ตอนที่5 พรานสาว

973 คำ
ตอนที่5 พรานสาว “แม่ของนารีชื่อว่าบัวตองเป็นชาวบ้านละแวกนี้แหละครับ ส่วนพ่อน่ะเป็นพวกฝรั่งที่ร่วมขบวนเข้ามาเที่ยวป่ากับพวกข้าราชการในเมือง พอมาพบกับนังบัวตองเข้าก็เกิดต้องตาต้องใจผูกสมัครรักใคร่กัน พอบัวตองตั้งท้องนารีแล้วไอ้ฝรั่งมันก็หนีหายไปไม่ได้รับผิดชอบหรือติดต่ออะไรกลับมาเลย ทิ้งให้นารีอยู่กับแม่ของมันเพียงสองต่อสอง บ้านที่อยู่กันก็ปลูกอยู่ชายป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านไกลโข พอนารีมันโตเป็นสาวก็หน้าตาสะสวยผิดกับสาวชาวบ้านคนอื่น ผู้ชายหลายคนในหมู่บ้านก็พากันไปมาหาสู่เพราะอยากได้มันเป็นเมีย แต่นารีมันก็ไม่เล่นกับใคร” พรานคมหยุดพูด คั่นเวลาโดยการยกแก้วเหล้าป่าเข้าปาก ส่วนยอดชายก็ขอกล่องยาสูบของพรานเฒ่าเอามามวนจุดสูบ “จนเมื่อสองปีก่อนผมออกจากป่าล่าสัตว์ คืนนั้นบังเอิญเดินผ่านมาทางบ้านของนังบัวตองเข้าได้ยินเสียงปืนและร้องขอความช่วยเหลือ ไอ้ครั้นจะเดินหนีทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซะก็ได้แต่ผมก็ไม่ใช่คนแบบนั้นซะด้วยเลยเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น” ดวงตาของพรานคมฉายประกายเจิดจ้าอาจหาญ “ผมเห็นไอ้นกกับไอ้สอนสองหัวขโมยกำลังยื้อยุดฉุดนังนารีอยู่ ส่วนนังบัวตองนอนตายเลือดอาบพื้นเรือนส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปหมด ผมก็เลยดวลปืนกับพวกมันสองคน ผลลัพธ์ก็คือพวกมันหนีออกจากหมู่บ้านไปส่วนผมถูกยิงเข้าที่เส้นเลือดใหญ่ตรงโคนขาบาดเจ็บสาหัส นึกว่าต้องตายแน่แล้วแต่เดชะบุญที่ยังคุ้มตัวอยู่หมอในเมืองช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน แต่ขาของผมจำเป็นต้องตัดทิ้งเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้” “พรานคมนี่สมเป็นยอดพรานจริงๆ นะครับ กล้าหาญและมีน้ำใจมาก” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับนายว่าตอนนั้นผมกล้าหาญหรือว่าโง่บัดซบกันแน่ถึงได้กล้าเข้าไปสู้กับหนุ่มรุ่นๆ อย่างไอ้นกกับไอ้สอนมันได้” พรานคมยกผ้าขาวม้าที่พาดบ่าอยู่โบกปัดยุงและแมลงรอบๆ ตัว “ต้องเรียกว่าความกล้าหาญนั่นแหละครับ” ยอดชายเทเหล้าขาวลงแก้ว “จากนั้นนารีก็เลยมาอยู่กับพรานคมงั้นสินะครับ” พรานเฒ่าพยักหน้ารับ “ใช่ครับ หลังจากงานศพนังบัวตองผ่านไป นารีมันก็มาดูแลผมนับตั้งแต่นั้น” “เป็นแบบนี้เอง” “จริงสิ ผมว่าจะถามนายตั้งแต่เมื่อตอนหัวค่ำแล้วว่ารอบนี้ทำไมถึงได้มาเพียงคนเดียว แล้วคุณรักชาติทำไมไม่มาด้วยกัน” “ไอ้รักชาติมันตายแล้วล่ะพรานคม ตายตอนไปประจำอยู่ภาคใต้กับฉัน” “ผมเสียใจด้วยนะครับนาย คุณรักชาติยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ๆ ไม่น่ามาด่วนอายุสั้นจากไปเร็วขนาดนี้เลยเหมือนคำโบราณที่เค้าว่ากันว่าคนดีมักจะจากไปเร็ว” “คงเป็นอย่างนั้นแหละครับพรานคม” “เสียดายจริงๆ ที่ขาของผมดันมาเป็นแบบนี้ไม่งั้นคงได้นำทางนายเข้าป่าอีกครั้ง” พรานเฒ่ายกมือขึ้นตีลงบนขาเทียมของตัวเองเหมือนจะตัดพ้ออยู่ในที “ไม่เป็นไรหรอกพรานคมฉันเข้าใจดี แค่พรานคมช่วยหาลูกหาบให้ฉันสักสามคนก็พอฉันจะเข้าป่าไปสักสองสามวันเอาแค่ใกล้ๆ พอได้หายเบื่อเมืองกรุงหน่อย” “ผมว่ามันอันตรายเกินไปครับนาย หากนายจะเข้าป่าไปโดยไม่พรานนำทางแบบนั้น” พรานเฒ่าแย้งขึ้น “ไม่อันตรายหรอกครับ ผมเป็นทหารเก่าแค่มีปืนกับแผนที่ใบเดียวก็ไปได้เหนือจรดใต้แล้ว” ยอดชายควักแผนที่ออกจากกระเป๋าเป้ “เอาแบบนี้ดีกว่าครับนาย คราวนี้ผมจะให้นารีมันนำทางนายเข้าป่าไปเอง” “นารีนั่นหรอครับพรานคม” ยอดชายสวนโพล่งขึ้นทันควันพร้อมทำหน้าเหมือนไม่ค่อยไว้ใจนัก “นายอย่าได้ดูแคลนว่านารีเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ เชียว มันเข้าป่าล่าสัตว์ทุกวันชำนาญทางกว่าพรานบางคนในหมู่บ้านซะอีก ที่ผมมีกินมีใช้อยู่ตอนนี้ก็เพราะมันนั่นแหละเข้าป่าล่าสัตว์เก็บสมุนไพรไปขายในตลาด” สีหน้าของพรานคมชื่นชมภรรยาสาวอย่างเปิดเผย “ถ้าพรานคมการันตีถึงขนาดนี้ฉันก็คงหมดความสงสัยในตัวนารี แต่ติดตรงที่เธอเป็นผู้หญิงนี่แหละ ผมว่า… มันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่” ยอดชายถอนหายใจ เขาเป็นผู้ชายส่วนนารีเป็นผู้หญิงจะให้เข้าป่าไปพักค้างอ้างแรมด้วยกันก็คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก ใครรู้เข้าก็จะเอาไปนินทาเสียๆ หายๆ ได้ แม้จะมีลูกหาบติดตามเข้าไปด้วย ทว่าตอนกลางคืนพวกลูกหาบก็แยกตัวออกไปนอนพักผ่อนกันต่างหาก “อย่าคิดมากไปเลยครับ นายเป็นเจ้าชีวิตของผม ผมรักในน้ำใจของนาย ชาวบ้านมันจะพูดยังไงก็คงห้ามปากพวกมันไม่ได้หรอก แต่เราสองคนย่อมรู้กันดี ใช่ไหมครับนาย” พรานเฒ่าเอื้อมมือมาบีบแขนของยอดชาย “ถ้างั้นก็สุดแล้วแต่พรานคมเถอะ” “ต้องแบบนี้สิครับนายจะได้มาไม่เสียเที่ยว ประเดี๋ยวนารีมันกลับมาผมจะบอกมันเองให้จัดเตรียมเสบียงอาหารและหาลูกหาบเอาไว้ให้พร้อมอีกสองสามวันก็เข้าป่าได้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม