เรื่องที่เธอไม่รู้
สหรัฐอเมริกา
กริ๊งง กริ๊งงง
“สวัสดีค่ะพี่นิน คิดถึงญาหรอโทรมาหาญาแต่เช้าเลย..?”
(ญา..นี่พลเองนะ..)
“อ้าวพล..ทำไมใช้โทรศัพท์พี่นินโทรมาละ..?”
(พลมีเรื่องจะบอก แต่ญาทำใจดีๆไว้นะ..)
“เกิดอะไรขึ้น..?”
(พี่นิน..)
“พี่นินทำไม..พี่นินเป็นอะไร..?”
(พี่นินโดนรถชน..ตอนนี้อาการโคม่าอยู่ในห้องไอซียู..)
“อะไรนะ..?”
ญาดาช็อกไปทันทีที่ได้ยินข่าวว่าญานินพี่สาวโดนรถชน และที่ช็อกมากขึ้นไปอีกก็คือ
(หมอบอกว่าพี่นินท้องได้ 4 เดือนแล้วนะ และตอนนี้เด็กในท้องก็ไม่อยู่แล้ว..)
“พี่นินท้องหรอ..?”
เธออึ้งไปเลยที่รู้ว่าพี่สาวของตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ ทำไมญานินไม่เคยบอกเธอเลยเรื่องนี้ แล้วใครกันคือพ่อของเด็กในท้องญานิน
...
2 วันผ่านไป
โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ
“พี่นิน..”
ญาดารีบบินกลับมาเมืองไทยพอลงเครื่องได้ก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที เธอเห็นสภาพพี่สาวตัวเองถึงกับช็อกที่เห็นเธอมีสายห้อยระโยงระยางตามร่างกายเต็มไปหมด
“หมอบอกว่าพี่นินอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอดชีวิต..”
ญาดาน้ำตาร่วงพรูทันทีที่ได้ยินแบบนี้ เธอไปเรียนที่เมืองนอกตั้งแต่จบมัธยม โดยมีญานินเป็นคนส่งเงินไปให้เธอทุกเดือน เธอตั้งใจเอาความสำเร็จกลับมาฝากพี่สาวที่เป็นคนส่งเธอให้เรียนสูงๆ แต่กลับต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
...
1 อาทิตย์ผ่านไป
ญาดาเครียดมากที่เพิ่งรู้ว่าญานินขายบ้านที่เพิ่งซื้อได้เพียงแค่ 5 ปีทิ้งไปแล้ว และให้แม่บ้านที่เคยอยู่ด้วยกันกลับไปอยู่ต่างจังหวัด แล้วญานินก็มาอยู่ห้องเช่าคนเดียวที่ไกลจากบ้านเดิมมาก ซึ่งเธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมญานินถึงต้องทำแบบนี้
และเรื่องที่ญานินประสบอุบัติเหตุเธอก็คิดว่ามันไม่น่าจะใช่การโดนรถชนธรรมดาแน่ๆ เพราะรถคันที่ชนพี่สาวเธอไม่มีป้ายทะเบียน และจุดที่รถชนก็เป็นจุดที่มีกล้องแค่ตัวเดียวที่ใช้งานได้ มองเห็นแค่ระยะใกล้เท่านั้นว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร แต่กล้องตลอดเส้นทางที่รถวิ่ง กลับเสียทุกตัวจนไม่สามารถจับภาพได้ว่ารถคันนั้นมันวิ่งไปทางไหน
ญาดาจึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนขับรถชนพี่สาวเธอ และสิ่งที่เธอเองแปลกใจอีกเรื่องก็คือ คนรักของพี่สาวหายไปไหน พี่สาวเธอโดนรถชนและหายไปขนาดนี้ทำไมเขาไม่คิดติดต่อมาเลยสักครั้ง เพราะตั้งแต่เธอกลับมาจากเมืองนอก จนป่านนี้เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร
“ทำไมพี่นินไม่เคยบอกญาเลยว่าพี่นินกำลังท้อง..แล้วนี่พ่อของเด็กเป็นใครญาก็ยังไม่รู้เลย..”
เธอพูดด้วยความน้อยใจแล้วเสียใจ ที่พี่ไม่เคยเล่าอะไรให้เธอฟังเลย
“นี่ญาก็ไม่รู้หรอว่าคนรักของพี่นินเป็นใคร..?”
พลวัชรถามย้ำเพราะไม่คิดว่าญานินที่เป็นพี่สาวสนิทกับเธอมากจะไม่เล่าอะไรให้ญาดาฟังเลย
“พี่นินไม่เคยบอกเรื่องนี้กับญาเลย ญาไม่เคยรู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำว่าพี่นินคบกับใครอยู่..”
“แม่บ้านที่เคยอยู่กับพี่นินไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เราจะได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่นิน ทำไมพี่นินถึงต้องขายบ้านแล้วไปอยู่แค่ห้องเช่าเล็กๆด้วย....แล้วนี่ผู้ชายคนนั้นจะรู้หรือยังว่าพีี่นินโดนรถชน...เราจะติดต่อเขาได้ยังไง..?”
พลวัชรเป็นลูกพี่ลูกน้องของญาดามีอายุไล่เลี่ยกันกับเธอรู้สึกเป็นห่วงและเครียดแท เพราะเขาเองก็สนิทกับกับทั้งญาดาและญานินมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เรื่องส่วนตัวของญานินเขาไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ เพราะเธอเป็นคนเรียบร้อยพูดน้อยมากๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นญานินเดินกับผู้ชายคนหนึ่งที่เขาคุ้นหน้า
“พลนึกออกแล้ว...เคยมีครั้งหนึ่งที่พลเห็นพี่นินเดินกับผู้ชายคนหนึ่งในห้าง พลคุ้นหน้าเขามากเลยนะแต่ก็นึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร.?”
“หน้าตาเขาเป็นยังไง แล้วพลเคยไปเจอเขาที่ไหน..?”
พลวัชรทำท่าคิดอยู่สักพักแล้วในที่สุดก็นึกออก แต่ก็คิดว่าน่าจะไม่ใช่เขาที่เป็นคนรักของญานิน
“แต่พลคิดว่าเขาคงไม่ใช่แฟนของพี่นินหรอก เพราะเขาแต่งงานมีครอบครัวแล้ว..”
ญาดาทำสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที
“สรุปผู้ชายคนนั้นเป็นใคร..?”
“....”
เขาอ้ำอึ้งว่าจะบอกดีไหมเพราะก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่อย่างที่เขาคิดหรือเปล่า
“พล..บอกญามาเดี๋ยวนี้..”
“คุณอัสดา..”
“อัสดาหรอ..?”
....