"ไอ้ย๊งมึงไปจัดการไอ้สองตัวนั่นให้เรียบร้อยกูไม่มีอารมณ์เดินไปฆ่าพวกมันที่ห้องใต้ดิน"
" แต่มีอารมณ์อยู่กับคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงใช่ไหมครับนาย"
"ไอ้เวร!วอนอยากกินแข่งนักนะมึง"
เฟยต้านรีบปรับสีหน้าให้ดุดันเมื่อลูกน้องคนสนิทพูดกระทุ้งอย่างรู้ทัน ทำให้เฟยต้านกลบเกลื่อนอาการสีหน้าแววตาด้วยการกราดด่าพร้อมตั้งท่ายกขาขึ้นถีบ แต่ย๊งกลับหลบหลีกวิ่งหนีออกไปด้วยความเร็วเพื่อไม่ให้ผู้เป็นนายโมโหกลบเกลื่อนไปมากกว่านี้
คฑาวุฒเดินออกมาจากคาสิโนอย่างอารมณ์ดีเป้ใบใหญ่อัดแน่นไปด้วยเงินหลายปึกที่แลกกับเด็กสาวเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้
"เฮียวุฒค่ะเค้ารับตัวอินังเด็กนั่นไว้รึเปล่าแล้วหนี้สินที่เราติดค้างเค้าไว้เป็นยังไงบ้างคะ" เหมยมี่คู่นอนของคฑาวุฒเอ่ยถามอย่าร้อนรนเธอรบเร้ารัวคำถามอย่างไม่มีเว้นจังหวะ เหมยมี่ไม่ถูกชะตากับเอิงเอยเธอกลัวคฑาวุฒจะแอบหลงใหลได้ปลื้มชอบพอกับลูกเลี้ยง ประจวบเหมาะกับคฑาวุธสร้างปัญหาหนี้สินจากบ่อนคาสิโนทำให้เหมยมี่คิดแผนชั่วในการตัดเสี้ยนหนามโดยให้คฑาวุธพาเอิงเอยไปเป็นตัวขัดดอกในการใช้หนี้
"รับแถมยังได้เงินสดมาใช้อย่างสบายไปอีกหลายปี"
คฑาวุฒเปิดเป้ใบใหญ่ที่บรรจุเงินสดหลายปึกให้เหม่ยมี่ได้ดู ทั้งสองยิ้มกริ่มสบตาอย่างถูกใจเมื่อได้เห็นจำนวนเงิน
"งั้นคืนนี้เราไปฉลองกันหน่อยไหมคะเฮียวุฒขา"
เหมยมี่กระซิบข้างหูอย่างยั่วยวนกลิ่นน้ำหอมในลุคเซ็กซี่ช่วยกระตุ้นต่อมความกระสันของคฑาวุฒได้เป็นอย่าง ทั้งสองในเวลานี้แทบจะกลืนกินกันอยู่บนรถ รถที่จอดสนิทเมื่อครู่สั่นโยกเพราะแรงกิจกรรมสวาทของคนทั้งคู่ ผ่านไปเกือบชั่วโมงกิจกรรมทุกอย่างสงบลงเมื่อคนทั้งสองปลดปล่อยทุกอย่างออกมา
ห้องนอนเฟยต้าน
ร่างบางที่อยู่ในเสื้อตัวโคร่งขยับตัวไปมาใช้สายตาสำรวจไปรอบๆอย่างไม่คุ้นเคย ห้องกว้างขนาดใหญ่มองผ่านกระจกเลือนใสเห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าของมาเก๊าอย่างสวยงาม เอิงเอยขยับลงจากที่นอนมองไปยังเบื้องหน้าในยามวิกาลเธอคิดถึงจันทร์ทิพย์ผู้เป็นแม่ที่ได้จากเธอไปด้วยโรคร้าย ใจในยามนี้ของเด็กน้อยมันช่างเดียวดายเหลือเกิน
3 ปีที่แล้วจันทร์ทิพย์เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง จันทร์ทิพย์เล่าทุกอย่างให้เอิงเอยได้รับรู้ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป เอิงเอยมีพ่อชื่อหยางเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยคนหนึ่งในฮ่องกง แต่ด้วยทางบ้านของหยางไม่ปลื้มจันทร์ทิพย์ทั้งสองจึงถูกกีดกัน จนในที่สุดจันทร์ทิพย์จึงถอยออกมาพร้อมลูกน้อยที่หยางไม่มีวันรู้ จันทร์ทิพย์คิดพาลูกน้อยที่อยู่ในท้องกลับเมืองไทยแต่โชคกลับไม่เข้าข้าง กระเป๋าใบเล็กที่มีทั้งเงินพาสปอร์ตของสำคัญหายไปหมดจากการถูกวิ่งราว คฑาวุฒที่กลับมาจากทำงานในบริษัทเห็นเหตุการณ์แต่ก็ช่วยไว้ไม่ทัน เค้าชวนจันทร์ทิพย์ไปพักที่บ้านเค้าก่อนเพราะเห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกัน จนผ่านไปหลายเดือนจันทร์ทิพย์ท้องโตพร้อมคลอด คฑาวุฒขอดูแลทั้งสองคนในฐานะพ่อเลี้ยงแต่เค้าไม่เคยมีอะไรกับจันทร์ทิพย์เลยสักครั้ง เพราะจันทร์ทิพย์ไม่ยอมและไม่มีจิตพิศวาสใครนอกจากคนรักของเธอที่ชื่อหยาง แต่ที่ยอมให้คฑาวุฒเป็นพ่อเลี้ยงเพราะตอนนั้นจันทร์ทิพย์ยังไม่มีที่ไปและห่วงลูกของเธอด้วย
"หนูเอยคิดถึงคุณแม่ ฮึก คุณพ่อคฑาวุฒทิ้งหนูเอย คุณพ่อยกหนูเอยให้คนอื่น ฮึก หนูเอยจะอยู่ยังไงจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงดีค่ะ"
"มายืนอ้อยอิ่งอะไรตรงนี้ตื่นแล้วก็ออกไปทำงาน ฉันไม่ได้รับเธอให้มานั่งๆนอนๆเป็นคุณหญิงคุณนายไปใส่เสื้อผ้า"
"ฮึก~ฮึก~ฮื่อ"
เมื่อเสียงกังวานตวาดดุทำให้คนฟังใจแป้วถึงกลับน้ำตาร่วง ใบหน้าที่ไม่เคยสดใสกลับต้องหม่นเศร้าไร้แสงยิ่งกว่าเดิม ตั้งแต่จันทร์ทิพย์จากไปเอิงเอยไม่มีรอยยิ้มอีกเลย ในยามว่างจากการเรียนเธอมักจะไปทำงานพิเศษเพื่อส่งเสียตัวเองเรียน ส่วนคฑาวุฒตั้งแต่จันทร์ทิพย์จากไปเค้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคะไม่สนใจเอิงเอยเหมือนแต่ก่อน ยิ่งมีเหมยมี่เป็นตัวยุยงนั่นยิ่งทำให้คฑาวุฒละเลยไม่ดูดำดูดีเธอเลยสักครั้ง
เมื่อเสียงร้องไห้เงียบลงหยาดน้ำตาหยุดรินไหล คนตัวเล็กเดินอ้อนแอ้นตามหลังเฟยต้าไปด้วยขอบตาแดงก่ำที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ แต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นออกมาให้คนเดินนำหน้าพอได้ยินบ้างประปราย เท้าเล็กๆกลับต้องหยุดชะงักด้วยความกลัว ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ชายชุดดำร่างกายกำยำเหมือนคนพร้อมรบ
"เธออยากเป็นเมียพวกมันรึไงถึงไม่ยอมเดินตามฉันมา"
"มะ…ไม่ค่ะหนูเอยกลัว"
เอิงเอยรีบส่ายหัวไปมาโบกไม้โบกมือด้วยความเร็ว แสดงออกถึงการปฏิเสธว่าใจและร่างกายของเธอไม่ได้ต้องการแบบนั้น
"ขึ้นรถ"
"คะ…ค่ะ"
"มานั่งข้างหน้าฉันไม่ใช่คนขับรถ" เอิงเอยที่กำลังเปิดประตูรถเข้าไปนั่งทางด้านหลังกลับต้องชะงัก เธอเพียงแค่คิดว่าเฟยต้านคงไม่อยากให้เธอนั่งด้านหน้าเพราะดูท่าทางเค้าคงรังเกียจเธอ แต่คนปากร้ายใจร้ายก็ไม่วายที่จะเอ่ยเสียงดุบังคับเธอจนได้
ผ่านไปกว่าสามสิบนาทีทุกอย่างภายในรถยังคงเงียบสนิทเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ภายใน ตลอดระยะทางเด็กสาวที่อยู่ในเสื้อตัวโคร่งสีเรียบหันหน้าสวยออกข้างกระจกสีทึบใจหวาดหวั่นตลอดเวลา เธอกลัวสารพัดกลัวคนข้างๆจะพาเธอไปขายกลัวคนข้างๆจะพาเธอไปฆ่ามือน้อยๆได้แต่กำสายเบลล์ด้วยความตื่น
ซูเปอร์มาร์เก็ต
"ลงไปซื้อถุงยางมาให้ฉัน"
"เอ่อ…ถุงใบเล็กหรือถุงใบใหญ่ค่ะ?คุณเฟยต้านจะเอาไปใส่อะไรค่ะหนูเอยจะได้กะถูกว่าต้องซื้อขนาดไหนดี"
"ใส่ลำเอ็นฉันนี่ไงเธอกะมันด้วยสายตาถูกรึเปล่าหรือต้องให้ฉันจับมือเล็กของเธอมาวัดขนาดดู"
เอิงเอยถึงกับอ้าปากค้างกับคำพูดดิบห่ามของเจ้าพ่อมาเก๊า ใบหน้าของเธอในยามนี้มันคงแดงแจ๋เพราะเกิดจากความอายที่ผู้ชายข้างๆพูดจาอย่างไร้ยางอาย
"56 ไปซื้อมา"
เอิงเอยถึงกับทำหน้างงกับคำว่า56 เธอไม่เค้าใจเพราะเธอไม่เคยใช้และไม่เคยศึกษาว่าถุงยางอนามัยมันมีไซส์อะไรขนาดเท่าไหน เธอถึงได้ทำหน้างงนั่งตาใสแป๋วอยู่อย่างนั้น
"ไปซื้อถุงยางอนามัยไซส์ 56 มาให้ฉัน ถุงยางที่เค้าเอาไว้ใส่คxยนะเธอรู้จักมันไหม ไม่ใช้ถุงยางที่เอาไว้ใส่แกงเธอเข้าใจรึยัง"
เฟยต้านหันสบตาเด็กสาวที่นั่งทำหน้าเอ๋อ เค้าค่อยๆอธิบายอย่างช้าๆชัดๆด้วยเสียงกังวานที่ติดรำคาญ เค้าไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องมานั่งอธิบายอะไรแบบนี้ ปกติผู้หญิงทุกคนที่ได้ยินคำว่า56จะต้องตาลุกวาวรีบวิ่งลนลานลงไปซื้อมันทันที แต่นี่อะไรกับนั่งทำหน้างงแถมยังจะไปซื้อถุงใส่แกงมาให้เค้าอีกคิดแล้วหงุดหงิด