ณ คอนโดหรูของวิลาสินีที่เควินเป้นคนซื้อให้
"คุณเควิน หนูเจ็บค่ะ!" เสียงของวิลาสินีดังก้องไปทั้งทางเดินเมื่อเธอโดนคนตัวโตฉุดกระชากให้เดิน ข้อมือขาวกลายเป็นสีแดงเนื่องจากโดนบีบรัดอย่างรุนแรงตั้งแต่อยู่ที่ผับ มาถึงคอนโด พอเขาจอดรถได้ก็ลากเธอลงจากรถพร้อมกับอารมณ์โมโห เธอไม่รู้ว่าเขาไปโกรธอะไรจากที่ไหนมาถึงได้มาลงที่เธอแบบนี้ แต่การที่เขาเปลี่ยนจากคุณใจดีมาเป็นคนโหดร้าย มันทำให้เธอรู้สึกกลัวเขาจับใจ
"เอาคีย์การ์ดมา" เควินออกคำสั่งเสียงดุแล้วปล่อยมือจากข้อมือเล็กเพื่อที่จะให้หญิงสาวได้หยิบคีย์การ์ดมาเปิดห้อง เขาเมินใบหน้าตื่นกลัวของหญิงสาว เขารู้ว่าเธอกำลังกลัว ซึ่งเขาต้องการให้เป็นแบบนั้น เธอจะได้จำว่าไม่ควรทำตัวเหลวไหลอย่างเช่นวันนี้อีก
"คุณเควิน.." วิลาสินีเรียกชื่อคนน่ากลัวเสียงสั่น ความหวาดกลัวทำให้เธอไม่ได้ทำตามสั่ง และนั่นจึงทำให้กระเป๋าที่เธอถืออยู่ถูกกระชากออกไปจากมือ
"อ๊ะ!"
เควินไม่สนใจเสียงหวานร้องอุทาน เขาเปิดกระเป๋าสะพายของหญิงสาวแล้วค้นหาคีย์การ์ดห้องซึ่งก็หาได้ไม่ยากเพราะภายในกระเป๋าของเธอไม่ได้มีของอะไรมากมาย
ในกระเป๋าของวิลาสินีมีเพียงโทรศัทพ์มือถือ กระเป๋าสตางค์ทรงยาว ลิปติกหนึ่งแท่งและแป้งฝุ่นกระป๋องเล็กเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์การเรียนที่เธอนำไปสอบในวันนี้ เธอทิ้งไว้ที่ห้องของแป้งร่ำ เพื่อให้การไปเที่ยวกลางคืนจะได้ไม่มีของให้เกะกะ
เควินใช้คีย์การ์ดแตะไปที่เครื่องสแกนการควบคุมการเปิดปิดของประตู หลังจากได้ยินเสียงสัญญาณและไฟสีเขียวที่ตัวเครื่อง เขาก็เปิดประตูพร้อมทั้งหันมาคว้าข้อมือเล็กลากเข้าห้องไปอย่างคนใจร้อน
"คุณ จะ..จะไปไหน?" วิลาสินีถามเสียงติดขัดเมื่อโดนลากมุ่งหน้าไปยังประตูห้องนอน สองขายั้งไว้ไม่ยอมก้าวเดิน มือข้างที่ว่างเอื้อมไปแกะนิ้วแข็งแรงที่บีบข้อมืออีกข้างจนเห่อแดง
ใจดวงน้อยเต้นระทึกเมื่อคิดไปถึงเรื่องอกุศล กลัวว่าเขาจะทำอะไรในสิ่งที่ชายหญิงทำกัน ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีท่าทีคุกคามเธอเลยสักครั้ง ตลอดสองปีที่เขากลับไปอังกฤษ หากว่ามาที่ประเทศไทยเขาก็จะแวะมาหาเธอที่นี่ ให้เธอทำอาหารให้รับประทานหรือไม่เขาก็จะเป็นคนทำเอง พอรับประทานอิ่มก็กลับไป
แต่การแสดงท่าทีชัดเจนของเขาในวันนี้ ทำเธอคิดไปว่าเขาตั้งใจจะทำมิดีมิร้ายเธอแน่นอน
"เธอเป็นเด็กทุนที่เกเร" เควินพูดตำหนิเสียงต่ำในลำคอ มือหนาข้างที่ว่างจับลูกบิดเปิดประตูห้องนอนแล้วพาตัวเองและเด็กทุนที่เคยเป็นคนดีเข้าไปด้วย
"และ..แล้วยังไงคะ?" วิลาสินีถามสุ้มเสียงสั่นเมื่อเขาพาเธอหยุดเดินที่ข้างเตียงนอนขนาดหกฟุต ดวงตากลมตื่นตระหนกมองใบหล่อที หันไปมองยังที่นอนสีหวานของตัวเองทีสลับกันไปมา ความหวาดระแวงทำให้เธอเผลอกลืนน้ำลายลงคอดังอึก
"ผมจะมีบทโทษสำหรับเด็กเกเร" เควินเอ่ยเสียงรอดไรฟัน สายตาคมหลุบมองยังเต้าอวบที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงรุนแรงเนื่องจากผู้เป็นเจ้าของกำลังตื่นกลัว อารมณ์อยากจะจับหญิงสาวฟาดก้นได้พุ่งขึ้นมาอีกเป็นระดับ เมื่อคิดไปว่าชายในผับนั้นก็ได้มองก้อนเนื้ออวบสองคู่นี้ไปแล้ว เขาหึงเขาหวง ไม่อยากให้ใครมามองของสวยงามที่เฝ้าทะนุถนอนมาตั้งสองปี แต่เด็กทุนตัวดีดันไปแต่งตัวยั่วชายอื่นเสียอย่างนั้น ยิ่งคิด อาวุธที่เขาจะนำมาฟาดหญิงสาวยิ่งขยายใหญ่จนอึดอัดคับเป้าไปหมด
"คุณจะลงโทษหยะ..ยังไง?" วิลาสินีถามเสียงติดขัด พยายามชวนคุยขณะที่ในหัวกำลังหาทางเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
"ผมจะหยุดให้ทุน" เควินตอบเสียงรอดไรฟันเมื่อไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์กำหนัดตัวเองได้อีกต่อไป มือหนาข้างที่ว่างเร่งปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเนื้อดีของตนอย่างเร่งรีบโดยที่อีกมือจับข้อแขนนุ่มไม่ปล่อยแม้ว่าคนตัวเล็กจะพยายามบิดออก
"งะ..งั้นคุณจะหยุดให้ทุนหนูเหรอ?" วิลาสินีเริ่มเห็นหนทางความปลอดภัยของร่างกายตัวเองแล้ว แต่แล้ว คำพูดต่อมาของเขาก็ทำให้เธอใจดวงน้อยหล่นวูบ
"สำหรับเด็กทุนคนอื่นน่ะใช่ แต่เธอน่ะผมจะลงโทษวิธีอื่น ขึ้นไป!" พูดจบเควินก็ใช้ประโยชน์ของมวลกล้ามเนื้อแข็งแรงที่ได้มาจากการออกกำลังกายเป็นประจำ เหวี่ยงคนร่างเล็กอกโตให้ขึ้นบนที่นอนนุ่มง่ายดายราวกับเธอเป็นกระสอบนุ่น
"ว้าย!" เสียงเล็กร้องอุทานเสียงดังลั่นห้องที่เธอโดนคนตัวโตเหวี่ยงขึ้นเตียง เท้าเล็กรีบยันกระเถิบถอยหลังหนีอันตรายจากคนตรงหน้าที่เขาได้ถอดเสื้อออกจากตัวไปแล้วและเขาก็ปลดเข็มขัดก่อนจะถอดกางเกงสแลกส์เนื้อดีออก เหลือไว้แค่กางเกงในที่มีอวัยะความเป็นชายพาดเป็นลำอยู่ที่หน้าท้องแกร่ง
"ผมเลี้ยงเธอดีเกินไปสินะเลยริอ่านหนีไปเที่ยวผับ" เควินเอ่ยเสียงดุดันพลางคลานขึ้นไปหาเด็กดื้อสุดสวย เอื้อมมือไปจับข้อเท้าขาวแล้วกระชากพรืดลงมาจนร่างบางนอนหงายอยู่ตรงหน้า จับขาเรียวทั้งสองข้างคร่อมสะโพกแกร่งไว้ กระโปรงสั้นของเธอได้ร่นขึ้นไปกองอยู่บนสะโพกผาย สายตาคมมองยังต้นขาเนียนทั้งสองข้าง พ่นลมหายใจหืดหาดเมื่อได้เห็นเนินนูนระหว่างขาเนียน ไม่คิดว่าเธอจะมีสมบัติติดตัวที่ใหญ่ทั้งบนทั้งล่าง และนั่นยิ่งทำให้ลำแก่นกายเต้นตุ้บปวดหนึบไปหมด
"อย่าทำหนูเลย หนูจะไม่เที่ยวแล้ว" วิลาสินีเอ่ยขอร้อง สองมือช่วยกันดึงชายกระโปรงปิดจุดสงวนที่โดนสายตาคมมองไม่ละสายตา
"ผมให้ทุนเธอไปตั้งสี่ปี หมดไปตั้งกี่ล้านแล้ว ไม่คิดจะตอบแทนกันบ้างหรือไง" ขณะที่ผู้อุปการะเอ่ยทวงบุญคุณ มือหนาจับรวบสองมือเล็กขึ้นไว้เหนือศีรษะ เมื่อหมดสิ่งกีดขวาง ฝ่ามือสากก็ลูบไล้ผิวขาเนียนนุ่มได้สะดวก เขาทั้งนวดทั้งเค้นหนักมือตามอารมณ์ที่คุกรุ่นขึ้นมาเรื่อย ๆ จับไม่ได้ว่าเป็นอารมณ์ไหนกันแน่ระหว่างความโมโหกับความกระสันอยาก
"คุ..คุณชอบทวงบุญคุณกับเด็กที่ให้ทุนแบบนี้เสมอเหรอ รู้ไหมถ้าอาจารย์รู้คุณจะเป็นยังไง?" วิลาสินีรวบรวมความกล้าข่มขู่ หวังว่าจะทำให้เขาคิดได้ว่าสิ่งที่กำลังจะทำนั้นผิดมหันต์ เขาแสดงเจตนาชัดเจนว่าจะข่มเหงรังแกเธอ ถ้าสถานศึกษารู้ว่าพ่อพระมีพฤติกรรมน่ารังเกียจแบบนี้จะต้องเป็นเรื่องแน่นอน
วิลาสินีพยายามบิดตัวหนีฝ่ามือกร้านที่ลวนลามเธอนอกผ้าไปทั้งตัว สองเข่าแข็งเข้ามาช้อนใต้ต้นขาบังคับให้เธอแยกขากว้าง กดลำแข็งตุงกลางหว่างขาแกร่งมาบดเบียดอยู่ที่ร่องเนื้อนอกกางเกงใน เขาบดสิ่งนั้นเข้าใส่เธอหนักหน่วงอย่างคุกคามเต็มที่จนเธอรู้สึกเจ็บหนึบที่กลางจุดความสาว
"ผมไม่เคยทวงกับใคร เธอเป็นคนแรกที่ผมอยากทวง" พูดจบเควินก็ก้มลงปิดปากเอิบอิ่มที่ช่างเจรจานั่นเสีย กลิ่นแอลกอฮอล์ที่คลุ้งอยู่ในโพรงปากนุ่มมันทำให้เขาเกิดอารมณ์โมโห เลยระบายออกทางจูบ กระแทกปากตะกรุมตะกรามจูบสาวไร้ประสบการณ์อย่างหนักหน่วงตั้งใจจะลงโทษเด็กดื้อด้วยจูบเร่าร้อน เขารู้สึกได้ถึงการสั่นสะท้านของกายนุ่ม แต่เขาก็ไม่หยุดจนกว่าเขาจะกวาดเอากลิ่นแอลกอฮอล์น่าโมโหให้หมดไปจากโพรงปากนุ่ม
................................
อย่าให้ลุงโได้มโห ลุงจะกลายเป็นคนเถื่อนให้ดู ?