เช้า
เอิงเอยแต่งตัวด้วยชุดนักเรียนที่น่ารักเช่นเคย เธอรีบเดินลงมาเพื่อไม่อยากให้เฟยต้านรอนาน อาหารเช้าถูกวางตรงหน้าเมื่อคนทั้งสองนั่งประจำที่
"อื้อพี่เฟยหนูเอยไม่ชอบกินไข่ค่ะ" เอิงเอยรีบบอกแถมตักไข่ใส่จานให้คนตรงหน้าอย่างไม่รีรอแถมไม่คิดจะลิ้มลองมันสักนิด
"อ้าว!!ไม่ชอบกินไข่แล้วทำไมไข่พี่หนูถึงกินละครับ"เฟยต้านว่าแซวนั่นยิ่งทำให้เอิงเอยยิ้มจนเขิน
"พี่เฟยเอาไส้กรอกไปด้วยเลยค่ะหนูเอยไม่ชอบเหมือนกัน"เธอตักใส่จานให้คนตรงหน้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับโดนแซวหนักยิ่งกว่าเดิมจนตัวเธอแทบดิ้นชักตรงหน้าคนขี้แกล้ง
"ไม่ชอบกินไส้กรอกบนจานนี้แต่ชอบกินไส้กรอกกลางหว่างขาของพี่ใช่ไหมครับ"
"พี่เฟย"
เอิงเอยที่นั่งหน้าแดงรีบเดินออกมารอที่รถ เธออยู่ไม่ได้รอฟังไม่ไหวจริงๆ ก็คนตัวโตชอบแกล้งเธอแล้วก็ชอบขำเวลาที่เธอหน้าแดงจนเธอรู้อายแทบตัวม้วน เธอจึงไม่อยากอยู่ตรงนั้นให้เค้าแกล้งเธออีก
"ไม่หิวหรอข้าวอะทำไมหนีมานั่งรอที่รถ" เฟยต้านเดินออกมาพร้อมข้าวต้มหนึ่งถ้วยที่มีหมูสับส่งกลิ่นหอมๆแตะจมูกบางน้อยจนท้องของใครบางคนร้องจ๊อกปั่นป่วนขึ้นมา
"กินให้หมดกินบนรถนี่แหละถ้าหมดแล้วเดี๋ยวพี่พาไปเรียน"เอิงเอยไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขอบคุณ ข้าวต้มที่เต็มถ้วยหมดไปภายในชั่วพริบตา เฟยต้านหยิบทิชชูที่วางอยู่ด้านข้างเช็ดมุมปากให้เด็กตัวหวานอย่างอ่อนโยน
"ตัวหวานอิ่มไหมครับ"ในขณะที่ถามนิ้วโป้งก็เกลี่ยริมฝีปากล่างเล็กไปด้วย
"อิ่มค่ะแถมอร่อยด้วย"
จ๊วบ~จ๊วบ~อื้ม
"อ่าส์!ข้าวต้มเช้านี้อร่อยจริงๆด้วยถึงว่าตัวหวานของพี่ทานมันจนหมด"เฟยต้านแค่ตั้งใจจะเขี่ยปากอิ่มเล่นๆ แต่ความนุ่มหยุ่นมันกลับเล่นงานหัวใจของเค้า โดยสั่งให้ปากหนักโน้มตัวเข้าไปฉกชิมความหวานในช่วงเช้า ทั้งกลิ่นยาสีฟันกลิ่นข้าวต้มตีกันหอมอบอวนไปหมด
"ทำไมชอบแกล้งให้หนูเอยใจเต้นแรงอยู่เรื่อยเลยค่ะ"
"ใจเต้นแรงแค่ตอนพี่จูบหรอครับแล้วตอนที่พี่เอาหนูบนเตียง บนหาดทรายหนูใจเต้นแรงแบบนี้รึเปล่า ระหว่างจูบกับเอาอันไหนใจเต้นแรงกว่ากันหื้ม" ไม่ถามเปล่าปากที่ไม่ผละห่างกลับส่งลิ้นอุ่นเลียขอบปากล่างอย่างกลั่นแกล้งแต่แฝงไปด้วยคำว่าเอาจริง
"อย่าซนสิคะ…พี่เฟยแกล้งอีกแล้วอะ"เอิงเอยเอ่ยว่าแต่ก็ชอบและเผลอไปความอ่อนนุ่มของลิ้น
"ตัวหวานอยากเรียนขับรถไหมเดี๋ยวพี่สอน"ปากหยักเอ่ยถามแต่สายตาเจ้าเล่ห์เพทุบายมาก แน่นอนคนตัวเล็กไม่มีทางทันหมากเกมส์นี้แน่ สายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นเอิงเอยรู้ว่ามันไม่ปกติแต่เธอกลับไม่ได้คิดอะไรมาก
"จริงหรอค่ะพี่เฟยใจดีที่สุดเลย" เสียงหวานเอ่ยชมพร้อมกลับถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
"แต่ต้องมานั่งตักพี่ตัวหวานจะได้ขับเป็นเร็วๆ"ความเจ้าเล่ห์เริ่มมาสายตาเริ่มแพรวพราว
เอิงเอยเด็กสาวผู้ไม่ประสารีบลงจากรถแล้วอ้อมไปอีกฝั่งย่อตัวลงนั่งบนตักแกร่งอย่างไม่ระวังภัย ประตูรถถูกปิดลงเสียงเครื่องยนต์เริ่มดัง เสียงครางครวญของคนบนตักเริ่มดังเช่นกันเมื่อถูกมือหยาบเล่นงานเข้าที่อกใหญ่
อื้ม~อ่าส์
"พะ…พี่เฟยไหนจะสอนขับรถไงค่ะมาบีบนมหนูเอยเล่นทำไมแล้วมาเคล้นคลึง อ่าส์ หน้าอกหนูเอยทำไม"
"สอนขับรถก็ต้องกระตุ้นน้ำมันหล่อลื่นก่อนสิครับ หนูเอยยกก้นให้พี่หน่อย" เอิงเอยยกก้นลอยค้างอย่างว่าง่าย แผนการที่วางไว้เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เฟยต้านเอนเบาะหลังนั่งยิ้มกริ่มโดยคนคนตัวเล็กไม่ได้เห็นว่าตาเจ้าเล่ห์นั้น
"เข้าเกียร์นะครับแล้วหนูจะขับเป็นเองอัตโนมัติ…หนูเอยค่อยๆนั่งลงมานะครับ"
"อ๊ะ!!พี่เฟย"
"เข้าเกียร์นะครับหรืออีกอย่างเรียกว่ากลืนเกียร์"
สวบ!!
เอิงเอยค่อยๆกลืนเกียร์อุ่นที่มีเส้นเลือดปูดนูนรายล้อม แปลกดีจังเกียร์อันนี้มันทำให้เธอรู้สึกชอบและเสียวซ่านไปพร้อมๆกัน เมื่อเกียร์ถูกกลืนกินแรงควบของรถก็พร้อมพุ่งทะยานเพราะน้ำมันหล่อลื่นชนิดพิเศษนี้ปริ่มเยอะเยิ้มเหลือเกิน
เฟยต้านออกตัวรถโดยมีเอิงเอยนั่งขย่มความใหญ่อยู่บนตักด้านหน้าอย่างเมามันส์ ยิ่งช่วงเวลาที่รถติดไฟแดงเอิงเอยขยับขย่มอย่างไม่ยั้งยังกับอยู่บนเตียงนุ่ม
"ชอบไหมคะ?รู้สึกเสียวเหมือนที่หนูเอยรู้สึกรึเปล่า"เอิงเอยที่มองเห็นตัวเลขของไฟแดงเธอคำนวนเวลา พร้อมกับพยุงตัวเองให้นั่งยองๆแล้วกดขย่มจนตัวรถโยกไปมา เมื่อความเสียวเริ่มมาไฟราคะก็ไม่ควรหยุด สถานที่เอ้าท์ดอร์ที่แปลกใหม่ทำให้หนุ่มสาวที่อยู่ในช่วงวัยมันส์จ้วงใส่กันไม่ยั้งอย่างสุขสม
อ่าาาส์~อร้าาาาย
พายุสงบลงเหลือแต่เม็ดฝนที่เป็นน้ำสีขาวขุ่น เอิงเอยพยายามจะลุกออกแต่ถูกตัวต้นเหตุที่มีแผนร้ายล็อกกอดไว้ให้แช่ทุกอย่างไว้แบบนั้นจนไปถึงหน้าโรงเรียน
"พี่เฟยจอดข้างหน้านะคะไม่ต้องไปส่งข้างในวนรถยากเปล่าๆค่ะ"
"งั้นเดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ…พี่ชอบนะเอ้าท์ดอร์เช้านี้ตื่นเต้นถึงใจที่สุด ขอพี่จูบอีกครั้งนะครับ"
อื้อ!!
ปากหยักนุ่มมีลิ้นละมุนเป็นอาวุธร้ายกาจ เฟยต้านทั้งจูบทั้งดูดส่งลิ้นเลียอย่างไม่รู้จักอิ่ม
"พอแล้วค่ะหื่นที่สุดเลย"
"โอเคโอเค"
เอิงเอยที่ลงจากรถโบกมือลาไปมาด้วยความสดใส เมื่อรถหรูหายวับลับตาไป เอิงเอยกำลังก้าวเดินเข้าไปภายในบริเวณรั้วโรงเรียนเธอกลับต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง
"หนูเอย"เสียงเรียกที่แว่วมาจากด้านหลังเสียงที่คุ้นเคยเอิงเอยจำได้ดี เธอรีบหันกลับมาเอ่ยเรียกผู้ชายวัยห่างกันตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ชาลีคือหลานชายของคฑาวุฒเคยไปรับไปส่งเอิงเอยที่โรงเรียนบ่อยๆตอนที่เรียนของโรงเรียนรัฐบาล
"พี่ชาลีมาได้ยังไงค่ะ"
"ไม่ต้องรู้หรอกว่าพี่มาได้ยังไง ตอนนี้อาคฑาวุฒไม่สบายมากนะหนูเอยจะไปกับพี่ไหมไปดูแกสักครั้ง"
"ฮึก!!พ่อเป็นอะไรหรอค่ะ?ทำไมถึงป่วย"
"โรคเหมือนอาจันทร์ทิพย์มะเร็งนั่นแหละ" แค่ได้ยินชื่อโรคร้ายตัวนี้นั่นทำให้เอิงเอยแทบล้มทั้งยืนจนชาลีต้องรีบเข้ามาประคองกอดน้องเอาไว้
เฟยต้านที่วนรถกลับมาเพราะคนตัวเล็กลืมโทรศัพท์ไว้ที่เบาะนั่งแต่สิ่งที่เค้าเห็นไกลๆคือเอิงเอยที่เค้าเคยโอบกอดในทุกค่ำคืนกำลังอยู่ในอ้อมอกของผู้ชายคนอื่นที่เค้าไม่คุ้นตา ทั้งสองคนโอบพยุงเดินไปยังตัวรถที่จอดริมข้างทางใจของเฟยต้านในเวลานี้มันเต้นไม่เป็นจังหวะก้อนจุกตีตื้นจนหืดขึ้นคอ เค้าขับรถตามไปปลายทางสุดท้ายคือโรงแรม
เฟยต้านกำพวงมาลัยจนแน่นจนมันแทบแหลกคามือ