ราวครึ่งชั่วโมง บูรณิมาก็ยกกับข้าวที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ออกมาจากในครัว วางลงบนโต๊ะกินข้าว แล้วเดินไปเรียกหนูน้อยฟ้าใสมากินข้าว เด็กน้อยทำหน้ายู่ เพราะยังเล่นของเล่นไม่หนำใจ ช่วงนี้ติดเล่นขายของหนักมาก เนื่องจากผู้เป็นพ่อเพิ่งซื้อของเล่นชุดใหม่ให้ เห่อจนพี่เลี้ยงบอกว่าแทบไม่นอนกลางวันกันเลยทีเดียว “ไปกินข้าวก่อนนะคะค่อยเล่น เดี๋ยวพี่มาเล่นเป็นเพื่อน” เสียงหวานละมุนเกลี้ยกล่อมเจ้าหนูตัวกลม พอได้ยินว่าเธอจะมาเล่นด้วยก็ทำตาวาววับ ทิ้งของเล่นในมือ ลุกขึ้นยืน แล้ววิ่งถลามาเกาะเอวเธอ เงยหน้าขึ้นเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้ว “แม่จ๋าเย่นด้วยจิงน้า…” ต่อให้บูรณิมาจะพร่ำแทนตัวเองว่าพี่ แต่เด็กน้อยก็ยังคงเรียกเธอว่าแม่จ๋าอยู่ดี “จริงค่ะ” “สันยา” “สัญญาค่ะ” หญิงสาวยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับเด็กน้อย จากนั้นก็จูงมือป้อมๆ ไปยังโต๊ะกินข้าว จัดการให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็ก แล้