“ขอบคุณมากค่ะ” สเตลล่าเอ่ยพร้อมกับลากกระเป๋าไปให้คุณคนขับรถ เธอมองห้องนั่งเล่นของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องและล็อกให้เรียบร้อย เมื่อมาถึงหน้าอะพาร์ตเมนต์หญิงสาวก็ต้องตกใจเพราะเห็นรถลีมูซีนสีดำจอดรอรับเธออยู่ ชายวัยกลางคนเปิดประตูให้ด้วยความสุภาพ สเตลล่าขอบคุณเขาอีกครั้งอย่างจริงใจพร้อมรอยยิ้ม พอเขาเข้าประจำที่ของตัวเอง เธอจึงถามเขาว่าชื่ออะไร
“ชื่อของผมคือเจมส์ครับคุณผู้หญิง” เขาตอบ
"เจมส์สินะคะ" เธอพูดชื่อของเขาเพื่อให้ตัวเองจำได้ จากนั้นเจมส์ก็เริ่มขับรถตรงไปยังคฤหาสน์ของแพทริค ใช้เวลาราวสี่สิบนาทีก็มาถึง เมื่อรถคันหรูขับเคลื่อนเข้าไปในอาณาเขตบริเวณหน้าคฤหาสน์ขนาดใหญ่ สเตลล่าพลันรู้สึกเกร็งขึ้นมา เธอไม่เคยจินตนาการเลยว่าสักวันหนึ่งจะได้มาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่สวยงามโอ่อ่าเช่นนี้
รถลีมูซีนจอดอยู่หน้าอาคารทางเข้ารอให้ประตูถูกเปิดโดยผู้ชายอีกคน หญิงสาวเดาว่าคงเป็นบอดีการ์ดของแพทริค เธอหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถและเห็นเจมส์ยกกระเป๋าเดินทางของเธอเดินเข้าไปข้างในคฤหาสน์ก่อนแล้ว
แพทริคนั่งรอสเตลล่าอยู่ในห้องทำงานด้วยท่าทีเหมือนกำลังรออย่างอดทน ทว่าความจริงแล้วเขากำลังรู้สึกเคร่งเครียดจนต้องพยายามสงบสติอารมณ์ด้วยการดื่มวิสกี้สักแก้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้กระวนกระวายใจนักทั้งที่สเตลล่าตอบตกลงในข้อเสนอแล้ว
ชายหนุ่มคิดเกี่ยวกับข้อตกลงทั้งหมดในสัญญาและก็นึกกลัวว่าหญิงสาวจะคิดเปลี่ยนใจในช่วงวินาทีสุดท้าย หากสถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นจริงเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดีเพื่อหาทางยื้อเธอเอาไว้ แพทริคดื่มวิสกี้อึกสุดท้ายก่อนที่จะก้มดูนาฬิกาที่ข้อมืออีกครั้ง
"พวกเขาควรจะมาถึงได้แล้วนะ ทำไมยังไม่มาสักที” เสียงทุ้มพึมพำอย่างกังวลใจจนกระทั่งได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามา ทำให้เขามองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นรถลีมูซีนขับเคลื่อนมาจอดที่ด้านหน้า โดยไม่รอช้าชายหนุ่มรีบเดินออกจากห้องทำงานไปทันที
เพียงไม่นานสเตลล่าก็เห็นว่าแพทริคกำลังเดินออกมาหาเธอ วันนี้เขาสวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้มจนอดนึกสงสัยไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้เคยสวมอะไรอย่างอื่นนอกจากสูทหรือเปล่า
เมื่อแพทริคหยุดลงตรงหน้าเธอ เขาก็โน้มตัวลงหอมแก้มทักทาย สร้างความตกใจให้สเตลล่าไม่น้อยกับความใกล้ชิดนี้ ทว่าพอนึกขึ้นได้ว่าเขากำลังทำตัวเป็นคู่หมั้นที่ดีอยู่ เธอก็ผ่อนลมหายใจออกมาเพื่อลดอาการตื่นเต้นลง
"ผมคิดว่าคุณอาจจะเปลี่ยนใจเสียแล้วสิ" เขากระซิบที่ข้างใบหูเล็ก ทว่าเธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะสติยังคงไม่เต็มร้อย อีกทั้งพวงแก้มของเธอพลันเห่อร้อนด้วยความขวยเขิน เธอนึกสงสัยภายในใจว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น
"เข้าไปข้างในกันเถอะ ผมจะแนะนำคุณให้ทุกคนรู้จัก” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับโอบกอดสเตลล่าจากด้านหลัง เขาพาเธอเดินเข้าไปข้างในพร้อมกันราวกับเป็นคู่รักจริง ๆ
ห้องแรกที่เขาพาเธอมาคือห้องนั่งเล่น แพทริคสั่งให้หัวหน้าพ่อบ้านไปตามทุกคนมาที่นี่ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะทำแบบนี้หลังจากที่อยู่คนเดียวมานานหลายปี แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก สิ่งที่เขากังวลจริง ๆ คือทั้งหมดนี้เป็นเพียงการจัดฉากเท่านั้น แถมเขายังโกหกคนอื่นไม่เก่งอีก ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่โป๊ะแตกจนทำให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมาด้วยน้ำมือของตัวเองหรอกนะ เขาต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้เพื่อที่จะได้ลืมฮาเซลและเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่ต้องมาหลอกลวงคนอื่นอีก
สเตลล่าแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเพราะในระหว่างที่เธอเดินเข้ามาในคฤหาสน์นั้น สิ่งรอบข้างมันช่างสวยงามและหรูหราเกินกว่าจะจินตนาการได้ มองดูก็รู้ว่ามีแต่ของราคาแพง แค่โซฟาชุดเดียวก็คงจะแพงกว่าเงินที่เธอหามาได้ทั้งชีวิตแล้ว และไหนจะคนงานภายในบ้านที่ดูแล้วมีรวม ๆ กันถึงยี่สิบคนออกมายืนเรียงแถวรอต้อนรับเธออย่างนอบน้อมอีก หญิงสาวยิ้มให้พวกเขาและปล่อยให้แพทริคทำหน้าที่ต่อไป
"นี่คือสเตลล่า วิลสัน คู่หมั้นของฉัน"
แพทริคแนะนำเธอให้เหล่าแม่บ้านและบอดีการ์ดรู้จัก สายตาของทุกคนคล้ายแปลกใจว่าเธอเป็นใครมาจากไหน ทำไมจู่ ๆ ถึงได้กลายมาเป็นคู่หมั้นอย่างกะทันหันของเจ้านายพวกเขา สเตลล่าเองก็สงสัยว่าทำไมทุกคนถึงทำหน้าแบบนั้น หรือว่าการที่เธอเข้ามาในสถานะดังกล่าวจะเป็นเรื่องไม่ดีอย่างนั้นเหรอ…
"เธอจะย้ายมาอยู่กับเราที่นี่ ต่อจากนี้ไปฉันอยากให้ทุกคนปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพเหมือนที่ปฏิบัติกับฉัน ถ้าใครละเลยหรือทำให้เธอไม่พอใจ ฉันจะไล่ออกโดยไม่มีข้อยกเว้น”
"ครับ/ค่ะ นายท่าน" พวกเขาทั้งหมดตอบรับพร้อมเพรียงกัน