บทที่ 10 บทลงโทษ

2007 คำ
บทที่ 10 บทลงโทษ ภายในห้องของโจลีน “นี่พวกเธอ ทำอะไรกันเนี่ย” เสียงของป้าสาหัวหน้าแม่บ้านเอ็ดถาม เมื่อกรอบรูปของคุณหนู โจลีนตกลงมาแตก “มลไม่ได้ทำอะไรนะคะ มลแค่สงสัยว่ากำไลที่เธอใส่มันเหมือนของคุณโจลีน เลยสงสัยว่าเธอจะขโมยมันไปค่ะ แล้วอยู่ ๆลินดาก็ไม่พอใจเข้ามาผลักมล มลเลยป้องกันตัว ทำให้มือของลินดา ปัดกรอบรูปตกแตกค่ะ” พรพิมลแก้ตัว รีบโยนความผิดทันที “จริงไหมลินดา” ป้าสาหันมาถาม เพราะไม่อยากฟังความข้างเดียว “จริง แล้วก็มีไม่จริงอยู่ค่ะ จริงที่เธอถามเรื่องกำไล แต่เรื่องที่ผลักลินดาไม่ได้...” “ป้าอย่าโทษเธอเลยค่ะ เดี๋ยวมลรับผิดชอบเอง อย่าว่าเธอเลยค่ะ ลินดาเป็นหลานของป้า ป้าคงเข้าข้างเธออยู่แล้วใช่ไหมคะ” พรพิมลรีบพูดแทรก พลางบีบน้ำตา ส่งสายตาขอความเห็นใจจากคนอื่น ๆ เพราะเธอเองก็ทำงานที่นี่มานาน ยังไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ถึงอย่างไรทุกคนคงเห็นใจเธอ “ฉันไม่โทษพวกเธอหรอก แล้วแต่คุณโจชัวจะตัดสินใจเอง ฉันบอกพวกเธอแล้วใช่ไหมว่าห้องนี้สำคัญกับคุณโจชัวมาก ห้ามชำรุดเสียหาย ฉันย้ำอยู่แท้ ๆ” ป้าสาบ่นอุบอิบ ในใจของป้าไม่ได้รู้จักลินดาดีพอ ว่านิสัยเธอเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงเชื่อคำพูดของพรพิมลมากกว่า เนื่องจากทำงานมานาน วางตัวดีและไม่เคยโกหก “ขอโทษค่ะป้า มลดูแลลินดาไม่ดีเอง” “พอ ๆ ไม่ต้องโยนกันไปกันมา” หัวหน้าแม่บ้านพูดด้วยความเอือมระอา พลางหันไปพูดกับลูกน้องอีกคนให้ไปแจ้งเรื่องกับโจชัว อีกด้าน ท่ามกลางความเงียบของห้อง โจชัวนั่งเคลียร์งานเอกสารของบริษัทเพมเบอร์ตันกรุ๊ป เขาจะให้โจฮันที่พึ่งเรียนจบมาจากเมืองนอกรับช่วงต่อ ชายหนุ่มจะวางมือจากธุรกิจของบริษัท จากนั้นหันมาทำสวนดอกไม้ ซึ่งเป็นความฝันของน้องสาวของเขาแทน ~ครืด ครืด~ โทรศัพท์มือถือราคาแพงสั่นไหวเบา ๆ ตามจังหวะของเสียง อยู่ ข้าง ๆ กองเอกสารหลายปึก เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะใช้ มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ซึ่งหน้าจอโชว์หราว่าเป็นชื่อเลขาคนสนิทที่มีชื่อว่าหมิง “อืม ว่า” [ครับ คุณโจชัว ทางด้านตระกูลไพศาลไม่มีการประกาศตามหาคุณไอด้าครับ น่าจะปิดข่าวไว้ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ทุกอย่างเรียบร้อยดี มีผลดีกับเราครับ] “ถ้าอย่างนั้นก็เก็บของมาอยู่ที่นี่ได้เลย แล้วโจฮันล่ะเป็นยังไง นายคิดว่าสามารถรับช่วงต่อจากฉันไหวไหม” [คุณโจฮันเรียนรู้ได้เร็วมากครับ ผมคิดว่ารับช่วงต่อจากคุณโจชัวไหวแน่นอน สมกับที่เรียนจบมาจากต่างประเทศจริง ๆ ครับ ไม่เหมือนกับเป็นเด็กจบใหม่ แต่คุณโจชัวจะปล่อยให้คุณโจฮันบริหารคนเดียวจริง ๆ เหรอครับ] หมิงถามย้ำ เพราะตำแหน่งเก้าอี้หุ้นส่วนเจ้าของบริษัท มีหลายคนจ้องจะแย่งชิงกันอยู่ หากโจชัวไม่อยู่ หมิงกลัวว่าจะมีคนใช้โอกาสนี้ฮุบบริษัท เพราะโจฮันยังอ่อนประสบการณ์นัก “อืม มันต้องเติบโตด้วยวิธีการนี้แหละ” โจชัวตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่เขาได้คิดทุกอย่างรอบคอบดีแล้ว ในตอนนั้นที่เขารับช่วงต่อบริษัทนี้มา เขายังไม่โตเลยด้วยซ้ำ [อีกไม่กี่วันจะถึงงานล่าสัตว์ประจำปีของตระกูลแล้ว นะครับ ปีนี้คุณโจชัวจะเอาแบบไหนดีครับ] “....” โจชัวนิ่งเงียบ เพราะทุกปีจะมีน้องสาวของเขาเข้าร่วมด้วย มันทำให้ชายหนุ่มหวนคิดถึงโจลีนอีกครั้ง [คุณโจชัวครับ] หมิงเรียกคนปลายสาย เพื่อดึงสติให้กลับมา เจ้านายของเขาใจแข็งและหนักแน่นกับทุกเรื่อง เว้นแต่เรื่องที่เกี่ยวกับโจลีนน้องสาวของเขา “เรื่องนี้นายจัดการเลย เรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวฉันจัดการเอง” “ครับผม พรุ่งนี้เจอกันครับ” หลังจากที่หมิงวางสาย ห้องทำงานกลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง เรื่องที่คุยกับเลขาก่อนหน้านี้ มันทำให้เขาหวนคิดถึงโจลีน “ฟู่ว” คุณชายตระกูลดังถอนหายใจ พลางยกมือหนามาคลึง นวดขมับเบา ๆ ก่อนจะมีใครบางคนมาเคาะที่หน้าห้องประมาณ 2 ครั้ง ~ก๊อก ก็อก~ โจชัวกลับมาอยู่ในท่านั่งเดิมตามปกติ ใบหน้าของเขานิ่งขรึมและดูเย็นชา จากนั้นพูดว่า “เข้ามา” แอดด.. ชัชชัยเปิดประตูเข้ามาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเขาเองไม่มั่นใจว่าตอนนี้เจ้านายของเขา อารมณ์ดีหรืออารมณ์เสียอยู่กันแน่ แต่ดูจากสีหน้าและรอยย่นระหว่างคิ้วที่ยังหลงเหลืออยู่นั้น คงจะอารมณ์ไม่ดีอย่างแน่นอน “คะ คุณโจชัวครับ ที่คฤหาสน์มีเรื่องครับ” ใบหน้าที่เรียบนิ่งของคุณชายตระกูลดัง ทำเอาชัชชัยพูดตะกุกตะกัก “เรื่องอะไร จัดการกันเองไม่ได้เหรอไง เรื่องเล็กน้อยไม่ต้องให้ฉันไปจัดการ” “คือว่า.....” “....” ผู้เป็นเจ้านายเงียบเพื่อรอฟังคำตอบ แต่กลับกลายเป็นสร้างความกดดันให้ชัชชัย “คือว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณโจลีนด้วยครับ” “พูดมาให้ละเอียด” เสียงเข้มกึ่งออกคำสั่งของชายตรงหน้า ทำให้คนขับรถของตระกูลขาสั่นด้วยความกลัว หากเรื่องเกี่ยวกับคุณโจลีนทีไร ชายหนุ่มมักจะเลือดขึ้นหน้าทุกครั้ง “ครับ มีแม่บ้านสองคนทะเลาะกัน เรื่องกำไลข้อมือครับ อีกคนยืนยันว่าคุณโจลีนเคยใส่ คิดว่าแม่บ้านอีกคนขโมยมา แต่เจ้าตัวที่ถูกกล่าวหาปฏิเสธครับ จึงเกิดเรื่องทะเลาะกัน ทำให้รูปของคุณโจลีนตกลงมาแตก” สิ้นคำพูดของชัชชัย โจชัวโกรธจนเส้นเลือดที่หน้าผากปูดนูนขึ้นมา ของทุกชิ้นที่เป็นของน้องสาว ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง “พอตกลงมาแตกก็เอาแต่โทษกันโยนกันไปโยนกันมา ไม่รู้ว่าใครพูดความจริง ผมเลยมาแจ้งคุณโจชัวให้ไปดูหน่อยครับ กำไลที่ว่านั้นใช่ของโจลีนหรือเปล่า” “อืม เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน” “ห้องของคุณโจลีนครับ” “เดี๋ยวฉันไป” “ครับ” 2 นาทีผ่านไป คนตัวสูงเดินมาถึงหน้าห้องของน้องสาว หยุดอยู่ครู่หนึ่ง เพราะภาพของน้องสาวของเขายังติดตาอยู่ตลอดเวลา จากนั้นใช้มือหนาเปิดประตูเข้าไปด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งและเย็นชา ด้านในห้องต่างมีเหล่าคนใช้ทุกคนยืนก้มหน้า เรียงกันอยู่เป็นแถวหน้ากระดาน เจ้าของคฤหาสน์ขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เพราะฟังจากที่เล่ามาคู่กรณีมีเพียงสองคน แต่ทำไมทุกคนถึงมาอยู่ที่นี่ เขาได้แต่คิดอย่างสงสัย จนสายตาอันคมกริบเหลือบไปเห็นรูปของน้องสาวของเขาแตกกระจายอยู่ที่พื้นซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่พอใจ เพราะเขาจ้างแม่บ้านทุกคนให้ค่าตอบแทนที่สูง แต่ต้องระมัดระวังทุกอย่าง ทุกฝีก้าว ทว่าผลงานในวันนี้มันคืออะไร “ใครเป็นคนทำ!!” เสียงเข้มกึ่งตะคอกของโจชัวทำให้ดารินสะดุ้งโหยง “มลเองค่ะ คุณโจชัว แต่อย่าไปโทษลินดาเลยนะคะ เธอคงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ กำไลที่ข้อมือนั่น มันเหมือนกับของคุณโจลีน มลแค่ถามกลับโดนผลัก จึงทำให้เป็นแบบนี้ค่ะ” พรพิมลออกตัว พร้อมกับบีบน้ำตาเรียกความสงสารจากทุกคน และความเอ็นดูจากชายตรงหน้า “โกหก!” ดารินพูดเสียงเข้ม ตวัดสายตามองค้อนไปยังพรพิมล ขนาดผู้เป็นนายอยู่ตรงหน้า เธอยังเลือกที่จะไม่พูดความจริง คนประเภทนี้คบ.ไม่ได้ “ลินดาใครสั่งให้เธอพูด!!” โจชัวตะคอกกลับ ทำให้คนตัวเล็กหน้าซีดเผือด แม้จะขุ่นเคืองใจ แต่เธอเป็นผู้น้อย ต้องจำใจยอม ครั้นจะเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว “.....” เจ้าของใบหน้าสวยเงียบก้มหน้านิ่ง แต่สายตาอันคมกริบของโจชัวกลับมองไปที่กำไลข้อมือของคนตัวเล็ก ก่อนจะเดินไปคว้าข้อมือเล็กแล้วบีบเอาไว้แน่น เพราะกำไลนั้นเป็นของน้องสาวของเขาจริง ๆ “พูดมาว่าเอากำไลนี้มาจากไหน!!” คนตัวสูงเค้นถามเสียงเข้ม มือหนาออกแรงบีบแน่นขึ้น จนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ “ฉันความจำเสื่อมค่ะ ตื่นขึ้นมากำไลอันนี้ก็อยู่ที่ข้อมือของฉันมาตลอด” “นี่มันของโจลีน!!” โจชัวย้ำ ก่อนจะกระชากกำไลข้อมือแล้ว ปล่อยข้อมือของดาริน “ฉันไม่ได้ขโมยนะคะ แล้วก็เอาคืนมาด้วย คุณไม่มีสิทธิ์” ดารินแย้ง มือบางพยายามคว้ากำไลอันนั้น ทว่าคนตัวสูงโยกตัวหลบ และดารินรู้สึกว่ากำไลอันนี้มีค่ากับเธอมาก ลึก ๆ ในใจเธอกลับหวงแหนมัน แม้จะความจำเสื่อม แต่การที่รู้สึกแบบนี้ แสดงว่ากำไลข้อมือนี้มีคุณค่าทางใจของเธอ “เธอกล้าเหรอ” โจชัวกดเสียงต่ำ พร้อมกับผลักร่างเล็กล้มไปกองกับพื้น ยิ่งเห็นใบหน้าของเธอ เขายิ่งเกลียดเธอ เพราะผู้หญิงตรงหน้าคือสาเหตุที่ทำให้น้องสาวเขาตาย อีกทั้งจงใจปกปิดความผิด หาแพะรับบาปให้กับตัวเอง คนแบบนี้ไม่น่ามีชีวิตอยู่เลยด้วยซ้ำ “....” คนตัวเล็กเงียบ ดวงตาคู่สวยก้มต่ำลงโดยอัตโนมัติ ถึงเธอจะสู้ยังไงมันก็ไม่ชนะ เผลอ ๆ อาจจะพลอยให้ป้าสาโดนหางเลขไปด้วย แต่ถึงอย่างไรเธอก็จะหาทางเอากำไลอันนี้กลับคืนมาอย่างแน่นอน “ฉันไม่นึกเลยว่าที่คฤหาสน์จะมีคนกล้าขโมยของด้วย” พรพิมลพูดเสริม สุดท้ายแล้วความผิดก็ต้องตกไปอยู่ที่ลินดาอยู่ดี เท่ากับว่าวันนี้ พรพิมลรอดแล้ว อีกทั้งตอนนี้ลินดากลับโดนสายตาทุกคู่จับจ้อง มีทั้งสายตาที่ด่าทอ และดูถูกถากถาง “นั่นสิ ๆ กล้าได้ยังไง” เสียงของแม้บ้านกระซิบกระซาบกัน เพราะตั้งแต่ก้าวขาเข้ามายังคฤหาสน์เพมเบอร์ตัน ยังไม่เคยมีใครกล้าขโมยของเลย “กฎของคฤหาสน์บอกเอาไว้ว่าต้องไล่ออกนะคะ หากขโมยของ” พรพิมลพูดอีกครั้ง ครั้งนี้เธอได้ทำความดีความชอบจับขโมย คุณชายคนโตของตระกูลเพมเบอร์ตันควรจะหันมาสนใจเธอบ้าง “ไม่ต้องออกความเห็น ฉันไม่ต้องการ” เสียงเข้มของโจฮันหันไปพูดกับพรพิมล ทำให้หล่อนถึงกับหน้าชา “ฉันจะให้เธอทำงานอยู่ที่นี่ต่อ แต่ต้องลงไปทำงานสวน ห้ามขึ้นมาที่คฤหาสน์อีก และถ้าอยากได้กำไลล่ะก็เชื่อฟังฉันให้ดี ชีวิตของเธอจะได้ยืนยาวต่ออีกหน่อย” โจชัวพูดเสียงเรียบกับดาริน ก่อนจะประกาศลั่นต่อหน้าทุกคนว่า “ต่อไปนี้ทุกคนห้ามช่วยเหลือเธอ หากยังต้องงานทำงานอยู่ที่นี่ต่อ ก็เงียบเอาไว้ ที่คฤหาสน์มีกฎใหม่ขอให้ทุกคนทราบและปฏิบัติตาม หากใครทำไม่ได้ก็ยื่นใบลาออก เข้าใจไหม และเธอ ลินดาวันนี้ห้ามทานข้าวกลางวัน นี่คือบทลงโทษสำหรับโจรอย่างเธอ” ดารินได้แต่กำหมัดเข้าหากันแน่น การที่เธอถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรมันเหมือนการปรักปรำเธอชัด ๆ ไหนใคร ๆ ก็บอกว่าโจชัวเจ้าของบ้านมีเหตุผล ดูจากการตัดสินวันนี้แล้ว ไม่เห็นถึงความยุติธรรมอยู่เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม