บทที่ 4 ทำความสะอาดเรือน

2098 คำ
ทั้งสองเดินกลับมาถึงเรือน ตอนนี้ยังเป็นช่วงสายๆ อยู่ นางคิดว่าอาจจะยังอยู่ในยามซื่อเท่านั้น (09:00-10:59) รอบๆ เรือนนั้นเงียบยิ่งกว่าป่าช้าในโลกก่อน เสียอีก มีเพียงเสียงนกกาดังอยู่บนต้นไม้ชั่วครั้งชั่วคราวพอให้คลายความเงียบลงไปได้เพียงเท่านั้น มองไปยังภายในจวนใหญ่โตก็ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาจากจวนให้นางได้ยินสักนิด “คุณชาย บ่าวจะทำความสะอาดเรือนเจ้าค่ะ คุณชายนั่งเล่นตรงนี้นะ เจ้าคะ” เฟิ่งเจี๋ยตั้งใจว่าจะเก็บกวาดบ้านครั้งใหญ่ หาสิ่งที่ใช้ได้และสิ่งที่ต้องทิ้ง ตรวจดูข้าวของอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามีอะไรบ้างและนางต้องซื้ออะไรเพิ่มอีกบ้างจึงเอ่ยบอกคุณชายน้อยไปเช่นนั้น กลับเห็นใบหน้าเล็กๆ ส่ายไปมาพร้อมทั้งจับมือนางไม่ปล่อยด้วยรอยยิ้ม “ข้าช่วย” “เหนื่อยนะเจ้าคะ” เสียงหวานถามออกไปอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ จริงๆ นางอยากทำเองเพียงผู้เดียวมากกว่า อี้หานยังเด็กนักกลัวว่าจะซุกซนจนเกิดเหตุร้ายเข้า “ข้าช่วย” หากแต่เด็กน้อยยังคงยืนกรานจะช่วยเหลือสาวใช้คนใหม่อย่างดื้อดึง เขาไม่อยากให้นางเหนื่อย เขากลัวนางจะจากเขาไปอีกคน เฟิ่งเจี๋ยมองใบหน้ามุ่งมั่นของเจ้านายตัวน้อยก็ต้องยอมจำนนอย่างไม่เต็มใจนัก “โอเคเจ้าค่ะ” “โอเคหรือ” อี้หานทำหน้าฉงนทันทีเมื่อไม่รู้ว่าเฟิ่งเฟิ่งพูดอะไรออกมา กลับทำให้เฟิ่งเจี๋ยยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อนางพึ่งนึกอะไรออก ภาษาอังกฤษเองก็สำคัญมากๆ นางมั่นใจเต็มอกว่าเด็กๆ ในจวนไม่ได้เรียนแน่นอนดังนั้นนางจะสอนเด็กน้อยคนนี้ให้เก่งกว่าใครเขาให้ได้ “โอเคคือตกลงเจ้าค่ะ” “อื้อ ข้าเข้าใจ” “คุณชายของบ่าวเก่งนักเจ้าค่ะ” “คิกคิก รู้แล้วๆ” อี้หานที่แต่ก่อนเป็นเด็กเงียบขรึมต้องนั่งเงียบๆ เพื่อไม่ให้ท่านแม่ดุด่าหัวเราะออกมาด้วยความเบิกบาน ไม่ต้องนั่งเงียบๆ แม้เขาจะหัวเราะดังเพียงใดเฟิ่งเฟิ่งก็ไม่ดุด่าเขาสักนิด ช่างแตกต่างจากท่านแม่ยิ่งนัก “เริ่มจากเรือนนอนคุณชายนะเจ้าคะ” “อื้อ” ทั้งสองตรงไปยังเรือนนอนอี้หานเป็นห้องแรก เฟิ่งเจี๋ยจัดการดึงผ้าห่มผืนเก่าและผ้ารองนอนออกมาใส่ตะกร้าสานที่นางใช้เป็นตะกร้าไว้ใส่ผ้า ก่อนจะเปิดดูตู้ไม้หลังหนึ่งที่อยู่มุมห้อง พบว่ามีของเล่นอยู่ในนั้นเล็กน้อย แต่ก็มากพอสำหรับเด็กน้อยผู้หนึ่ง นางคาดเดาว่าอี้หานคงไม่เคยเล่น ดูจากตาเล็กๆ ที่เบิกโตน่ารักน่าเอ็นดูเมื่อเห็นพวกมัน มันอาจจะเป็นของขวัญที่คนในจวนส่งมาให้อนุผู้นั้นตอนที่คลอดเด็กน้อยออกมาแต่คงไม่ได้แตะต้องมันกระมัง มองเด็กตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองของเล่นในตู้ไม่วางตาก็ทำนางยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนจะยื่นตะกร้าให้คุณชายน้อยถือเอาไว้จากนั้นนางก็เอาของเล่นไม้หลายสิบชิ้นออกไปวางกองรวมกันบนเตียง “งั้นคุณชายเก็บของเล่นใส่ในตะกร้านะเจ้าคะ เอาไว้เล่นยามว่าง” “ข้าทำได้” อี้หานยิ้มร่าก่อนจะตามขึ้นไปบนเตียงนั่งเก็บของเล่นใส่ตะกร้า เก็บไปก็อดไม่ได้ต้องเล่นมันก่อน เป็นผลดีต่อเฟิ่งเจี๋ยที่สามารถหาอะไรล่อเขาได้ นางจะได้ไม่พะวงหน้าพะวงหลัง มือยกเอาตะกร้าที่มีเครื่องนอนออกไปข้างนอก มีราวไม้สำหรับตากผ้าอยู่สองราวอยู่หลังเรือน นางจึงเอาผ้าขึ้นตากผึ่งแดดเอาไว้ฆ่าเชื้อและลดกลิ่นอับลง ด้วยเพราะตอนนี้สายแล้วและไม่มีสบู่ซักผ้าหอมๆ จึงไม่กล้าซักมันในตอนนี้หนึ่งกลัวมันแห้งไม่ทันสองเพราะกลัวมีกลิ่นอับกว่าเดิม ก่อนจะขึ้นไปเอาของตัวเองลงมาผึ่งไว้เช่นกัน อย่างต่อไปที่นางจะทำคือสำรวจห้องทุกห้อง พบว่ามีผ้าเก่าๆ และชุดเก่าๆ อยู่หลายชุด ก่อนแยกมันเอาไว้เช็ดถูบ้านสามสี่ตัว กล่องไม้เปล่าๆ นางจะนำไปล้างผึ่งแดดเอาไว้ใช้งานต่อ ยังมีกระดาษที่ใช้แล้วอยู่ส่วนหนึ่ง ลองอ่านๆ ดูล้วนเป็นวิธีดูแลผิว วิธีมัดใจบุรุษ แล้วก็วิธีกำหราบฮูหยิน หนังสือเก่าๆ เล่มหนึ่งเป็นหนังสือรวบรวมสมุนไพร ซึ่งนางจะเก็บไว้อ่านจากนั้นจึงค่อยๆ เล่าแทรกเข้าไปในแต่ละวันทีละเล็กทีละน้อยให้อี้หานได้ซึมซับเข้าไป เฟิ่งเจี๋ยพยายามค้นตู้ ทั้งใต้เตียงดูเผื่อนางจะได้เจอสิ่งของจำพวกเครื่องเขียน หมึก พู่กัน แต่กลับหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ หญิงสาวนั่งลงบนเตียงอย่างเศร้าสร้อย นางไม่อยากซื้อเพราะมันแพง ห้องอีกห้องที่นางต้องไปค้นคือห้องที่นางจะใช้หลับนอนนับแต่วันนี้เป็นต้นไป เป็นห้องที่เล็กกว่าทั้งสองห้องประมาณหนึ่งส่วน มีเตียงเล็กๆ พอดิบพอดีตัวของนาง ตู้ไม้เล็กๆ โต๊ะไม้และหีบเก่าๆ หนึ่งหีบ หีบนั้นนางเปิดเมื่อแล้วช่วงเช้าที่ผ่านมา จึงลุกขึ้นเปิดตู้ไม้ดู พบว่ามีชุดทาสอยู่สามชุด จากนั้นก็ไม่มีสิ่งใดอยู่เลย จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ใต้เตียงแทน ห้องนี้น่าจะเป็นห้องเก่าของบ่าวที่พึ่งสิ้นไป ตากลมพลันสบเข้ากับกล่องไม้เล็กๆ กล่องหนึ่งซึ่งมีน้ำหนักพอควร นางลองเขย่าดูก็มีเสียงเหมือนมีเหรียญบาทโลกของนางอยู่ในนั้นจนเต็มกล่อง แต่กลับพบเจอปัญหาเข้าเสียแล้ว มันต้องใช้กุญแจในการเปิด แล้วนางจะไปหาจากที่ใด ดูท่าแล้วน่าจะเป็นเบี้ยหวัดไม่ของนางเองก็ของคุณชาย แต่เฟิ่งเจี๋ยคาดว่าจะเป็นของคุณชายน้อยมากกว่า ดังนั้นจึงเอาไปวางไว้ในหีบแล้วนำชุดของนางปิดไว้ รอให้เจอกุญแจเสียก่อนค่อยมาเปิด เพราะอย่างไรนางก็จะได้เบี้ยหวัดเดือนใหม่อยู่แล้วจึงไม่ได้รีบร้อนเท่าใดนัก ห้องถัดมาคือห้องรับแขกที่อยู่ส่วนหน้าของเรือน เปิดประตูเข้ามาก็เจอเลย ซึ่งไม่ค่อยจะมีอะไรให้นางเก็บกวาดมาก เพียงแต่นำดอกไม้ไปทิ้งแล้วนำแจกันไปทำความสะอาดเท่านั้น หน้าต่างทุกบานในห้องถูกเปิดออกให้อากาศถ่ายเทและแสงเข้ามาข้างในบ้าง ผ้าเก่าๆ ชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ ถูตามพื้นห้องจากห้องนอนทั้งสองที่ทำความสะอาดและกวาดฝุ่นออกมาเรียบร้อยแล้ว ห้องเด็กน้อยอี้หาน จากนั้นก็ถูออกมายังเรือนรับแขกและครัว หญิงสาวเอาผ้าไปซักกับน้ำให้ฝุ่นออกก่อนจะนำไปตากแดดเอาไว้แล้วเดินมานั่งบนแคร่ไม้หน้าเรือนอย่างเหนื่อยล้า เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นจนเปียกชุ่มไปทั่วร่างกาย ดวงอาทิตย์แทบจะอยู่กลางศีรษะของนางแล้ว คงใกล้เข้ายามอู่ (11:00-12:59) แล้ว นางทำงานจนลืมไปทำอาหารเสียได้ ไม่รู้ว่าในโลกนี้สมัยนี้ผู้คนนิยมกินข้าววันละกี่มื้อกัน แต่สำหรับนางแล้วต้องสามมื้อเท่านั้น ทั้งเพื่อนางและเด็กน้อยที่ต้องขุนให้แข็งแรงโดยเร็ว คิดได้ดังนั้นก็ผุดลุกขึ้นตรงไปยังห้องครัวทันที อาหารที่นางจะปรุงคงหนีไม่พ้นเมนูไข่และข้าว สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะทำข้าวต้มใส่ไข่ ต้มข้าวไว้จะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย ข้าวหนึ่งกระบวยถูกเทลงไปในหม้อน้ำร้อนที่กำลังเดือดเผื่อไว้กินมื้อเย็นด้วย ตามด้วยเกลือหนึ่งหยิบมือ เฟิ่งเจี๋ยทำไปทั้งรู้สึกอดสูตนเองไปพลาง ถึงแม้ว่าที่สกลนครภาคตะวันออก- เฉียงเหนือที่แห้งแล้งในช่วงหน้าร้อนหรือฝนตกน้ำท่วมไร่นาขาดทุนย่อยยับอย่างไรนางกับครอบครัวก็ไม่เคยต้องทำอาหารด้วยข้าวของอันน้อยนิดทั้งเครื่องปรุงก็มีเพียงเกลือกับน้ำตาลเช่นนี้ “ปลูกผักแล้วก็ต้องดองไว้ด้วย” ปากเล็กพึมพำเบาๆ เมื่อคิดว่าจะหาอาหารอย่างไร จากที่ใด และถนอมอาหารอย่างไรเพื่อเก็บไว้กินในเรือนดี ถ้ารู้อย่างนี้นางคงหาดูคลิปเกี่ยวกับอาหารมากหน่อยแม้จะทำเป็นหลายอย่างแต่ก็เป็นความรู้แค่ที่ทำวนๆ เวียนๆ ในชีวิตประจำวันเท่านั้น นางนั้นจบครูปฐมวัยมายังไม่ทันได้สอน แต่ก่อนจะเรียนครูนั้นเฟิ่งเจี๋ยซิ่วมาจากแพทย์แผนจีน เรียนไปได้สองปีครึ่งก็ไม่ไหวต้องลาออกมา ไม่ใช่เพราะมันยาก แต่นางพบว่าตัวเองไม่ได้ชอบและไม่คิดว่าจะสามารถทำอาชีพนี้ไปจนเกษียณอายุได้ จึงหันไปทางครูเด็กแทน ด้านภาษาจีนนั้นนางเรียนมาเยอะพอสมควร ไม่ใช่แค่อ่านเขียนได้ แต่คัดอักษรจีนลงต๊อกต๊อกมีคนตามเกือบแสน ยังไม่รวมกลอนจีน เพลงจีน หนังจีนนางก็ดูมาเยอะจนบางครั้งเผลอทำกริยาตามนางเอกที่เป็นฮองเฮาจนเป็นที่ขบขันของเพื่อน เฟิ่งเจี๋ยได้ภาษาพอสมควร ไทย จีน อังกฤษ และภาษาสเปน นางคิดว่าจะลองไปเลียบๆ เคียงๆ ถามคนที่ดูมีความรู้เรื่องของชาวโพ้นทะเลว่าเขาพูดคุยภาษาแบบไหนนางจะได้สอนเด็กน้อยถูก ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือ จัดบ้าน หาอาหาร สำรวจป่า ตุนอาหาร ปลูกผัก สอนหนังสือ ออกกำลังกายลดน้ำหนัก ส่วนรายได้ทางการค้านั้นต้องรอดูอะไรหลายๆ อย่างก่อน อาจจะปลูกผักขาย แต่มันต้องใช้เวลานาน ถ้ามีเงินซื้อกระดาษกับหมึกนางก็คงวาดภาพขาย หรือนางจะเล่านิทานหาเงิน ปักผ้า ร้องเพลง ไม่ดีกว่า หรือจะแต่งนิยายขายดี “โอ๊ย ๆ ๆ ๆ หัวอีเฟิ่งจะแตก” “เฟิ่งเฟิ่ง เจ้าเป็นอะไร ใครรังแกเจ้า” เสียงวิ่งตึกตักออกมาจากห้องมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่เอามือกุมขมับอยู่ นางแทบเอามือลงไม่ทันคุกเข่าลงไปรวบเด็กน้อยมากอดเอาไว้แล้วทำทีร้องไห้ออกมาอย่างหวาดกลัว “คุณชาย บ่าวฝันร้ายเจ้าค่ะ ฮือ” อี้หานมองสาวใช้อย่างน่าสงสาร แขนเล็กกอดคออวบๆ ก่อนจะซบหน้าลงบนไหล่เพื่อปลอบนาง เฟิ่งเจี๋ยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู ต้องปล่อยให้เด็กรู้สึกเป็นผู้ปกป้องบ้างในบางครั้งถือเป็นสิ่งที่ดี ให้เป็นแต่ผู้ตามมากเด็กจะไม่มีโอกาสใช้ความคิดที่เป็นผู้นำของตัวเอง ทั้งเรื่องการคิด ตัดสินใจ อะไรพวกนั้น “อย่ากลัวไปเลยเดี๋ยวข้าจะปกป้องเฟิ่งเฟิ่งเอง” “จริงหรือเจ้าคะ” “แน่นอน” “คุณชายของบ่าวเก่งกาจเหลือเกินเจ้าค่ะ” เฟิ่งเจี๋ยส่งยิ้มทั้งน้ำตาไปให้เจ้านายตัวน้อยที่เหมือนจะอกผายไหล่ผึ่งขึ้นมามากขึ้น มือผอมแห้งตบไหล่นางเบาๆ ทั้งยังส่งสายตาสงสารจับใจมาให้ “ใช่ ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ข้าเป็นบุรุษต้องปกป้องสตรีอ่อนแอ” “บ่าวหายกลัวเพราะมีคุณชายปกป้องเจ้าค่ะ เรามากินข้าวเพิ่มพลังกันเถอะเจ้าค่ะ” “กินข้าวเพิ่มพลังหรือ” อี้หานมองสาวใช้คนใหม่ที่ลุกขึ้นยิ้มร่าหยิบถ้วยมาตักอาหารกลิ่นหอมในหม้ออย่างอารมณ์ดีด้วยความสงสัย “ใช่เจ้าค่ะ ถ้ากินข้าวเราจะแข็งแรง แล้วคุณชายก็จะปกป้องบ่าวได้เจ้าค่ะ” ถ้วยข้าวต้มใส่ไข่ธรรมดาๆ วางลงบนแคร่ไม้ก่อนเฟิ่งเจี๋ยจะอุ้มเด็กน้อยขึ้นไปบนแคร่แล้วตามขึ้นไปนั่ง “ข้าจะกินเยอะๆ เฟิ่งเฟิ่ง” อี้หานตอบรับก่อนจะตักข้าวต้มเป่าหลายๆ รอบแล้วเอาเข้าปากทันทีด้วยการจับจ้องของนาง เด็กหนอเด็ก จะรู้หรือไม่ว่าตอนนี้พี่น้องตัวเองกำลังกินอาหารหลายสิบอย่างในขณะที่เรามีอาหารคนละถ้วยเพียงเท่านั้น “คุณชายเก่งมากเจ้าค่ะ” “คิกคิก ข้ารู้ๆ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม