บทที่ 9

1349 คำ
แต่เนื่องจากช่วงเวลาที่พ่อเลี้ยงกับกรณ์เข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทำให้ไม่ได้ยินเสียงที่ประกาศบอกให้ทราบว่าเครื่องที่มาจากอังกฤษดีเลย์จากเวลาเดิมไป 1 ชั่วโมงและเพราะมัวแต่กวาดสายตามองหาหญิงสาวที่กำลังต้องการตัวอยู่ทำให้พ่อเลี้ยงไม่ได้เหลือบสายตามองป้ายประกาศที่วิ่งขึ้นบอกให้ภาคพื้นดินทราบเวลาที่เครื่องบินจากอังกฤษจะลงหลังจากที่ดีเลย์ไป 1 ชั่วโมงเต็ม ในขณะที่เจ้าจำปีที่จะนำพานางอัปสราเลอโฉมนวลละออแฝดพี่กลับ มาจากการโลดแล่นบนเวทีเดินแบบระดับสากลมีเหตุต้องดีเลย์ไป 1 ชั่วโมงเต็มๆ แต่เจ้าจำปีอีกลำที่นำพาอีกหนึ่งนางอัปสราผู้เลิศเลอโฉม โอดองค์อรชรงดงามกลับมาสู่อ้อมกอดของถิ่นแดนสยาม...ได้ปล่อยขอบล้อให้แตะสัมผัสจุมพิตกับขอบรันเวย์ไปก่อนหน้านี้สัก 10 นาทีเห็นจะได้แล้วและในขณะนี้หญิงสาวที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกันกับนางเอกชื่อดังของเมืองไทยก็กำลังยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวสายบันเทิงอยู่ ใบหน้างดงามของพิมพ์อัปสรประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขอบอุ่นใจทันทีที่เท้าเล็กๆ ได้แตะสัมผัสกับแผ่นดินบ้านเกิดของเธออีกครั้ง ดวงตากลมโตสุกสกาวสดใสแพรวพราว ใบหน้างามแย้มยิ้มตลอดเวลาที่ กวาดสายตามองบรรยากาศทั่วบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิแผ่นดินทอง... หญิงสาวได้หารู้ว่าไม่ว่า...นัยน์ตากลมโตคู่สวยที่เปล่งประกายตื่นเต้นแวววาว ใบหน้างามที่แตะแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวานกำลังทำให้ชายหนุ่มในชุดของคนขับรถประจำโรงแรมที่แอบซุ่มมองเธออยู่ถึงกับตะลึงงันตัวชาไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่ติดตราตรึงใจไม่รู้ลืม พ่อเลี้ยงรามาในชุดเครื่องแบบคนขับรถประจำโรงแรมถึงกับชะงักเท้าหยุดนิ่งตัวชาอยู่กับที่และแทบจะลืมหายใจเมื่อได้เห็นรอยยิ้มหวานที่ติดตราตรึงใจ เนตรอัปสรที่ปรากฏในทีวีและจากภาพถ่ายที่น้องชายเอามาให้ดูว่างดงามนวลละออแล้ว เทียบไม่ได้กับเนตรอัปสรตัวจริงที่เขากำลังพบเจาะเจออยู่เบื้องหน้าแค่ไม่กี่ก้าวสัมผัสถึง หญิงสาวที่กำลังถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์อยู่ดูงดงามอ่อนช้อยชวนพิศราวกับนางสีดา...นางในวรรณคดีซึ่งเป็นพระมเหสีของพระราม ผิวพรรณขาวเนียนดุจกระเบื้องแก้วชั้นดี ดวงตากลมโตที่ล้อมรอบด้วยขนตายาวงอนเป็นแพดูสวยงามน่าหลงใหลทุกคราที่เธอจ้องมองมา เรียวปากอวบอิ่มสีกุหลาบที่ขยับแย้มยิ้มเอ่ยตอบคำถามชวนให้น่ากดประทับจุมพิตยิ่งนัก “บัดซบ! พ่อเลี้ยงรามากัดฟันกรอดกำมือแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปนขณะที่สบถด่าสมองตนเองที่ตื่นตัวบังอาจสั่งการกระตุ้นต่อมความต้องการขึ้นมาอย่างฉับพลันแค่ได้เห็นหญิงสาวแสนสวยคนนี้ ความต้องการของเขากำลังทรยศต่อความจงรักภักดีของลักษณ์ เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของน้องชายเขา พิมพ์อัปสรแอบลอบยิ้มอย่างนึกสนุกเมื่อจู่ๆ นักข่าวกลุ่มใหญ่ได้วิ่งเข้ามารุมล้อมสัมภาษณ์เธอ ในตอนแรกเธอออกจะงงนิดๆ แต่เมื่อนึกได้ว่าตนเองมีใบหน้าพิมพ์เดียวกันกับพี่สาวและนักข่าวเหล่านี้กำลังเข้าใจผิดคิดว่าเธอคือเนตรอัปสร ก็ทำให้เธอนึกสนุกอยากปลอมตัวเป็นเนตรอัปสรสักพัก คำถามที่นักข่าวต่างก็แย่งกันถามรัวเร็วทำให้สมองเธอเรียงลำดับคำถามอย่างช้าๆ ถึงแม้ตลอดระยะเวลายี่สิบปีกว่าที่อาศัยอยู่ในกรุงโรมเธอจะได้ใช้ภาษาไทยกับมารดาและกลุ่มคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่น แต่ก็ใช่ว่าเธอจะได้ใช้ทุกวันทุกเวลา เพราะฉะนั้นเมื่อเจอคำถามรัวเร็วและเป็นเรื่องราวของพี่สาวล้วนๆ ทำให้เธอต้องนึกถึงเรื่องราวและงานละครที่พี่สาวเคยเล่าให้ฟังก่อนจะเอ่ยตอบคำถามนักข่าวทีละคำถาม “จะมีผลงานละครเรื่องใหม่ออกมาให้แฟนๆ ได้ชมเมื่อไรคะ” นักข่าวสาวสายบันเทิงเอ่ยถามพร้อมกับยื่นไมค์ไปจ่อใกล้ๆ กับริมฝีปากสีกุหลาบ พิมพ์อัปสรยิ้มหวานให้นักข่าวทุกคนเพื่อเป็นการประวิงเวลาในการนึกคิดคำตอบ เธอพยายามนึกถึงกิริยาท่าทางของเหล่าดาราเวลาที่อยู่ต่อหน้าสื่อ “เร็วๆ นี้ค่ะ คิดว่าไม่นานเกินรอ ก็คงจะได้ดูละครเรื่องล่าสุดของ แองจะ...เอ้ยของแอนนี่แล้วค่ะ” พิมพ์อัปสรถึงกับรีบกัดริมฝีปากตนเองไว้ก่อนที่จะปล่อยเสียงหัวเราะขบขำออกมาที่ตนเองแทบจะเผลอหลุดปากเรียกชื่อของตนเองแทนชื่อของพี่สาว แต่เมื่อเอ่ยตอบไปเรียบร้อยแล้วเธอก็ได้แต่นึกขอโทษพี่สาวอยู่ในใจที่บังอาจเอ่ยตอบแทนเป็นตุเป็นตะ “จะมีผลงานบนแผ่นฟิล์มให้ได้ดูบ้างมั้ยคะ” “คง...ไม่นะคะ เพราะแอนนี่ติดถ่ายละครหลายเรื่อง” “การเดินแบบที่ประเทศอังกฤษกระแสตอบรับเป็นยังไงบ้างคะ” พิมพ์อัปสรหน้าเสียนิดหนึ่งเมื่อได้ยินคำถามล่าสุด เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แอนนี่ไม่เคยบอกเรื่องการไปเดินแบบที่อังกฤษ หญิงสาวพยายามปรับสีหน้าให้ดูสงบนิ่งก่อนจะเอ่ยตอบตามความเป็นจริงบางส่วน “ก็ดีค่ะ แต่แอนนี่ไม่ได้มาจากอังกฤษ แอนนี่เพิ่งกลับจากโรม” นักข่าวสายบันเทิงกลุ่มนี้ออกจะงุนงงกับคำตอบของนางเอกสาวอยู่ไม่น้อยเพราะก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวว่าเธอไปเดินแบบที่อังกฤษและจะกลับเมืองไทยในวันนี้ เมื่อสักครู่ก็มีประกาศว่าเครื่องบินที่มาจากอังกฤษดีเลย์หนึ่งชั่วโมงและเป็นสายการบินที่นางเอกสาวจะเดินทางมาด้วย และที่ทำให้บรรดานักข่าวงงมากขึ้นกว่าเดิมก็คือจู่ๆ นางเอกสาวที่พวกเขามารอสัมภาษณ์ได้มาโผล่ที่สนามบินฝั่งผู้โดยสายขาเข้าแถมยังบอกว่าเพิ่งกลับมาจากโรมอีกด้วย “คุณแอนนี่คะ มีหนุ่มๆ แวะเวียนเข้ามาแจกขนมจีบบ้างมั้ยคะ” นักข่าวสาวประเภทสองจีบปากจีบคอขณะที่เอ่ยถามถึงเรื่องหัวใจของนางเอกสาว ได้ตอบคำถามสองสามคำถามก็ทำให้พิมพ์อัปสรชักจะคล่องขึ้น เธอหัวเราะเบาๆ กับคำถามล่าสุดก่อนจะเอ่ยตอบนักข่าวกลั้วหัวเราะระคนเล่นลิ้น “ไม่มีค่ะ เพราะแอนนี่ไม่ชอบกินขนมจีบ ชอบกินแต่ซาลาเปาค่ะ” สิ้นเสียงคำตอบของนางเอกสาวจำแลงก็เรียกเสียงหัวเราะขบขำได้จากนักข่าวทุกคน แองจี้กำลังนึกสนุกกับการปลอมตัวเป็นพี่สาวในครั้งนี้ แต่แล้วจู่ๆ เสียงหัวเราะกังวานสดใสดุจระฆังแก้วก็ต้องมีอันหยุดชะงักลงเมื่อเธอมองไปด้านหลังของนักข่าวที่รุมล้อมเธออยู่ บุรุษเพศหนุ่มหล่อเหลากำยำราวกับบุรุษกรีกโบราณได้เดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังนักข่าว นัยน์ตาคมกริบสงบนิ่งดุจนัยน์ตาพญาเหยี่ยวที่จ้องมองมาทำให้เธอถึงกับใจเต้นสั่นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พ่อเลี้ยงรามาถึงกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อระงับความต้องการที่กำลังแล่นพล่านอยู่ในเส้นเลือดทุกเส้นทั่วร่างกายเมื่อได้เข้ามาเห็นคนรักของน้องชายในระยะที่กระชั้นชิดยิ่งขึ้น เขาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพทุ้มนุ่มนวล “ขอโทษครับ” “เอ่อ...ค่ะ” พิมพ์อัปสรนิ่งเงียบไปหลายนาทีกว่าจะหาลิ้นของตัวเองเจอและเอ่ยตอบได้ในที่สุด เธอยอมรับว่าบุรุษหนุ่มที่กำลังยืนนิ่งตัวตรงคนนี้ช่างดูหล่อเหลาทรงอำนาจยิ่งนัก แม้จะอยู่ในชุดเครื่องแบบของโรงแรมแต่ก็ไม่ได้บดบังรัศมีของคนที่เธอคาดว่าจะเป็นเจ้าคนนายคนของเขาไปได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม