"ไอ้คฑาวุฒไอ้คนขี้โก่งไอ้สิบแปดมงกุฎมันสั่งสอนเธอให้ต่อต้านดื้อรั้นกับเจ้าของชีวิตเธอแบบนี้งั้นหรอ เธอรู้ไหมฉันเกลียดอะไรมากที่สุดเกลียดคนแบบไอ้คฑาวุฒแล้วก็เกลียดคนอย่างเธอที่กำลังท้าทายอำนาจของฉัน…"
อุ๊บ!!
ร่างทั้งร่างถูกรวบหันอย่างบังคับหัวทุยเล็กถูกล็อกด้วยมือสากที่สอดเซาะเข้าไปตามกลุ่มผมดำสลวย เอิงเอยถูกไล่ตอนจูบด้วยความโกรธจากปากหยัก ร่างบางไม่โต้ตอบหรือขัดขืนมีแต่เพียงน้ำตาที่ระบายออกมาด้วยความขมขื่นใจ เฟยต้านที่ใจคุกรุ่นในทีแรก เมื่อได้จูบสัมผัสความหวานจากปากอิ่มสวยทำให้ใจฟุ้งซ่านในยามนี้กลับเย็นลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ เฟยต้านกดจูบปากอิ่มซ้ำๆเพื่อให้เธอหยุดร้อง น้ำตาที่เปื้อนตามกรอบหน้าถูกเกลี่ยเก็บด้วยปากหยักที่จูบซับอยู่นาน
ไม่มีคำขอโทษไม่มีแม้คำปลอบประโลมหรือคำปลอบใจให้เอิงเอยได้ฟัง เฟยต้านเดินอ้อมมาอีกฝังเปิดประตูเดินจูงร่างอ้อนแอ้นไปยังห้องผู้บริหารเจ้าของโรงเรียนที่เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของเค้า ทั้งสองอยู่ในลิฟต์ของผู้บริหารเอิงเอยยังถูกกักขังอยู่ในอ้อมกอดที่ไม่ยอมปล่อยคลาย สายตาคมขลับเหลือบมองคนข้างกายที่ปิดปากเงียบสนิทเงียบสะจนเค้ารู้สึกอึดอัดอยากจะลงโทษเด็กดื้อคนนี้นักที่กล้าสามารถตึงหน้าเย็นชาใส่เค้า
ติ๊ง!!
"ถ้าไม่มีธุระมึงคงไม่โผล่หัวมาให้กูเห็นหน้าสินะ"จอห์นที่นั่งเซ็นเอกสารกล่าวทักทายเพื่อนรักเมื่อเห็นร่างหนาโผล่พ้นประตูเข้ามาภายในห้องของเข้า
"บ้านมึงเคยสอนเรื่องมารยาทรึเปล่ามึงเคยไปเรียนเรื่องสมบัติผู้ดีบ้างไหม ปากคุยกับกูตาก็ควรมองที่กู ไม่ใช่ปากคุยกับกูแต่ตาเสเหล่ไปด้านหลังเสือกและสงสัยได้ทุกสถานการณ์"เฟยต้านว่าด้วยเสียงติดหงุดหงิด
"กูจะถือว่าเป็นคำชมจากมึงเช้านี้แล้วกัน"จอห์นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
นี่เค้าคิดผิดหรือคิดถูกที่พาคนตัวเล็กมาสมัครเรียนที่นี่ทำไมตั้งแต่ลงรถมาจนมาถึงห้องผู้บริหารมีแต่คนสนใจสมบัติชิ้นนี้ของเค้านัก เฟยต้านนั่งหน้าบูดบึ้งอย่างไม่พอใจ
"หนูเอยดื่มน้ำอะไรดีครับเดี๋ยวพี่ให้คนจัดการให้"
"เอ่อ…หนูเอยขอน้ำหวานได้ไหมคะ"
"งั้นเอาน้ำหวานกับคุกกี้ดีไหมครับ"จอห์นเอ่ยอย่างนุ่มนวลเสนอแนะของทานเล่นให้เอิงเอยเพิ่มอีกอย่าง ดูท่าทางเด็กสาวน่าจะชอบเธอน่าจะเหมาะกับขนมพวกนี้
เอิงเอยเงยหน้าช้อนตาสวยสบตาอย่างยิ้มหวานให้คนพี่ด้วยรอยยิ้มที่จริงใจคำว่าคุกกี้มันถูกใจเธอยิ่งนัก
"หนูเอยชอบคุกกี้กับน้ำหวานหรอครับ"จอห์นที่เดินมานั่งใกล้ๆเอ่ยถามเด็กน้อยอย่างเอ็นดู ความรู้สึกมันบ่งบอกว่าเค้าถูกชะตากับเด็กน้อยคนนี้เหลือเกิน
"ค่ะ…หนูเอยชอบดื่มน้ำหวานชอบทานคุกกี้ตั้งแต่คุณแม่เสียไปหนูเอยแทบไม่ได้ทานมันอีกเลย"เอิงเอยก้มหน้าตอบด้วยน้ำตาเอ่อซึม เธอต้องหาเงินส่งเสียตัวเองทุกอย่างสิ่งไหนที่เธอประหยัดได้เธอก็จะทำแม้แต่คุกกี้ขนมที่เธออยากทานเธอก็ไม่ยอมซื้อมัน
"หนูเอยมาเรียนที่นี่แล้วมาทานคุกกี้ที่ห้องพี่บ่อยๆดีไหมครับ"
"ได้หรอคะ?งื้อมันดีที่สุดเลยค่ะ"เอิงเอยตอบกลับอย่างไม่ลังเล โดยลืมขออนุญาตคนใกล้ตัวเสียสนิท
"ไม่ได้ถ้าฉันรู้ว่าเธอแอบมากินคุกกี้ห้องไอ้จอห์นเธอโดนดีแน่เอิงเอยเพราะฉันไม่อนุญาต ถ้าอยากกินอะไรบอกฉันอย่าไปรบกวนมัน"
"อาการแบบนี้หึงรึหวงไอ้เฟย"จอห์นว่าแซวจนเฟยต้านปรับสีหน้าปรับเสียงให้เป็นโทนปกติแทบไม่ทัน
"ทำไมกูต้องหึงต้องหวงจะทิ้งขว้างหรือยกให้มึงตอนนี้ก็ยังได้ ของไร้ค่าไม่มีราคาใครเค้าเก็บไว้กับตัวกัน"เอิงเอยที่ยังมีรอยยิ้มประดับอยู่บ้างกลับต้องรีบก้มหน้าหงุดเมื่อเจอคำพูดดูถูกดูแคลนของเฟยต้าน
"งั้นกูขอเลยนะถ้าไร้ค่าไร้ราคาสำหรับมึง"จอห์นมองสบตาอย่างท้าทายเมื่อเฟสต้านพูดจาไม่คิด
"มึงอย่ามากวนตรีนกูไอ้จอห์น" เฟยต้านขบกัดกรามแกร่งด้วยความหวงแหนเค้าไม่รู้ว่าอาการแบบนี้มันเรียกว่าหึงหวงด้วยรึเปล่าเพราะตอนนี้เค้าเริ่มหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับคนพูดของจอห์น จอห์นหนุ่มหล่อดูเอาอกเอาใจเอิงเอยเป็นพิเศษจนเค้ารู้สึกหงุดหงิด
"เรื่องเรียนพี่จอห์นจัดการให้เรียบร้อยแล้ว อะหนูเอยทานน้ำหวานกับคุกกี้ก่อนเดี๋ยวพี่พาไปทานอาหารข้างนอกดีไหม"
"เอ่อ!…" เอิงเอยถึงกับไปไม่เป็นเมื่อคนเพิ่งรู้จักและเห็นหน้ากันจะพาเธอไปทานข้าวแต่เอิงเอยกลับรู้สึกอบอุ่นเหมือนเค้าเป็นพี่ชายคนนึงสำหรับเธอ
"ไอ้เฟยมันไม่ได้สนใจมันไม่ว่าอะไรหนูเอยอยู่แล้วไม่ต้องสนใจมันหรอกจริงไหมไอ้เฟย"
"อยากจะไปไหนก็ไป ไปแล้วไม่ต้องกลับมายิ่งดีจะได้ไม่เปลืองเงินเปลืองข้าว"
ปัง!!
เสียงประตูห้องผู้บริหารเปิดแล้วปิดลงด้วยความดัง เฟยต้านก้าวออกไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ไม่พอใจแต่พูดอะไรไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อน เค้าไม่อยากถูกล้อไม่อยากให้ใครมารับรู้ความรู้สึกที่มีต่อเด็กสาว จึงใช้คำพูดร้ายๆกลบเกลื่อนมันออกไปแล้วทำหน้าตึงเข้าไว้ จนตอนนี้เอิงเอยรู้สึกใจเสีย
"อย่าคิดมากพี่แค่พาไปทานข้าว"
"ทำไมถึงดีกับหนูเอยคุณมีแผนอะไรรึเปล่าค่ะ"
"ไม่มีแผนแค่รู้สึกเอ็นดู…เข้าใจไหมครับ" จอห์นส่งมือลูบผมนิ่มอย่างเอ็นดูพลางจูงแขนเล็กออกไปนอกห้องเดินตรงไปยังลานจอดรถเพื่อพาเธอไปทานข้าว
"เราจะไปทานข้าวที่ไหนกันค่ะ"
จอห์นได้แต่ยิ้มให้กับคำถามเค้ามองไปยังถนนเบื้องหน้าโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป มีแต่รอยยิ้มที่ประดับขึ้นมาให้เอิงเอยที่เอียงหน้ามาถามได้เห็น เธอไม่รู้สึกกลัวจอห์นแต่กลับรู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่ใกล้ๆซึ่งแตกต่างจากคนใจร้ายแค่เธอได้ยินเสียงเพียงเท่านี้ก็กลัวจนตัวสั่นไปหมด
คฤหาสน์
คฤหาสน์ใจกลางเมืองใหญ่ของมาเก๊าทุกอย่างใหญ่โตสมฐานะ บรรยากาศรอบๆดูเย็นตาสวยงามไปหมดจนเอิงเอยรู้สึกผ่อนคลาย
"บ้านคุณจอห์นหรอคะสวยจังหนูเอยชอบ"
"ชอบก็ย้ายมาอยู่กับพี่สิ"
สาวน้อยส่ายหัวไปมาเธอเม้มปากอิ่มจนแน่น "หนูเอยไปไหนไม่ได้หรอกค่ะหนูเอยต้องอยู่กับคุณเฟย"
"เข้าไปข้างในบ้านกัน"จอห์นเอ่ยชวนเด็กสาวเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันตึงเครียด เอิงเอยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
"มาแล้วหรอค่ะคุณหนู"แม่บ้านหรือนมดวงเป็นผู้ดูแลจอห์นมาตั้งแต่เล็กๆ จอห์นเป็นเด็กกำพร้าที่คุณหยางส่งเสียให้เรียนจนจบ เค้าโตมากพอที่จะสืบสานธุรกิจทุกอย่างได้คุณหยางจึงเรียกตัวให้เข้ามาช่วยดูแลกิจการ
"คะ…คุณจันทร์ทิพย์"นมดวงยืนตะลึงตาค้างเมื่อเห็นเด็กสาวหน้าตาสะสวยที่คล้ายคลึงกับคนที่นมดวงคุ้นเคยและเคยรู้จัก นมดวงเอ่ยเรียกชื่อผู้หญิงอีกคนอย่างลืมตัว สายตาฝ้าฟางของคนสูงอายุไล่มองเด็กสาวผิวสวยตรงหน้าด้วยความอบอุ่น ร่างชราเดินเข้ามาสวมกอดร่างบางด้วยหัวใจที่เต้นรัว มืออุ่นลูบแผ่นหลังของเอิงเอยไปมาด้วยความรู้สึกหลากหลายเหมือนได้กอดได้สัมผัสจันทร์ทิพย์อีกครั้ง