สายลมในคิมหันตฤดูโบกโบยพัดมา หอบเอาความร้อนจากแสงแดดแผดเผาไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ร่างสูงบนหลังอาชาศึกตัวใหญ่ทอดสายตามองไปยังหุบเขาแห่งหนึ่ง หลังจากแวะไปหาหญิงสาวเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เหมาหย่งเยวี๋ยนก็ได้รับแจ้งว่าพบร่องรอยของโจรชั่วซึ่งตามจับมาช้านาน จึงเร่งรุดมายังจุดนัดหมาย ดวงตาคมดุดุจพยัคฆ์ร้ายมีประกายเหี้ยมเกรียมขึ้นมา มือก็กำกระบี่คู่กายไว้มั่น ร่างกำยำในชุดเกราะสีเงินยวงยกมือส่งสัญญาณให้ทหารตั้งขบวนทัพ “อาห้าว เจ้านำกำลังส่วนหนึ่งไปปิดล้อมอีกด้านของหุบเขาไว้ สำหรับทางนี้ข้าจะเป็นผู้นำทหารบุกเข้าไปในรังของพวกมันเอง” แม่ทัพหนุ่มสั่งความกับรองแม่ทัพโจวเล็กน้อย ก่อนจะผินหน้าไปเอ่ยคำกับกุนซือฉู่ “ส่วนอาฝู่ นำกำลังทหารห้าร้อยนายไปดักซุ่มบริเวณแม่น้ำ หากพวกมันเล็ดลอดไปได้แล้วหนีไปทางนั้น ก็สังหารทิ้งทันที” “ขอรับ” โจวซือห้าวและฉู่จื่อฝู่ขานรับอย่างพร้อมเพรียง แล้วแยกย้ายไปตามคำสั่งของท่านแม