ผ่านไปอีกวันแล้วสินะ สามวันที่จีด้าเคยคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกว่าจะได้กลับบ้าน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับเหนื่อยและท้อเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนที่ประเทศของเธอจริงๆ จะคิดจะทำอะไรก็ง่ายไปหมด อย่างน้อยก็มีแก้มใสคนหนึ่งที่ให้ได้พึ่งพิงทางความคิด เธอรู้สึกโดดเดี่ยวไม่มีใครเลยจริงๆ เอายังไงดี
มือเรียวกดไถหน้าจอมือถือไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนที่อยู่ในโรงพยาบาล ตาของเธอไม่ได้มองมันเลยสักนิด มันมัวแต่คิดหาทางออกว่าจะไปต่อยังไงดี ตอนนี้มีที่พึ่งอะไรให้เธอบ้างไหม คนที่ไม่มีเงินอยู่ในมือสำหรับจ่ายค่ารักษาในวันต่อไปสมองมันตัน มีเพียงก่อนนี้เท่านั้นที่เหลืออยู่
"จีด้า.."
"พ่อ.." จีด้ารีบเข้าไปหาพ่อเธอทันที "จะเอาอะไรไหมคะ" ท่อช่วยหายใจได้ถูกถอดออกไปแล้วและคนไข้ก็เริ่มที่จะขยับตัวได้เยอะแล้ว แต่ด้วยอายุที่มากและยังเจ็บแผลอยู่ อาจจะยังไม่ง่าย
"เรากลับบ้านกันเลยไหม" ประโยคแรกที่เปล่งออกมาจากปากคนไข้ เมื่อเขานอนมองอาการลูกสาวมานานมากแล้ว จีด้าคงไม่ทันได้รู้ตัว ไม่งั้นเขาคงไม่มีทางได้เห็นอาการแบบนี้ของเธอแน่
"พ่อ..มีอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ" หญิงสาวแทบชาไปทั้งตัว ทำไมพ่อเธอพูดอะไรแบบนั้นล่ะ
"พ่อหายแล้ว"
"หะ..หาย?"
".." หายได้ยังไงกัน เพราะตอนนี้ก็เพิ่งจะสามวันเอง พ่อของเธอจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ก็ต่อเมื่อครบสิบสี่วันตามตารางการรักษา แล้วเกิดอะไรขึ้น
"มันแพงลูก พ่อรู้"
หญิงสาวแทบจุกไปในลำคอเมื่อได้ฟังความจริง กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อผู้มีพระคุณพูดมาอย่างนั้นแล้ว น้ำใสๆ จะไหลออกมาเสียให้ได้ เธอยอมรับอย่างไม่อายว่ามันแพงจริงๆ
เพราะเธอวางเงินมาเพียงไม่กี่วัน หมดแล้วจริงๆ เฉพาะอุปกรณ์การแพทย์ที่ติดตัวพ่อเธอมาอีกทั้งค่าเครื่องบิน แต่ส่วนนั้นจ่ายไปหมดแล้ว เธอจะไม่กังวลใดๆหากพ่อของเธอได้กลับในวันรุ่งขึ้น แต่ที่เห็นคือท่านยังคงนอนป่วยติดเตียง
จีด้ารีบหันหลังทันทีเมื่อเริ่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เธอจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน แผลก็ยังไม่ดีอีกทั้งยังจะนั่งเครื่องบินกลับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางเธอจะทำยังไงดี ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเธอถึงเพียงนี้ หญิงสาวกัดปากให้แน่นทันทีไม่เผยเสียงสะอื้นใดๆ
ผู้เป็นพ่อเมื่อได้รู้ว่าลูกสาวร้องไห้เขาเองก็เสียใจไม่ต่างกัน เขารู้ว่าจีด้าอยากให้อยู่ต่อแต่ก็รู้ว่าลูกไม่มีตังค์ ค่าเคลื่อนย้ายข้ามประเทศที่ผ่านมาก็มากโขแล้ว
แอรด...
คนที่เข้ามาใหม่พอได้เห็นภาพแปลกตาก็ชะงักไป ส่วนคนที่กำลังร้องไห้และหันหน้าไปทางประตูก็รีบปาดน้ำตาทิ้ง แต่มันคงไม่ทันเพราะไบรอันเห็นมันหมดแล้วจริงๆ สาวน้อยหลบหลีกไปนิดให้อีกฝ่ายได้เดินเข้ามา
"ขออนุญาตตรวจนะครับคนไข้" ไบรอันพูดด้วยความสุภาพ นอกจากเขาก็มีโทมัสที่ต้องวนเวียนเข้ามาดูคนไข้สลับกัน และวันนี้เป็นเวรของเขา พอเปิดประตูเข้าไปได้ก็รู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย ญาติผู้ป่วยกำลังร้องไห้ เกิดอะไรขึ้น
"เจ็บมากไหมครับ" ไบรอันหันไปถามคนไข้แทน ก็เจอว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกำลังปาดน้ำตาเหมือนกัน ยิ่งทำเอาหมอหนุ่มนั้นงงเข้าไปใหญ่
"ไม่เจ็บครับ"
จีด้าหันขวับทันที พ่อเธอพูดอะไรกัน เห็นแววตาคู่นั้นของพ่อตัวเอง ท่านกำลังร้องไห้ไม่ต่างจากเธอเลย
"ผมกลับได้หรือยัง" คนป่วยถามคุณหมอกลับด้วยภาษาเดียวกัน เขาไม่อยากอยู่มันแล้วล่ะที่ต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องจ่ายเองเขารู้ดี คนเป็นพ่อพอเห็นสายตาและสีหน้าไม่สู้ดีของลูกสาวมีหรือจะไม่รู้ ยังไงเขาก็ผ่าตัดเสร็จแล้ว งั้นกลับบ้านเลยแล้วกัน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นระหว่างการเดินทางนั้นเขาก็จะอดทน สงสารจีด้าจริงๆ
น้ำตาใสๆไหลพรั่งพรูออกมาอีกรอบคราวนี้ หญิงสาวกัดปากตัวเองเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียงสะอื้น ทั้งต่อหน้าพ่อของตัวเองและนายแพทย์ที่เป็นคนอื่น จีด้าได้แต่สะอื้นในลำคอ ปาดเท่าไหร่มันก็ไม่หมดสักที
"ตอนนี้ยังไม่ครบตารางการรักษาเลยนะครับ ยังได้ไม่ถึงครึ่งเลย" หมอหนุ่มบอกอย่างเห็นใจ
"แต่ผมสงสารลูก ฮึก"
"พ่อ หนูมีเงิน ไม่เป็นไรค่ะคุณหมอ พ่อแค่กังวลแต่ฉันมีเงินค่ะ"
ไบรอันมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่เธอพยายามปาดมัน ไม่เคยเจอแบบนี้สักที เพราะโรงพยาบาลที่นี่ล้วนมีแต่ผู้มีอันจะกินมารับการรักษา ไม่คิดว่าคนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจะมีปัญหาเรื่องเงินเสียดื้อๆ เขาเริ่มจับจุดได้แล้วล่ะ
"รักษาค่ะ พ่อฉันจะอยู่ต่อครบสิบสี่วันไม่มีข้อแม้" สาวน้อยพยักหน้าให้กับนายแพทย์หนุ่มอย่างมีกำลังใจ
จีด้าหายใจลึกๆ ให้เข้าปอด เอาล่ะ ถึงเวลาที่เธอจะต้องไปเผชิญชะตากรรมในต่างแดนได้แล้ว ถ้าผ่านเหตุการณ์นี้ไป สาบานว่าจะเลิกทำแล้วจริงๆ
ไบรอัน
มือเรียวยาวเคาะนิ้วลงไปบนโต๊ะเมื่อไม่สามารถสลัดเรื่องราวที่สะกิดใจให้ออกไปได้ สาวน้อยใบหน้าหวานชาวเอเชียคนนั้น วันนี้เขาเจอเธอแบบที่ไม่มีแมสปกปิดใดๆ แถมมาด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มลงมา บอกตามตรงว่าไม่เคยเห็นภาพแบบนี้เลยสักครั้ง
ในประเทศของเขาและเมืองที่เขาอยู่มันเต็มไปด้วยคนรวยมาก พอเป็นเธอที่ไม่เหมือนใครเท่านั้นแหละ เอาออกจากหัวไม่ได้สักทีเลย
@วันต่อมา
จีด้าเดินมาทางฝั่งแผนกการเงินเพื่อทำการชำระค่ารักษาพยาบาลสำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนห้องพักฟื้นผู้ป่วยในงวดแรก เธอกำกระเป๋าสตางค์ในมือแน่น หมดแล้วจริงๆ คราวนี้เพราะเตรียมมาแค่นี้จริงๆ สาวน้อยกะพริบตาถี่ๆไล่หยาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา เดินช้าๆ ไปที่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อสอบถามราคาอีกครั้ง
ไม่นานใบสลิปก็ยื่นมาให้เธอตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มของพนักงาน แน่ล่ะ อะไรที่เสียตังค์ย่อมได้รับบริการดีอยู่แล้ว
จีด้าเดินคอตกทันทีหลังจากเดินออกจากแผนกการเงิน หมดแล้วจริงๆคราวนี้ ปึก!
"โอ๊ย!!!" สาวน้อยหลับตาปี๋อีกทั้งหัวใจยังเต้นถี่ เลือดในกายสูบฉีดเมื่อชนเข้ากับของแข็งอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอนึกถึงความเจ็บที่จะได้รับ หากแต่ความจริงแล้วมันกลับไม่ใช่ เธออยู่ในอ้อมกอดของใครคนใดคนหนึ่ง จีด้าค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นก่อนจะพบว่าเป็นเขา นายแพทย์ไบรอันคนที่เธอเจอเมื่อวานนี้ไง
"เป็นอะไรมากไหม" ไบรอันถามน้ำเสียงทุ้มต่ำ
"ขอโทษทีค่ะ ฉัน..ไม่ทันได้มอง" สาวน้อยรีบผละตัวออกจากเขาทันทีเมื่อได้สติ จัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะก้มหัวพร้อมเอ่ยคำขอโทษ
"เปล่า ผมไม่ได้โกรธ แค่อยากรู้ว่าคุณเจ็บตรงไหนไหม ไม่เห็นต้องขอโทษเลย เพราะผมจงใจยืนขวางทางคุณเอง"
"คะ?"
"เข้าไปคุยกันหน่อยไหมหากอยากให้ผมช่วย ค่ารักษาพยาบาลพ่อคุณ" ไบรอันที่ยืนสังเกตอาการคนตรงหน้าตั้งแต่ที่เธอเดินผ่านมาและกำลังจะผ่านไป เธอคงไม่ทันได้มองเขา อาการแบบนี้มันเดาได้ไม่ยากว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ แล้วหากเขาอยากช่วยล่ะ เธอจะยินดีไหม
"ยังไงคะ" ยอมรับว่าประโยคของเขาทำเอาหญิงสาวตาตื่นไม่น้อย
ไบรอันมองไปยังทางที่เป็นห้องพักส่วนตัวของเขาแล้วเดินนำไปก่อน หากหญิงสาวกำลังมีเรื่องเดือดร้อนเธอต้องตามเขามาอย่างแน่นอน
จีด้ามองตามคนผู้นั้นไม่วางตา เธอได้ยินไม่ผิดใช่ไหมที่เขาบอกว่าจะช่วยเธอ คนที่กำลังรอความหวังเรื่องอย่างว่า พอวันนี้มีคนยื่นมือเข้ามา เธอไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะเป็นใคร หวังเพียงอย่างเดียวให้พ่อเธอหายและรักษาได้ตามตาราง แค่นั้นจริงๆ
ขาเรียวเดินตามเขาไปโดยไม่คิดให้มากความ เธอเปิดประตูห้องพักที่เห็นว่าอีกคนเดินเข้ามาด้วยความเบามือ สอดส่องหาบุคคลที่ต้องการพบเจอก็เห็นว่าเขานั่งอยู่ตรงนั้น เธอเดินเข้าไปด้วยความประหม่า หากแต่ว่าใจสู้กว่า อากาศในห้องเย็นฉ่ำมากกว่าด้านนอก สาวน้อยลูบแขนตัวเองเบาๆ
"ล็อกห้องให้ผมด้วย"