็นหมอทำให้เขาไม่รอช้า โน้มตัวลงแล้วเริ่มทำ CPR โดยที่หัวใจเต้นรัวด้วยความหวังว่าเธอจะฟื้นขึ้นมา หลังจากกดหน้าอกเธอและเป่าปากตามขั้นตอน ไม่กี่อึดใจต่อมา ดารินก็สำลักน้ำออกมา หญิงสาวไอพร้อมกับหอบหายใจ ดวงตาเปิดขึ้นอย่างมึนงง มองหน้าชายที่กำลังช่วยเธออยู่ สายตาของดารินยังคงเบลอเล็กน้อย และเมื่อเห็นชัดว่าเป็นหมอภู เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย “ทำไม… ทำไมถึงเป็นคุณ” เรียวปากสีหวานแต่ตอนนี้ซีดเผือดพึมพำออกมา ค่อย ๆ ช้อนตาไปมองโจชัวที่ยืนอยู่ไม่ไกล สายตาของเขายังคงนิ่งเฉย ไม่มีท่าทีตกใจหรือรู้สึกผิดแม้แต่น้อย ใบหน้าหล่อเหลานั่นแสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้ใส่ใจว่าเธอเพิ่งจะรอดชีวิตมาด้วยความยากลำบาก สายตาเย็นชาของเขาทำให้ดารินใจหายวาบ เมื่อครู่นี้เหมือนเขาจงใจไม่ช่วยเธอ จะปล่อยให้เธอตาย ตอนนี้บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความอึดอัด เมื่อความเงียบเริ่มเข้าครอบงำ ในขณะเดียวกันโจฮันเดินผ่านมาทางนี้พอดี มองเห็นเหตุการณ์จากระยะไกล เขาจึงก้าวเข้ามาและถามด้วยสีหน้าสงสัย “เกิดอะไรขึ้นที่นี่ครับ?” โจชัวเพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่แยแส ไม่ตอบอะไร ขณะที่หมอภูก้มไปมองดาริน ยังคงตัวสั่นเล็กน้อยจากอาการตกใจและหนาวเย็น จากนั้นนายแพทย์หนุ่มหันมาตอบโจฮันอย่างสุภาพ “เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ แต่ทุกคนปลอดภัยดี” หมอภูเลือกตอบอย่างรักษาน้ำใจ โดยไม่ได้กล่าวโทษโจชัวที่ไม่ยอมช่วยดาริน เขาพยายามคิดในแง่บวกว่า บางทีคนตรงหน้าอาจจะว่ายน้ำไม่เป็น จึงไม่ได้ลงไปช่วย เขาจึงสรุปให้โจฮันฟังเพียงสั้น ๆ พร้อมกับแสดงสีหน้าที่ยังใจเย็น โจฮันเหลือบมองดารินที่ยังเปียกโชก เนื้อตัวสั่น ร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปใกล้ ๆ มือของเขายื่นออกไปโดยอัตโนมัติเพื่อจะช่วยประคองเธอ “ให้ผมช่วยพาเธอกลับไปไหม?” เขาถามด้วยความจริงใจ แต่หมอภูส่ายหน้าพลางตอบเสียงนุ่ม “ไม่เป็นไรครับ ผมดูแลเธอเอง ผมเป็นหมอ ขอพาดารินกลับคฤหาสน์ก่อนดีกว่า เธอต้องการพัก” โจฮันพยักหน้าเข้าใจ ส่วนโจชัวก็เพียงแค่ยืนนิ่ง ไม่แสดงท่าทีสนใจใด ๆ ในขณะที่หมอภูอุ้มดารินขึ้นอย่างเบามือ เขาหันมาส่งยิ้มเล็กน้อยให้กับโจฮัน ก่อนจะกล่าวทิ้งท้าย “ส่วนเรื่องสัตว์ป่าที่ล่ามาได้ ครบหมดแล้วนะครับ เหลือแค่ตัดสินว่าใครชนะเท่านั้นเอง” เมื่อพูดจบ หมอภูก็เดินอุ้มดารินตรงกลับไปยังคฤหาสน์ ท่ามกลางสายตาของโจฮันที่มองตามไปด้วยความเป็นห่วง เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความเอาใจใส่จากหมอภูที่มีต่อดาริน ต่างจากท่าทีเย็นชาของโจชัวผู้เป็นพี่ชายยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ตอนนี้ผ่านมาหลายนาทีแล้ว ดารินยังคงอยู่ในอ้อมแขนของหมอภู หัวใจดวงน้อยรู้สึกถึงความอบอุ่นและมั่นคงที่เขามอบให้ เจ้าของใบหน้าสวยก้มหน้าต่ำลง ไม่กล้าสบสายตาคนตรงหน้า เธอทั้งรู้สึกเกรงใจและกลัวว่าเขาจะเหนื่อยเพราะแบกร่างของเธอไกลขนาดนี้ “คุณหมอ… ฉันเดินเองดีกว่า” ดารินเอ่ยขึ้นเบา ๆ รู้สึกว่าการที่เขาแบกเธอแบบนี้คงทำให้เขาเหนื่อยเปล่า ๆ อีกทั้งสถานะของคนตรงหน้าไม่จำเป็นต้องมาแบกคนใช้เลย ทว่านายแพทย์หนุ่มตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเจือรอยยิ้มที่มุมปาก “ถ้าคุณเดินเอง คงถึงป่าตรงนี้อีกกี่ชั่วโมงกันล่ะครับ? ไม่กลัวจะหนาวจนเป็นปอดบวมเหรอ แถมคุณจมน้ำไปตั้งนาน น้ำคงลงไปในท้องมากไม่น้อย ผมไม่ปล่อยคุณลงให้เสี่ยงหรอก” ชายหนุ่มยังคงก้าวไปเรื่อย ๆ ไม่สนใจคำแนะนำของเธอ ส่วน คนตัวเล็กเองก็หมดแรงเหลือเกิน ทั้งจากการเดินป่าอันหนักหน่วงและช่วงเวลาที่จมน้ำ เธอเริ่มรู้สึกหนังตาหนักขึ้นทีละนิด ร่างกายที่อ่อนล้าพากันกดดันให้เธอเผลอหลับไปในอ้อมแขนของเขาโดยไม่รู้ตัว ในระหว่างที่ร่างเล็กหลับอยู่ในอ้อมแขน นัยน์ตาสีนิลเหลือบมองใบหน้าของดารินกำลังหลับพริ้มอย่างสงบอยู่ในอ้อมแขน ดวงหน้าสวยสะอาดหมดจด หลังจากน้ำได้ชำระเขม่าสีดำและคราบสกปรกที่ติดใบหน้าเธอออกจนหมด เขาพบว่าใบหน้าของเธอดูคุ้นอย่างประหลาด คล้ายกับว่าเขาเคยพบเจอเธอที่ไหนมาก่อน แต่ความทรงจำกลับพร่ามัวเหมือนกับภาพที่ยังคงอยู่ในเงามืด และคิดว่าคงจะคิดมากไปเอง สายตาอันคมกริบจ้องมองดารินอยู่อย่างนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหวเล็กน้อย ความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ได้ว่ามาจากไหนกำลังเติบโตขึ้นในใจเขา หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่เพียงคนที่เขาช่วยเหลือด้วยหน้าที่ของหมอ แต่กลับเป็นใครสักคนที่เขารู้สึกว่าผูกพันอย่างบอกไม่ถูก เวลา 18.00 น. คนตัวเล็กลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย นัยน์ตาสีน้ำผึ้งค่อย ๆ สอดส่ายสายตาสำรวจรอบ ๆ ห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีเฟอร์นิเจอร์ไม้อันอบอุ่น แต่ไม่ใช่ห้องเก็บไม้เก่า ๆ ที่เธอคุ้นเคย ความมึนงงแผ่ซ่านในใจเธอทันทีที่ตื่นขึ้นมา ดารินขมวดคิ้ว ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นที่ข้างเตียง “ตื่นแล้วเหรอครับ?” หมอภูถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน รอยยิ้มอ่อนบนใบหน้าของเขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ดารินพยักหน้าเบา ๆ แทนคำตอบ นายแพทย์หนุ่มจึงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ผมไม่รู้ว่าห้องของคุณอยู่ที่ไหน ผมเลยพาคุณมาที่ห้องของผมก่อน แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ที่นี่ปลอดภัย” เขาพูดพลางยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน สายตาเรียวมองคนตรงหน้าอย่างซาบซึ้งใจ พร้อมกับคลี่ยิ้มออกมา แววตาเธอเต็มไปด้วยความขอบคุณ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าหมอภูเป็นคนเดียวในที่นี่ที่ห่วงใยเธออย่างแท้จริง ในท่ามกลางความโดดเดี่ยวของการใช้ชีวิตอยู่คฤหาสน์แห่งนี้ แต่แล้วความคิดของดารินก็วกกลับไปถึงโจชัว ผู้ชายใจร้ายคนนั้นพยายามทำให้เธอต้องเผชิญความตายหลายต่อหลายครั้ง ความรู้สึกเจ็บปวดแทรกขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคิดถึงการกระทำเย็นชาของเขา ดารินตระหนักว่า โจชัวคือคนใจร้ายที่สุดที่เธอเคยพบเจอในชีวิตนี้เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม