ตอนที่ 3 หยอดวันละนิดชีวิตดี๊ดี

2179 คำ
ตอนที่ 3 หยอดวันละนิดชีวิตดี๊ดี วันนี้ผมตื่นมาพร้อมอาการร่าเริงเรื่องเมื่อวานผมยังจำขึ้นใจริมฝีปากนุ่มนิ่มของพี่เพทาย ลิ้นร้อนๆ ที่สอดใส่ อ๊ากกกกกกกก เขินโว้ย!! ปี๊นนนนน เสียงแตรรถหน้าบ้านไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นคนมา คงไม่พ้นเพื่อนสาวเจ้าเก่าผมเก็บสัมภาระเดินออกไปรถเบนซ์คันหรูเด่นสง่าอยู่หน้าบ้าน ผมเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับซึ่งเป็นที่ประจำ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ค่อยๆ เคลื่อนออกจากบ้านตรงไปที่มหาลัย “มีอะไรดีหรือเปล่าแกเห็นแกยิ้มตลอดทั้งทางเลย” ร่างบางของฟ้าหันมาถามเพื่อนหนุ่มหน้าหวานเมื่อรถติดไฟแดง หล่อนเป็นเพื่อนกับไผ่มานานถึงอีกคนจะยิ้มบ่อยๆ แต่ก็ไม่มีไม่บ่อยนักที่จะยิ้มแบบเขินๆ แบบนี้เมื่อวานคงมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นจนทำให้เจ้าตัวหุบยิ้มไม่ลง “แน่นอนว่าต้องมี!” ร่างบางตอบอย่างไวเหมือนกับรอคำถามนี้มานาน มือขาวถูกยกมาปิดหน้าที่แดงละลื่นของตัวเอง เพื่อนสาวมองท่าทีของไผ่ยิ่งกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง “เร็วๆ สิแก! ฉันอยากเสือก!” เพื่อนสาวเร่งอีกคนอย่างทนรอไม่ไหว ไผ่มองเพื่อนสาวที่พูดออกมาอย่างไม่อายปากอย่างระอา “ฟ้าจำร้านที่ไผ่ไปทำงานได้ไหม” เมื่อบทสนทนาเริ่มขึ้นไฟจราจรก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดีรถคันหรูค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป ตอนนี้เป็นเวลา 9 โมงเช้ารถติดเป็นพิเศษเพราะคนเริ่มที่จะทยอยไปทำงานแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหากับทั้ง 2 คนที่อาศัยอยู่จนชิน “ร้านของพี่พาหรอ” เพื่อนสาวถามเพื่อความแน่ใจเพราะไผ่ทำงานอยู่ที่นั่นที่เดียว ฟ้าเคยไปนั่งที่นั่นบ่อยๆ ตอนที่เพื่อนทำงาน “ใช่ พี่พาแกขายร้านนั้นให้คนอื่นไปแล้ว แล้วเขาก็จะทุบทิ้ง” ร่างบางพูดเสียงหน่อยหน่อยเพราะรู้สึกผูกพันกับร้านนั้นมานานเจ้าตัวทำงานกับร้านนั้นมาตั้งแต่มอต้นจู่ๆ ก็ถูกทุบทิ้งทำให้อดใจหายไม่ได้ “แล้วตอนนี้แกมีงานทำยัง” เพื่อนสาวถามอย่างเป็นห่วง “นะแน่นอน!” ฟ้าอดขมวดคิ้วงงๆ กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเพื่อนหนุ่มไม่ได้เมื่อกี้นี้ไผ่ยังทำหน้าซึมๆ เลยแต่พอพูดถึงงานใหม่กับทำท่ากระดี๊กระด๊าหน้าขาวแดงละลื่นอย่างน่าเอ็นดู “แสดงว่าต้องมีอะไรดีๆ ที่งานใหม่สินะ” หน้าขาวแดงละลื่นยิ่งกว่าเดิมเมื่อเจอเพื่อนสาวล้อ “ใช่! เป็นโชคดีมากเลยที่พี่เต้ยพี่รหัสของไผ่ไปเจอพอดีพี่แกเลยแนะนำงานให้แถมงานที่ว่ายังเป็นงานที่เงินดี ยิ่งกว่านั้นคือได้ใกล้ชิดกับพี่เพทายด้วย” พอพูดถึงคำสุดท้ายหน้าขาวก็แดงกันลื่นยิ่งกว่าเดิมฉากจูบเมื่อวานในรถลอยเข้ามาในหัว “ใช่คนที่เป็นเป้าหมายของแกใช่ไหมอย่าบอกนะว่าแกชอบเข้าไปแล้วจริงๆ ” เพื่อนสาวถามอย่างตกใจไม่คิดว่าอะไรอะไรมันจะเข้าทางขนาดนี้หรือนี่อาจจะเป็นโชคชะตาของทั้งสองคนก็ได้ “เมื่อคืนพี่เพทายมาส่งด้วย อ๊ากกกกกไผ่เสียจูบแรกไปแล้วฟ้า” เสียงร้องโหยหวนของคนข้างๆ ทำเอาเพื่อนสาวสะดุ้งเฮือกสมองประมวลผลคำที่เพื่อนพูด เสียจูบแรกไปแล้วแบบนี้แสดงว่าคนที่พลากไปก็คงไม่พ้นพี่เพทายสินะ จากเพื่อนหนุ่มที่น่ารักทำไมเหมือนอีกคนจะกลายเป็นคนไวไฟไปแล้ว.. มหาลัย ในที่สุดแล้วก็เดินทางมาถึงมหาลัยผมกับฟ้ามีเรียนตอน 10 โมงเช้า ตอนนี้ก็ 9.40 แล้วผมต้องรีบไปไม่งั้นคงได้เข้าสาย เรื่องการเรียนก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่สำหรับเราสองคนผมกับฟ้าเป็นคนค่อนข้างที่จะหัวดีถ้าผมต้องการจะหาแม่ของลูกผมคงจะเลือกฟ้านี่แหละเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดฟ้าทั้งสวยเรียนเก่งแถมบ้านก็รวยเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟคมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีผู้ชายมาเข้ามาจีบบ่อยๆ แต่ฟ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงทั่วไปไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ ผมเคยถามฟ้าว่าทำไมไม่มีแฟนแต่เพื่อนสาวกลับตอบขำๆ ว่ากลัวผมเหงา ผมไม่คิดว่าเราสองคนที่ต่างกันขนาดนี้จะมาเป็นเพื่อนกันได้ ตื๊ดดดดดดด ผมก้มลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเก่ามีเบอร์ที่ไม่ได้เมมขึ้นผมขมวดคิ้ว ผมไม่ใช่คนที่ให้เบอร์คนอื่นมั่วฟ้าเองก็คงจะไม่ได้ให้เบอร์ผมกับใคร “มีอะไรหรอไผ่” เพื่อนสาวหันกลับมามองผมตอนนี้อาจารย์ยังสอนอยู่โทรศัพท์ในมือยังคงสั้นไม่หยุด “ไม่มีอะไรหรอกแค่เบอร์แปลกฟ้าฝากจดด้วยนะ” เพื่อนสาวพยักหน้าอย่างว่าง่ายผมชั่งใจแป๊บนึงก่อนจะกดรับสาย “ฮัลโหล ใครครับ” ผมพูดใส่โทรศัพท์เสียงเบาอย่างเกรงใจ […] ที่ปลายสายยังเงียบสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ผมขมวดคิ้ว “ผมว่างนะครับ” [เดี๋ยว] เสียงที่คุ้นหูดังออกมาจากปลายสายเดาไม่ยากว่าเป็นใคร ใครจะไปลืมเสียงคนที่ตัวเองชอบได้กันล่ะ อ๊ากกกกกกกกก!! พี่เพทายรู้เบอร์เราได้ยังไงนะ! เขินโว้ยยย!! +++++ต่อ+++++ ** “พี่เพทายเองหรอเอาเบอร์ผมมาจากใครหรอครับ” ผมตอบกลับเสียงเบาอย่างตื่นเต้นหน้าหวานอมยิ้มหน้าขึ้นสีแดงละลื่น [เพื่อน] เสียงเรียบจากปลายสายพูดตอบกลับมา ผมขมวดคิ้วคงเป็นฟ้าให้ละมั้ง แต่ใครจะให้ก็ช่างเถอะแค่รู้ว่าเป็นเบอร์พี่เพทายก็ดีใจสุดโต่งละ!! “แล้วพี่เพทายโทรมามีอะไรหรือเปล่าครับ” [เดี๋ยวโดนเย็นรับไปทำงาน ….ตู๊ด] ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำไมร่างสูงต้องมารับผมทั้งที่ผมเป็นลูกจ้าง แต่ยังไม่ทันได้ถามร่างสูงก็ตัดสายไปแล้ว “ใครโทรมาแก” ผมส่ายหน้าบอกฟ้าว่าไม่มีอะไรเพื่อนสาวขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรผมวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะอย่างมึนๆ ผมนั่งมึนทั้งคาบหัวสมองก็คิดวนไปวนมาเรื่องของพี่เพทายทั้งไม่เข้าใจทั้งแปลกใจทั้งตื่นเต้นมันสับสนไปหมด “หมดเวลาแล้วไปกันเถอะ” เสียงหวานเรียกทำให้ผมสะดุ้งออกจากภวังค์ ผมมองไปรอบๆห้องมีคนอยู่ไม่กี่คน ผมรีบเก็บของใส่กระเป๋าใบเล็ก “วันนี้ฟ้าไม่ต้องไปส่งก็ได้ ไผ่จะแวะซื้อของ” ผมหันไปบอกรู้สึกว่าตู้เย็นที่บ้านเริ่มจะว่างแล้วว่าจะซื้อพวกหมูกับผักไปไว้ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่าคงต้องแวะไปหาอะไรกินที่ห้างก่อนแล้วค่อยเดินซื้อ “เอางั้นก็ได้งั้นฟ้าไปก่อนนะ” เพื่อนสาวหันมาโบกมือลาร่างบางโบกมือให้แล้วยิ้มกลับ ห้าง A แอร์ในห้างทำให้ผมรู้สึกเย็นสบายมากเมื่อเข้ามาในห้างสิ่งแรกที่ผมทำคือล้วงเอากระเป๋าตังค์ใบเก่ามาเช็กว่าตอนนี้มีตังค์ในกระเป๋าเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นแบงค์สีม่วงแบงค์เดียวกับแบงค์สีเขียวอีก 2-3 ใบทำเอาผมต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่แผนว่าจะกินข้าวในห้างคงต้องตัดทิ้งไปคงจะต้องไปซื้อก๋วยเตี๋ยวข้างทางกินซะแล้วเกิดเป็นคนจนนี่มันลำบากจริง! อย่าให้ไอ้ไผ่รวยบ้างนะจะซื้อแม่งทุกอย่างที่อยากแดกเลย!! แต่ตอนนี้คงต้องไปรีบซื้อดีกว่าเพราะรู้สึกท้องผมจะร้องเสียงดังมาก!!! กว่าจะเดินซื้อของครบตามที่ต้องการทำเอาท้องผมร้องรู้สึกแสบไส้ไปหมดผมไม่รอช้ารีบถือของพะรุงพะรังไปรอรถเมล์ที่หน้าห้างผมคงไม่มีตังค์พอที่จะไปขึ้นรถแท็กซี่ที่สุดแสนจะแพงหรอก ให้ตายสิทุกอย่างมันลำเอียงจริงๆ!! ถึงจะบ่นไปมันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นหรอกมีแต่จะทำให้ตีนกาขึ้นหน้าแก่ไปเท่านั้น นานพอสมควรกว่าผมจะกลับมาถึงบ้านระหว่างทางผมก็แวะซื้อก๋วยเตี๋ยวมา 2 ถุง “พ่ออยู่ไหมไผ่กลับมาแล้ว” ผมใช้เท้าดันเปิดประตูบ้านเข้าไปเบาๆ ก็เห็นบ้านเงียบสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ผมตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อถึงอีกคนจะทำตัวไม่น่าเคารพเท่าไหร่แต่ผมก็มีเขาเป็นญาติคนเดียว “พ่ออยู่ไหม” ผมมองไปรอบๆสองมือถือถุงพะรุงพะรังเดินตรงไปที่ห้องครัวภายในบ้านเหมือนไม่มีคนอยู่ไฟปิดสนิทผมวางของไว้บนโต๊ะกินข้าวเก่าๆ ภายในบ้านหลังเล็กแม้จะเก่าแต่ก็ไม่ได้รกรุงรังทุกอย่างดูสะอาดสะอ้านน่ามอง ผมเดินออกจากห้องครัวตรงไปที่บันไดเพื่อจะเตรียมไปเปิดห้องแต่ก็ต้องตกใจเพราะมีร่างสูงวัยของคนเป็นพ่อนอนอยู่ “พ่อ!” ผมพูดอย่างตกใจรีบวิ่งเข้าไปหาร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่เต็มบันไดความคิดวูบนึงผมคิดว่าอีกคนตกบันไดแต่พอได้กลิ่นเหล้าผมก็เริ่มจะลังเล “พ่อๆ ได้ยินไผ่ไหม” ผมเขย่าพ่อถึงอีกคนจะเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องเลยสำหรับผมทั้งติดเหล้าติดยาติดพนันติดบุหรี่ติดทุกอย่างที่เป็นสิ่งไม่ดีแต่ก็อดใจหายไม่ได้เมื่ออีกคนเป็นแบบนี้ผมรีบพยุงร่างสูงของผู้เป็นบิดาไปที่โซฟาหน้าโทรทัศน์เพราะว่าผมคงไม่สามารถพยุงอีกคนขึ้นบันไดไปนอนบนห้องได้ด้วยขนาดตัวที่ไม่ได้สูงมาก ผมถอนหายใจเมื่อร่างของคนเป็นพ่อไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรผมเดินไปห้องครัวหยิบกะละมังใส่น้ำและผ้าสะอาดเดินเข้าไปเช็ดตัวให้ผู้เป็นพ่อ กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็เลยไป หลายชั่วโมงตอนนี้เป็นเวลา 4 โมงแล้วร่างของชายวัยกลางคนยังไม่ได้สติอยู่ อีกอย่างคือผมต้องไปทำงานด้วยสิจะทำยังไงดี ปวดหัวโว้ย!! เฮ้อออออ!! ปี๊นนนนนน เสียงบีบแตรรถที่หน้าบ้านทำให้ผมสะดุ้งตื่นมองไปรอบรอบผมนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าวในห้องครัวไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหนมองไปที่นาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาทุ่มหน่อยหน่อยแล้วจำได้ว่าพี่เพทายบอกว่าจะมารับไปทำงาน… ห๊ะ ทำงาน!!! ผมสะดุ้งตื่นเต็มตัวรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านตอนนี้ผมยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลยคงเพราะทั้งเหนื่อยทั้งกังวลเลยทำให้เผลอหลับไปเมื่อออกมาแล้วบ้านก็เห็นรถคันหรูที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใครผมเดินไปหาร่างสูงเปิดกระจกลง “สวัสดีครับพี่เพทาย พอดีมีเรื่องยุ่งๆ แถมยังไม่ได้แต่งตัวด้วยคงไปทำงานกับพี่ไปทำงานไม่ทัน งันขอ..." ผมกำลังจะพูดปฏิเสธวันนี้ผมคงจะไปทำงานไม่ทันหรอกทุ่มกว่ากว่าแล้วแถมยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้ากว่าจะไปถึงอีกถึงจะเสียดายตังค์ 500 และทิป พี่เพทายให้เงินผมเป็นวันแต่ว่าแบบนี้มันก็ดีจะได้ทำให้ผมมีตังค์ใช้ไปวันๆ ซึ่งตอนนี้ผมมีตังค์ติดตัวอยู่ไม่ถึงร้อยถ้าวันนี้ไม่ได้ทำงานพรุ่งนี้คงจะต้องประหยัดสุดๆ แล้วล่ะ** ** ผมไม่เรียนวิศวะเลยได้ไหมผมจะไปเรียนคอมพิวเตอร์ถ้าผมสามารถแฮกบัญชีคนอื่นแล้วโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองได้มันคงจะดีกว่านี…กับผีน่ะสิผมคงต้องไปนอนใช้ตังค์ในตาราง!! “รอได้” เสียงเรียบๆ ของพี่เพทายบอกร่างสูงเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้านเหมือนกับบ้านของตัวเอง ผมมองตามร่างสูงอย่างไม่เข้าใจรู้สึกว่าอย่างนี้พี่เพทายเริ่มทำตัวแปลกๆ หรือว่าที่จริงอาจจะเริ่มรู้สึกแล้วก็ได้!!! แบบนี้ก็เข้าทางให้ไผ่สิ!!!! +++++++++++++++++++++++++ อย่าลืม เม้น ไลค์ ให้ดาว กดติดตาม** และสุดท้ายขอบคุณค่ะะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม