ปิ๊งรักคุณพ่อลูกติด
ผ้ายับที่พับไว้ เขียน
บทที่ 10
------ (ไอริน)
หลังจากที่ได้คุยกับคุณบูมครั้งก่อนก็ได้ความว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่าฉันหลบหน้าเพราะรังเกียจเขา ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย ฉันแค่ไม่อยากให้เขามีปัญหากับภรรยาเขาเฉย ๆ อีกอย่างก็ไม่ได้อยากให้ใครมาว่าฉันด้วย
Line!
‘ขวัญใจเชิญคุณร่วมกลุ่มผู้ปกครอง...’ ฉันเดินออกจากห้องน้ำมานั่งลงที่บนเตียงมือหนึ่งก็เช็ดผมที่กำลังเปียกชุ่ม ส่วนอีกข้างก็กดดูโทรศัพท์ที่เพิ่งจะมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมา
‘เข้ากลุ่ม’
ที่แท้ก็เป็นไลน์กลุ่มของผู้ปกครองเด็ก ๆ ในห้องฉันนี่เอง 25 สมาชิกฉันเลื่อนดูคนในกลุ่มส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ปกครองอาจจะมีอาจารย์ปนอยู่บ้างก็สองสามคน ฉันเลื่อนดูไปจนกระทั่งสะดุดตากับไอดีหนึ่งเข้า รูปโปรไฟล์ผู้ชายที่ใส่เสื้อรูปแมวคู่กับลูกสาวบนหัวคาดโบว์หูแมว มุ้งมิ้งซะจนไม่เกรงใจหนวดเคราบนหน้า ฉันเผลอหัวเราะออกมาก่อนจะกดเข้าไปดูรูปเต็ม รอยยิ้มและแววตาของเขาที่อยู่ในรูปนี้มันทั้งอบอุ่นและมีความสุขแบบรู้สึกได้เลย
‘Boom Kritiphat’ ฉันจำชื่อของเขาแล้วเอามาค้นหาในเฟซบุ๊ก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องไปอยากรู้เรื่องของเขาด้วย แต่เรื่องที่น่าตกใจกว่าที่ฉันเอาชื่อเขามาเสิร์ชหาทางเฟซบุ๊กเหมือนโรคจิตนั้น ก็คือเราเป็นเพื่อนในเฟซกันอยู่แล้ว
“ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!!”
‘ดูความเป็นเพื่อน’
ฉันรีบกดดู
‘พฤศจิกายน 2012’
“2012 เหรอ อืม...ปีนี้ 2019 งั้น...1 2 3 โห!! 7 ปีเลยสินะ” ฉันเป็นเพื่อนกับเขาได้ยังไงกันนะ ฉันกดเข้าไปดูข้อมูลอื่น ๆ เขาอีกตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น เกิด พ.ศ.....อืมแก่กว่าฉัน 2 ปี ฉันเลื่อนดูไทม์ไลน์ของเขาแทบจะทุกโพสต์ล้วนเป็นการแชร์คำคมเกี่ยวกับอนาคตและลูกทั้งสิ้นกดเข้าไปดูในอัลบั้มรูปก็แทบจะเป็นรูปน้องแบมทั้งหมด ต่อให้ลงรูปตัวเองก็เป็นรูปที่ถ่ายกับลูก ดูเขารักลูกมาก ๆ เลยล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกได้เลยก็คือที่เขาบอกว่าเขากับภรรยาไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ในเฟซบุ๊กของเขาไม่มีอะไรเลยที่จะบอกว่าเขาอยู่กับภรรยา ไม่มีรูป ไม่มีโพสต์ ไม่มีการแท็กหากัน ฉันเลื่อนย้อนมาจนเพลินก่อนที่มือจะกดไปโดนการเลือกดูไทม์ไลน์แบบระบุเวลา
“น้องแบมอายุ 56 ขวบ...ก่อนหน้าจะมีลูกเขาเป็นคนแบบไหนนะ” ฉันย้อนกลับไปดูหน้าไทม์ไลน์ของเขาสมัยที่ยังไม่มีลูก
‘มอนิ่งคร๊าฟสาว ๆ ไปเรียนคร๊าฟ’ การลงรูปพร้อมแคปชั่นภาษาวิบัติแบบนี้เชื่อไหมแม้แต่ฉันก็ยังเคยทำ เอ้อ...ดักแก่จังเลย แต่ก่อนตอนที่หน้าสะอาดสะอ้านเขาก็...ดูหล่อดีแฮะ นึกออกมั้ยหนุ่มเทคนิคใส่ช้อปสีกรมมีหนวดบาง ๆ ใส่สร้อยเชือกสีดำห้อยจี้เครื่องมือช่างที่ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไร (ประแจ) สมัยนั้นเขาคงฮอตน่าดูยอดไลค์ทะลุพัน หนึ่งในนั้นมีฉันปนอยู่ด้วย ทำไมจำเขาไม่ได้เลยนะ แต่ก็คงไม่แปลกหรอกเปลี่ยนไปซะขนาดนั้นน่ะ
‘ถึงวันที่รักใครสักคนด้วยหัวใจ กลับเป็นวันที่เลือกไม่ได้ว่าจะอยู่กับคนที่รัก’ ฉันเลื่อนย้อนขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะรู้สึกว่ายิ่งย้อนลงไปภาษามันยิ่งอ่านยาก แต่แล้วฉันก็ได้เจอกับโพสต์หนึ่งที่สะดุดตาเหลือเกิน
‘ทำไมไม่ลืมเธอไปแล้วยอมรับความจริง’ ที่เขาเคยบอกว่าต้องอยู่กับภรรยาเพราะมีน้องแบม ก็จริงสินะ
ฉันหยุดส่องเขาทันทีเพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะสอดรู้สอดเห็นมากไปแล้ว แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ทำไมฉันถึงมีเขาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กได้ ถึงเมื่อก่อนฉันจะเปรี้ยว แต่ก็คงไม่น่าจะเข้าทางของเขาอยู่ดี
‘ข้อความ’
ฉันกดเข้าไปดูเผื่อว่าเราจะเคยคุยกันบ้าง
‘ฝรรดีคลไลท์’ 2013-01-22
มีข้อความจากเขาส่งมาให้ฉันจริง ๆ แต่ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“อุ๊ย!!!” นี่ไงส่องจนเป็นเรื่องจนได้มือเจ้ากรรมดันไปกดโดนสติ๊กเกอร์ไลก์ซะงั้น
“อ้าวครู” ทำไงดีเขาอ่านแล้วด้วยตอบมาแล้วอีกต่างหาก แบบนี้เขาจะรู้ไหมอะว่าฉันส่องเขา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” เขารัวส่งข้อความมาให้ฉัน ฉันได้แต่วางโทรศัพท์ไว้บนที่นอนแล้วมองดูข้อความไหลเข้ามา
“เราเป็นเพื่อนกันแล้วเหรอ”
“ผมจะเข้าไปกดรับมันขึ้นว่าเป็นเพื่อนแล้ว” ตายล่ะฉันจะบอกเขายังไง จะบอกว่ามือลั่นไปโดน เขาก็จะยิ่งรู้ว่าฉันส่อง
“โหย ฝรรดีทำไมตอนนั้นผมดูมั่นหน้าจัง” เขารัวส่งข้อความมาเยอะจนฉันไม่รู้จะตอบอะไรดี แต่ที่แน่ๆ ฉันต้องหาเหตุผลดีดีสักข้อเพื่อจะเอามาอ้างไอ้ที่มือลั่นไปโดนไลก์ส่งให้เขาเนี่ย
“แถวนี้มีวัดใกล้ ๆ ไหมคะ” ฉันไม่รู้จะถามอะไร ก็เลยถามไปแบบนั้น
“มีครับใกล้ ๆ กับตลาดที่เราไปวันนั้นเลย ครูจะไปเหรอ”
“ค่ะ” ก็ถามถึงวัดแล้วยังไงก็ต้องไปแล้วล่ะ จะบอกว่าถามเฉย ๆ มันก็ดูไม่มีเหตุผลเลย
“แล้วไปยังไงครับ?” เขาจะพาไปแน่ ๆ เลยทำไงดีนะ ฉันกลัวเมียเขาตามไปตบถึงในวัด
“ว่าจะหาเพื่อนไปค่ะ”
“ถ้าว่างผมพาไปได้นะครับ ที่นั่นมีที่ให้อาหารปลา น้องแบมชอบมาก” ตายล่ะฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันหมายถึงจะหาเพื่อนที่ทำงานไป ฮือ...เหมือนฉันอ่อยเขาเลย
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจ”
“หรือถ้าครูกลัวคนจะมองไม่ดี ผมชวนป้าลีไปด้วยก็ได้” ไปกันใหญ่แล้ว แต่แค่ไปวัดเองใครจะมาคิดอะไร อีกอย่างก็ไม่ได้ไปกันสองต่อสองสักหน่อย
“เสาร์นี้เวียนเทียนพอดีเลย คนเยอะด้วยครูสนใจจะไปหรือเปล่า” นั่นแหละที่ฉันไม่อยากให้เป็น แต่ถ้าไปเพราะเวียนเทียน คนก็น่าจะคิดว่าฉันแค่อาศัยติดรถไป อีกอย่างก็มีป้าลีที่เป็นเจ้าของบ้านที่ฉันเช่า มีน้องแบมที่เป็นนักเรียนของฉัน ไปทำบุญแท้ ๆ คงไม่มีใครคิดอกุศลหรอก”
“ก็ได้ค่ะ” หลังจากที่ฉันตอบตกลงไปคุณบูมก็เงียบไปเลย แล้วทำไมฉันต้องรอเขาตอบด้วยล่ะ ฉันกลับเข้ามาในเฟซบุ๊กเพื่อเลื่อนดูอะไรไปเรื่อยระหว่างรอผมแห้ง
“ไอริน”
‘เฟืองส่งรูปภาพ’
“คนที่แกเห็นว่าอยู่กับภูมิ คนนี้ป้ะ” เฟืองเป็นเพื่อนของฉันเอง ฉันกดดูรูปที่เพื่อนเพิ่งส่งให้ดู ภาพชายหญิงในชุดไทย ที่ดูยังไงก็รู้ว่าน่าจะเป็นชุดแต่งงาน
“ไม่รู้ ไม่ได้สนใจแล้ว” ฉันตอบตามความจริง เพราะฉันไม่ได้สนใจเขาแล้วจริงๆ
‘ถึงเวลามูฟออน’ ฉันกลับเข้ามาหน้าไทม์ไลน์ตัวเองก่อนจะกดโพสต์
‘ถึงเวลามูฟออน’ แต่พอฉันออกมาที่หน้าฟีดฉันกลับพบข้อความเหมือนกัน Boom Kittiphat เขาจะหาว่าฉันก้อบเขาหรือเปล่า 1 นาที เวลาไล่เลี่ยกับฉันด้วย ตลกน่าเรื่องบังเอิญมันจะเยอะขนาดนี้ไม่ได้นะ!!