"คุณพ่อ ฮึก เป็นยังไงบ้างคะเจ็บมากรึเปล่า"
คทาวุฒที่นอนไม่ได้สติเพราะทุกอย่างมันใกล้จะจบสิ้นแล้วเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมาเค้าตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายนั่นยิ่งทำให้สภาพจิตใจและร่างกายของเค้าที่เคยแข็งแรงสมบูรณ์ทรุดโทรมไปตามสภาพความทุกข์ของโรค
"หนูเอยหรอ? พ่อคงอยู่ได้ไม่นานดูแลรักษาตัวดีๆ พ่อขอโทษที่ไม่เคยสนใจและขอโทษที่ส่งตัวหนูเร่ขายขัดดอกใช้หนี้เค้า ต่อไปอย่ามาหาพ่ออีก หนูเอยใช้ชีวิตในทุกๆวันให้มีความสุขนะลูกพ่อขอโทษ ฮึก ขอโทษสำหรับทุกอย่าง" คฑาวุฒสำนึกผิดเพราะที่ผ่านเค้าดูแลเอิงเอยไม่ดีเท่าที่ควร เงินที่ได้มาจากตอนที่พาเอิงเอยไปใช้หนี้หมดภายในพริบตาเพราะเค้าใช้มันเสพสุขไปกับการพนันแถมยังใช้มันอย่างมือเติบ จนในที่สุดเงินมากมายหมดลงด้วยความประมาทเลินเล่อ แถมเหมยมี่ก็ยังหนีหายเมื่อเวลาเงินหมด
"หนูเอยไม่ให้คุณพ่อเป็นอะไร หนูเอยจะไปขอเงินพี่เฟยมารักษาคุณพ่อ"เอิงเอยที่นั่งให้กำลังใจคฑาวุฒอยู่ข้างๆเอ่ยบอกด้วยความเสียใจ ภาพของจันทร์ทิพย์แม่ของเธอที่ป่วยหนักด้วยโรคร้ายนี้เธอจำมันจนขึ้นใจ ในวันนี้เธอต้องกลับพบเจอมันอีกครั้งด้วยความเจ็บปวด
"อย่าทำแบบนั้นอย่าหาเงินมารักษาไอ้ผีพนันอย่างพ่อ ชาลีพาน้องกลับไปแล้วอย่าพาน้องมาที่นี่อีก" คฑาวุฒเพิ่งคิดได้ในวันที่สายไป เค้าทำร้ายชีวิตเด็กผู้หญิงคนนึงที่เค้าเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก เค้าเอาความเห็นแก่ตัวผลักภาระให้เธอทั้งๆที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ
"หนูเอยไม่ไปนะคะ หนูเอยจะอยู่ดูแลคุณพ่อ"
ชาลีใช้คำพูดหว่านล้อมให้เอิงเอยได้ออกมาจากห้องของคฑาวุฒ เอิงเอยยังอยู่ในอ้อมอกของชาลีด้วยความเสียใจ โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่คมจดจ้องมองมาดั่งเปลวเพลิง ชาลีขับรถมาส่งเอิงเอยที่หน้าโรงเรียนและไม่ลืมที่จะให้ลูกอมที่น้องชอบ
"สุขสันต์วันเกิด…พี่เตรียมของขวัญให้ไม่ทันวันหลังนะพี่ชดเชยให้"ชาลีลูบหัวทุยด้วยความสงสาร เธอเป็นเด็กดีน่ารักสดใสเสมอ ตั้งแต่แม่ของเธอเสียไปรอยยิ้มที่เคยสดใสกลับจางหายไปด้วย
"ฝาก ฮึก คุณพ่อด้วยนะคะหนูเอยจะแวะไปเยี่ยมท่านอีก"
"ตั้งใจเรียนอย่าคิดมากพี่จะดูแลอาคฑาวุฒเอง พี่รู้เรื่องทั้งหมดรู้ทุกอย่างแล้วหนูเอยอยากหนีไปจากที่นั่นไหม"
"อย่าทำอะไรให้มันยุ่งยากไปกว่านี้เลยนะคะ"เอิงเอยตอบกลับไปแค่นั้นแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียน
วันนี้ทั้งวันเอิงเอยแทบเรียนไม่รู้เรื่องเธอมัวแต่คิดเรื่องคฑาวุฒจนใจเหม่อลอย ช่วงเที่ยงเอิงเอยรีบควานหาโทรศัพท์เพื่อต่อสายทักทายหาคนใจดีแต่ก็ไม่เจอสิ่งที่ต้องการ
"หายไปไหนนะหรือว่าหล่นที่รถพี่เฟย"เอิงเอยพึมพำอย่างใช้ความคิดพยายามนึกว่าโทรศัพท์ตัวเองหล่นอยู่ตรงไหน นึกยังไงก็นึกไม่ออกมันมีแต่ภาพฉายที่เธอกับเฟยต้านระเริงบทรักกันบนรถซุปเปอร์คาร์เพียงแค่นั้นก็ทำให้แก้มใสเห่อแดงอย่างห้ามไม่อยู่ โดยลืมนึกถึงเรื่องโทรศัพท์ไป
"หาอะไรหนูเอยแล้วคิดอะไรอยู่แก้มถึงแดงเหมือนลูกเชอรี่แบบนั้น" อาร์มี่ที่แอบสังเกตเพื่อนตัวเล็กเค้าเห็นหนูเอยหาอะไรไม่รู้แถมนั่งหน้าแดงจนเค้าอดใจเอ่ยถามไม่ไหว
"เอ่อ!…หนูเอยหาโทรศัพท์ไม่เจออะ หนูเอยขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม"
เอิงเอยรีบกดโทรศัพท์ต่อสายหาคนที่ขับรถมาส่งเธอในช่วงเช้า เพียงไม่นานเบอร์ที่เธอใช้โทรหาก็ถูกกดรับสายด้วยเสียงที่ห้วน
"ฮัลโหล"
("พี่เฟยขาหนูเอยเองค่ะหนูหาโทรศัพท์ไม่เจอ ลืมวันบนรถไหมคะ")
"อืมเธอลืม…แล้วฉันก็ขอบคุณที่เธอลืมมัน เดี๋ยวไอ้ย๊งไปรับพอดีช่วงเย็นฉันมีธุระ" เสียงเย็นชากดตัดสายทิ้ง สรรพนามที่เคยใช้เรียกขานก็เปลี่ยนไปจนเอิงเอยรู้สึกหวาดหวั่นใจ ทำไมวันนี้ทุกอย่างรอบตัวของเธอดูตึงเครียดเปลี่ยนแปลงไปหมด
ช่วงเลิกเรียนเอิงเอยมายืนรอย๊งที่มารับเธอกลับบ้าน วันนี้ย๊งมารับช้าหน่อยเพราะรถค่อนข้างติด ย๊งมีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจเพราะผู้เป็นนายหงุดหงิดพลาดทุกอย่างไปหมด ประชุมที่นัดไว้ก็ไม่เข้าแถมยังให้เลขาเลื่อนนัดคู่ค้าทางธุรกิจออกไปอย่างไม่มีกำหนด นับว่าสูญเงินสูญเสียกำไรหลายล้าน ตั้งแต่ย๊งอยู่กับเฟยต้านมาเจ้านายของเค้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
"คุณหนูครับเชิญทางนี้"
"สวัสดีค่ะพี่ย๊ง"
เอิงเอยกำลังเดินไปที่รถแต่กลับมีเสียงที่ด้านหลังฉุดรั้งเธอไว้ให้หยุดก้าวเดินสะก่อน ทั้งย๊งและเอิงเอยหันกลับไปมองต้นเสียงด้านหลัง ชายหนุ่มวัยใสถือตุ๊กตาหมีตัวใหญ่เกือบเท่าตัว เค้ายื่นเจ้าขนปุกปุยให้เด็กสาวตรงหน้าพร้อมเอ่ยคำทักทายและคำอวยพร
"สวัสดีหนูเอย Happy Birthday นะ เราขอให้หนูเอยมีความสุขมากๆๆในวันเกิด เราชื่อเนม"
"ขอบคุณนะคะ"เอิงเอยกล่าวขอบคุณแต่มีตัวใหญ่เธอไม่ได้รับไว้เองแต่เป็นย๊งที่ยื่นมือไปรับไว้แทน แล้วรีบบอกให้คุณหนูของเค้ารีบขึ้น
"วันนี้วันเกิดคุณหนูหรอครับ"
"ใช่ค่ะ…พี่ย๊งช่วยแวะซื้อเค้กก่อนเล็กให้หนูเอยหน่อยได้ไหมคะ หนูเอยอยากเอาไปเป่ากับพี่เฟย"
"ครับ…ได้ครับคุณหนู"