ผับ X
"ดีที่เรามาเร็วเลยมีโต๊ะให้เลือกเยอะ ทางนี้" แป้งร่ำพูดแล้วเดินนำวิลาสินีเข้าไป ตอนนี้เพิ่งเป็นเวลาผับเริ่มเปิดจึงมีนักท่องราตรีไม่เยอะ ทำให้แป้งร่ำมีโอกาสเลือกโต๊ะนั่งที่ถูกใจได้
แป้งร่ำได้ทำการสั่งเครื่องดื่มที่ส่วนผสมแอลกอฮอล์อ่อน ๆ ให้วิลาสินีเพราะเห็นว่าเพื่อนไม่เคยดื่ม ส่วนเธอนั้นสั่งเครื่องดื่มที่เข้มขึ้นมาอีกนิด ถ้าไม่ได้แอลกอฮอล์เธอก็จะเต้นไม่ออก
"วิวลองดู แอลกอฮอล์ไม่เยอะ" แป้งร่ำดันแก้วที่บริกรนำมาเสิร์ฟให้กับเพื่อน
วิลาสินีจึงเอื้อมมือไปหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมา แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ยกขึ้นจิบ แป้งร่ำก็ร้องยั้งเสียงดัง
"เดี๋ยว ๆ มาชนแก้วกันก่อน สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะเพื่อนรัก ขอให้ได้ผู้หล่อ ๆ รวย ๆ " แป้งร่ำอวยพรให้เพื่อนอย่างกับว่าพวกเธอทั้งคู่นั้นสนใจเพศตรงข้ามเสียเต็มประดา
แต่ความจริงแล้วมีผู้ชายเข้ามาจีบพวกเธอทั้งสองคนมากมายเนื่องจากรูปร่างหน้าตาที่สวยงามของพวกเธอที่มักดึงดูดเพศตรงข้าม แต่สองสาวสวยก็ไม่คิดจะคบใครเลยสักคน
"ขอบใจย่ะ ขอให้แกได้หนุ่มหล่อรวยเช่นกัน" วิลาสินียิ้มกว้างกับคำอวยพรเล่น ๆ ของเพื่อน ยื่นแก้วไปตรงหน้าที่มีแป้งร่ำยื่นมารออยู่แล้ว
แก๊ง..
เสียงแก้วสองใบชนกันเป็นการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของวิลาสินี ก่อนจะต่างคนต่างยกขึ้นจิบ
"อื้อหือ.. หวาน อร่อยจัง" วิลาสินีดันแก้วออกจากปาก ตะแคงใบหน้ามองน้ำสีฟ้าในแก้วอย่างสงสัย ไม่คิดว่าเครื่องดื่มมึนเมาจะมีรสหวานอร่อยขนาดนี้ แล้วหญิงสาวก็เกิดความชอบใจจึงได้ยกขึ้นกระดกดื่มอึก ๆ
"ค่อย ๆ ดื่มวิว เดี๋ยวเมา" เสียงแป้งร่ำร้องห้าม แต่สาวสวยอีกคนไม่ฟังเพราะเธอได้ยกดื่มหมดไปแล้ว
"ฟู่.. ร้อนท้องเลยแฮะ" วิลาสินีห่อปากไล่ไอแอลกอฮอล์ออกทางปากอิ่ม มือเล็กวางแก้วลงโต๊ะอย่างเสียดายที่น้ำแสนอร่อยได้หมดไปแล้ว
"มองหาอะไรเหรอ?" แป้งร่ำถามเมื่อวิลาสินีหันซ้ายขวา มองหาอะไรสักอย่าง
"อยากได้แบบนี้อีก สั่งให้หน่อยสิ" วิลาสินีตอบพลางยิ้มหวานให้เพื่อน ดวงตาที่เคยฉายประกายตื่นเต้นในตอนเดินเข้ามา ตอนนี้กลายเป็นหวานอ้อน เดาว่าคงจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์แน่ ๆ
"อีกแก้วแล้วก็พอนะ เล่นดื่มแบบนี้มีหวังได้เมาก่อน ฉันก็ไม่ได้ออกไปแดนซ์พอดี" แป้งร่ำพูดก่อนจะเห็นพนักงานเสิร์ฟเดินมาพอดีจึงได้ยกมือเรียกแล้วสั่งเครื่องดื่มให้เพื่อนหัดดื่มของตน
ไม่นานเครื่องดื่มที่วิลาสินีติดใจก็ถูกนำมาให้ ครั้งนี้เธอแค่ค่อย ๆ ดื่ม ไม่กระดกซดเหมือนแก้วก่อนหน้าแล้ว
สองสาวโยกตัวเบา ๆ ตามจังหวะดนตรีเชื่องช้าเป็นการเรียกน้ำย่อยความรื่นเริงพลางจิบเครื่องดื่มไปพลาง ๆ จังหวะนั้นนักท่องราตรีก็ทยอยเข้ามา โต๊ะข้าง ๆ พวกเธอที่เคยว่าง ก็ได้มีกลุ่มวัยรุ่นชายมานั่งกันทั้งสองโต๊ะซ้ายขวา
"โว้ย!" เสียงเควินตะโกนระบายความหงุดหงิดเมื่อเขาต้องใช้เวลาขับรถถึงหนึ่งชั่วโมงกว่า ถึงจะมาถึงสถานเริงรมย์เป้าหมาย เนื่องจากระหว่างทางได้มีอุบัติเหตุรถชนกัน ทำให้รถติดเป็นแถวยาวเหยียด
เมื่อลงจากรถได้ ร่างสูงก็สาวเท้ายาว ๆ เร่งเดินเข้าไปด้านในทันที
เควินเข้าไปก็เจอกับนักสืบที่เขาให้เฝ้าวิลาสินีไว้ก่อน เพื่อให้ดูความเคลื่อนไหวและคอยดูแลความปลอดภัยให้หญิงสาว
"อยู่ตรงไหนกัน?" เควินถามเสียงห้วน ยิ่งเข้ามาด้านใน เขาสัมผัสได้กับบรรยากาศที่อึกทึก ควันบุหรี่ลอยฟุ้ง แก้วเครื่องดื่มหลากหลายรูปทรงที่มีน้ำเมาอยู่ในนั้นวางอยู่บนโต๊ะของนักดื่ม อารมณ์ของเขาก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีกระดับที่ต้องเข้ามาในสถานที่ที่เขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไร
"นั่งอยู่ตรงนั้นครับ ดื่มไปสี่แก้วแล้ว" นักสืบพยักหน้าไปยังโต๊ะของสองสาวนั่งอยู่ โดยสองโต๊ะขนาบข้างเป็นชายวัยรุ่นหน้าตาชีกอทั้งสองโต๊ะ
"เด็กคนนั้นดื่มไปสี่แก้วเลยเหรอ?" เควินหันกลับไปถามนักสืบอย่างไม่เชื่อหู เด็กดีของเขาดื่มไปขนาดนั้นเลยเหรอ สัญญาว่าต่อจากนี้เขาจะไม่ให้เธอเฉียดเข้าผับอีกเลย
"ครับ ผมดูอยู่ตลอด" นักสืบยืนยัน เขาเฝ้าดูสองสาวตลอดเวลาตั้งแต่ที่เข้ามาด้านใน เพราะกลัวว่าหากคลาดสายตาแล้วเด็กโปรดของเจ้านายอาจจะได้รับอันตรายจากนักท่องราตรีซึ่งไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไรนัก
"กลับได้เลย พรุ่งนี้จะให้อานนท์โอนเงินพิเศษให้" เควินเอ่ยกับนักสืบเพื่อให้สิ้นสุดภารกิจในคืนนี้ เมื่อสิ้นเสียงทุ้ม นักสืบฝีมือดีก็ผงกศีรษะทำความเคารพก่อนจะเดินออกไปจากผับ
"วิว.." เควินกัดฟันกรอดคำรามชื่อหญิงสาวอย่างคาดโทษ สายตาคมกริบจับจ้องไปยังใบหน้าหวานไม่วางตาขณะที่ก้าวเข้าไปหา
เควินเห็นเด็กดื้อกำลังทำหน้ายิ้มแย้มพูดคุยกับเพื่อน ทั้งคู่โยกตัวตามจังหวะเพลงปลุกเร้าที่ดีเจเปิด โดยไม่ได้สนใจสายตาโลมเลียของผู้ชายที่นั่งขนาบทั้งสองโต๊ะนั้นเลย
"เฮ้ย เค มาเที่ยวเหรอวะ?"
ตอนที่เควินเดินใกล้จะถึงโต๊ะของวิลาสินีอยู่แล้ว ก็มีเสียงทักพร้อมกับมือหนึ่งจับไหล่รั้งเอาไว้ เมื่อเขาหันไปมองก็พบว่าเป็นวายุเพื่อนสนิทของนั่นเอง
"เปล่า" เควินตอบห้วน ๆ แค่นั้นแล้วจึงเดินต่อ ไม่ได้สนใจเมื่อเจอเพื่อนสนิทเพราะตอนนี้หัวใจแกร่งใกล้จะระเบิดอยู่แล้วที่ได้มาเห็นเด็กดีของเขามานั่งให้ผู้ชายมอง อารมณ์ตอนนี้ทั้งหึงทั้งหวงรุนแรง จนแทบจะควักเอาลูกตาของชายวัยรุ่นพวกนั้นออกมาแล้วบดขยี้ด้วยเท้าให้แหลกราน
วายุที่ได้เห็นความหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเพื่อนจึงคิดเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาเลยเดินตามหลังเพื่อนไปติด ๆ
"แป้งร่ำ ฉันอยากกินอีก" วิลาสินีบอกกับเพื่อนเมื่อเครื่องดื่มตรงหน้าหมดแก้วแล้ว ความหอมหวานติดอยู่ที่ริมฝีปากทำให้เธออยากดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้อีก
"สี่แก้วแล้วนะแก พอก่อนแล้วค่อยสั่งใหม่" แป้งร่ำเอ่ยห้าม แม้เครื่องดื่มที่เธอสั่งให้เพื่อนจะมีแอลกอฮอล์ผสมเจือจาง แต่ดื่มไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้มึนเมาได้เช่นกัน ดูได้จากตอนนี้ที่นัยน์ตาของวิลาสินีได้กลายเป็นหวานเยิ้มไปแล้ว
"สี่แก้วแต่แก้วมันเล็ก ดื่มแป๊บเดียวก็หมดแล้ว" วิลาสินีบ่นอุบที่เพื่อนไม่ยอมตามใจ เธอจึงจะสั่งดื่มเองโดยการชะเง้อมองหาพนักงานเสิร์ฟ
แต่แล้ววิลาสินีก็ต้องตัวชาวาบ อ้าปากค้างนั่งนิ่งไม่ไหวติงเมื่อเห็นผู้มีพระคุณเดินตรงเข้ามา สายตาคมกริบมีแววตำหนิทำให้เธอรู้สึกกลัวเขาขึ้นมาฉับพลัน เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างกัน
"เด็กเกเร" เควินเดินเข้าประชิดตัวแล้วคำรามเสียงทุ้มว่าให้หญิงสาว
"คุณเควิน.." วิลาสินีครางเรียกชื่อคนตัวโตเสียงเบา จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีก้อนกลมวิ่งตีตื้นขึ้นมาในลำคอ เธอจึงพยายามกลืนน้ำลายเพื่อดันก้อนนั้นให้ลงไปอย่างยากลำบาก
อึก..
"กลับ!" เควินออกคำสั่งน้ำเสียงดุดัน มือแกร่งเอื้อมไปจับต้นแขนนุ่มดึงให้เธอลุกขึ้น แต่ว่าเขาคงจะออกแรงมากไม่หน่อย จึงทำให้ร่างบางที่ลุกขึ้นแล้วเซถลาเข้ามาปะทะกับแผงอก ก้อนอกอวบกระแทกที่อกแข็งอย่างจัง แล้วเขาก็ได้รู้ว่าสองเต้าที่ซ่อนอยู่ในร่มผ้านั้นนุ่มหยุ่นเพียงใด ทันใดนั้นเขาก็รู้ถึงการตื่นของอวัยวะสืบพันธุ์ มันกระตุกหงึกพองขยายตัวแน่นกางเกงเพียงแค่ได้สัมผัสผิวนุ่มผิวเผิน
"คุณเควิน" วิลาสินีเรียกชื่อผู้อุปการะเสียงตื่น เธอไม่เคยเห็นโกรธเกรี้ยวขนาดนี้มาก่อน
"หยิบกระเป๋ามา" เควินหันไปเห็นกระเป๋าสะพายใบคุ้นตา ที่เขามักเห็นในภาพถ่ายในตอนที่นักสืบส่งรูปมาให้ จึงรู้ได้ว่ากระเป๋าใบนี้เป็นของหญิงสาว
"วิว.." แป้งร่ำเรียกเพื่อน เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี ไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร รู้แต่ว่าทั้งคู่นั้นรู้จักกัน
"วิวจะกลับกับผม" เควินหันไปตอบแป้งร่ำก่อนจะคว้าเอากระเป๋าสะพายของวิลาสินีมาถือไว้เองเมื่อเจ้าของไม่ยอมหยิบขึ้นมาเสียที ตั้งท่าจะออกเดินแต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนตัวเล็กขืนแรงไว้
"เดี๋ยวสิ แล้วเพื่อนหนูล่ะ?" วิลาสินีถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ตนเองน่าห่วงกว่าเป็นไหน ๆ มือเล็กพยายามแกะมือแกร่ง ไม่ยอมเดินตามแรงดึงของคนตัวโต
เควินได้แต่กระแทกลมหายใจอย่างหัวเสียเมื่อทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจเพราะเด็กเคยดีของเขาไม่ยอมกลับไปกับเขา ทันใดนั้นชายหนุ่มก็หันไปเจอกับวายุที่ไม่รู้ว่ามันมายืนข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไร แล้วเขาก็หาทางออกในสถานการณ์หงุดหงิดนี้ได้
"เดี๋ยวให้เพื่อนผมไปส่ง" เควินตอบเสียงห้วนแล้วดึงกระชากให้คนตัวเล็กออกเดิน
"ฝากด้วย" เควินฝากฝังแป้งร่ำไว้กับวายุในตอนที่กำลังจะเดินผ่านเพื่อน จากนั้นจึงดึงแขนเด็กหัดเกเรออกไปสถานที่ไม่น่าสบอารมณ์แห่งนี้
...............................
ยัง ๆ เขายังไม่ได้ฟาดกัลลล 555555