bc

After One night stand รัก(ไม่)ผูกพัน (25+)

book_age18+
936
ติดตาม
3.0K
อ่าน
วันไนท์สแตนด์
จบสุข
หมอ
ผู้สืบทอด
คนใช้แรงงาน
หวาน
ชายจีบหญิง
ฉลาด
วิทยาลัย
addiction
like
intro-logo
คำนิยม

คิดว่าเราเหมาะสมกันไหมล่ะ?! ฉันเป็นสาวบาร์ทำงานกลางคืน ส่วนเขาเป็นหมอสูติลูกครึ่งญี่ปุ่น! ทำงานโรงพยาบาล!

หมอสูติ x สาวบาร์ = มันเป็นไปไม่ได้!!

แต่ฉันดันไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาน่ะสิ!! ฉันคิดว่ามันแค่ฉาบฉวย แค่สนุก เพราะเราอยากเมื่อไหร่ก็เจอ เสร็จเมื่อไหร่ก็แยก..

แต่มันไม่ใช่แค่นั้น อยู่ๆฉันก็เสพติด

เป็นโรคขาดเขาไม่ได้!

_________________________

“ไม่ตลก หมอจะจริงจังกับสวยจริง ๆ เหรอ” เขาหันมามอง แล้วถอนหายใจยาว ๆ ใส่ฉัน

“ที่พูดมาทั้งหมด คงเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาสินะ ลูกพ่อ อย่าเอาแม่มาให้มากนะ มันจะลำบากในอนาคต”

แม่งอิหมอ! ฉันแค่ถามเพื่อความแน่ใจ!

“สวยถามให้แน่ใจเฉย ๆ แล้วนี่จะไปไหน!”

“ไม่บอก หนีไปแล้วยังจะถามมากอีก” เออ ผิดหมดตอนนี้ หายใจยังผิดเลยกู

“หมอ พูดจริงเหรอ” เขาถอนหายใจ แล้วตบไฟเลี้ยวจอดข้างถนนทันที

“ลงไปเลย รำคาญแล้ว” อิหมอ!

“ไม่ ไม่ลง จะแต่งงาน จะได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนสักที” อิหมอกลอกตามองบน ก่อนจะอมยิ้มออกมา

“แรด”

“แรดแต่รักหมอนะ” นางนิ่งทันที... แล้วหันมามองฉันตาเป็นประกาย

“หืม... งั้นกลับไปเอากันที่ห้องดีกว่า...” วนเข้าแต่เรื่องบนเตียง ฉันไม่ทันปฏิเสธ... อิหมอก็รีบขับรถ ตรงดิ่งไปที่คอนโดนางเลย

ฉันที่อุ้มท้องสี่เดือน... กำลังเดินควงแขนเขาขึ้นห้อง ภาพมันเหมือนเดิมเด๊ะ ๆ ต่างแค่อีสวยมีลูกในท้อง

นี่ขนาดมีลูกนะ หมอเคนยังไม่เว้นเลย

มาถึงห้องก็ฟัดฉันทันที!

“อิหมอ สวยท้องอยู่ ที่พูด... นึกว่าพูดเล่น” เขาดันตัวฉันติดผนังห้อง ทั้งซุกและไซร้ซอกคอ เหมือนอดอยากมาแต่ชาติปางก่อนยังไงอย่างงั้น!

“ทำได้แล้ว ฉันเป็นหมอนะเว้ย รู้หมดล่ะ... ว่าท่าไหนเอาได้บ้าง” หมอบ้าอะไรเถื่อนขนาดนี้

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
สวย | ภารกิจง้อผู้ชาย
‘สวัสดีค่ะ ท่านผู้โดยสารทุกท่าน ขณะนี้เราได้นำท่านมาถึง ท่าอากาศยานคันไซ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นแล้วค่ะ เวลาท้องถิ่นขนาดนี้ คือ... ยี่สิบเอ็ดนาฬิกา สามสิบนาที โปรดนั่งประจำที่ จนกว่าสัญญาณรัดเข็มขัดจะดับลง’                “Excuse me, would you let me pass?” ฉันสะดุ้งตื่นทันที เมื่อสาวเจแปนข้าง ๆ ใช้มือเย็น ๆ มาแตะแขน                ก่อนที่ฉันจะรีบขยับขาให้สาวเจแปนออกไป แล้วเห็นทุกคนกำลังยืนขึ้นหยิบกระเป๋า และสัมภาระตัวเอง ซึ่งตอนนี้เครื่องได้จอดเทียบงวงช้าง เชื่อมตัวอาคารขาเข้าเรียบร้อยแล้ว                ถึงแล้วเหรอ หลับไปนานเลย เฮ้อ นี่ฉันถ่อสังขาร บินมาง้อผู้ชายถึงญี่ปุ่นเลยเหรอ อีสวยเอ้ย แกจะไปติดใจอะไรอิหมอเคนนักหนา แค่ขาดของ แต่ก่อนก็อยู่ได้นี่! แกซื้อดิลโด้ ไข่สั่น กลับไปด้วยก็สิ้นเรื่อง                ไม่ต้องไปง้อเขาก็ได้! เสียฟอร์ม!                ฉันบ่นกับตัวเองในใจ แล้วรีบลุกขึ้นเดินออกจากเครื่อง ฉันมาที่นี่ฉายเดี่ยวทุกด่าน ตั้งแต่นั่งรถไฟเชื่อมอาคารเข้า ตม.ผ่านศุลกากร จนไปถึงรอกระเป๋าที่โหลด                นี่! ไม่ใช่ไก่กานะคะ! ฉันศึกษามาพอสมควร รถไฟใต้ดินโอซาก้าจะหมดเวลาเที่ยงคืน ส่วนไอ้พวกรถไฟที่ออกจากสนามบินมันหมดห้าทุ่ม                กว่าฉันจะผ่านด่าน ตม. รอกระเป๋า โอ๊ย... มันจะห้าทุ่มอยู่แล้ว                ฉันจะทำยังไงดี! เคยอ่านมาในพันทิป มีนักท่องเที่ยวหลายคนวิ่งไม่ทัน ถึงขั้นเลือกนอนที่สนามบินกันเลย                อีสวยควรทำยังไง ฉันพยายามตามกลุ่มนักท่องเที่ยวคนอื่น จนพวกเขาเดินออกมาที่ชานชาลารถบัส! แต่ฉันจะไปรถไฟ โอ๊ย... คนพวกนี้มากับกรุ๊ปทัวร์นี่น่า!                ห้าทุ่มสี่นาที จบกัน อีสวยไปไหนไม่ได้เลย อีสวยที่ไม่ไก่กาคนนี้ ศึกษามาแค่รถไฟเจ้าค่ะ                ฉันเดินลากกระเป๋าคอตกกลับเข้าอาคาร เออแม่งนอนก็นอนวะ!                ฉันเลือกเก้าอี้ติดกับบันไดเลื่อน วางกระเป๋าทุกอย่างไว้ ก่อนจะหยิบแต่ของมีค่าและอุปกรณ์ล้างหน้าเข้าห้องน้ำ                รถไฟเที่ยวแรกกี่โมงนะ ฉันนั่งชักโครกอัตโนมัติแปลกประหลาดอยู่สักพัก ก็นึกได้ รีบหยิบมือถือขึ้นมา หาข้อมูลไว้ก่อนดีกว่า                แต่... ไม่มีสัญญาณ มีก็แปลกแล้ว! ฉันยังไม่ได้ซื้อซิมเลย!                มันเป็นทริปด่วน ต้องเข้าใจ พรุ่งนี้ค่อยซื้อแล้วกัน                ฉันเดินหน้าสดออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินกลับไปนอนยาวบนเก้าอี้ที่จองไว้ พยายามหาเสื้อคลุมมาปิดหน้า... แต่ทำยังไงก็ไม่หลับ!                คือฉันนอนบนเครื่องมาแล้ว ยิ่งเจอเสียงพนักงานทำความสะอาดรอบดึก รวมถึงเสียงประกาศในสนามบิน ที่ดังทุกสิบห้านาที!                ฉันนอนไม่หลับจริง ๆ ไม่น่ามาเลย!! มาทำไมวะเนี่ย!                ฉันนอนลืมตามองเพดาน... นอนฟังเสียงประกาศแต่ละไฟลท์เรื่อย ๆ จนเช้า...                ท้องฟ้าสว่าง ฉันก็รีบลุกขึ้นไปหยอดตู้ซื้อซิม ถ้าเรามีอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้น ถูกไหม!                ทริปง้อผู้ชายของอีสวยต้องรอด                พอได้ซิมมา ฉันจะหยิบมือถือขึ้นมาใส่ซิม แต่กลับว่างเปล่า                มือถือหายไปไหน เฮ้ย! อย่าล้อเล่นดิ                ฉันมือสั่นไปหมด พยายามรวบรวมสติเปิดกระเป๋าหาดี ๆ มันไม่มีจริงด้วย!                โคตรซวย! ฮือ ๆ ทำไงดีวะ ฉันนั่งนึกอยู่นานสองนาน ว่าตัวเองใช้มือถือครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ จนภาพในห้องน้ำมันลอยขึ้นมาเป็นฉาก ๆ                ห้องน้ำ!                ฉันรีบลากกระเป๋าวิ่งกลับไปที่ห้องน้ำ ทั้งห้องส้วม ทั้งกระจกตรงอ่างล้างหน้า ไม่มีอะไรเลย                แล้วฉันจะทำยังไง ที่ิอยู่อิหมอเคนก็อยู่ในมือถือ แผนที่รถไฟ Booking โรงแรม ก็แคปไว้ในนั้นหมด                ไฟล์ทกลับก็อีกตั้งสองวัน ฉันอุตส่าห์เผื่อเวลาไว้ กินไข่ออนเซ็น ของหมอเคนที่นี่                โอ๊ย... บรรลัยจริง! อีสวยเริ่มเกลียดความเงี่-น ของตัวเองแล้ว!                ทำไงดี แม่จ๋า ยายสาย เพื่อนกิ่ง โอ๊ย คิดถึงไหวพริบมันเลย อีสวยไร้หนทางแล้ว                ฉันนั่งแต่งประโยคภาษาอังกฤษอยู่สิบนาที ก่อนจะตัดสินใจเดินไปขอความช่วยเหลือกับประชาสัมพันธ์ พยายามฟังเขาตอบกลับมา พอจับใจความได้ว่า...                ยังไม่มีใครเก็บมือถือมาฝากไว้เลย เขาถามว่าลืมไว้ที่ไหน จะพยายามช่วยหา ถ้าไม่เจอก็ขอโทษด้วย                แล้วก็ยืนขึ้นก้มโค้งขอโทษฉัน                ฉันนั่งคอตกที่สนามบินจนเย็น ทั้งวันฉันกินแค่ข้าวกล่อง กับขนมใน Lawson จนตอนนี้เลี่ยนคอไปหมด                มือถือก็ไม่มีให้เล่น ฉันเบื่อมาก จึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินแม่ง เดินลากกระเป๋าไปมา เดินไปยืนดูไฟลท์ขาเข้า นับเล่นขำ ๆ หาอะไรทำฆ่าเวลา                เอ๊ะ... TG626 Arrival บ่ายสามโมงสี่สิบนาที มีไฟลท์การบินไทยด้วย! การบินไทยต้องมีคนไทยชัวร์ แล้วตอนนี้เครื่องลงพอดี! โชคดีจัง ไฟลท์ถึงเวลานี้เขาคงไม่รีบไปไหนกันหรอก มันเย็นแล้ว เฮ้อ... ฉันจะขอความช่วยเหลือจากคนไทยด้วยกันนี่ล่ะ                อีสวยฉลาดสุด ๆ                ฉันรีบเดินไปรอฝั่งผู้โดยสารขาเข้า ชะเง้อมองสักพัก พยายามหาผู้ใจดี และน่าจะให้ความช่วยเหลือฉันได้                เจอแล้ว! กลุ่มนี้ล่ะ ผู้หญิงวัยกลางคนเดินออกมากลุ่มใหญ่ มากันขนาดนี้เขาต้องมีแผนการเดินทางหรืออินเทอร์เน็ตแน่ ๆ                “ขอโทษนะคะ พี่คนไทยใช่ไหมคะ” พี่ผู้หญิงกลุ่มนั้นดูงง ๆ ก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ ให้ฉัน                “ค่ะ มีอะไรรึป่าวคะ” หนึ่งในนั้นตอบมา                “ขอยืมโทรศัพท์เข้าเฟซได้ไหมคะ พอดีหนูมาหาเพื่อน และติดต่อเขาไม่ได้ หนูทำมือถือหายค่ะ รบกวนได้ไหมคะ หนูไปไหนไม่ได้เลย งงไปหมด” ทุกคนมองหน้ากัน กระซิบกระซาบกันด้วย                “เอ่อ... พี่ยังไม่มีซิมเลยค่ะ ยังงง ๆ กันอยู่เลย ลองถามคนอื่นดูนะ” แล้วก็รีบจูงมือกัน กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไป                    ไม่มีน้ำใจ! คนไทยด้วยกันนะเนี่ย เฮ้อ! แต่ช่างมันเถอะ คนอื่นก็ได้ เขาคงระแวง คิดว่าฉันจะเป็นพวกมิจฉาชีพละมั้ง                ฉันมองหาเป้าหมายใหม่ ที่กำลังเดินออกมาเรื่อย ๆ จนไปสะดุดตากับผู้หญิงผมสั้นคนนึง เธอกดโทรศัพท์ไปเดินไป หน้าตาเคร่งเครียด คิ้วขมวดผูกกันเป็นโบว์                กิ่ง... กิ่ง...                ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม! อีกิ่งจริง ๆ ฉันรีบโบกมือให้ แต่กิ่งกลับมองไม่เห็นฉัน มันก้มมองแต่โทรศัพท์และพิมพ์ไม่หยุด                จนฉันรีบเดินอ้อมราวกั้น ไปดักรอกิ่งที่ทางออกแทน                กิ่งก้มหน้าเดินมาเร็ว ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นดูทางออก และบังเอิญหันมาสบตากับฉันพอดี                “สวย!” กิ่งเบิกตากว้าง และรีบวิ่งมากอดฉันแน่น                ส่วนฉันยังช็อค แทนที่จะกรี๊ดดีใจ อีกิ่งมันเป็นนางฟ้าของอีสวยแท้ ๆ ตั้งแต่สมัยมหาลัย ที่มันช่วยฉันหลุดจากโปรตัวสุดท้าย และสอบมิดเทอมที่ฉันตกซ้ำ ๆ มันก็ช่วยฉันมาตลอด                จนมาถึงตอนนี้ ฉันมาเจอมันที่ญี่ปุ่น! เจอมันตอนที่ฉันหมดหนทาง หาที่พึ่งไม่ได้ มันเป็นไปได้ไง!                “แกทำไมยังอยู่สนามบิน แกมาตั้งแต่เมื่อวานไม่ใช่เหรอ? จะกลับแล้วเหรอ” อยู่ ๆ น้ำตาฉันก็ไหลออกมา ฉันกอดกิ่งแน่น มันพูดไม่ออกจริง ๆ เหมือนฉันกำลังจะขาดใจตาย แล้วมีคนมาให้ออกซิเจน                กิ่งผละกอดออกมา มองฉันงง ๆ ตามเคย                “แกเป็นอะไร”                “แกมือถือฉันหาย ไปไหนไม่ถูกเลย ที่อยู่หมอเคน Booking โรงแรมอยู่ในนั้นหมด ฮือ ๆ” กิ่งตกใจมองฉัน สลับกับกระเป๋าเดินทาง                “แกนอนที่สนามบินเหรอ แกอยู่ที่นี่ตลอดเลยเหรอสวย” ฉันพยักหน้าตอบทั้งน้ำตา                “ใช่ ฮือ ๆ ก็ไปไหนไม่ได้ ภาษาฉันก็งู ๆ ปลา ๆ แถมสำเนียงคนญี่ปุ่น แม่งชอบลงท้ายด้วย อิเดสก๊ะ ฟังแล้วต้องมาเดาอีก เครียด ๆ ๆ”                กิ่งน้ำตาคลอ แต่ยังหัวเราะออกมาได้                “มือถือหายเหรอ ไม่น่า แกไม่อ่านไลน์ ไม่ตอบไลน์ฉันเลย ฉันจะส่งไปบอกแก... ว่าหมอเคยอยู่ไทยแล้ว”                ฉันบีบไหล่กิ่งสองข้างทันที อะไรนะ หมอเคน!                “หมอเคนอยู่ไหนนะ!”                “เอ่อ... ไทย” ฉันมาที่นี่ทำไมวะ! แม่ง อิหมอ กิ่งก้มมองนิ้วตัวเองทันที เมื่อเห็นฉันหายใจฟึดฟัดโมโห                แล้วแม่ลูกอ่อนแบบมัน บินไปนู่นมานี่ได้ไงเนี่ย ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ ไหนผัว ไหนลูกอีก                “ฉันมาลำบากเปล่า ๆ เพราะอีหมอเคนเลย เซ็ง! แกมาได้ไง ผัว กับลูกล่ะ” กิ่งยิ้มบาง ๆ ให้ฉัน                “อยู่ไทย ผัวเลี้ยงลูก ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ไฟลท์กลับวันไหน วันนี้เหรอ”                “อีกสองวัน” เพื่อนสาวถึงกลับยิ้มกว้างออกมา                “ไหน ๆ ก็มาแล้ว เที่ยวกัน” เที่ยว! กิ่งรีบดึงฉันออกมา ก่อนจะขึ้นไปชั้นสอง ซื้อตั๋วรถไฟออกจากสนามบิน                “ฉันเข้าไวไฟสนามบิน จองโรงแรมแป๊บนะ” อยู่ ๆ กิ่งก็หยุดเดิน ยืนกดโทรศัพท์                เป็นเลขานี่ทำอะไรรวดเร็วจริง ๆ แป๊บเดียวกิ่งก็ได้ Booking โรงแรม พร้อมกับตั๋วรถไฟ ตารางรถไฟ ครบ!                ตัวเมืองโอซาก้าไกลจากสนามบินมาก เรานั่งรถไฟออกจากสนามบินเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง                “แกมาไม่เสียเที่ยวหรอกสวย เราจะไปเที่ยวกันสองสาว” เหมือนกิ่งมันกำลังเอาแผนเที่ยวมาปลอบใจฉันยังไงอย่างงั้น                “แกรู้ได้ไง ว่าหมอเคนอยู่ไทยแล้ว” กิ่งหุบยิ้มทันที แล้วยิ้มเจื่อน ๆ ให้ฉันแทน                “หมอเคนเอาโค้ดไปให้คุณบอสดูที่บริษัทอ่ะแก คือของพัสดุเขาพึ่งถึง ฉันนึกว่าเขายังอยู่ที่นี่ซะอีก พอฉันรู้ ก็รีบจองตั๋วบินตามแกมาเลย ยิ่งติดต่อแกไม่ได้ด้วย... เป็นห่วง”                กิ่งทำหน้ามุ่ย ฉันไม่โกรธมันหรอก มันไม่ได้ผิดอะไรเลย                “หมอเคน รู้ไหมว่าฉันมาที่นี่ เขาว่าไงบ้างแก พูดอะไรบ้างไหม”                กิ่งนิ่งไปอีก มันรีบหันไปทางอื่น หลบตาฉัน                “กิ่ง แกบอกมาเถอะน่า อย่าโกหกนะ” กิ่งสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับมาตอบฉัน                “เขาหัวเราะ แล้วบอกว่า ฉันทำดีมากที่ส่งแกมาหลง”                อีหมอเคน!                ฉันแสบจมูก ร้อนผ่าวไปทั้งคอ ฉันจะร้องแล้ว อีสวยลำบากเพราะมาง้อมัน แต่ดูอิหมอมันทำสิ                “เฮ้ย แกอย่าร้อง ๆ ใกล้ถึงสถานีกลางแล้ว ไปเช็คอินโรงแรม ไปเดินชินไซบาชิดีกว่า ป่ะ ๆ” ฉันพยักหน้าตอบกิ่ง                ก่อนจะรีบออกจากสถานีรถไฟ เดินลากกระเป๋าไปเช็คอินที่โรงแรม ซึ่งกิ่งมันจัดการให้ทุกอย่าง พอเก็บของเสร็จเราก็ออกไปเดินเที่ยวกัน อากาศกำลังเย็นสบาย... ฉันชอบจัง                เรานั่งรถไฟแค่หนึ่งสถานีก็มาถึง ชินไซบาชิ                ที่นี่เป็นถนนสายช้อปยาว ๆ ทะลุกัน มีเครื่องสำอาง มีเสื้อผ้า มีทุกอย่าง                โอ๊ย... แต่มันไม่ได้ช่วยให้ฉันหายเศร้าเลย                ยกเว้น... Sex Shop!                ฉันเห็นร้านสีแดง ๆ นี้ ถึงกลับยืนนิ่งทันที ก่อนจะพยายามส่องเข้าไปในร้าน จนกิ่งที่เดินนำ หันหลังเดินกลับมา                “แก เป็นอะไร? ไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปซื้อบัตรท่องเที่ยว Amazing Pass มันฟรีรถไฟ ฟรีค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว เหมาะกับเราที่ไม่ได้วางแผนมา คุ้ม!”                กิ่งอธิบายบัตรอะไรให้ฉันฟังก็ไม่รู้ ฉันไม่สนใจเลย มันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาหมด                “แก เข้าไปกัน” กิ่งหันขวับมองตามฉัน ที่เล็งแต่ร้านสีแดง ๆ                “บ้า! ร้านผู้ชาย แกมันแปลก ๆ ป่าว ไปเถอะ!” มันพยายามดึงมือฉัน ให้เดินไปจากหน้าร้าน Sex Shop นี้ แต่ทว่าเท้าฉันมันกลับยึดพื้นไว้แน่น                เหมือนที่ตรงนี้ จะเป็นที่สำหรับหญิงสาวผู้บ้าเซ็กส์อย่างอีสวย…                “ผู้ชายอะไร ผู้หญิงก็มี ไปเถอะ แก… นี่มันญี่ปุ่นนะ ไม่มีใครรู้จักเราเว้ย” กิ่งส่ายหน้ารัว                “แกจะเข้าไปซื้ออะไร” ทำไมมันต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยเนี่ย มีลูกมีผัวแล้ว น่าจะประสีประสาขึ้นมาบ้าง                “เข้ามาเถอะ ฉันจะแนะนำของเล่นกระชับรัก… ให้แกกับผัว”                “สวย… โนว ๆ” กิ่งพยายามแกะมือฉันออก เรื่องแบบนี้ อีสวยไม่ยอมง่าย ๆ หรอก! ไหน ๆ ก็มาแล้ว มันต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้างล่ะ                สวรรค์ของอีสวย...

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
8.3K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
10.4K
bc

ไฟรักซาตาน

read
51.6K
bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
9.0K
bc

ยังเก็บดวงใจไว้ให้เธอNC25+++

read
9.0K
bc

Warning baby เมียห้ามเลิกรัก

read
3.1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook