บทที่ 8 อี้หานไปเดินตลาด 2

1225 คำ
“อื้อ” สองนายบ่าวเข้าๆ ออกๆ ร้านนั้นทีร้านนี้ทีจนข้าวของเต็มกระบุงสะพายหลังของนาง ได้ของตามที่นางต้องการทั้งหมดคือ เนื้อหมู เนื้อไก่ มันหมู กระดูกหมู น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ที่จริงหากมีน้ำปลาจะดีมากแต่ยุคนี้น่าจะยังไม่มีหรือคนแต่งนิยายเรื่องนี้ไม่ใส่น้ำปลามาให้นางก็ไม่รู้ ส่วนผักที่ได้มาคือกะหล่ำปลี คะน้า และผักกาดขาว เมล็ดผักกะหล่ำปลี ผักกาดขาว เพียงสองอย่างเท่านั้นสำหรับปลูกลงดิน ยังมีเมล็ดถั่วเขียวที่นางจะเอามาปลูกถั่วงอกในน้ำ เมล็ดถั่วเหลืองที่จินละเพียงสองอีแปะเท่านั้นที่นางจะเอามาทำน้ำเต้าหู้ ทั้งกากมันสามารถทำเทียนผสมกับน้ำกุหลาบที่เขาทำไว้เป็นเทียนหอมจุดอบผ้าได้อีก เครื่องในไก่นั้นท่านป้าแถมมาให้พร้อมแววตาสงสารพวกนางเต็มทีที่ต้องกินของเสียพวกนี้นางจึงไม่คิดเงินก็นับเป็นเรื่องดี ทั้งยังได้แป้งมัน แป้งสาลี แป้งขาวมาอีกจำนวนหนึ่งอีกด้วย “เข้าร้านผ้ากันเถอะเจ้าค่ะ บ่าวจะซื้อชุดใหม่ให้คุณชาย” สองนายบ่าวเดินมาหยุดอยู่ที่ร้านผ้าร้านหนึ่ง กล่าวตามตรงเฟิ่งเจี๋ยรู้ว่าร้านผ้าเป็นร้านที่จะพบเจอเจ้าของร้านที่ชอบเหยียดหยามมากกว่าร้านค้าร้านอื่นๆ ซึ่งนางก็หลับตาเลือกเอาก็ได้ร้านนี้มา เป็นร้านที่น่าจะใหญ่ที่สุดเสียด้วย ทั้งสองเดินเข้าไปด้วยอาการประหม่า อาจมีเพียงเฟิ่งเจี๋ยผู้เดียวกระมัง เพราะอี้หานยังคงร่าเริงกับการมองดูเสื้อผ้ารอบข้างอย่างสนอกสนใจ สองนายบ่าวยึกยักเหมือนคนโง่งมด้วยไม่รู้ว่านางจะเดินไปยังส่วนใดของร้านก่อนดี ก่อนบ่าวสาวจะจับจูงเจ้านายมายังอีกด้านเมื่อเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนหันหลังอยู่ ยังดีที่ตอนนี้เป็นช่วงเช้าเหล่าคุณหนูน่าจะยังไม่ออกมาเลือกซื้อของกระมัง ไม่อย่างนั้นนางคงกลายเป็นตัวตลกให้พวกนางดูยามเช้าเสียแล้ว “ต้องการชุดหรือมาขายแม่นาง” “พี่ชาย ข้าต้องการชุดสำหรับใส่นอนให้คุณชายของข้าเจ้าค่ะ” “ตามข้ามาด้านใน” อ้ายซ่างเดินนำสองนายบ่าวเข้ามายังด้านในร้าน นำพาทั้งสองไปยังส่วนของเสื้อผ้าบุรุษตัวน้อย “ด้านนี้แหละ เชิญแม่นางเลือกดู” เสี่ยวเอ้อหนุ่มผายมือเชื้อเชิญให้คุณชายน้อยและบ่าวสาวเลือกได้ตามใจชอบ ส่วนตนเองนั้นถอยห่างออกมาหลายก้าวเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้า “เจ้าค่ะ” ชุดหลายร้อยชุดอยู่ตรงหน้านางแล้ว ทั้งหลากหลายเนื้อผ้าละลานตาไปเสียหมด เฟิ่งเจี๋ยเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ก็ยามนี้ เสื้อผ้าสวยๆ ทั้งนั้นเลยแต่นางซื้อให้เด็กน้อยได้เพียงแค่ชุดเดียวเท่านั้น มัมหมีเหมือนจะตายเอาให้ได้ “เฟิ่งเฟิ่ง ข้าชอบชุดนั้น” นิ้วมือเล็กๆ ชี้ไปยังชุดสีฟ้าอ่อนน่ารักน่าเอ็นดู เฟิ่งเจี๋ยนั้นตามใจอี้หานเพราะนางเห็นว่ามันก็สวยงามไปเสียทุกชุดนั่นแล ก่อนจะเอื้อมไปหยิบมันลงมาดูใกล้ๆ “นี่หรือเจ้าคะ” “ชุดนั้นสองตำลึงเงินขอรับคุณชายน้อย ใส่นอนสบายเนื้อผ้าดีและทนทาน ใส่ได้นานขอรับ” เสี่ยวเอ้อของร้านขานข้อดีของชุดแก่นางทันที เฟิ่งเจี๋ยสัมผัสเนื้อผ้าดูก็พบว่าเนื้อมาดีอย่างที่เขาบอกจริงๆ เหมือนฝ้าซาตินลื่นๆ ในโลกก่อน ส่วนราคานั้นนางไม่รู้ว่าถูกหรือแพง แต่อี้หานชอบ นางล้วนไม่มีปัญหา เงินก็ไม่ใช่ว่าจะมีน้อยจนซื้อให้ไม่ได้เสียหน่อย “เฟิ่งเฟิ่งชุดนี้ด้วย” มือเล็กๆ ชี้ไปที่ชุดสีขาวสะอาดด้วยดวงตาแวววาว เฟิ่งเจี๋ยพบปัญหาเข้าเสียแล้ว “คุณชายเจ้าคะ เราซื้อได้เพียงชุดเดียวเท่านั้นเจ้าค่ะ หากคุณชายชอบครั้งหน้าเราค่อยมาซื้ออีกดีหรือไม่เจ้าคะ” บ่าวสาวย่อตัวลงให้เสมอกับความสูงของเจ้านายตัวน้อย เอ่ยบอกพลางแบมือที่มีเงินอยู่เพียงสองตำลึงให้เจ้านายตัวน้อยดูพร้อมใบหน้าเศร้าสร้อยเสียจนเสี่ยวเอ้อยังรู้สึกสงสารนาง อี้หานคิดตามสิ่งที่นางพูดพลางมองเหรียญในมือของนาง เขาลองนับตามที่นางสอนเขาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ชุดนั้นราคาสองก้อน ในมือนางมีอยู่สองก้อนเช่นกัน นั่นหมายถึงซื้อได้เพียงหนึ่งชุดเท่านั้น ทั้งใบหน้าเศร้าสร้อยของเฟิ่งเฟิ่งช่างทำเขารู้สึกสงสารนางจับใจ ใบหน้าเล็กๆ ยิ้มกว้างส่งให้ทั้งส่งมือลูบบ่านางเพื่อปลอมโยนอย่างน่ารักน่าเอ็นดู “ไม่เป็นไรนะเฟิ่งเฟิ่ง งั้นข้าเอาชุดนั้น” อี้หานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเลือกชุดสีขาวสบายตา “เก่งมากเจ้าค่ะ” เฟิ่งเจี๋ยปาดน้ำตาทิพย์อย่างโล่งใจ ก่อนจะส่งชุดนั้นให้เสี่ยวเอ้อรับไปคิดเงิน “อื้อ ข้ารู้” เด็กน้อยยิ้มร่าที่ทำให้พี่สาวยิ้มได้ สองนายบ่าวจับจูงกันไปยังส่วนหน้าร้านเพื่อจ่ายเงิน เฟิ่งเจี๋ยมองไปยังตลาดก็พบว่าในยามนี้เริ่มมีผู้คนออกมาซื้อข้าวของกันมากขึ้นรวมทั้งในร้านขายชุดแห่งนี้ด้วย นางจะจำเอาไว้ว่าผู้คนลุกขึ้นมาจับจ่ายยามใด มองท้องฟ้าเพื่อจดจำตำแหน่งของดวงตะวัน คาดเดาว่าคงหกโมงเช้าเจ็ดโมงเช้ากระมังหากเทียบกับโลกก่อน “คุณชายจวนใดหรือแม่นาง ข้าไม่เคยพบเจอ ปกติทุกวันข้าแทบจะถูกพวกเขาดึงผมจนหัวล้านอยู่แล้ว ไม่เคยพบเจอคนแบบนายเจ้า” ชายหนุ่มเอ่ยถามพลางส่งชุดให้แก่นาง เฟิ่งเจี๋ยรับชุดมาใส่ไว้ในกระบุงบนหลังก่อนเอ่ยตอบเขาด้วยรอยยิ้มซุกซนภายใต้ผ้าคลุม “ครั้งหน้าหากท่านลดให้ข้าข้าจะบอกนะเจ้าคะ” “เป็นคำปฏิเสธที่ดีนัก” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเบาๆ หากแต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะซุกซนภายใต้ผ้าคลุมจากนางกลับมา ทำเอาใบหน้าเขาเห่อร้อนด้วยความเขินอาย “ไปกันเจ้าค่ะคุณชาย” สองนายบ่าวเดินออกมาจากร้านผ่านส่วนตลาดที่ชาวบ้านตั้งร้านริมถนนอีกคราก่อนนางจะหยุดลงที่ร้านขายซาลาเปาที่มีพ่อค้าทำหน้าใจดีรอขายให้นางอยู่ นางซื้อซาลาเปาหกลูกเผื่อพี่หยางด้วย เหลือเงินอยู่ร้อยกว่าอีแปะ และหนึ่งตำลึงเงิน จึงเข้าร้านซื้อมีดทำครัวและพร้าจนหมดทุกอีแปะ เรียกได้ว่าใช้เงินจนครบทุกบาททุกสตางค์เชียว แทบเกลี้ยงถุง เหลือไว้สั่นถุงผ้าเล่นอยู่หนึ่งก้อนถ้วน กระนั้นเฟิ่งเจี๋ยและชุนอี้หานกลับจับมือกันเดินกลับเรือนด้วยความสุขจนล้นออกมาผ่านใบหน้าพร้อมรอยยิ้มประดับอยู่ตลอดทางจนถึงเรือน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม