สองเดือนต่อมา
หลังจากที่เจอสาวน้อยที่ทำให้หัวใจแกร่งหวั่นไหวในงานแต่งของภูผาแล้ว เควินก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ได้ติดตามข่าวคราวเพราะเขาให้คนตามดูเป็นประจำ
โดยปกติแล้ว สำหรับเด็กทุนคนอื่นเขาจะให้ตามดู 2-3 เดือนครั้งหรืออาจจะห่างกว่านั้นเพื่อดูพฤติกรรมของเด็กเหล่านั้น
แต่สำหรับเด็กทุนที่ชื่อวิลาสินีนั้น ผู้ให้ทุนสุดหล่อให้นักสืบไปตามแทบจะวันเว้นเพื่อให้ถ่ายรูปสาวน้อยส่งมาให้ดู แม้ว่าเขาจะอยู่ต่างประเทศ แต่เขาก็ได้เห็นสาวหน้าหวานได้ตลอด
ถึงภาพที่นักสืบส่งมาจะเป็นภาพของสาวน้อยในกิจวัตรซ้ำ ๆ ที่เธอนั้นไปช่วยแม่ของเธอที่ร้านเบเกอรีระหว่างที่รอให้มหาวิทยาลัยเปิดเทอม แต่เขาก็ดูภาพเหล่านั้นไม่เคยเบื่อ
วันนี้ เป็นวันที่เควินได้กลับมาประเทศไทย ขณะที่กำลังคุยงานอยู่กับอานนท์อยู่นั้น นักสืบก็ได้ส่งรูปสาวน้อยหน้าคุ้นมาให้
ติ๊ง..
"พอก่อน" เมื่อได้ยินเสียงเตือนจากโทรศัพท์ เควินก็ยกมือห้ามเสียงรายงานจากผู้ช่วยหนุ่มแล้วหยิบไอแพดขึ้นมาเปิดดู
วันนี้วิลาสินีไม่ได้ไปช่วยงานแม่ของเธอเพราะต้องจัดกระเป๋าเตรียมตัวไปพักที่หอพัก ภาพสาวน้อยหน้ามันผมเผ้ายุ่งเหยิงทำให้ริมฝีปากหยักได้รูปของผู้บริหารหนุ่มต้องอมยิ้ม ถึงภาพของสาวน้อยที่เขาเห็นจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดูดีนัก แต่ในสายตาของเขาเธอน่ารักสดใสน่าเอ็นดูที่สุด
"รู้สึกว่าเจ้านายจะให้ความสนใจเด็กทุนคนนี้มากกว่าคนอื่นนะครับ" อานนท์อดไม่ได้ที่จะทักพฤติกรรมที่ไม่ปกติของเจ้านาย เขาแปลกใจตั้งแต่ที่เควินถามหาประวัติของเด็กทุนคนนี้แล้ว ปกติเจ้านายไม่เคยถามชื่อหรืออยากจะเห็นหน้าใคร แต่วันนั้นเจ้านายกลับให้เขาส่งรูปเด็กทุนคนนี้ไปให้ นับแต่นั้นมาเขาก็จะได้คำสั่งให้นักสืบไปตามดูเธอบ่อยครั้งมาก
"ไม่เห็นจะแปลก เธอได้เงินไปจากฉันมากที่สุด ก็ต้องตามดูพฤติกรรมกันหน่อย" เควินตอบขณะที่ยังไม่หยุดเลื่อนดูรูปต่าง ๆ ที่ถูกส่งมาเป็นสิบ ๆ รูป
"อย่างนั้นเองเหรอครับ" อานนท์อมยิ้มให้กับความปากแข็งของเจ้านาย เจ้านายของเขาคงไม่รู้ตัวหรอกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำหน้าอ่อนโยนขนาดไหนตอนที่กำลังปัดหน้าจอดูรูปของเด็กสาวคนนั้น
"เธอได้หอพักแถวไหน?" เควินเอ่ยถามผู้ช่วยหนุ่ม
"หอพัก J เป็นหอพักรวมใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยครับ" อานนท์ยกไอแพดขึ้นแล้วทำการค้นดูข้อมูลแล้วจึงตอบออกไป
"ทำไมไม่อยู่หอพักหญิง ไม่รู้หรือไงว่าหอพักรวมมันอันตราย" เควินบ่นให้เด็กทุนคนสวยของตน ขมวดคิ้วแทบจะชนกันอย่างไม่พอใจที่เด็กคนนั้นเลือกสถานที่พักเสี่ยงภัยอย่างนั้น ยิ่งหน้าตารูปร่างดีอยู่ด้วย ขนาดเขาที่ว่าควบคุมอารมณ์กับเรื่องอย่างว่าได้ยังแข็งขึ้นมาได้ง่าย ๆ แล้วพวกวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงอายุกลัดมันมีเหรอที่พวกนั้นจะไม่มีอารมณ์เมื่อต้องเห็นเธอบ่อย ๆ
"หอพักหญิงที่ใกล้ ๆ เต็มน่ะครับ เธอไม่อยากเดินทางไกลเลยเลือกที่นี่" อานนท์ตอบตามที่ได้ข้อมูลมา
"คิดอะไรอยู่นะเด็กคนนี้ ติดต่อให้มาเจอผมหน่อย" คิ้วหนายังไม่คลายการขมวดในตอนที่ออกคำสั่ง ด้วยความเป็นห่วงเลยทำให้เควินลืมกฎเหล็กไปหมดสิ้นที่ว่าจะไม่เจอกับเด็กทุนของตน
"เอ๊ะ! อะไรนะครับ?" และนั่นทำให้อานนท์ถึงกับย้อนถามเสียงดังเมื่อไม่แน่ใจกับสั่งที่เพิ่งออกมาจากปากผู้เป็นนาย
"หูหนวกหรือไง บอกให้เรียกมาเจอผมหน่อย ตอนบ่ายผมโมงมีนัดกินข้าวกับคุณมานัชใช่ไหม เรียกเธอมาพบผมที่ร้านอาหารตอนบ่ายสาม" เควินช้อนตามองลูกน้องคนสนิทด้วยความไม่พอใจ
"แล้วจะบอกว่าให้มาเจอใครครับ?" ที่อานนท์ต้องถามเพราะรู้ว่าเจ้านายไม่ชอบแสดงตัวให้เหล่าเด็กทุนรับรู้
"บอกว่าให้มาเจอกับคนที่ให้ทุนเธอ"
แต่คำตอบที่ผู้ช่วยหนุ่มได้ยินนั้น แสดงให้เห็นว่าเจ้านายของเขาต้องการแสดงตัวให้เด็กทุนคนสวยรู้ว่าเป็นใคร แบบนี้เจ้านายของเขาก็เริ่มจะฉีกกฎที่ตั้งไว้ไปทุกทีแล้วน่ะสิ
หลังจากที่วิลาสินีได้รับโทรศัพท์ของคนที่บอกว่าเป็นผู้ช่วยของคุณใจดี ที่เธออยากจะมีโอกาสขอบคุณเขาสักครั้งในช่วงสองปีที่ได้รับทุน เธอจึงได้รีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านตั้งแต่เที่ยงวันเพราะสถานที่นัดนั้นไกลจากบ้านพอสมควร ก่อนออกจากบ้านเธอไม่ลืมที่จะโทรศัพท์ไปบอกกับวารีว่าจะไปพบคุณใจดีคนนั้น เพราะกลัวว่าผู้เป็นแม่กลับมาบ้านแล้วไม่เจอเธอ ท่านจะคิดเป็นห่วง
วิลาสินีมาถึงสถานที่นัดก่อนเวลาประมาณสี่สิบนาที ร้านอาหารที่ทางคุณผู้ช่วยแจ้งมาเป็นร้านอาหารที่อยู่บนชั้นบนสุดภายในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง
เด็กสาวเห็นว่ายังไม่ถึงเวลานัดจึงได้เดินเล่นอยู่ด้านล่างก่อน ด้วยใจเธอนั้นอยากจะซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นการตอบแทนในน้ำใจของคุณใจดีจึงได้เดินไปและคิดไปพลางว่าจะซื้ออะไรดี
ขณะที่เดินผ่านหน้าร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์หรู สายตาของเธอได้มองไปเห็นผ้าเช็ดหน้าที่วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ และดูจากราคาเป็นราคาที่นั้นสามารถจ่ายได้ เธอจึงได้เดินเข้าไปเพื่อเลือกดูและได้ผ้าเช็ดหน้าสีกรมท่าเนื้อดีมาผืนหนึ่ง
วิลาสินีได้ให้พนักงานห่อให้อย่างสวยงาม ขณะที่ยืนรอให้พนักงานของร้านจัดการให้อยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ได้ดังขึ้น มือน้อยจึงได้รีบล้วงขึ้นมาจากกระเป็าสะพายข้างแล้วรีบปัดหน้าจอรับทันที
"สวัสดีค่ะ"
'สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณอยู่ไหนครับ?'
เป็นเสียงของคุณผู้ช่วยที่ติดต่อมาเมื่อเช้านั่นเอง
"หนูมาถึงแล้วค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ชั้นสอง"
'งั้นขึ้นมาที่ชั้นสิบได้เลยครับ ผมจะรอรับอยู่หน้าลิฟต์'
"ค่ะ" วิลาสินีรับคำแล้วรอให้ทางปลายสายเป็นคนกดวางสายเอง
ในตอนนั้นเองที่พนักงานได้ห่อของขวัญเสร็จพอดี เด็กสาวจึงได้รีบจ่ายเงินและเดินไปยังลิฟต์โดยสารเพื่อขึ้นไปยังชั้นสิบที่คุณผู้ช่วยบอกมา
วิลาสินีขึ้นมาถึงชั้นสิบในไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเธอก็เห็นชายตัวสูงในชุดสูทเรียบกริบคนหนึ่ง เมื่อเขาเห็นเธอเดินออกไป เขาก็ยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาราวกับว่าเขารู้เคยเห็นหรือรู้จักเธอเป็นอย่างดี
"สวัสดีครับ ผมอานนท์คนที่โทรหาคุณ" อานนท์แนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ริมฝีปากอมยิ้มพอใจ ตัวจริงของเด็กทุนคนนี้สวยหวานบาดใจ มิน่าล่ะ เจ้านายของเขาถึงได้ตามข่าวเธอแจ ไม่อยากจะคิดอกุศลกับเจ้านาย แต่หน้าตาและทรวดทรงของสาวน้อยทำให้เขาคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยจริง ๆ
"สวัสดีค่ะ" วิลาสินีรีบยกมือไหว้ทำความเคารพผู้ที่อายุมากกว่าตนทันที ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มหวานให้กับอานนท์อย่างต้องการผูกมิตร
"เชิญทางนี้ครับ" อานนท์พูดพร้อมกับหันหลังกลับแล้วเดินนำเด็กสาวไปด้านใน
วิลาสินีเดินตามคุณตัวสูงพลางลอบสังเกตร้านอาหารสุดหรู ภายในร้านตกแต่งด้วยไฟสลัว ๆ มีไฟส่องสว่างเฉพาะโต๊ะเท่านั้น แต่ละโต๊ะนั้นถูกจัดไว้ห่างกันพอสมควรเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้าที่ดูแล้วน่าจะมีแต่คนมีฐานะที่มาใช้บริการ กะด้วยตาคร่าว ๆ เนื้อที่ของร้านอาหารน่าจะกินเนื้อที่ทั้งชั้นเลยทีเดียว
วิลาสินีเดินตามอานนท์ไปจนถึงประตูหนึ่ง บริเวณนี้ถูกแบ่งเป็นห้อง ๆ ที่ดูเป็นส่วนตัวกว่าด้านนอกจนเธอรู้สึกเกร็ง
ก๊อก ๆ
อานนท์ยกมือเคาะเป็นสัญญาณก่อนจะเปิดประตูและดันให้เปิดค้างอยู่อย่างนั้น
"เชิญครับ คนที่อยากพบคุณอยู่ในนี้" อานนท์ยิ้มอบอุ่นบอกกับสาวน้อย
"แล้วคุณล่ะคะ?" จู่ ๆ วิลาสินีก็รู้สึกกลัวคุณใจดีขึ้นมาเสียดื้อที่รู้ว่าจะต้องอยู่กับคุณเขาตามลำพัง
"ผมต้องกลับไปทำงานต่อครับ" อานนท์ตอบอย่างใจดี
"เข้าไปเถอะครับ เจ้านายผมเป็นคนใจดี ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มอบทุนให้เด็กตั้งหลายคน" อานนท์พูดต่อเมื่อเห็นว่าสาวน้อยเริ่มหวาดเกรง
"ค่ะ" วิลาสินีจึงต้องเดินเข้าไปในห้องเพียงลำพัง เธอหันไปมองทางประตูเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูด้วยฝีมือของผู้ช่วยหนุ่ม
เท้าเล็กค่อย ๆ ก้าวเดินไปข้างหน้า สองมือกำหูถุงของขวัญแน่นด้วยความประหม่า ดวงตากลมมองไปด้านหน้าก็เห็นเพียงด้านหลังของคุณใจดี เมื่อเขานั่งหันหลังให้เธอและมองออกไปทางผนังกระจกกว้าง มองเห็นวิวทิวทัศน์เป็นฉากกว้าง
"สะ..สวัสดีค่ะ" จู่ ๆ เสียงหวานก็ติดขัดขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"มาแล้วเหรอ?"
................................
พวกเขาจะเจอกันอีกแล้ว ลุงจะเปิดเผยตัวเองแล้วววววว "ไม่อยากยุ่งกับเด็กทุน" ใครนะที่พูดคำนี้ไว้ 55555