ตอนที่ 20

1877 คำ
EP 20: พี่ชายข้างบ้าน   บุคลากรทุกคนในโรงเรียนถูกเรียกเข้าห้องประชุม และคุณประกอบเจ้าของโรงเรียนคนเดิมก็เริ่มต้นแจ้งข่าวให้กับทุกคนได้รับทราบ “พวกคุณบางคนน่าจะได้ข่าวมาบ้างแล้ว และผมขอยืนยันว่าข่าวการวางมือจากผู้บริหารของโรงเรียนเป็นเรื่องจริงครับ” เสียงฮือฮาจากพนักงานที่ยังไม่ทราบเรื่องนี้ดังขึ้น ในขณะที่หล่อนนั่งนิ่งเพราะทราบมาล่วงหน้าแล้ว “ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนแต่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งก็เหมือนกับโรงเรียนที่รักของพวกเรา เพราะตอนนี้ผมบริหารมาจนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และก็ต้องหาผู้บริหารคนใหม่ที่ไฟแรงพอที่จะพาโรงเรียนของพวกเราให้เจริญก้าวหน้าไปมากกว่าที่เป็นอยู่ได้ และแล้วผมก็ได้พบกับเขา...” คุณประกอบระบายยิ้มออกมา พร้อมกับมองไปที่บานประตูห้องประชุมที่ปิดสนิทอยู่ แต่เพียงไม่กี่อึดใจต่อมาบานไม้ก็เปิดกว้างออก ตึก... หัวใจของหล่อนเต้นแรงมากจนสองหูได้ยินเสียงของมันเลยทีเดียว ผู้ชายในชุดสูทสีน้ำตาลไหม้ปรากฏอยู่หลังบานประตูไม้  ก่อนที่ช่วงขาเรียวยาวในกางเกงทรงสแลคจะก้าวข้ามธรณีประตูห้องประชุมเข้ามา หัวใจของหล่อนเต้นคร่อมจังหวะ ดวงตาเบิกโพลง ภาวนาให้ไม่ใช่อย่างที่ตนเองคาดเดาเอาไว้ “อุ้ย หล่อจังเลย...” “ใช่ หล่อมาก” “หน้าตาเหมือนณเดชเลยนะเธอ” “ปากแดงน่าจูบจัง” เสียงเซ็งแซ่ที่เต็มไปด้วยความชื่นชมในรูปลักษณ์ของพายุดังเข้ามาในหูของหล่อนมากมาย ใช่แล้วล่ะ พายุหล่อมาก หล่อจนหล่อนอดมองตาค้างไม่ได้ ยิ่งเขาอยู่ในชุดสูทพอดีตัวที่ช่วยเน้นลำตัวให้เพรียวสมส่วน เขาก็ยิ่งสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ใบหน้าหล่อจัดมีรอยยิ้มแต้มบางๆ สายตาของเขากวาดมองไปยังสมาชิกในห้องประชุมทุกคน ก่อนจะมาหยุดที่หล่อน สายตาของเขาเย็นชา ไม่ได้แสดงทีท่าว่ารู้จักมักจี่กับหล่อนมาก่อน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วล่ะ เพราะหล่อนไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขากับหล่อนอยู่บ้านใกล้กัน และรู้จักกันมาก่อนหน้า พวงชมพูก้มหน้ามองโต๊ะไม้ “และนี่คือคุณพายุ กังสดาลกุล ผู้บริหารโรงเรียนรุ่งตะวันคนใหม่ครับ” พายุได้รับเสียงชื่นชมจากสาวๆ มากมายในห้องประชุม “ผมสัญญาว่าจะบริหารโรงเรียนของเราให้เจริญรุ่งเรือง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” “ด้วยความยินดีค่ะ” “ด้วยความยินดีครับ” บุคลากรทุกคนในห้องประชุมต่างอ้าแขนต้อนรับเจ้าของโรงเรียนที่ควบตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ด้วยความเต็มอกเต็มใจ “ผมยังใหม่กับโรงเรียนนี้ ดังนั้นผมอยากจะได้ผู้ช่วยสักคนที่จะมาช่วยแนะนำสิ่งต่างๆ ของโรงเรียนรุ่งตะวันให้กับผม” สาวๆ ในห้องประชุมต่างเสนอตัวทำหน้าที่นี้กันอย่างออกหน้าออกตา ยกเว้นก็เพียงแค่คนเดียวนั่นก็คือพวงชมพูนั่นเองที่นั่งเงียบ “ทุกคนต่างใจดีกับผมมาก จนผมเลือกไม่ถูกเลยครับ” พายุหันไปหาประกอบ และสอบถามความคิดเห็น “คุณประกอบว่า ผมควรจะเลือกใครมาเป็นผู้ช่วยดีครับ” “สักครู่นะครับ ขอผมนึกก่อน” ประกอบกวาดตามองไปยังพนักงานในห้องประชุมทุกคน ก่อนที่สายตาจะมาหยุดที่พวงชมพู “ผมว่าคุณพวงชมพูเหมาะที่สุดครับ” เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นทันควัน ใบหน้าซีดเผือดจนไร้สีเลือดเลยทีเดียว “ชะ... ชมพู... คงไม่มีเวลาค่ะ” “คุณชมพูเป็นครูสอนศิลปะ ไม่ใช่ครูประจำชั้นนักเรียนนี่ครับ ผมว่าน่าจะมีเวลาที่จะแนะนำเรื่องต่างๆ ของโรงเรียนให้กับคุณพายุนะครับ” ประกอบยังเห็นว่าพวงชมพูเหมาะสมเช่นเดิม “ตะ... แต่ว่า...” พวงชมพูเผลอสบประสานสายตากับพายุเข้า และก็พบว่าเขามองมาพอดี พื้นดินใต้เก้าอี้สั่นไหวจนหล่อนต้องยกมือขึ้นมากำขอบโต๊ะเอาไว้เพื่อพยุงตัวเอง “ถือว่าเป็นคำขอร้องสุดท้ายของผมก็แล้วกันนะครับคุณชมพู... ช่วยๆ กันหน่อยนะครับ ผมขอร้องล่ะ” ประกอบทิ้งท้ายประโยคด้วยคำพูดที่ทำให้หล่อนไม่อาจจะปฏิเสธได้ “ก็... ก็ได้ค่ะ” ในที่สุดหล่อนก็ต้องฝืนใจตอบรับออกไปเสียงแผ่วเบา และก็ก้มหน้างุดเหมือนเดิม แค่ต้องเดินทางมาทำงานพร้อมกับพายุก็ทำให้หล่อนหวั่นไหวแทบขาดใจอยู่แล้ว แต่นี่หล่อนต้อง... ต้องอยู่ใกล้ชิดเขามากกว่าปกติ หล่อนกลัวหัวใจตัวเองเหลือเกิน กลัวว่ามันจะแสดงความอ่อนแอออกไป “ขอบคุณมากครับคุณพวงชมพู” เสียงห้าวเย็นชาดังขึ้น แต่หล่อนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา มือเล็กกุมกันแน่นบนตัก สองหูอื้ออึ้งฟังอะไรไม่ได้ยินอีกเลย กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง การประชุมก็เสร็จสิ้นลง ทุกคนพากันทยอยออกไปจากห้องประชุม และหล่อนก็ออกเป็นคนสุดท้ายเช่นเดิม เพราะมัวแต่เลื่อนเก้าอี้ที่คนอื่นนั่งเอาไว้ให้เข้าที่เป็นระเบียบ “ทำไมไม่เห็นบอกกันเลยนะว่ามาเป็นผู้บริหาร...” หล่อนพึมพำออกมาเบาๆ และก็ไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนเดินกลับเข้ามาในห้องประชุมอีกครั้ง “ก็เธอไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาสักหน่อยนี่ยายชมพู ทำไมเขาจะต้องมาบอกเธอด้วยล่ะ” “คุยอะไรคนเดียวหรือ” พวงชมพูสะดุ้งโหยง เอี้ยวตัวหันไปด้านหลัง ก็พบว่าพายุยืนอิงสะโพกเพรียวกับขอบโต๊ะไม้ตัวยาวอยู่ไม่ไกลนัก ดวงตากลมโตเบิกกว้าง สองพวงแก้มนวลแดงระเรื่อ เมื่อคิดว่าเขาได้ยินสิ่งที่ตัวเองพึมพำ “ปะ... เปล่าค่ะ” หล่อนรีบดันเก้าอี้ตัวตรงหน้าให้เข้าที่ ก่อนจะก้าวยาวๆ เดินผ่านคนตัวสูงไปยังประตูห้อง แต่แขนเรียวถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน พระเจ้า... ไอร้อนจากอุ้งมือใหญ่มันพุ่งเข้าสู่กระแสเลือดของหล่อนอีกครั้งแล้ว นี่เขาจะรู้ไหมนะว่าสัมผัสของเขา มันทำให้หล่อนไม่ต่างจากเนยเหลวบนกระทะร้อน ใช่... หล่อนกำลังจะละลาย... “จะรีบไปไหน คุยกันก่อนสิ” “เอ่อ... ชมพูต้องรีบไปสอนค่ะ” หล่อนบิดแขนออกจากอุ้งมือใหญ่ แต่ไม่สำเร็จ “ปล่อย... แขนชมพูเถอะค่ะพี่พายุ” เขาไม่ปล่อย แถมยังดึงหล่อนเข้ามาชิดใกล้เรือนกายกำยำยิ่งขึ้น หล่อนใจคอไม่สู้ดีเลย กลิ่นไอที่โชยออกมาจากเนื้อตัวของพายุ กำลังทำให้หล่อนวิงเวียน และเลือดสาวในกายมันก็ร้อนผ่าวคล้ายกับน้ำเดือดจัด “เธอมีสอนคาบแรกตอนสิบเอ็ดโมง ชั้นอนุบาลสาม” ดวงตาของหล่อนเบิกกว้างแทบจะถลนออกมานอกเบ้า เมื่อเขาพูดถูกเผง “พี่พายุ... ทราบ?” เขาไหวไหล่กว้างขวางของตัวเองน้อยๆ ก่อนจะตอบออกมา “ลืมไปแล้วหรือไงว่าพี่มาเป็นผู้บริหารที่นี่ ดังนั้นพี่จะได้รู้ในสิ่งที่พี่อยากจะรู้เสมอ...” “เอ่อ...” เขาพูดเหมือนอยากจะรู้เรื่องของหล่อนอย่างนั้นแหละ ทั้งๆ ที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ “พี่... เอ่อ... พี่พายุมีอะไรจะคุยกับชมพูก็พูดมาเถอะค่ะ ชมพูจะได้ไปเตรียมงานสอน อ๊ะ...” เขากระชากหล่อนเข้ามาปะทะอกกว้างอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้หล่อนไม่ทันได้ตั้งตัว กายสาวเซถลาเข้ามาไปหาเต็มแรง “เอ่อ...” หล่อนพยายามโก่งตัวหนี แต่เขาเอามือหนากดที่ด้านหลังเหนือบั้นท้าย ทำให้หล่อนไปไหนไม่รอด พวงชมพูหน้าตาแดงสลับซีดเผือด หล่อนไม่รู้เลยว่าพายุทำแบบนี้ทำไม “พะ... พี่พายุ...?” “เวลาเธอหน้าแดง น่ารักดีนะ” “...” ทำไมพายุต้องพูด และทำแบบนี้กับหล่อน เขากำลังทำให้หล่อนอกสั่นขวัญแขวน ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นตามกาลเวลาของพายุค่อยๆ โน้มต่ำลงมาหา และหล่อนก็บ้ามากที่ทำได้แค่มองเขา โดยที่ไม่คิดจะเอียงหน้าหลบหนี “ถ้าเป็นไปได้ พี่อยากได้รับจดหมายสารภาพรักจากเธออีกครั้ง” “คะ?” “พี่... จะทำให้เธอรักพี่อีกครั้ง” “อุ๊บบบ” นี่มันอะไรกัน...? ทำไม... ทำไมปากของพายุถึงสัมผัสกับปากของหล่อน และตอนนี้เขากำลังขยับปากที่ร้อนรุ่มของตัวเองบนกลีบปากอวบอิ่มของหล่อน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง สมองมึนงง ทุกส่วนของร่างกายกำลังช็อก นี่หล่อนฝันไปใช่ไหม... ใช่ มันต้องเป็นความฝันแน่ๆ ไม่มีทางหรอกที่พายุจะจูบหล่อน แต่... สิ่งที่กำลังขยับอยู่บนริมฝีปากของหล่อนมันคือของจริง มัน... มันคือปากของพายุ! พระเจ้า... หล่อนทำได้แค่คิดถึงพระเจ้าเท่านั้น เพราะหลังจากที่พายุแยกกลีบปากสาวออกจากกัน และจุ่มจ้วงลิ้นเข้ามาหาในโพรงปาก สมองของหล่อนก็หยุดทำงานเอาดื้อๆ ในโลกนี้มันไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว นอกจากรสจูบกำซ่านของพายุเท่านั้น ลิ้นใหญ่ที่บุกรุกเข้ามาหา มันก่อกองไฟเล็กๆ ในทุกตารางนิ้วของกายสาว เลือดในกายเดือดจัด ยิ่งปลายนิ้วแข็งแรงรั้งให้แนบชิดเข้ามาหามากเท่าไหร่ ความต้องการที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนก็ทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้น หล่อนเอนกายพิงกับเรือนร่างกำยำแน่นหนั่น เผยอปากจูบตอบจุมพิตเร่าร้อนของพายุด้วยความเต็มใจ เนื้อตัวของเขาแข็งแกร่งเหลือเกิน กลิ่นกายของเขาก็หอมกรุ่นแปลกจมูก และจูบของเขาก็ร้อนแรงราวกับไฟป่า มันแผดเผาจนทุกสติมอดไหม้ แต่ก่อนที่หล่อนจะขาดสติมากไปกว่านี้ คนตัวโตเจ้าของจูบร้อนแรงก็ดันร่างอ่อนระทวยของหล่อนออกห่าง พร้อมกับจ้องมองหน้า “เดี๋ยวตามไปหาพี่ที่ห้องทำงานนะ” หล่อนต้องเอามือคว้าขอบโต๊ะไม้ตัวยาวเอาไว้เพื่อพยุงตัวเอง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง พวงแก้มนวลแดงระเรื่อ และก็ยังตกใจไม่หายกับสิ่งที่เกิดขึ้น หล่อนจูบกับพายุ? พายุจ้องมองแม่สาวน้อยเจ้าของโพรงปากหวานฉ่ำด้วยความเอ็นดู เจ้าหล่อนยังคงมองเขาตาปรือ และยังยกมือขึ้นลูบปากบวมเจ่อของตัวเองไปมา จูบแรก... เขารู้ดีว่านี่คือจูบแรกของพวงชมพู “อย่าให้พี่ต้องไปตามถึงห้องพักครูล่ะ เข้าใจใช่ไหม” หล่อนยังคงพูดไม่ออก และก็ยืนมึนงงอยู่ที่เดิม แม้ว่าคนตัวโตจะเดินหายออกไปจากห้องประชุมแล้วก็ตาม “พี่พายุจูบเรา...” นิ้วเล็กไล้กลีบปากเจ่อของตัวเองไปมา หล่อนไม่อยากเชื่อ แต่ไอร้อนจากริมฝีปากของพายุที่กรุ่นอยู่บนเนื้อนุ่มมันย้ำเตือนว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้คือความจริง ร่างเล็กทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ หัวใจเต้นแรงมากจนคล้ายกับกำลังจะตาย  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม