ถึงเวลามูฟออน

1340 คำ
ปิ๊งรักคุณพ่อลูกติด ผ้ายับที่พับไว้ เขียน บทที่ 10 ------ (ไอริน) หลังจากที่ได้คุยกับคุณบูมครั้งก่อนก็ได้ความว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่าฉันหลบหน้าเพราะรังเกียจเขา ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย ฉันแค่ไม่อยากให้เขามีปัญหากับภรรยาเขาเฉย ๆ อีกอย่างก็ไม่ได้อยากให้ใครมาว่าฉันด้วย Line! ‘ขวัญใจเชิญคุณร่วมกลุ่มผู้ปกครอง...’ ฉันเดินออกจากห้องน้ำมานั่งลงที่บนเตียงมือหนึ่งก็เช็ดผมที่กำลังเปียกชุ่ม ส่วนอีกข้างก็กดดูโทรศัพท์ที่เพิ่งจะมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมา ‘เข้ากลุ่ม’ ที่แท้ก็เป็นไลน์กลุ่มของผู้ปกครองเด็ก ๆ ในห้องฉันนี่เอง 25 สมาชิกฉันเลื่อนดูคนในกลุ่มส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ปกครองอาจจะมีอาจารย์ปนอยู่บ้างก็สองสามคน ฉันเลื่อนดูไปจนกระทั่งสะดุดตากับไอดีหนึ่งเข้า รูปโปรไฟล์ผู้ชายที่ใส่เสื้อรูปแมวคู่กับลูกสาวบนหัวคาดโบว์หูแมว มุ้งมิ้งซะจนไม่เกรงใจหนวดเคราบนหน้า ฉันเผลอหัวเราะออกมาก่อนจะกดเข้าไปดูรูปเต็ม รอยยิ้มและแววตาของเขาที่อยู่ในรูปนี้มันทั้งอบอุ่นและมีความสุขแบบรู้สึกได้เลย ‘Boom Kritiphat’ ฉันจำชื่อของเขาแล้วเอามาค้นหาในเฟซบุ๊ก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องไปอยากรู้เรื่องของเขาด้วย แต่เรื่องที่น่าตกใจกว่าที่ฉันเอาชื่อเขามาเสิร์ชหาทางเฟซบุ๊กเหมือนโรคจิตนั้น ก็คือเราเป็นเพื่อนในเฟซกันอยู่แล้ว “ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!!” ‘ดูความเป็นเพื่อน’ ฉันรีบกดดู ‘พฤศจิกายน 2012’ “2012 เหรอ อืม...ปีนี้ 2019 งั้น...1 2 3 โห!! 7 ปีเลยสินะ” ฉันเป็นเพื่อนกับเขาได้ยังไงกันนะ ฉันกดเข้าไปดูข้อมูลอื่น ๆ เขาอีกตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น เกิด พ.ศ.....อืมแก่กว่าฉัน 2 ปี ฉันเลื่อนดูไทม์ไลน์ของเขาแทบจะทุกโพสต์ล้วนเป็นการแชร์คำคมเกี่ยวกับอนาคตและลูกทั้งสิ้นกดเข้าไปดูในอัลบั้มรูปก็แทบจะเป็นรูปน้องแบมทั้งหมด ต่อให้ลงรูปตัวเองก็เป็นรูปที่ถ่ายกับลูก ดูเขารักลูกมาก ๆ เลยล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกได้เลยก็คือที่เขาบอกว่าเขากับภรรยาไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ในเฟซบุ๊กของเขาไม่มีอะไรเลยที่จะบอกว่าเขาอยู่กับภรรยา ไม่มีรูป ไม่มีโพสต์ ไม่มีการแท็กหากัน ฉันเลื่อนย้อนมาจนเพลินก่อนที่มือจะกดไปโดนการเลือกดูไทม์ไลน์แบบระบุเวลา “น้องแบมอายุ 56 ขวบ...ก่อนหน้าจะมีลูกเขาเป็นคนแบบไหนนะ” ฉันย้อนกลับไปดูหน้าไทม์ไลน์ของเขาสมัยที่ยังไม่มีลูก ‘มอนิ่งคร๊าฟสาว ๆ ไปเรียนคร๊าฟ’ การลงรูปพร้อมแคปชั่นภาษาวิบัติแบบนี้เชื่อไหมแม้แต่ฉันก็ยังเคยทำ เอ้อ...ดักแก่จังเลย แต่ก่อนตอนที่หน้าสะอาดสะอ้านเขาก็...ดูหล่อดีแฮะ นึกออกมั้ยหนุ่มเทคนิคใส่ช้อปสีกรมมีหนวดบาง ๆ ใส่สร้อยเชือกสีดำห้อยจี้เครื่องมือช่างที่ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไร (ประแจ) สมัยนั้นเขาคงฮอตน่าดูยอดไลค์ทะลุพัน หนึ่งในนั้นมีฉันปนอยู่ด้วย ทำไมจำเขาไม่ได้เลยนะ แต่ก็คงไม่แปลกหรอกเปลี่ยนไปซะขนาดนั้นน่ะ ‘ถึงวันที่รักใครสักคนด้วยหัวใจ กลับเป็นวันที่เลือกไม่ได้ว่าจะอยู่กับคนที่รัก’ ฉันเลื่อนย้อนขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะรู้สึกว่ายิ่งย้อนลงไปภาษามันยิ่งอ่านยาก แต่แล้วฉันก็ได้เจอกับโพสต์หนึ่งที่สะดุดตาเหลือเกิน ‘ทำไมไม่ลืมเธอไปแล้วยอมรับความจริง’ ที่เขาเคยบอกว่าต้องอยู่กับภรรยาเพราะมีน้องแบม ก็จริงสินะ ฉันหยุดส่องเขาทันทีเพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะสอดรู้สอดเห็นมากไปแล้ว แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ทำไมฉันถึงมีเขาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กได้ ถึงเมื่อก่อนฉันจะเปรี้ยว แต่ก็คงไม่น่าจะเข้าทางของเขาอยู่ดี ‘ข้อความ’ ฉันกดเข้าไปดูเผื่อว่าเราจะเคยคุยกันบ้าง ‘ฝรรดีคลไลท์’ 2013-01-22 มีข้อความจากเขาส่งมาให้ฉันจริง ๆ แต่ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป “อุ๊ย!!!” นี่ไงส่องจนเป็นเรื่องจนได้มือเจ้ากรรมดันไปกดโดนสติ๊กเกอร์ไลก์ซะงั้น “อ้าวครู” ทำไงดีเขาอ่านแล้วด้วยตอบมาแล้วอีกต่างหาก แบบนี้เขาจะรู้ไหมอะว่าฉันส่องเขา “มีอะไรหรือเปล่าครับ” เขารัวส่งข้อความมาให้ฉัน ฉันได้แต่วางโทรศัพท์ไว้บนที่นอนแล้วมองดูข้อความไหลเข้ามา “เราเป็นเพื่อนกันแล้วเหรอ” “ผมจะเข้าไปกดรับมันขึ้นว่าเป็นเพื่อนแล้ว” ตายล่ะฉันจะบอกเขายังไง จะบอกว่ามือลั่นไปโดน เขาก็จะยิ่งรู้ว่าฉันส่อง “โหย ฝรรดีทำไมตอนนั้นผมดูมั่นหน้าจัง” เขารัวส่งข้อความมาเยอะจนฉันไม่รู้จะตอบอะไรดี แต่ที่แน่ๆ ฉันต้องหาเหตุผลดีดีสักข้อเพื่อจะเอามาอ้างไอ้ที่มือลั่นไปโดนไลก์ส่งให้เขาเนี่ย “แถวนี้มีวัดใกล้ ๆ ไหมคะ” ฉันไม่รู้จะถามอะไร ก็เลยถามไปแบบนั้น “มีครับใกล้ ๆ กับตลาดที่เราไปวันนั้นเลย ครูจะไปเหรอ” “ค่ะ” ก็ถามถึงวัดแล้วยังไงก็ต้องไปแล้วล่ะ จะบอกว่าถามเฉย ๆ มันก็ดูไม่มีเหตุผลเลย “แล้วไปยังไงครับ?” เขาจะพาไปแน่ ๆ เลยทำไงดีนะ ฉันกลัวเมียเขาตามไปตบถึงในวัด “ว่าจะหาเพื่อนไปค่ะ” “ถ้าว่างผมพาไปได้นะครับ ที่นั่นมีที่ให้อาหารปลา น้องแบมชอบมาก” ตายล่ะฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันหมายถึงจะหาเพื่อนที่ทำงานไป ฮือ...เหมือนฉันอ่อยเขาเลย “ไม่เป็นไรค่ะ” “ไม่ต้องเกรงใจ” “หรือถ้าครูกลัวคนจะมองไม่ดี ผมชวนป้าลีไปด้วยก็ได้” ไปกันใหญ่แล้ว แต่แค่ไปวัดเองใครจะมาคิดอะไร อีกอย่างก็ไม่ได้ไปกันสองต่อสองสักหน่อย “เสาร์นี้เวียนเทียนพอดีเลย คนเยอะด้วยครูสนใจจะไปหรือเปล่า” นั่นแหละที่ฉันไม่อยากให้เป็น แต่ถ้าไปเพราะเวียนเทียน คนก็น่าจะคิดว่าฉันแค่อาศัยติดรถไป อีกอย่างก็มีป้าลีที่เป็นเจ้าของบ้านที่ฉันเช่า มีน้องแบมที่เป็นนักเรียนของฉัน ไปทำบุญแท้ ๆ คงไม่มีใครคิดอกุศลหรอก” “ก็ได้ค่ะ” หลังจากที่ฉันตอบตกลงไปคุณบูมก็เงียบไปเลย แล้วทำไมฉันต้องรอเขาตอบด้วยล่ะ ฉันกลับเข้ามาในเฟซบุ๊กเพื่อเลื่อนดูอะไรไปเรื่อยระหว่างรอผมแห้ง “ไอริน” ‘เฟืองส่งรูปภาพ’ “คนที่แกเห็นว่าอยู่กับภูมิ คนนี้ป้ะ” เฟืองเป็นเพื่อนของฉันเอง ฉันกดดูรูปที่เพื่อนเพิ่งส่งให้ดู ภาพชายหญิงในชุดไทย ที่ดูยังไงก็รู้ว่าน่าจะเป็นชุดแต่งงาน “ไม่รู้ ไม่ได้สนใจแล้ว” ฉันตอบตามความจริง เพราะฉันไม่ได้สนใจเขาแล้วจริงๆ ‘ถึงเวลามูฟออน’ ฉันกลับเข้ามาหน้าไทม์ไลน์ตัวเองก่อนจะกดโพสต์ ‘ถึงเวลามูฟออน’ แต่พอฉันออกมาที่หน้าฟีดฉันกลับพบข้อความเหมือนกัน Boom Kittiphat เขาจะหาว่าฉันก้อบเขาหรือเปล่า 1 นาที เวลาไล่เลี่ยกับฉันด้วย ตลกน่าเรื่องบังเอิญมันจะเยอะขนาดนี้ไม่ได้นะ!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม