บ้านตระกูล ศิริไพศาลกุล
คฤหาสถ์หลังใหญ่ของเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำเกี่ยวกับออกแบบและตกแต่งภายใน อาศัยอยู่ด้วยกัน เพียง 3 คน มีพ่อแม่และอัศวินลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล
"คุณพ่อยังไม่กลับหรอครับ..?"
อัศวินเดินเข้ามาในบ้านมองไปรอบๆก็ไม่เห็นใครสักคน
"คุณท่านอยู่ในห้องทำงานค่ะ.."
"แล้วคุณแม่ล่ะครับ..?"
"คุณผู้หญิงสวดมนต์อยู่ในห้องพระค่ะ.."
เขาเดินขึ้นไปชั้นบนเปิดประตูเข้าไปในห้องพระ ก็เห็นแม่ของเขากำลังนั่งทำสมาธิอยู่ เขาจึงปิดประตูแล้วเดินตรงไปที่ห้องทำงานของพ่อ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ผมขอเข้าไปในห้องหน่อยได้ไหมครับ..?'
"อ้าววิน..เข้ามาซิลูก"
"ขอบคุณครับ"
อัศวินเปิดประตูเข้ามาในห้องยิ้มทักทายผู้เป็นพ่อ แล้วนั่งลงตรงข้ามกับพ่อของเขา
"พ่อกลับมานานแล้วหรอครับ..?"
"พ่อเพิ่งลงเครื่องเมื่อตอน 4 โมงนะ บินตั้งหลายชั่วโมงเพลียมากเลย.."
"พ่อไปดูงานที่ญี่ปุ่นมาตั้งเกือบ 2 เดือน เป็นยังไงบ้างครับ..?"
"บริษัทที่ญี่ปุ่นยอมร่วมลงทุนกับเรา กว่าพ่อจะคุยให้เขายอมตกลงเซ็นสัญญาได้ก็หว่านล้อมจนเหนื่อยเลย.."
"แล้วทางนั้นเขาจะลงมาเซ็นต์สัญญาจริงๆเมื่อไหร่ครับ..?"
"เดือนหน้า.."
"เลขาของคุณพ่อลาออกกะทันหัน คุณพ่อทราบแล้วใช่ไหมครับ อยู่ดีๆเธอก็หายตัวไปไม่มีใครติดต่อเธอได้..ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอเธอถึงได้ลาออกไปแบบนี้.."
พ่อของเขานิ่งไปแล้วเริ่มมีสีหน้ากังวลขึ้นมา
"ผมให้ฝ่ายบุคคลเปิดรับเลขาคนใหม่ให้คุณพ่อแล้ว เพื่อให้ทันก่อนที่ทางญี่ปุ่นจะลงมาเซ็นสัญญากับเรา..คุณพ่อไม่ต้องกังวลนะครับผมจะรีบจัดการให้"
...
โรงพยาบาล
ญาดามาเฝ้าญานินที่โรงพยาบาลนั่งมองดูพี่สาวที่นอนหลับสนิทเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่สงสารพี่สาวจับใจ
“ทำไมพี่นินไม่เคยบอกอะไรญาเลย ทำไมถึงได้เก็บเรื่องพวกนี้เอาไว้คนเดียว...”
ญาดาพูดกับพี่สาวที่นอนนิ่งเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่บนเตียง โดยไม่รับรู้อะไร
“เรื่องที่พี่ลาออกจากงานกะทันหัน เรื่องที่พี่โดนรถชน เรื่องของผู้ชายคนนั้น แล้วก็เรื่องลูก ญาจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพี่..”
ญาดายื่นมือไปกุมมือญานินพี่สาวของเธอไว้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา
“พี่นินจะต้องหายนะ อย่าทิ้งญาไป..ญาไม่เหลือใครอีกแล้วนอกจากพี่นินคนเดียวนะคะ..”
....