ส่วนคุณย่าไม่ต้องพูดถึง ยัยลูกจันทร์แสนดื้อ ต้องถูกสั่งเปลี่ยนแทบไม่ทัน รวมถึงชุดนี้อาจถูกทำลายจนย่อยยับไม่มีชิ้นดี เมื่อเห็นแววตาของพี่ชาย สาวสวยก็ยิ้มประจบ
“พี่เอกก็อย่าบอกคุณพ่อคุณแม่สิคะ ลูกจันทร์ขอวันนี้แค่วันเดียว นะ...นะ” ออดอ้อนอย่างทุกคราที่เคยใช้ได้ผล ก่อนคิ้วเรียงเส้นสวย กับดวงตากลมโตจะเบิกกว้าง
“เอ๊ะ! แล้วพี่มากับใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย” ผลัดเปลี่ยนหน้าที่ของตัวเองกลับมาเป็นผู้สอบสวนคดีเสร็จสรรพ ปลายนิ้วเรียวของผู้กองหนุ่มดีดเข้าให้ที่หน้าผากเกลี้ยงเนียน พร้อมขยี้ผมนุ่มสลวยผะแผ่ว
“น้อยๆ หน่อย พี่ไม่ได้มากับผู้หญิงหรอกน่า พี่มากับเพื่อน ผู้ชายมาดแมน” ยืนกรานเสียงแข็งในประโยคท้าย อันที่จริงต้องบอกไปว่า มากับโจรดีๆ นี่เอง
“แล้วไป ไม่งั้นลูกจันทร์จะไปฟ้องยัยฟองน้ำ”
ได้โอกาสสาวน้อยก็ยักคิ้วหลิ่วตาเป็นการใหญ่ ชื่อที่หลุดออกมาเล่นเอาดวงหน้าคมคร้ามถึงกับเครียดเขม็ง ดวงตาที่อ่อนโยนเมื่อครู่ส่อแววกร้าวแข็งขึ้น นึกถึงสาวน้อยที่คุณแม่รับมาอุ้มชู ส่งเสียเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ หนำซ้ำยังยกตำแหน่งลูกสะใภ้ให้อีกด้วย แค่คิดผู้กองหนุ่มถึงกับตีมาดเซ็ง
หันมามองน้องสาวคนสวยแล้วต้องส่ายหน้า เห็นแก่การเลี้ยงฉลองที่เพิ่งจบการศึกษา อย่างน้อยครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรก อีกอย่างลูกจันทร์ก็โตขึ้นมาก จะบังคับกะเกณฑ์เป็นเด็กๆ ก็คงจะไม่ไหว เดี๋ยวน้องสาวคนเดียวจะหัวระเบิดชิงตายไปซะก่อน ความคิดนี้คงเป็นของเขาเพียงคนเดียวในตระกูล สำหรับผู้ใหญ่ในบ้านทุกๆ ท่าน ลูกจันทร์น้องรักก็เป็นเพียงเด็กสาวที่ต้องอยู่ในสายตาเท่านั้น เบนหน้าจับจ้องดวงตาละห้อยก็ได้แต่ยิ้มบางๆ ส่งให้
“โอเค ก็ได้ ถือว่าครั้งนี้พี่จะปิดหูปิดตา แล้วเราก็อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกยัยเด็กแสบนั่นล่ะ พี่ขี้เกียจทะเลาะด้วย”
“อะไรพี่เอก พูดดีๆ หน่อย นั่นสุดที่รักของคุณแม่นะ เดี๋ยวเถอะ ถ้าหากคุณหญิงรัชนีได้ยินเข้า จากที่งานแต่งจัดขึ้นปีหน้าจะได้เลื่อนมาเป็นวันนี้พรุ่งนี้ไม่รู้ด้วย”
ยิ่งเรียวปากอิ่มจิ้มลิ้มโพล่งออกมามากเท่าไหร่ พี่ชายถึงกับต้องทำหน้ายุ่ง ยกมือตะปบเรียวปากอิ่มในประโยคท้ายแทบไม่ทัน
“ปากไม่เป็นมงคล”
“โอ๊ย! พี่เอก ลิปสติกลูกจันทร์เลอะหมด”
โอดครวญออกมาพร้อมยิ้มหวานส่งให้ คนเป็นพี่สั่นศีรษะหนักๆ ไปหลายที
“อย่ากลับดึกล่ะ พี่ไม่อยากหูชาไปด้วย คำบ่นจากคุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยเท่าไหร่ อย่าให้คุณย่าศศิออกโรงเอง รับรองเละแน่ๆ”
“รู้แล้วน่า พี่อย่าห่วงเลย ลูกจันทร์เอาอยู่!”
ฟังแล้วผู้กองหนุ่มต้องระเบิดเสียงหัวเราะกังวานออกมา ขยี้ศีรษะน้องสาวด้วยความรักความเอ็นดู
“ยัยเด็กดื้อ ดูแลตัวเองดีๆ”
ท้ายประโยคเล่นเอาคนฟังทำหน้าซึ้ง ก่อนจะตีบทเจ้าเล่ห์ตามนิสัย
“เจ้าค่า...คุณพี่ผู้ประเสริฐ”
นิศากรได้แต่จับจ้องแผ่นหลังของพี่ชายคนเดียวไปจนลับสายตา ไม่ว่าจะก่อเรื่องรุนแรงแค่ไหน พี่ชายสุดที่รักก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ อมยิ้มกริ่มในสีหน้า ก่อนจะก้าวเร็วๆ กลับไปยังโต๊ะ พอมาถึงก็เจอเข้ากับดวงตาอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนสนิท
“ใครอะแก หล้อหล่อ ฉันจีบได้ปะ”
เนตรดาว โสพรรณภี กระแซะกายใกล้ชิดเพื่อนสนิท พร้อมส่งลักยิ้มที่มุมปากให้ นิศากรส่ายหน้าพรืดเป็นคำตอบ
“ไม่ได้ เขามีเจ้าของแล้ว กินแห้วไปเลยยัยดาวเอ๊ย!”
“ฉันล่ะเซ็ง!”
บอกออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย หากดวงตายังคงสอดส่ายไปยังเทพบุตรสุดหล่อคนนั้น อยากรู้ใจแทบขาดว่าเขาเป็นใคร ท่าทางมาดแมนแสนเท่ ยกตำแหน่งผู้ครอบครองหัวใจให้เลย แต่เมื่อชะเง้อเท่าไหร่ก็ไม่เห็น ท้ายสุดสาวสวยก็ต้องยกน้ำพันซ์ขึ้นจิบไปเรื่อยๆ ไม่นานนัก เนตรดาวก็จับจูงมือลูกจันทร์คนสวย ไปดิ้นอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกด้วยความรื่นเริง ไม่นานนักเนตรดาวคนสวยก็กระซิบอีกครั้ง เมื่อเห็นจุดหมายที่ปรารถนา
“ไม่บอกหน่อยหรือว่าเขาเป็นใคร อย่าใจร้ายนักสิลูกจันทร์”
คุณหนูแห่งเทพฤทธิ์หัวเราะคิก “แกจำพี่ชายฉันไม่ได้หรือยัยดาว นั่นน่ะ พี่เอกย่ะ ผู้กองเอกฤทธิ์ไง สนปะล่ะ”
ได้ยินชื่อแล้วถึงกับส่ายหน้าพรืดโดยไม่ต้องคิด
“ไม่เอาแล้ว พี่แกเหรอนั่น ฉันนึกถึงความร้ายกาจแล้วขนลุกอะ เสียดายความหล่อ เสียดายความรวยชะมัด”
“ทำไม พี่ฉันก็แค่ปากเสียเป็นที่หนึ่ง เจ้าอารมณ์ไม่มีใครเกิน ดิบๆ โหดๆ ซ้อมผู้ต้องหาที่มันกวนประสาทก็แค่นั้น”
“ยัยบ้า! ฉันไม่เอาหรอก อีกอย่างมีคู่หมั้นคู่หมายแล้วไม่ใช่รึไง”
“อืม...ยัยฟองน้ำน่ะ ว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณแม่ฉันล่ะ”
“จะไหวเหรอ ฉันว่าสองคนนั้นถ้าแต่งงานกันจริงๆ ต้องทะเลาะกันสามครั้งหลังอาหาร บ้านแตกแน่ๆ ยัยฟองน้ำถึงจะเรียบร้อยอ่อนหวานในสายตาคุณแม่ของเธอ แต่แสบไม่ใช่ย่อยนี่”
พูดพลางนึกถึงความร้ายกาจ ฟองน้ำ หรือ ฑิฆัมพร อิศวการ ที่เคยเห็นบ่อยๆ เวลาไปทำรายงานที่บ้านเพื่อนรัก ดูท่าทางเรียบร้อยแต่ใครจะคิด หากโมโหขึ้นมา ขนาดพี่เอกยังเคยหัวแตกมาแล้ว
“ทำไงได้ ก็คุณแม่ชอบฟองน้ำ รักและสงสารมากๆ ด้วย”
ลูกจันทร์เอ่ยออกมา พร้อมหวนไปถึงว่าที่พี่สะใภ้ ฟองน้ำอายุอ่อนกว่าเธอเพียงปีเดียวเท่านั้น คุณพ่อและคุณแม่ของเธอ ถูกฆาตกรรมตายพร้อมๆ กัน ไปเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา เธอกับครอบครัวอยู่ข้างบ้านข้างเรือน คุณแม่กับคุณย่านึกสงสาร เลยให้ย้ายมาอยู่ด้วยพร้อมชุบเลี้ยง ส่งเสียเล่าเรียนจนเติบใหญ่ หนำซ้ำคุณแม่ยังหมายมั่นปั้นมือยกตำแหน่งลูกสะใภ้คนโปรดให้อีก ออกปากดังลั่นบ้าน ถ้าหากพี่เอกไปคว้าคนอื่นมาแล้วละก็ มีหวังบ้านแตกเป็นเสี่ยงๆ แน่