เช้า
เอิงเอยที่เหมือนเคลิ้มฝันรู้สึกเหมือนมีใครมากอดจูบลูบคลำจนเธอเคลิ้มไปกับความฝันแสนหวาน ร่างบางพยายามปรือตาขยับตัวตื่นแต่กลับไม่เป็นผล เพราะบางอย่างบนร่างกายเธอมันช่างหนักอึ้งเหมือนหินก้อนใหญ่กำลังกดทับอยู่ที่ตัวเธอ
"ขี้เซาอะไรขนาดนี้ขนาดฉันกอดจูบดูดดึงเธอยังไม่รู้สึกตัวเลยหรอ" เฟยต้านที่แนบชิดติดลำตัวไปกับร่างบางที่นอนแผ่หงายอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเค้าทั้งหอมทั้งจูบทั้งดูดดึงแต่เด็กน้อยที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ใต้ร่างกลับไม่กระดุกกระดิกไม่ขยับเลยสักนิด
เฟยต้านไล่มองใบหน้าสวยอย่างใกล้ชิด ทุกอย่างในยามเช้าที่แสงสว่างสาดส่องทำให้เค้ามองเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มได้อย่างถนัดตา ใบหน้าขาวๆในยามที่ไร้เครื่องสำอางมาแต่งแต้มทำไมมันน่าหลงใหลน่าจุ๊บน่าจูบอย่างนี้นะ
"จุ๊บ~จุ๊บ~จุ๊บ ทุกอย่างบนใบหน้าของเธอมันเป็นของฉันร่างกายของเธอก็เช่นกัน ฉันจะรอจนถึงวันที่เธอบรรลุนิติภาวะแล้วฉันจะครอบครองเธอทั้งตัวแม่หนูเอย"
อื้อ!!
เอิงเอยค่อยๆปรือตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียภาพที่เธอเห็นคือเจ้าของเพนท์เฮ้าส์กำลังปั่นหน้ายักษ์นั่งมองเธออยู่ที่ปลายเตียงด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ก่อนที่ใบหน้าหน้าจะปั่นปึงเรียบนิ่งเค้ายิ้มหวานพูดอ่อนละมุนกับเธอแล้วในยามที่เธอหลับลึกเพียงแต่เอิงเอยไม่ได้รับรู้เท่านั้น
"จะนอนกินบ้านกินเมืองรึไงฉันไม่แปลกใจที่ไอ้คฑาวุฒมันเอาตัวเธอมาขัดดอกแลกหนี้ก้อนโตเพราะขี้คล้านสันหลังยาวแบบนี้นี่เอง"
เอิงเอยที่เพิ่งตื่นมาในช่วงเช้าเธอถูกต้อนรับด้วยคำดูถูกแสนร้ายกาจ จนทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียใจดวงตากลมที่เปิดปรือถูกครอบคลุมไปด้วยกลุ่มน้ำตาสีใสขอบตาช่วงล่างแดงก่ำไปหมด
"อย่ามาบีบน้ำตาคิดว่าตื่นขึ้นมาแล้วมาดราม่าใส่ฉันเธอทำถูกต้องแล้วหรอ เธอคือสมบัติชิ้นนึงที่ฉันได้มาจากการขัดดอกใช้หนี้เพราะฉะนั้นรู้จักทำตัวให้มีค่า ไม่งั้นฉันจะขายเธอให้กับพวกไอ้แก่ตัณหากลับหรือพวกหื่นกามที่มันกลัดมัน
"ฮึก~ฮึก~ฮื่อ"
เฟยต้านเอ่ยดุข่มขู่เพื่อให้เอิงเอยนึกกลัวนึกหวาดหวั่น เด็กสาวในยามนี้ได้แต่ร้องไห้พรั่งพรูด้วยความกลัว ใบหน้าที่เต็มใบด้วยหยาดน้ำตาส่ายหัวไปมาอย่างจิตตกเมื่อเจอคำขู่เมื่อสักครู่
"ถ้ายังไม่หยุดร้องเธอเตรียมตัวไปอยู่ซ่องโสเภณีให้ไอ้พวกจิตวิปริตมันเอาเธอได้เลย"
จากที่ร้องเป็นทุนเดิมตัวกลับสั่นงันงกขึ้นไปอีก เสียงสะอื้นที่เล็ดลอดออกมาเพียงนิดบอกได้เป็นอย่างดีว่าเธอพยายามแค่ไหนเพื่อบังคับให้ตัวเองหยุดร้องหยุดสะอื้นไห้ เอิงเอยรีบลุกเข้าไปในห้องน้ำเนื้อตัวในยามนี้เปลือยเปล่าอยู่ใต้ฝักบัวที่มีน้ำอุ่นราดลดลงมาตั้งแต่หัวทุยจนถึงปลายเท้า
"นะ…หนูเอยคิดถึงคุณแม่ ฮึก ฮื้อ!"
เสียงสะอื้นภายในห้องน้ำที่เต็มไปด้วยละอองไออุ่นของน้ำไม่ดังมากพอที่จะทำให้คนนั่งคิ้วยุ่งอยู่บนเตียงได้ยินเพราะมันถูกกลบด้วยเสียงสายน้ำที่กระทบเข้ากับพื้นกระเบื้องสีเรียบ สักพักร่างบางออกมาด้วยชุดเดิมเสื้อตัวโคร่งที่เธอใส่เมื่อคืน สายตาเจ้าชีวิตตวัดกลับส่งเสียงดุอีกครั้งเมื่อเห็นเอิงเอยอยู่ในชุดเดิม
"สกปรก"
"หนูเอยไม่มีเสื้อผ้าใส่ค่ะ คะ…คุณเฟยต้านอย่าดุหนูเอยได้ไหมคะ"
"รีบไปขึ้นรถจะได้ไปหาซื้อเสื้อผ้าใส่มันเน่าไปถึงไหนต่อไหนแล้วมั่งเป็นผู้หญิงภาษาอะไรไม่มีความหน้าพิศวาสเลยสักนิด"
ตลอดระยะทางค่อนข้างไกลเอิงเอยเอาแต่เหม่อมองทอดสายตาไปยังเบื้องหน้าของท้องถนน ผู้คนมากมายหัวเราะยิ้มร่าด้วยความสุข ผิดกับตัวของเธอใจของเธอที่ในยามนี้มันเศร้าหมองเหลือเกิน เธอไม่รู้วันนี้พรุ่งนี้และวันต่อๆไปเธอจะเจออะไรบ้าง เธอจะพบเจอเธอจะมีรอยยิ้มเหมือนคนอื่นๆได้บ้างรึเปล่า ทำไมทุกอย่างรอบตัวเธอโลกใบนี้มันกลับมีสีหม่นสำหรับเธอเหลือเกิน
ห้างสรรพสินค้า
เฟยต้านพาเอิงเอยเดินตรงมายังร้านขายเสื้อผ้าราคาแพง เค้าหยุดเดินส่งมือดันหลังคนตัวเล็กให้เดินเข้าไปในร้านด้วยความเร็ว เพราะถ้าขืนปล่อยให้เธอเดินมาเองโดยไม่ผลักดันหลังมีหวังชาติหน้าน่าจะถึง
"รบกวนดูชุดให้ยัยเด็กสกปรกไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนให้หน่อยครับ"
แน่นอนประโยคพวกนี้ไม่ว่าใครที่โดนพูดถึงถูกกล่าวแซะเสียดสีก็ต้องรู้สึกอับอาย เอิงเอยเองเธอรู้สึกแบบนั้นแต่เธอไม่สามารถพูดหรือโต้เถียงอะไรได้เลย
"คุณหนูใส่ชุดนี้สวยมากเลยค่ะ"พนักงานทางร้านเอ่ยชมพร้อมกับส่งสายตาหวานเชื่อมให้กับเฟยต้านที่นั่งรออยู่ที่โซฟาตัวยาว เอิงเอยเดินออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปที่เฟยต้านเคยพามา ผู้หญิงทุกคนถ้าได้พลานเงินเค้าหรือได้ช็อปปิ้งพวกเธอจะยิ้มเบิกบานอย่างมีความสุขซึ่งแตกต่างจากสาวน้อยคนนี้เธอกลับดูไม่ตื่นเต้นกับของพวกนี้เอาสะเลย
อ๊ะ!!
เอวเล็กถูกคว้ากอดด้วยลำแขนแกร่ง ก้นงอนอัดแน่นไปด้วยความนุ่มนิ่มนั่งทาบทับลงบนตักของคนตัวโตอย่างไม่ทันตั้งตัว เฟยต้านรู้สึกอยากแสดงตัวว่าเด็กสาวคนนี้คือทรัพย์สมบัติของเค้า เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของผู้ชายหลายช่วงอายุทั้งหลายที่ยืนอยู่นอกร้านมองมายังร่างอ้อนแอ้นที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูยังกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว
"ปะ…ปล่อยหนูเอ่ยนะคะ"
"ฟอด~ฟอด~ฟอด มากกว่านี้ฉันก็ทำได้เธอมีปัญหาอะไรรึเปล่า"
เอิงเอยได้แต่น้ำตาซึมเธอไม่ได้คาดหวังให้เค้ามาเชิดชูหรือให้เกียรติเธอ แต่สิ่งที่เธออยากได้คือให้เค้าเกรงใจและเห็นค่าของเธอบ้างไม่ใช่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำโดยที่เธอไม่เต็มใจ เพราะตอนนี้เฟยต้านทำให้เธอรู้สึกอับอายอยู่ไม่น้อยในเวลานี้
โรงเรียนนานาชาติXXX
"เงียบทำไมเป็นใบ้รึไงแค่พูดออกมาสักคำมันจะตายไหม?" เมื่อรถยนต์ราคาแพงจอดดับเครื่องเงียบสนิท เฟยต้านเอ่ยว่าคนข้างๆอย่างไม่สบอารมณ์ เค้าหงุดหงิดที่เห็นใครหลายๆคนใช้สายตามองเด็กสาวที่นั่งข้างๆ เค้าหงุดหงิดจนรู้สึกอยากเข้าไปตะบันหน้าพวกมันทุกคนจนต้องมาระบายอารมณ์ใส่เด็กสาวอย่างไม่ระงับความโกรธ
"หูแตกรึไงวะ!!"
เอิงเอยเบือนหน้าไปอีกทางด้วยความเจ็บ เธอไม่เอ่ยปากอ้อนวอนร้องขอในเมื่อเค้าอยากระบายอยากทำให้เธอเจ็บเธอก็จะทน ในเมื่อเธอเป็นสมบัติของเค้าไม่ว่าเค้าคิดจะทำอะไรผู้เป็นนายเหนือชีวิตย่อมถูกเสมอ เฟยต้านส่งมือบีบแขนเล็กจนแน่นเค้าออกแรงบีบอย่างไม่ออมแรง
กระจกตัวรถสะท้อนเงาความเสียใจของเอิงเอยให้คนตัวโตได้เห็น ทุกอย่างที่เค้าทำลงไปคืออารมณ์ร้อนของใจล้วนๆ หยาดน้ำตาแห่งความเจ็บถูกปลดปล่อยออกมาอย่างมากมาย แขนเล็กเริ่มสั่นแต่ปากบางกลับไม่เอื้อนเอ่ยขอร้องสักแอะ นั่นยิ่งทำให้เฟยต้านโมโหเพราะเค้าคิดว่าเธอกำลังท้าทายอยากลองของต่อกรกับอำนาจของเค้า