ปี๊ดดดดดด!
บรื้นน~ บรื้นน~
เสียงสัญญาณจากนกหวีดดังขึ้นก่อนที่รถทั้งสองคันจะพุ่งออกจากจุดสตาร์ทเป้าหมายเดียวกันก็คือเส้นชัย
“แกโอเคไหมเดีย” ปลายฟ้าประชิดตัวเพื่อนรักก่อนจะประสานเข้ากับตากลมสวยที่ถูกหล่อเลี้ยงไปด้วยหยาดน้ำตา
“คนเรามันต้องอยากเอาชนะกันขนาดนี้เลยเหรอวะ”
“เดีย พี่ว่าเดียใจเย็นก่อนนะ อย่าเพิ่งโกรธไอ้พายุมันเลย” รุ่นพี่หนุ่มที่อยู่ในชุดเรซซิ่งสูทเดินเข้ามาปลอบด้วยความห่วงใยและรู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน
“พี่ยักษ์ เดียไม่โอเคกับอะไรแบบนี้แล้วนะ พี่ก็รู้ว่าเดียกับพายุเคยเจออะไรกันมา”
“พี่รู้ พี่อยากให้เดียเชื่อใจมันนะ พายุไม่มีทางยอมแพ้คนอย่างแทนไท”
“มันไม่ใช่เรื่องแพ้หรือชนะนะพี่ ถ้าพี่ยักษ์รู้จักแทนไทดี พี่จะรู้ว่าคนแบบนั้นเราไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเพราะหมอนั่นไม่มีทางยอมปล่อยให้ทุกอย่างจบง่ายๆ”
“สรุปคือพวกมันสองคนมีอะไรมากกว่าที่พี่คิดใช่ไหม” ยักษ์มองไปที่สนามแข่งสลับกับใบหน้ากังวลของแฟนเพื่อน
“สองคนนั้นไม่เคยถูกกันเลยพี่ สองคนนั้นไม่ได้เป็นเพื่อนเก่า แต่เป็นคนที่ไม่ชอบหน้ากันมากที่สุด” ยักษ์รับฟังเงียบๆ ก่อนจะกดหน้ารับ
“โอเคครับ พี่สัญญาว่าจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก พี่ขอโทษด้วยนะ ถ้าพี่ไม่โทรตามมันเรื่องมันก็คงไม่เกิดขึ้น”
“อย่าลืมล่ะพี่ ทีหลังไม่ต้องโทรหาแฟนเพื่อนหนูอีกนะ” ปลายฟ้าเอ่ยออกมาตรงๆ ไม่ไว้หน้า ถึงอย่างนั้นยักษ์ก็ยอมพยักหน้ารับแต่โดยดี
“ครับๆ พี่ขอโทษจริงๆ”
“ทำไมสูสีได้ขนาดนี้วะพี่ยักษ์ ฝั่งนั้นเหมือนมันพัฒนาขึ้นว่ะ คนละเรื่องกับเมื่อวานเลย” หนึ่งเสียงจากคนที่เชียร์ข้างๆ ยักษ์ทำคนตัวเล็กแทบยืนไม่ติดที่ ฝ่ามือสองข้างประสานกันไว้แน่น แต่แล้วหัวใจก็หล่นวูบเมื่อสัญญาณจากปลายทางแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้าเส้นชัย ถึงจะห่างกันไม่กี่วินาทีแต่นั่นก็ปฏิเสธความพ่ายแพ้ไม่ได้อยู่ดี
“...เสียใจด้วยนะที่ลูกรักของมึงดันตกเป็นของกู” แทนไทถากถางสลับกับการควงรีโมทรถยนต์ในมืออย่างอารมณ์ดี
“ชนะแล้วมึงก็เอาไปดิ กูไม่ได้เสียดาย”
“รถที่มีรอยเมียมึงนั่งนี่มึงไม่เสียดายเลยเหรอวะ กูแม่งเสียดายแทนว่ะ” แทนไทสบตากับตากลมของลิเดียนิ่ง เขาทำขนาดนี้ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงวิ่งตามเขาแล้ว โคตรท้าทายที่ลิเดียยากกว่าคนอื่น
“เลิกยุ่งกับเมียกูถ้าไม่อยากให้กูเกลียดขี้หน้ามึงจนต้องเลี่ยงทุกที่ที่มีมึง เลี่ยงนี่ไม่ได้กลัวนะ แต่รังเกียจจนไม่อยากเห็นขี้หน้า” พายุยกมือชี้กราดและใช้มืออีกข้างกุมมือลิเดียเอาไว้แน่น
“โทษทีว่ะ กูลืมตัว ไม่เคยลืมว่าครั้งหนึ่งกูก็เคยตามจีบลิเดียเหมือนกัน ว่าแต่มึงจะกลับยังไงอ่ะ ให้กูไปส่งปะ อย่างมึงคงไม่ปล่อยให้เมียนั่งแท็กซี่กลับหรอกมั้ง”
“กูว่ามึงพาเดียกลับเถอะ เอารถกูกลับก็แล้วกัน” ยักษ์รีบแทรกก่อนจะยื่นรีโมทรถยนต์ให้กับเพื่อนที่ยืนข่มอารมณ์ร้อนๆ ไม่ให้มันปะทุ
“ขอบคุณนะพี่ยักษ์ เดียกลับเลยนะพี่”
“ครับ ขับรถดีๆ นะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ลิเดียพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะกุมมือหนาเอาไว้แน่นพร้อมกับออกแรงดึงพายุออกมาจากตรงนั้นพร้อมกัน
“เดียเราแยกกันตรงนี้เลยนะ มีอะไรก็โทรหาฉันละกัน”
“เค ขอบใจนะฟ้า”
“เคๆ” ปลายฟ้าโบกมือให้เพื่อน รู้ดีว่าสองคนนั้นมีเรื่องต้องเคลียร์กันแน่ๆ มันคงดีกว่าถ้าเธอเปิดทางให้สองคนนั้นดีๆ
@บนรถ
“เดียตามมาที่นี่ทำไม”
“แน่ใจเหรอว่าไม่รู้ว่าเราตามมาที่นี่ทำไม”
“ทีหลังถ้าจะมาก็มาพร้อมกัน อย่าทำแบบนี้อีกเราเป็นห่วง”
“มันยังจะมีคราวหลังอีกเหรอพายุ ทำไมชอบทำอะไรแบบนั้นทั้งที่เราสัญญากันแล้ว”
“ใครๆ ก็เห็นว่าไอ้เวรนั่นแม่งโคตรกวนตีน ถ้าเราเร่งกว่านั้นเราไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว” ลิเดียเค้นเสียงหัวเราะก่อนจะหันมองคนข้างๆ
“มันคุ้มแล้วเหรอที่มาทำเรื่องไร้สาระแบบนั้น ไม่ชอบหน้ากันก็แค่ไม่ต้องเจอหน้ากันปะ”
“รถราคาไม่กี่ล้าน ไม่เห็นต้องเสียดาย”
“เราไม่ได้จะพูดถึงแค่เรื่องรถ แต่เราไม่อยากให้นายเอาตัวเองไปยุ่งกับคนแบบนั้น แค่คุยกันไม่กี่คำก็เห็นแล้วว่าแทนไทพยายามป่วนแค่ไหน เขาแค่อยากปั่นให้เราหงุดหงิดเรื่องมันก็มีแค่นั้นเอง”
“ทำไมต้องกลัวมันด้วยวะเดีย เราบอกแล้วว่าถ้าเดียไม่อยากเห็นก็ให้รอที่คอนโด หรือจะไปรอที่คอนโดของปลายฟ้าก็ได้เสร็จธุระเมื่อไหร่เราจะรีบไปรับกลับพร้อมกัน ทำไมต้องให้เรื่องของไอ้เวรนั่นมาทำให้เราทะเลาะกันด้วย เราไม่เคยกลัวมันนะเดีย สักนิดก็ไม่เคย ให้ตัวต่อตัวกับมันก็ยังได้เลย”
“ถ้าจะคุยกันไม่รู้เรื่องก็จอดรถ ถ้าคุยแล้วไม่เข้าใจจุดประสงค์ก็ไม่ต้องคุย” น้ำเสียงที่สั่นเครือส่งผลให้พายุหยุดชะงัก ตาคมตวัดมองดวงหน้าหวานทันที
“ขอได้ไหมเดีย เรื่องไอ้เวรนั่นเรายอมไม่ได้จริงๆ”
“ยอมไม่ได้แล้วจะยังไง เราไม่ได้ขอให้นายยอมนะพายุ แค่ขอว่าอย่าเอาตัวเองไปยุ่งกับคนแบบนั้น”
“มันเป็นฝ่ายมายุ่งกับเราปะ มันเป็นคนท้าเอง เราไม่ได้ไปยุ่งกับมันก่อนเลย”
“สรุปก็คือถ้าเมื่อไหร่ที่แทนไทท้าแข่งรถนายก็จะไม่ปฏิเสธใช่ไหมพายุ” คำถามเป็นชนวนกระตุ้นคนที่กำลังโกรธได้เป็นอย่างดี
“แน่นอน ถ้าเป็นมันเราจะรับคำท้า จะทำให้มันพูดไม่ออกแล้วเลิกซ่าสักที”
“ได้นะ ถ้าคำสัญญาระหว่างเรามันไม่มีความหมายก็แล้วแต่นาย จอดด้านหน้าเราจะลง”
“เดีย”
“จอดเลย เราจะโทรให้ฟ้ามารับ”
“มันใช่เรื่องที่เราจะมาทะเลาะกันเหรอเดีย ทำไมต้องอยากให้เราแพ้คนอย่างมัน”
“ไม่เคยบอกให้ยอมแพ้ แต่แค่ไม่อยากให้ยุ่งเพราะเป็นห่วง ความหมายมันมีแค่นั้น ถ้าพูดแบบนี้แล้วยังไม่เข้าใจก็แยกย้ายกันไปพัก เราหมดเรื่องที่จะคุย”
“เดีย!” มือที่ตั้งท่าจะเปิดประตูรถส่งผลให้พายุหักพวงมาลัยเข้าข้างทางแทบจะทันที และทันทีที่ล้อหยุดหมุนลิเดียก็ผลักประตูให้เปิดเช่นกัน
“ไม่ทำแบบนี้ได้ไหมเดีย กลับบ้านด้วยกันอย่าทำแบบนี้”
“เราไม่อยากทะเลาะ นายกลับเลย คืนนี้เราจะไปค้างกับฟ้า”
“ไม่เดีย กลับไปคุยกันที่บ้านไม่แยกกันนอนแบบนี้” พายุรีบลงจากรถเมื่ออีกคนไม่คิดจะฟัง
“กลับด้วยกันเราขอร้อง”
“แล้วถ้าเราขอร้องนายบ้างล่ะ ขอร้องว่าเลิกแข่งรถสักที เลิกเก็บคำพูดของแทนไทมาให้ค่า ถ้าเราขอร้องเพราะเราเป็นห่วงนายมากนายจะทำให้เราได้ไหม” พายุกำหมัดแน่น อยากปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มเนียนใจจะขาด แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือการข่มอารมณ์
“ขอโทษนะ เรา...”
“กลับไปซะ ถ้าคิดดีแล้วก็กลับไป คืนนี้เราจะไปนอนกับฟ้า” คำพูดที่เด็ดขาดส่งผลให้หัวใจแกร่งกระตุกวูบ
“ก็ได้วันนี้เรายอม แต่พรุ่งนี้เราจะไปรับเดียที่คอนโดปลายฟ้า เรายอมแค่คืนนี้คืนเดียว” ลิเดียหมุนตัวแล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้น
พยายามข่มน้ำตาไม่ให้ไหลแต่มันกลับไหลไม่ขาดสาย
ภายในใจมันจุกอย่างบอกไม่ถูก พายุไม่เคยฟังใครเวลาโมโห ไม่เคยหยุดเมื่อในใจของเขาเรียกร้องว่าอย่ายอมแพ้ แต่จะให้ยกเหตุผลอะไรมารั้ง รู้อยู่เต็มอกว่าต่อให้เหตุผลนั้นมันจะถูกหล่อเลี้ยงด้วยความห่วงใยแค่ไหน สุดท้ายมันก็ไม่มีอิทธิพลต่อเขาอยู่ดี
*********