เด็กสาวอยู่ในสายตาของคุณธรรมตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ที่ไหน กับใคร แต่ภัทรวนันต์เองไม่รู้ตัว แค่รู้สึกว่ามีคนแอบมองก็เท่านั้น เธอไม่ได้สนใจ เพราะว่ามีคนงานมากมายอยู่ทั่วบริเวณคงจะมองกันไปมาเป็นธรรมดานั่นเอง
ลลนาพยายามเสนอตัวเสนอหน้าเข้าไปใกล้ชิดกับคุณธรรม แต่กลับหน้าแตกหลายครั้งหลายคราเมื่อชายหนุ่มกลับไม่สนใจสักนิด
งานเลี้ยงต้อนรับคุณธรรมเป็นงานที่จัดเฉพาะญาติๆ ไม่ได้เชิญใครมามากมาย มีคนงานที่มาช่วยงานและทำความรู้จักกับทายาทของไร่บารมี เพราะระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมามีคนงานใหม่ๆ มากมายเข้ามาทำงาน ซึ่งไม่เคยรู้จักคุณธรรมมาก่อน ส่วนคนงานเก่าแก่นั้นจะรู้จักชายหนุ่มเป็นอย่างดีในฐานะบุตรชายคนเดียวของตระกูล
“หนูพัด หนูไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุดใหม่เลยลูก หน้ามันเหงื่อโซมไปหมดแล้ว อุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยงานทั้งๆ ที่เรียนกลับมาเหนื่อยๆ” จันทร์ระวีไล่ให้เด็กสาวไปเปลี่ยนชุดเพราะงานกำลังจะเริ่ม
“ค่ะคุณป้า”
“เดี๋ยวจ้ะหนูพัด”
“คะ” ภัทรวนันต์ชะงัก ก่อนจะหันมามองผู้มีพระคุณด้วยความสงสัย
“ป้าเตรียมชุดไว้ให้หนูแล้ว ให้นวลเอาไปไว้บนห้อง หนูใส่ชุดนั้นนะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า ความจริงไม่น่าลำบากเลยค่ะ หนูก็มีชุด...”
“มีชุดอะไรกันจ๊ะ เสื้อผ้าเก่าๆ ทั้งนั้น จะประหยัดไปไหนกันหนูพัด ลุงกับป้ายินดีดูแลหนูเพราะแม่ของหนูเป็นเพื่อนที่ป้ารักและเป็นคนที่ลุงรักสุดหัวใจ อะไรที่ทำได้ ป้าอยากทำให้หนูมีความสุขที่สุด หนูจะได้ไม่รู้สึกขาดอะไรในชีวิต”
“พัดขอบคุณคุณลุงกับคุณป้าอย่างสุดซึ้ง นอกจากพ่อแม่ที่แท้จริงแล้ว คุณลุงกับคุณป้าก็เหมือนพ่อกับแม่คนที่สองของหนู ดูแลหนูอย่างดี หนูไม่เคยรู้สึกขาดอะไรตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ หนูคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรเพื่อตอบแทนบุญคุณของคุณลุงกับคุณป้า หนูไม่อยากเป็นภาระ ไม่อยากทำให้ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ”
ภัทรวนันต์กอดรัดจันทร์ระวีและซบที่อกอย่างรักใคร่ นางลูบศีรษะของเด็กสาวด้วยความรักและเอ็นดูสุดหัวใจ ตั้งแต่เธอและสามีรับเด็กสาวมาอยู่ด้วย ภัทรวนันต์ไม่เคยทำอะไรให้ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ แถมยังเป็นเด็กกตัญญู ช่วยเหลืองานบ้านงานเรือนและงานอะไรที่พอจะทำได้ ไม่เคยนิ่งดูดาย รักและเห็นใจคนอื่น เป็นคนใจเย็น กิริยามารยาทเรียบร้อย น่ารักอ่อนโยน มีน้ำใจกับคนอื่นเสมอๆ แบบนี้จะไม่ให้เธอและสามีรักได้อย่างไรกัน และที่เด็กสาวศึกษาเล่าเรียนอยู่ในปัจจุบันก็เป็นเพราะได้ทุนการศึกษาต่อเนื่องมาตลอด นางและสามีเพียงแค่ช่วยเหลือเรื่องอื่นๆ เท่านั้น ภัทรวนันต์ไม่เคยทำตัวเป็นภาระ พอย้ายมาเรียนอยู่ที่นี่ มีแต่ครูบาอาจารย์เชิญไปที่โรงเรียน เพราะเด็กสาวผลการเรียนยอดเยี่ยม แข่งขันทักษะวิชาการได้รับรางวัล เป็นตัวอย่างที่ดีจนนางและสามียิ้มหน้าบานทุกครั้งที่ได้ไปร่วมในงานมอบรางวัลต่างๆ ให้หลานสาวคนนี้
“ไปเถอะลูก ไปเปลี่ยนชุดให้สวยๆ แล้วมานั่งทานอาหารกัน ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ให้คนอื่นจัดการกันบ้าง เพราะหนูช่วยมาเยอะแล้ว”
“ค่ะคุณป้า” ภัทรวนันต์ไหว้ขอบคุณที่อกของจันทร์ระวี ก่อนจะผละจากไปอย่างว่านอนสอนง่าย
“เธอทำแบบนี้นี่เอง คุณพ่อกับคุณแม่ถึงได้หลงนัก” เมื่อภัทรวนันต์เดินจะถึงห้องก็ต้องตกใจ
“อุ๊ย!” น้ำเสียงหาเรื่องพร้อมกับร่างสูงที่มายืนขวางทางขึ้นบันไดทำให้ร่างบางสะดุ้ง คุณธรรมกอดอกมองเธออย่างอารมณ์ไม่ดีนัก ภัทรวนันต์จึงถอยไปหลายก้าว
“พี่คุณมีอะไรเหรอคะ” เธอตั้งสติแล้วเอ่ยถามออกไป
“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากรู้ว่าเธอทำยังไง คุณพ่อกับคุณแม่และทุกคนถึงได้รักได้หลงกันนัก พูดจาออดอ้อนออเซาะฉอเลาะแบบนี้นี่เอง” เขาก้าวเข้าหา เธอก้าวหนีไปติดกับผนังอย่างจนมุม
“ถ้าพี่คุณไม่มีอะไร พัดขอตัวนะคะ” เธอคิดว่าคงไม่ปลอดภัยถ้าจะอยู่กับเขาสองคน
คุณธรรมยกมือทั้งสองขึ้นแบข้างตัว แถมยังไม่พูดอะไร ไม่โต้เถียง ไม่กักเธอเอาไว้ ภัทรวนันต์จึงรีบเดินเข้าห้องในทันทีเมื่อคิดว่าเขายอมปล่อยเธอไป แต่ฝีเท้าเบาแสนเบาของคุณธรรมเดินตามมาอย่างที่ไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ เพราะมัวแต่รีบเลยไม่ได้หันไปสนใจด้านหลัง
“อุ๊ย!” ภัทรวนันต์อุทานอย่างตกใจเมื่อทำท่าจะปิดประตู เขาแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วและกดล็อกประตูห้องเอาไว้ เสียงล็อกประตูห้องทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว ตาโตเบิกกว้าง มองใบหน้านิ่งๆ ของเขาแต่ดวงตาฉายแววประหลาดล้ำ
“พี่คุณเข้ามาทำไมคะ กรุณาออกไปด้วย” ภัทรวนันต์รับรู้ถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเอง เธอถอยหนีอย่างระแวดระวัง
“เธอไล่ฉันอีกแล้วเหรอ” เขาถามอย่างไม่พอใจ
“ไม่ได้ไล่ค่ะ แต่ชายหญิงไม่ควรอยู่ด้วยกันในห้องตามลำพัง มันจะไม่งาม อีกอย่างพัดจะอาบน้ำเปลี่ยนชุด ไม่สะดวกใจมากๆ ที่จะให้พี่คุณอยู่ในห้อง หรือถ้าพี่คุณมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะค่ะ ทุกคนกำลังรอทานอาหารอยู่ข้างล่าง” ภัทรวนันต์ถอยหนี ฝีเท้าหนักก้าวตามมาหาอย่างคุกคาม เธอพยายามพูดให้เขาเห็นใจ
“แต่คำพูดเธอมันเหมือนไล่” เขาสาวเท้าเข้าหาเบียดหญิงสาวจนชิดกับผนังห้อง ภัทรวนันต์จึงถูกกักเอาไว้ภายใต้อ้อมแขนแกร่ง
“พี่คุณคะ ได้โปรดอย่าทำอะไรพัดเลย” หญิงสาวขอร้องเสียงสั่นนิดๆ
“เธอมีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกับหัวหน้าคนงาน ถึงได้ดูสนิทสนมกันแบบนั้น” คุณธรรมกระซิบถามอย่างคุกคาม เขาเห็นปฐพี หัวหน้าคนงานหนุ่มที่คอยช่วยเหลือหญิงสาวตลอดเวลา เธอก็ให้ความสนิทสนมกับอีกฝ่ายจนเขาขัดสายตานัก อยากจะเข้าไปกระชากร่างบางให้ออกห่าง แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือคาดโทษเธอไว้ในใจ เพราะถ้าเขาทำเช่นนั้นมันจะดูเป็นตัวตลกของคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่เขาหงุดหงิดกับภาพตรงหน้ามากมายขนาดไหน
“พี่ดินนะเหรอคะ” ภัทรวนันต์เงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่กำลังคาดคั้นเธออยู่
“ถึงกับเรียกพี่เชื้อเชียวรึ สนิทสนมกันขนาดนี้ เป็นแฟนมันหรือไง” เขาถามอย่างไม่สบอารมณ์
“เอ๊ะ! พี่คุณนี่ ใครๆ มาคุยกับพัด พี่คุณก็หาว่าเป็นแฟนไปหมด พัดยังไม่คิดเรื่องนั้นเสียหน่อย พัดยังไม่มีใคร ไม่ได้เป็นแฟนกับใครทั้งนั้น พัดสนแต่เรื่องเรียนและเรื่องงาน” เธอตอบเสียงดังฟังชัดให้เขาได้เข้าใจ คุณธรรมมีสีหน้าดีขึ้น เขาก้มลงหอมแก้มนวลฟอดใหญ่
“อุ๊ย!” ภัทรวนันต์อายจนหน้าแดงเมื่อโดนขโมยหอมแก้มอีกครั้ง เธอยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเอง
“พี่จองทั้งปากและก็แก้ม” เขาวางหน้าผากมาแนบชิดกับหน้าผากเธอ มองสบตาสะเทิ้นอายของหญิงสาวอย่างชอบใจ
“พะ... พี่คุณปล่อยพัดได้แล้วค่ะ” เธอผินหน้าหนีอย่างเอียงอาย สัมผัสแนบชิดกับลมหายใจร้อนระอุที่เป่ารดทำให้เธอรู้สึกแปลก หัวใจสั่นหวิวชอบกล
“แล้วไอ้เดชอีกคน อย่าไปสนิทกับมันมาก” คุณธรรมหมายถึงอัครเดช เด็กในบ้านที่บิดามารดานำมาชุบเลี้ยงตั้งแต่เด็ก และเป็นเพื่อนเล่นของเขามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย อัครเดชนั้นอายุน้อยกว่าเขาสองปี
“พี่เดชเป็นเหมือนพี่ชายของพัด” คำตอบของหญิงสาวทำให้คุณธรรมพึงพอใจเป็นอันมาก
“วันนี้ใส่ชุดไหนลงไปงานเลี้ยง ชุดที่แขวนอยู่นั่นเหรอ” เขาถามแล้วหันไปมองชุดดังกล่าวที่แขวนอยู่ที่หน้าตู้
“ค่ะ” ภัทรวนันต์ตอบอย่างงงๆ ว่าเขาจะถามทำไม
“อย่าใส่ชุดนี้” เขาตาวาวเดินไปกระชากชุดสวยที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า
“ทำไมคะพี่คุณ ชุดนี้คุณป้าเป็นคนเลือกให้” ภัทรวนันต์ตกใจเมื่อเห็นเขากระชากชุดอย่างไม่ปรานี โชคดีที่มันไม่ได้ฉีกขาด
“อยากจะใส่ชุดโป๊ๆ แบบนี้ไปอวดใครกัน คนงานในไร่หรือว่าผู้ชายกลัดมัน” เขากำชุดไว้แน่น มองเธออย่างโกรธเกรี้ยว แต่มันยิ่งกลับทำให้ภัทรวนันต์งุนงงมากกว่าเดิมว่าเขาจะโมโหเธอเรื่องอะไรกัน
“แต่คุณป้า...”
“ห้ามเถียง ฉันบอกไม่ให้เธอใส่ชุดนี้ก็ห้ามใส่สิ”
“ค่ะ” เพราะไม่อยากมีเรื่องทะเลาะกับเขา เพราะไม่อยากขัดใจใครทำให้เธอจำต้องรับคำ จริงๆ จะใส่ชุดอะไร เธอไม่ได้ซีเรียสทั้งนั้น
“ดีมาก ห้ามดื้อกับฉันอีก เธอเป็นผู้อาศัยต้องสำนึกในบุญคุณของเจ้าของบ้าน” เขาโยนชุดนั้นลงบนเตียง เดินเข้ามาหาร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่อีกด้าน