ตอนที่ 9

1760 คำ
เวลาผ่านไปนานขนาดไหนไม่รู้แต่มีคนหลับแล้วคงจะเพลียละสิท่า เขาลูบหัวเธอเบาๆเพราะให้นอนตักตอนนี้หมอกำลังเดินทางมารอที่เพนท์เฮ้าส์แล้วแต่รถเขาติดแหง็กอยู่กลางถนนไม่ขยับไปไหนเลย ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อนเขาคงอารมณ์เสียมากแต่ในตอนนี้ไม่รู้สึกเลยทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด เขานั่งนิ่งหลับตาลงอย่างใจเย็นเพราะเวย์คนเดียวที่ทำให้เขาสงบได้มากขนาดนี้และเพียงแค่ลูบผมนุ่นไปมาแบบนี้ก็มีความสุขมากแล้ว ความรักมันน่าแปลกแบบนี้เสมอเลย!! “นายครับคุณโทนี่ชวนไปกินข้าวเย็นกับคุณรีอา” ทิมหันไปรายงานและต้องสตั้นกับภาพที่เห็น “ไม่ไปจะดูแลเมีย” เขาบอกเสียงเบามากกลัวว่าเธอจะตื่น “ครับผม” ทิมยิ้มอ่อนเมื่อได้เห็นความอ่อนโยนผ่านสายตาและเสียงของนายแล้วขนลุก มาถึงเพนท์เฮ้าส์แล้วหมอพร้อมพยาบาลที่เรียกตัวมาเตรียมทุกอย่างรอไม่ว่าจะยาฉีดลดไข้ อุปกรณ์ทำแผลต่างๆเหลือแค่เมียที่ไม่พร้อมรึเปล่าถึงได้นั่งตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากลัวขนาดไหนแต่ไม่เป็นไรเขาอยู่ตรงนี้ เขาจะอยู่ตรงนี้เพื่อเธอเลยนะ! “หนองขึ้นเต็มเชียว!” “ก็หนูกลัว” แผลเธอบวมแดงขึ้นมาชัดเจนแล้วอักเสบขนาดไหนไม่ต้องบอกก็รู้แล้วนี่ยังมีหนองขึ้นจนน่ากลัวอีกที่สำคัญมันไม่ใช่แค่ขาแต่เป็นแขนด้วย ฮาร์ดินลูบผมเวย์เบาๆเข้าใจนะเธอกลัวแต่กับเขานั้นรู้สึกเฉยๆเพราะมากกว่านี้เขาก็เคยเห็นมาแล้วแต่จะทำยังไงให้เธอหายกลัวละ เขาไม่เคยมีน้องสาวหรือแม้แต่ดูแลเด็กหรือดูแลใครอย่างอ่อนโยนเลยไม่รู้ว่าควรทำยังไง ปรกติใครแหกปากร้องเขาตบจนสลบหมดแต่เวย์มันทำไม่ได้! จะตบเมียเหมือนลูกน้องไม่ได้เดี๋ยวตายก่อน! เอาไงดีวะ? “ทำแผลเสร็จเดี๋ยวพี่เลี้ยงไอติม” ยังไงเด็กก็ต้องชอบขนมแน่นอนแล้วไอติมหวานเย็นเหมาะกับอากาศร้อนด้วยนะ “บ้า! หนาวขนาดนี้กินไอติมช็อกตายพอดี” เขาคิดอะไรเนี่ยหรือลืมไปแล้วรึไงว่าเธอไม่สบาย “แล้วต้องทำยังไงถึงจะหายกลัว?” ก็เขาไม่รู้เพราะปรกติเขาชอบทำให้ทุกคนกลัวเสมอ เขาชอบเวลาได้มองนัยน์ตาเบิกโตของคนที่มันกำลังจะตายแต่กลับเวย์นี่สิเอาไงดีเพราะแค่ทำแผลไม่ได้ส่งไปตายซะหน่อยถึงได้กลัวจนตัวเกร็ง “ถ้าหมอทำเวย์เจ็บพี่จะถลกหนังมันมาให้” เขายิ้มให้เธอแล้วบอกเหมือนไม่รู้สึกอะไร “บ้าน่า! เอางี้ให้หนูกลับหอ” “ไม่!” ใครจะยอมง่ายๆละกว่าจะเอาตัวมาได้ขนาดนี้ก็ต้องกอดให้สาสมก่อนแล้วค่อยคิดอีกที “แต่หนูอยากกลับหอ!” เธอก้มหน้าอย่างไม่เข้าใจเขาเลยสักนิดเดียว “โอเค แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องหายไข้แผลไม่อักเสบติดเชื้อแบบนี้ก่อนพี่ถึงจะยอม” อะไรก็ได้แค่เธอยอมทำแผลแค่นั้นพอแล้วเดี๋ยวต่อจากนี้จะหาแผนรองรับหากว่าเธอดื้ออีกครั้ง “ค่ะ หมอเบาๆนะหนูกลัว” ถึงพี่ดินจะยอมแต่ความกลัวมาหายไปที่ไหนเล่า! หมอบอกว่าต้องขูดแผลออกเล่นเอาแทบช็อกอยากจะเป็นลมตื่นมาอีกทีแผลหายเลย “ไม่ต้องกลัวนะกอดพี่ไว้จะได้ไม่เห็น” เขาบังคับเธอให้หันมากอดซบหน้ากับหน้าท้องแล้วกดหัวไม่ให้หันกลับไปมองได้ระหว่างที่หมอทำแผล เขาดูทุกอย่างนะถึงไม่ได้เรียนด้านนี่มาก็รู้ว่าแผลเธอมันแย่มากแล้วกว่าจะหายอักเสบก็คงใช้เวลาอีกประมาณสองสามวันหรือมากว่านั้นถ้าเธอยังดื้ออีก หมอค่อยๆขูดเอาสิ่งสกปรกและเนื้อตายบางส่วนที่หน้าแผลออกจนมันกลับมาเป็นแดงชมพูดน่าดูกว่าตอนแรกแต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้เพราะไม่สามารถเอาออกหมดในทีเดียวเพราะถ้าทำอย่างนั้นคงเจ็บปวดมากสำหรับเด็กที่น้ำตาไหลแล้วตอนนี้ เขาลูบผมเธอเบาๆเป็นห่วงมากกว่าเดิมที่เธอร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บจนตัวเกร็งสุดท้ายเขาให้หมอติดผ้าพันแผลแบบกันน้ำที่คล้ายกับพลาสเตอร์แผ่นใหญ่มากกว่าเพราะเธออาบน้ำต้องเปียกแน่นอน “เสร็จแล้ว” น่าสงสารจังเด็กน้อยร้องไห้จนตาแดงเชียวแต่ยังอุตส่าห์ไม่ยอมส่งเสียงคงกลัวว่าเขาทำอะไรหมอแน่นอนซึ่งเขาทำแน่ถ้าเธอไม่อยู่ตรงนี้ “ขอบคุณพี่ดินนะคะที่ช่วยหนู” เธอเงยหน้ามองเขาทั้งที่ยังกอดเอวแน่นอยู่ “พี่ต้องดูแลเมียสิ พี่ให้หมอฉีดยาลดไข้ให้แล้วตอนนี้หนูอยากกินอะไรไหม แบบ…พวกอาหารคนป่วยน่ะ” เขายักไหล่นิดหน่อยเพราะไม่รู้จะหาอะไรให้ถูกใจเธอบ้าง ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่จำเป็นต้องดูแลใครเลยสักคนนอกจากตัวเองและงานที่ทำอยู่แค่นั้น เวลาที่บาดเจ็บไม่สบายแต่ก็ยังฝืนทำทุกอย่างเหมือนคนปรกติออกกำลังกายหนักๆจนบางครั้งอาการทรุดก็ไม่คิดจะหยุดนั่นคงเพราะเขาไม่สนอะไรเลยมั้ง แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเพราะเขามีเธอเข้ามาในชีวิตที่เคยว่างเปล่าและมืดมนให้กลับมามีแสงสว่างส่องทางให้เดินต่อไป ครั้งนี้เขาจริงจังมากกล้าเอาชีวิตเข้าแลก! “แล้วคนไม่ป่วยจะกินอะไรคะ?” เธอเอียงคอถามเขาแต่ก็แปลกนะไม่ว่าจะมองมุนไหนก็หล่อหมดเลย นี่ถ้าพี่ดินยิ้มเก่งคงจะดูน่ารักมากกว่าน่ากลัวแน่และสาวๆคงเยอะด้วย “อะไรก็ได้พี่กินได้หมดแค่ไม่ชอบของทอดของมัน” เขาไม่ชอบอะไรที่ทอดเท่าไรหรือพวกแป้งๆที่ทำให้อ้วนขึ้นเพราะขี้เกียจออกกำลังกายแต่ถ้าเธอจะกินเขาก็จะกินด้วย “งั้นข้าวต้มหมูสับทรงเครื่องดีไหมคะ?” ของโปรดเลยนะแล้วเธอก็กินทุกเช้าก่อนไปเรียนด้วยแต่ถ้าไม่ทันจริงๆก็แซนวิชสักชิ้นไม่ก็อย่างอื่นที่กินได้เร็ว ส่วนอาหารเย็นของเธอจะเป็นส่วนใหญ่จะของแช่แข็งเข้าไมโครเวฟแป๊ปเดียวก็กินได้ “งั้นเดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องไปซื้อให้” เขากำลังจะเรียกลูกน้องแต่ว่าเธอห้าม “ทำเองดีกว่าไหมคะ?” เธอจับมือเขาดึงลงให้นั่งแทนที่จะยืนเพราะเงยหน้าจนเมื่อยคอมาก “งั้นคงพรุ่งนี้นะวันนี้เดี๋ยวสั่งมาดีกว่าพี่เหนื่อย” ตอนนี้ค่ำแล้วเขาไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้นนอกจากนอนกอดเธอให้สาสมกับความคิดถึงแสนทรมานตลอดสามวันมานี้ที่ไม่ได้เจอกัน “ค่ะ แต่พี่ดินต้องยิ้มให้ก่อน” เขาชอบหน้านิ่งตลอดเลย นี่ไม่รู้รึไงว่าเวลายิ้มน่ามองขนาดไหน เธอลองตัดอคติทุกอย่างรวมถึงความโกรธในสิ่งที่เขาลงไปด้วยสิ่งที่เธอสัมผัสได้คือเขาเป็นห่วงเธอมากจนแทบไม่น่าเชื่อ เขาแสดงออกถึงจะไม่ชัดเจนแต่เคยได้ยินไหมว่าแววตาเป็นหน้าต่างของหัวใจปิดบังกันไม่ได้หรอก เขาอาจจะเย็นชาไม่สนใจไม่แคร์อะไรเลยแต่พอเราสบตากันเธอเห็นความประหม่า ความเขินอายภายใต้หน้าดุและที่สำคัญเขาทำให้เธออบอุ่นมากอย่างไม่น่าเชื่อ แต่พี่ดินคือคนที่เธอควรจะหนีห่างมากกว่า! นั่นคือความจริง! “พี่ดินเคยมีใครบ้างไหม?” เธอแค่อยากรู้ก่อนจะเทใจให้เขาไปมากกว่านี้แล้วจะดึงตัวเองกลับมาไม่ได้ในวันที่ถลำลึกเกินไปซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่เจ็บที่สุดก็คงเป็นเธอเอง “ก็เราไงเวย์ ที่นอนนี้ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมานอนนอกจากเราคนเดียวเลยนะ” เขาไม่รู้สึกพลุ่กพล่านเลยในเวลานี้ที่นอนกอดเธอแนบชิดกับทั้งตัวทั้งใจ ตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้วเธอควรจะได้นอนเพื่อวันพรุ่งนี้จะไปเรียนแล้วเขาไม่อยากให้เธอทำงานอีกต่อไปแล้ว เขากลัวว่าจะมีคนมาแย่งเธอไปจากเขาแต่ไม่อยากบังคับจิตใจเธอจนเกินไป “พี่...พี่...เป็นห่วงเรานะ” ให้ตายสิเขาแค่จะบอกรักเธอทำไมไม่กล้าวะ “เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะทั้งยาฆ่าเชื้อ ทั้งยาแก้อักเสบอีกไหนจะฉีดแก้ไข้อีก” เธอหมุนตัวกลับมานอนตะแคงมองหน้าแต่เห็นนะว่าครั้งนี้เขาหลบตาเธอแว๊บหนึ่งก่อนจะสบตาเธอ “ถ้ามีคนบอกว่าให้พี่หนีหนูไปจะหนีไปไหมคะ?” เธอไม่ค่อยแน่ใจว่าคนที่คอยสะกดรอยตามว่าเป็นคนของเขารึเปล่าเพราะเห็นได้ชัดว่าเขาสามารถทำได้มากกว่าสะกดรอยตาม รู้ไหมว่าเธอกลัวมากนะ! ความจริงเธอก็ไม่อยากหนีเขาไปเหมือนที่คนแปลกหน้าคนนั้นเตือนเลยด้วยซ้ำแต่เราแทบไม่รู้จักกันเลยสักนิด เธอรู้สึกว่าเขาน่ากลัวได้มากกว่าที่จินตนาการเอาไว้เสียอีก “นั่นคงเป็นสิ่งสุดท้ายบนโลกที่พี่จะทำ” “เวย์ละถ้าพี่ไม่ใช่อย่างที่เห็นจะหนีพี่ไปรึเปล่า?” “ไม่รู้สิคะ” เวย์ลุกขึ้นนั่งมองพี่ดินเดินออกไปรับข้าวต้มส่งกลิ่มหอมฟุ้งเข้ามาแล้วเขาก็ตักขึ้นมาเป่าก่อนจะป้อนเธอโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว เธอไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ถึงได้ดูแลอย่างอบอุ่นอ่อนโยนทั้งที่คืนนั้นล่วงเกินเธอไปแล้วอย่างตั้งใจ เธอจะหวั่นไหวมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม