ณดลซบฟางข้าวอยู่พักใหญ่ จึงขยับตัวลุกขึ้น ถึงได้เห็นว่าคนใต้ร่างได้หลับไปแล้ว เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เธอ ก่อนจะแต่งตัวและออกจากบ้านไปทั้งที่ฝนยังตกอยู่
ณดลเข้ามาที่โรงแรมของครอบครัว ที่นี่มีผับที่เขาใช้เงินทุนของตัวเองเปิด มันสร้างรายได้ให้เขามากเลยทีเดียว ผับที่นี่ค่อนข้างหรูระดับหนึ่ง มีทั้งโซน VIP และโซนธรรมดา โต๊ะแต่ละตัวก็จะค่อนข้างห่างกัน ไม่ชิดกันมาก เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
ร่างสูงแวะมาตรวจดูบัญชีที่ผับ หลังจากที่ไม่ได้มาดูร่วมเดือน เนื่องจากเขาต้องเดินทางไปต่างประเทศติดๆกันเพื่อทำงานแทนบิดา หลังจากเคลียร์บัญชีเรียบร้อย เขาเดินดูความเรียบร้อยของผับเงียบๆ
ครืด ครืด
“ว่าไงลัล”
“ดล ว่างไหม มาช่วยเราหน่อยสิ เราอยู่ที่โรงแรมน่ะ มาที่ห้อง…นะ”
“โอเค วันนี้เราอยู่ที่ผับพอดี”
ณดลขึ้นไปที่ห้องตามที่ลลัลนาบอก พบนัทธีนอนเปลือยกายไม่ได้สติอยู่ เขาจึงใส่เสื้อผ้าให้นัทธี ก่อนจะช่วยลลัลนาพยุงนัทธีไปที่ห้องของเขา บนชั้นบนสุดของโรงแรม
“เกิดอะไรขึ้นน่ะลัล” ณดลถามลลัลนาหลังจากวางนัทธีลงที่เตียง
“ดล ช่วยเราหน่อย ที่ผับมีกล้องวงจรปิดมั้ย เรากำลังสงสัยอะไรบางอย่าง”
“มีๆ เดี๋ยวเราจัดการให้” ณดลพูดจบก็พาลลัลนา ไปที่ห้องควบคุมเพื่อดูกล้องวงจรปิด
“เปิดกล้องทุกตัว ย้อนดูก่อนหน้านี้” เขาสั่งพนักงานที่ห้องควบคุมน้ำเสียงเด็ดขาด
“จะไม่เป็นอะไรเหรอดล มาขอดูกล้องแบบนี้น่ะ”
“ไม่เป็นอะไรหรอก” ณดลตอบเธอไป
หลังจากไล่ดูกล้องกันสักพัก ก็เจอกล้องมุมหนึ่ง ที่เห็นว่าแพรวา กำลังแอบใส่อะไรบางอย่างลงในแก้วของนัทธี หลังจากนัทธีลุกออกไป จากนั้นประมาณ 10 นาที จะเห็นว่านัทธีกลับมา แล้วจิบเครื่องดื่มจากแก้วเพียงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะล้มลง และมีพนักงานผับมาช่วยพยุงนัทธีออกไป
ลลัลนากับณดลมองหน้ากัน ณดลสั่งก๊อบปี้ไฟล์คลิปวิดีโอให้เขา แล้วพากันเดินออกจากห้องควบคุมแล้วกลับไปที่ห้องของณดล
“แล้วลัลจะเอายังไงต่อ” ณดลถามขึ้นหลังจากที่เขากับลลัลนานั่งเงียบกันมาสักพัก
“ยังไม่รู้เลย รอถามพี่นัทก่อน ว่าพี่นัทจะว่ายังไง” ลลัลนาตอบ พลางมองไปที่นัทธี ที่ยังไม่ได้สติ
“งั้นลัลอยู่เฝ้าอาจารย์ไปนะ เราลงไปดูผับก่อน”
“จ้ะ ขอบใจนะ ดล” ณดลไม่ตอบอะไร เขายิ้มให้เธอบางๆ ก่อนจะออกจากห้องไป
ชายหนุ่มลงมาที่ผับสีหน้าเคร่งเครียด เขาสั่งเลขาให้ไปตามพนักงานคนที่แพรวา จ้างให้ช่วยมาพบเขา ก่อนจะสั่งให้สารภาพ พร้อมกับถ่ายคลิปเอาไว้ และเดินกลับห้องไป ตั้งใจเอาคลิปที่ถ่ายมาให้ลลัลนา
“อ้าว อาจารย์ รู้สึกตัวแล้วเหรอครับ” ณดลเปิดประตูเข้ามาก็เห็นนัทธีรู้สึกตัวแล้ว
“ณดล” นัทธีมองเขาอย่างแปลกใจ
“ครับ พอดีลัลโทรตามผมให้มาช่วยพาอาจารย์ออกมา ผมอยู่ที่ผับพอดี เลยขึ้นมาช่วยทันครับ”
“ช่วยพาออกมา… หมายความว่าไง”
“คุณแพรโทรหาลัล บอกให้มารับพี่นัทค่ะ พอลัลมาถึง พี่ก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ส่วนคุณแพรสวมแค่ชุดคลุมอาบน้ำ แต่มันแปลกเกินไป เพราะพี่ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ แล้วลัลคนเดียวก็พาพี่ออกมาไม่ไหว เลยตามดลมาช่วยค่ะ” ณดลยืนฟังลลัลนาเล่าเหตุการณ์เงียบๆ ก่อนจะเห็นนัทธีขอโทรศัพท์จากลลัลนาโทรออก หาใครบางคน
‘ค่ะนัท ว่ายังไงคะ’
“คุณทำอะไร แพรวา”
‘ทำอะไรคะ นัทหมายถึงอะไรคะ’
“ต้องให้ผมเอาคลิปจากกล้องวงจรปิดให้คุณดูมั้ย”
‘…แพรแค่ช่วยดูแลคุณเองนะคะ คุณเมาจนไม่ได้สติ แพรแค่พาคุณมาห้องพัก แล้วให้น้องลัลมารับคุณ แค่นั้นเอง’
“แต่ภาพที่ผมเห็น มันไม่ใช่แบบนั้นนะ แล้วอีกอย่างนะแพรวา คุณคงไม่รู้ว่า ในเวลาที่ผมทำงาน ผมไม่ดื่ม ไวน์แก้วนั้น ผมยังไม่ได้ดื่ม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า เป็นไปไม่ได้ ว่าผมจะเมาเพราะไวน์แก้วเดียว” นัทธีหยุดพูดไปสักพัก
“เดี๋ยวผมจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ว่าร่างกายผมมียาหรืออะไรที่ผมเพิ่งดื่มเข้าไป คุณคงรู้นะ ว่าผลจะเป็นยังไง” คำพูดของนัทธี ทำให้แพรวาเงียบไป
“เลิกมายุ่งกับผม กับครอบครัวผม ถ้าไม่อยากให้ผมเอาคลิปไปให้ตำรวจ” นัทธีพูดจบก็วางสาย
“แล้วที่นี่ที่ไหนเนี่ย”
“ห้องผมครับ ผมใช้พักเวลามาที่นี่” นัทธีพยักหน้าเข้าใจ
“อ้อ ณดล คุณเรียกผมเหมือนที่ลัลเรียกก็ได้ คุณเป็นเพื่อนลัล ก็เป็นเหมือนน้องของผมอีกคนเหมือนกัน” ณดลพยักหน้าเข้าใจ
“งั้นเดี๋ยวเรากลับเลยแล้วกันนะ ดล รบกวนมากแล้ว ขอบใจนะที่ช่วย”
“ไม่เป็นไร มีอะไรฉุกเฉินโทรหาเราได้ เดี๋ยวเราไปทำงานก่อน วันนี้ที่ผับคนเยอะ” ณดลพูดจบก็ออกจากห้องไป
ณดลเคลียร์งานอยู่สักพักก็กลับออกจากผับไป เขาตรงกลับบ้านเลยทันที เมื่อมาถึงบ้าน ชายหนุ่มขึ้นไปบนห้องเงียบๆ กวาดสายตามองเห็นฟางข้าวนอนหลับสนิทขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม เขายิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวแล้วขึ้นไปนอนเคียงข้างร่างบาง ช้อนศีรษะทุยให้มาหนุนแขนตัวเอง ก่อนจะนอนกอดเอวคอดหลวมๆ แล้วหลับไปด้วยกัน
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาร่วมเดือน เช้านี้ณดลตื่นมาด้วยความผ่อนคลาย เขาลืมตาขึ้นมาในช่วงเวลาเช้ามืดดังเช่นทุกวัน เหมือนเป็นเวลาปกติของร่างกาย ที่จะตื่นเวลาประมาณนี้โดยอัตโนมัติ
ชายหนุ่มมองใบหน้าหวานของหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้ม หนุนแขนเขาอยู่อย่างไม่รู้ตัว ในเวลานี้ เขาแน่ใจความรู้สึกของตัวเองแล้ว ว่าเขาชอบผู้หญิงตรงหน้าตัวเองจริงๆ อาจจะมากกว่าชอบด้วยซ้ำ เพราะเขาหึงแทบบ้า ในตอนที่เห็นว่าเธออยู่กับผู้ชายคนอื่น เพียงแต่…เขาจะบอกเธอยังไง จะเริ่มต้นแบบไหน
ชายหนุ่มจมอยู่กับความคิดของตัวเองไม่นาน ร่างเล็กบอบบางที่อยู่ในอ้อมกอดก็เริ่มขยับตัว เธอพลิกตัวหันหลังให้เขา ทำท่าจะนอนต่อ พลันจิตใต้สำนึกก็ทำงานแทบจะทันที หญิงสาวนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนเธอนอนค้างที่บ้านณดล และเธอยังไม่ได้บอกคนที่บ้าน!!
“แย่แล้ว…!!!” ฟางข้าวลืมตาโพลง เด้งตัวขึ้นมานั่ง ท่ามกลางแสงสลัวของดวงไฟจากโคมไฟบนหัวเตียง
“แย่อะไร ยังเช้ามืดอยู่เลย” ณดลที่ตื่นอยู่ก่อนแล้ว ดึงให้หญิงสาวหงายลงมานอนเหมือนเดิม แขนพาดกอดเอวเล็กไว้หลวมๆ
“ดล ฉันลืมบอกที่บ้านว่าค้างที่นี่” ฟางข้าวแกะมือชายหนุ่มออกจากเอว แต่เหมือนโดนแกล้ง มือเขาเหนียวอย่างกับกาว
“ก็ค่อยบอกวันนี้ไง นอนเถอะ”
“ไม่ได้สิ พี่เฟรมเป็นห่วงแน่” ฟางข้าวดิ้นขลุกขลักไปมาในอ้อมกอดของชายหนุ่มเจ้าของห้อง ที่ตอนนี้ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้นทุกที
“ข้าว…”
“…”
“…หยุดดิ้น” ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่เริ่มหงุดหงิด เพราะหญิงสาวตรงหน้าไม่ยอมเชื่อฟัง เขาพลิกตัวขึ้นไปคร่อมร่างเธอเอาไว้ เอ่ยน้ำเสียงดุๆ พลางจ้องหน้าเธอเขม็ง
ฟางข้าวที่เห็นสายตาของเขา หยุดดิ้นลงในทันที เธอหวั่นใจว่าถ้าเธอไม่หยุด เธออาจจะไม่ปลอดภัย
“ก็แค่นั้น” ณดลพูดขึ้นอย่างพอใจ
“คุยกันหน่อยสิ” ณดลเอ่ยปากขึ้น หลังจากเห็นฟางข้าวสงบลง
“…อะไร”
“…ฉันชอบเธอ” ณดลบอกพลางมองสบตาหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างเขา
“อะ…อะไรนะ” ฟางข้าวหน้าเหวอ ถึงกับหาเสียงตัวเองไม่เจอไปพักใหญ่ พยายามย้อนถามเขา
ณดลไม่ได้พูดอะไรอีก เขาทำเพียงแค่มองสบตาหญิงสาวนิ่งๆ ฟางข้าวที่เริ่มตั้งสติได้ พยายามยันตัวเองลุกขึ้น แต่เขายังคุยกับเธอไม่รู้เรื่อง จึงล็อกข้อมือเธอทั้งสองข้างกดไว้กับเตียง
“เดี๋ยวสิ ปล่อยก่อน”
“ไม่ปล่อย คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” หญิงสาวพยายามบิดข้อมือตัวเองออกจากพันธนาการ จนเห็นว่าไม่มีประโยชน์แน่แล้ว จึงยอมสงบลง
“คบกันไหม”
............................
“กลับมาแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกกล่าวตามปกติ ยามที่เธอกลับมาถึงบ้าน แต่แตกต่างที่วันนี้ทุกคนมีสีหน้ากระวนกระวายอยู่
“ไปไหนมาข้าว ทำไมติดต่อไม่ได้เลย” วัชระที่กระวนกระวายรออยู่ แทบจะวิ่งเข้าไปกอดหญิงสาวทันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามา
“พี่เฟรม ข้าวขอโทษค่ะ พอดีโทรศัพท์ข้าวแบตหมดค่ะ”
“ปลอดภัยดีใช่ไหม”
“ปลอดภัยดีค่ะ เมื่อคืนฝนตกหนัก คุณแม่เลยให้นอนค้างที่บ้านค่ะ แต่พอดีโทรศัพท์ข้าวแบตหมดเลยไม่ได้โทรมาบอกค่ะ”
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนะ” วัชระชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอด ฟางข้าวยกมือขึ้นมาลูบหลังชายหนุ่มเบาๆ เขาคงเป็นห่วงเธอมากจริงๆ
“งั้นเดี๋ยวข้าวขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ” เธอผละตัวออกแล้วเดินเลี่ยงขึ้นบันไดไป
เมื่อขึ้นมาถึงห้อง หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งไปที่ปลายเตียง ก่อนจะมองออกไปข้างนอกอย่างเหม่อลอย คิดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่ผ่านมา
‘คบกันไหม’
‘ขอคิดดูก่อนได้ไหม’
‘เพราะอะไร’
‘ฉันไม่มั่นใจว่านายจะชอบฉันจริงๆ’
‘ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะเชื่อ’
‘ฉัน…ก็ไม่รู้’
บทสนทนาของเมื่อเช้าจบลงด้วยการที่เธอลุกหนีเขาเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอออกจากห้องน้ำมา เขาก็ไม่อยู่แล้ว