ปัณสิตาขับรถมาจอดอยู่หน้าที่ดินที่ล้อมสังกะสีสีเขียวสูงท่วมหัวเพื่อป้องกันคนที่อาจจะนำเศษขยะหรือว่าของไม่ใช้แล้วมาทิ้งในที่ดินเธอ ร่างสูงเพรียวในชุดทะมัดทะแมงเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงยีนส์สีดำเข้ารูปโชว์รูปร่างเพรียวของเจ้าตัวให้พ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งร้านขายของกินด้วยรถเข็นอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นได้เหลียวมองอย่างชื่นชม ผู้หญิงผิวขาวผมยาวที่ถูกรวบเป็นหางม้าง่ายๆใบหน้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นกันแดดสีชายิ่งเสริมให้อีกคนดูดีขึ้นไปอีก บางคนนึกว่าดาราที่ไหนมาจอดรถทำอะไรแถวนี้เสียอีกถ้าไม่เห็นหญิงสาวคนนี้เดินไปสั่งชามะนาวจากพ่อค้ารถเข็นข้างทางธรรมดาๆเมื่ออีกฝ่ายถอดแว่นออกเหน็บไว้ที่อกเสื้อจึงได้เห็นใบหน้าสวยหวานตาคมของอีกฝ่าย แต่คงไม่ใช่ดาราหรอกมั้งเพราะดูยังไงก็ไม่คุ้นหน้าแต่ดูสวยกว่าดาราบางคนในจอทีวีซะอีก
"ลุงมาขายของตรงนี้ทุกวันหรือเปล่าคะ?"
ปัณสิตาเอ่ยถามผู้ชายคราวพ่อที่กำลังทำเมนูชามะนาวให้เธออยู่
"ขายทุกวันครับคุณ ดูคุณสวยเหมือนดาราเลยนะลุงตกใจหมดนึกว่าดาราที่ไหนจะเดินมาสั่งน้ำข้างทางกินแบบนี้" คำพูดของคนขายน้ำทำให้ปัณสิตาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ท่าทางลุงแกคงจะเป็นคนอารมณ์ดีพอสมควร ถึงแม้จะเป็นเพียงรถเข็นขายน้ำธรรมดาแต่ก็ดูสะอาดสะอ้านดี
"ไม่ใช่หรอกค่ะหนูก็คนทำมาหากินธรรมดานี่แหล่ะ ว่าแต่ลุงเคยเห็นมีใครมาแอบทิ้งขยะที่ตรงนี้บ้างไหมคะ" ปัณสิตาถามต่อให้ลุงขายน้ำได้ขมวดคิ้วนึกสักพักก็ส่ายหน้า
"ไม่มีนะครับคุณเพราะแถวนี้ก็ไม่ได้มีคนจรจัดหรือว่าพวกที่มักง่ายแอบเอาขยะมาทิ้งตามริมทางคุณถามทำไมเหรอครับ เอ๊ะ! หรือว่าคุณเป็นเจ้าของที่แปลงนี้ครับ?"
ลุงขายน้ำทำท่าแปลกใจแกมสงสัย แล้วยิ่งอีกคนพยักหน้ายิ้มให้นั่นยิ่งทำให้แกตาเป็นประกายตื่นเต้นเลยทีเดียว ใครๆก็อยากจะรู้จักเจ้าของที่แปลงที่สวยที่สุดตอนนี้เพราะมันเหลืออยู่แปลงเดียวที่ติดถนนแถมยังเป็นที่ดินเปล่าอีกด้วยเคยมีพวกนายหน้าหาที่ดินชอบมาถามแกบ่อยๆว่ารู้จักเจ้าของที่แปลงนี้หรือเปล่า เขาก็เพิ่งจะรู้วันนี้นี่ล่ะว่าเจ้าของที่คือผู้หญิงสาวสวยตรงหน้านี่เอง
"โห นี่คุณรู้ไหมมีแต่คนอยากจะรู้ว่าใครเป็นเจ้าของที่แปลงนี้แล้วยิ่งพวกนายหน้าหาที่ดินนะมีมาถามบ่อยๆว่าที่แปลงนี้เจ้าของขายหรือเปล่า ว่าแต่คุณไม่คิดจะขายเหรอครับลุงว่าราคาตอนนี้คงจะแพงน่าดู นี่ขนาดที่เข้าไปในซอยข้างในเขาแบ่งขายไปยังได้ตั้งหลายสิบล้านเลยครับ"
ปัณสิตายืนฟังลุงแกเล่าด้วยรอยยิ้มบางก่อนจะส่ายหน้าบอก
"หนูไม่ขายหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูจะมาอยู่เองนี่แหล่ะ"
คำตอบพร้อมรอยยิ้มของเจ้าของที่คนสวยทำให้ลุงขายน้ำยิ้มตอบอย่างชื่นชม ดูสิทั้งสวยทั้งรวยแต่กลับไม่ถือตัวเลยสักนิดน้ำรถเข็นข้างทางก็ยังมาซื้อกินไม่มีท่าทางรังเกียจให้เห็นแม้แต่น้อยน่าชื่นชมจริงๆ
เมื่อยืนพูดคุยกับลุงขายน้ำสักพักปัณสิตาจึงได้เอ่ยขอตัวเพื่อที่จะเข้าไปสำรวจพื้นที่โล่งภายในและถ่ายรูปทุกมุมเอาไว้ ที่ดินเมื่อก่อนที่เธอจะซื้อมายังไม่ได้มีการถมดินแต่อย่างไร เธอเพิ่งจ้างเอาดินมาถมภายหลังจากที่ซื้อแล้วหนึ่งปี มันถึงได้ดึงดูดพวกนักลงทุนอสังหาที่ต้องการที่ทำเลดีๆเอาไว้เพื่อลงทุนนั่นล่ะ พอถมทั้งแปลงแล้วก็ดูสวยด้วยที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลึกเข้าไปด้านในหน้ากว้างติดถนนตั้งเกือบ80เมตรถือว่ากว้างพอสมควรทีเดียว คงต้องสร้างเป็นกำแพงรอบด้านถ้าหากได้มาอยู่จริงๆ
หลังจากถ่ายรูปเก็บรายละเอียดเรียบร้อยจึงได้กลับมาขึ้นรถ มือเรียวกดโทรศัพท์หาคนที่เป็นเพื่อนสนิทอีกคนทันที
"ฮัลโหลว่าไงคะชะนีสวยจะชวนไปดริ้งที่ไหนคะวันนี้"
เสียงรับสายที่มาพร้อมคำถามทุกครั้งที่ได้โทรหากันของอดีตเพื่อนชายที่กลายร่างเป็นหญิงสวยอย่างเนตตี้ก็ทำให้ปัณสิตายิ้มขำได้ทุกที
"วันนี้ยังก่อนเนตตี้แต่เดี๋ยวได้เจอกันแน่ล่ะ ฉันจะถามว่าแกยังติดต่อกับพี่แจ๊คของแกอยู่ใช่ไหมทุกวันนี้" ปัณสิตาถามถึงอดีตคนรักของเพื่อนที่ตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนความสัมพันธ์กันไปแล้ว
"ถามหาอดีตสามีของฉันทำไมยะหล่อน ก็ยังคุยแชทกันอยู่ทุกวันนั่นล่ะ ว่าแต่แกมีอะไรหรือเปล่ายัยปัณ"
"อืม มีเรื่องให้พี่เขาช่วยน่ะว่าจะให้พี่แจ๊คช่วยออกแบบบ้านให้หน่อยแกช่วยนัดพี่เขาให้ทีเป็นเสาร์หน้านี้ที่ร้านประจำของพวกเราก็ได้เดี๋ยวจะได้หาอะไรกินกันไปด้วย"
"ห๋า นี่แกจะลงทุนปลูกบ้านอยู่เองเลยเหรอแม่นักลงทุน"
"ฮ่าๆก็ทำนองนั้นแหล่ะ นะเอาไว้เจอกันค่อยคุยช่วยนัดพี่เขาไว้แต่เนิ่นๆนี่ล่ะจะได้มีเวลาเผื่ออดีตสามีแกไม่ว่าง"
"เชอะๆสำหรับฉันน่ะเขาต้องว่างเสมอย่ะ แม้สัมพันธ์จะเปลี่ยนแต่ความสำคัญห้ามลดลงค่ะ คิกๆ"
เสียงหัวเราะแบบมีจริตของเพื่อนทำให้ปัณสิตาได้แต่ขำตามไปด้วย
"เออแม่คนสำคัญ งั้นก็ตามนี้แหล่ะไว้เจอกันเสาร์หน้านะเนตตี้คนสวย"
"ย่ะ ตามนั้นเดี๋ยวฉันจะนัดพี่เขาให้"
ปัณสิตาวางสายจากเพื่อนแต่รอยยิ้มก็ยังแต่งแต้มอยู่บนริมฝีปากสวย ถ้าใครรู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไรต่อจากนี้ก็คงจะมีคำถามมากมายมาให้ตอบแน่ๆ เฮ้อ ก็แค่คนอยากจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองบ้างไม่เห็นจะแปลกที่จะวางแผนไว้ล่วงหน้าแบบนี้น่ะ รอยยิ้มยิ่งกว้างขึ้นอีกเมื่อนึกไปถึงหน้าคนที่อยากจะดึงมาเป็นครอบครัวด้วยกัน
เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเล็กๆของหลานสาวตัวน้อยที่เพิ่งจะอายุครบเดือนไปไม่กี่วัน กำลังใช้มือเล็กไขว่คว้าของเล่นที่คนเป็นป้าชูหลอกล่อ
"อันนี้ของใครเอ่ย หือ ของน้องรัญหรือน้องรินคะ แตงโมนี่ของๆใครดอกทานตะวันนี่ของใครน้อ"
ปัณสิตาแกว่งของเล่นที่เป็นรูปแตงโมสีแดงครึ่งซีกกับดอกทานตะวันสีเหลืองให้หลานรักมองตามแล้วทำท่าจะจับ พอโยกหนีเจ้าตัวน้อยทั้งสองก็ส่งเสียงหัวร่อเล็กๆเหมือนชอบใจให้คุณป้าคนสวยยิ้มด้วยความรักเอ็นดู
ปรายฟ้ากับณัฐวรินทร์ที่นั่งมองคุณป้าเล่นกับหลานๆได้แต่ยิ้มตาม ตั้งแต่คนเป็นพี่ได้ย้ายมาทำงานและพักที่คอนโดของณัฐวรินทร์บ้านหลังนี้เลยกลายเป็นเหมือนครอบครัวที่สองของปัณสิตาไปด้วยอีกคน เพราะเกือบจะทุกวันที่คนเป็นพี่แวะมาหามาเล่นกับหลานน้อยและอยู่ทานอาหารเย็นด้วยกัน
"พี่ปัณคะ ปรายถามจริงๆเหอะเรื่องพี่หมอแก้มพี่ปัณจะจีบหมอจริงๆเหรอคะ?" ปรายฟ้าอดที่จะถามพี่สาวอีกครั้งไม่ได้ก็ตั้งแต่เธอออกจากโรงพยาบาลมา พี่สาวก็คุยกับณัฐวรินทร์ให้ช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณหมอหน้าหวานที่ทำคลอดให้กับเธอ และคนเป็นน้องเขยก็ดูจะยินดีกุลีกุจอช่วยเหลือพี่ภรรยาอย่างไม่เกี่ยงไม่ค้านกันเลย
"ก็จีบจริงๆนะสิคะ ไม่งั้นพี่จะบอกพ่อกับแม่ทำไมละจ๊ะเด็กน้อย" ปัณสิตาเอ่ยบอกคนเป็นน้องด้วยรอยยิ้มแววตาเป็นประกายสดใส น้องสาวเธอโตจนมีครอบครัวแถมลูกสองแต่คำเรียกที่ใช้มาตลอดเวลาที่เอ็นดูมากๆเธอก็มักจะใช้คำว่าเด็กน้อยกับคุณแม่ลูกสองอยู่เสมอ จะยังไงปรายฟ้าก็ยังคงเป็นน้องน้อยของเธออยู่ดีนั่นแหล่ะ
"ปรายไม่ได้คิดจะห้ามอะไรหรอกนะคะ แต่พี่หมอแก้มเธอไม่เคยคบผู้หญิงมาก่อนแบบนี้ปรายก็ห่วงกลัวพี่ปัณจะไม่สมหวังเท่านั้นเอง"
คำพูดและสายตาห่วงใยจากน้องสาวทำให้ปัณสิตาส่งยิ้มให้
"ก่อนที่ปรายจะเจอกับณัฐปรายก็ไม่เคยคบผู้หญิงไม่ใช่เหรอจ๊ะ แล้วตอนนี้เป็นยังไงห่างกันไม่ได้เลยใช่ไหม"
คำย้อนถามที่มาพร้อมกับสายตาล้อเลียนจากพี่สาวก็ทำเอาคนที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมารักและถึงขั้นแต่งงานกับเพศเดียวกันแบบนี้เหมือนกัน ใบหน้าหวานก็พลันมีสีแดงเรื่อขึ้นมาให้เห็นทันที ให้คนที่นั่งข้างกันได้อมยิ้มพร้อมกับที่แขนเรียวโอบกอดเอาคุณแม่ขี้อายไว้มืออุ่นก็ลูบไล้สัมผัสต้นแขนกลมกลึงที่วันนี้คนหน้าหวานใส่เสื้อแขนกุดปรายฟ้าหันมามองคนรักที่ยิ้มให้ทั้งปากและตาก็อดที่จะยิ้มตอบไม่ได้ ความรักความอบอุ่นที่อีกคนมีให้อย่างเสมอต้นเสมอปลายทำให้การได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันถึงมีแต่ความสุขและรอยยิ้มในทุกๆวัน
ปัณสิตามองไปยังภาพของคนสองคนก็ได้แต่ยิ้มตามเห็นน้องสาวมีคนรักและครอบครัวอบอุ่นแบบนี้เธอเองก็พลอยสบายใจและเป็นสุขไปด้วย ถ้าจะถามว่าการที่เธอลงทุนจีบคุณหมอหน้าหวานนั้นเคยคิดถึงผลที่จะออกมาไหม แน่นอนว่าเธอเองก็คิดแต่แล้วยังไงล่ะทุกอย่างในชีวิตมันก็ย่อมมีผิดหวังและสมหวังเป็นเรื่องธรรมดา ถึงแม้เธออาจจะจีบหมอแก้มไม่สำเร็จชีวิตเธอก็ยังอยู่ได้สบายก็อาจผิดหวังนิดหน่อยหากคนที่เราอยากมีเขาคอยอยู่เคียงข้างกันในอนาคตไม่ได้คิดตรงกันแค่นั้นเอง ผิดหวังมันก็คือประสบการณ์แต่ถ้ามันสมหวังนั่นล่ะคือกำไรชีวิต คิดง่ายๆสไตล์ปัณสิตามันก็ไม่ทุกข์นักหรอกนะ
****
ร่างสูงของสาวสวยในชุดเดรสเกาะอกสีดำผมยาวสลวยถูกมัดรวบตรึงเผยใบหน้าสวยที่มีเพียงเครื่องสำอางแต่งแต้มบางๆแต่เพียงแค่นั้นก็ดึงดูดสายตาของคนภายในร้านอาหารกึ่งผับแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ปัณสิตาเดินเข้าไปยังโซนโต๊ะวีไอพีด้านในของร้าน เรียวปากแย้มยิ้มน้อยๆออกมาเมื่อมองไปเห็นเพื่อนกับหนุ่มหน้าตาดีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"สวัสดีค่ะพี่แจ๊ค" ปัณสิตายกมือไหว้ชายหนุ่มที่อายุมากกว่าพร้อมรอยยิ้ม
"สวัสดีครับน้องปัณไม่ได้เจอกันนานยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับเนี่ย" จตุพลยกมือรับไหว้สาวสวยเพื่อนสนิทของอดีตคู่รักของตนด้วยรอยยิ้มชื่นชม ถ้าหากว่าตัวเขามีใจนึกชอบในสตรีเพศแล้วละก็บอกเลยว่าสาวสวยอย่างปัณสิตาเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
"ขอบคุณค่ะสำหรับคำชม แล้วพี่แจ๊คมาคนเดียวเหรอคะ?"
"ฮึ หนีบกันมาด้วยน่ะสิแต่ฉันให้แยกโต๊ะย่ะ กวางสวยกับเก้งมานั่งด้วยกันมันเหม็นเขียวแกไม่รู้หรือไงยัยปัณ"
ฮ่าๆปัณสิตาเมื่อได้ฟังคนที่ตอบแทนจตุพลก็ระเบิดหัวเราะขำแบบไม่ห่วงสวยให้เพื่อนได้ค้อนตาประหลับประเหลือกอย่างมีจริต
"เนตตี้ก็พูดเกินไป น้องปัณอย่าไปเชื่อเลยครับสองคนนี้เขายังเคยไปนั่งดื่มด้วยกันจนผมต้องลากกลับทั้งคู่" จตุพลกล่าวแก้พร้อมกับยิ้มขำ คนรักใหม่ของเขากับสาวสวยศัลยกรรมน่ะเคยพบเจอแม้กระทั่งไปกินดื่มด้วยกันมาแล้ว แม้จะชอบกัดชอบแหย่กันทุกครั้งที่เจอแต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าทั้งคู่จะเกลียดขี้หน้ากัน เพราะระหว่างเขากับเนติพลนั้นจบความสัมพันธ์ในรูปแบบคนรักก็จริงแต่ความรู้สึกดีๆก็ยังมีให้กันในแบบพี่น้องอยู่
"เห็นเนตตี้บอกน้องปัณจะให้พี่ช่วยออกแบบบ้านให้เหรอครับ ว่าแต่จะสร้างที่ไหน มีรูปแบบคร่าวๆในหัวหรือยัง"
"ใช่ค่ะปัณว่าจะให้พี่แจ๊คช่วยเขียนแบบรวมถึงติดต่อช่างก่อสร้างที่ไว้ใจได้มาสร้างให้ปัณหน่อยส่วนเรื่องแบบในใจปัณก็ดูมาคร่าวๆและก็ปริ้นตัวอย่างมาด้วยค่ะ แต่อยากได้เสริมเพิ่มอะไรอีกหน่อย"
ปัณสิตาเอ่ยบอกพร้อมกับยื่นซองที่มีแบบบ้านตัวอย่างที่เธอปริ้นมาจากอินเตอร์เนตให้รุ่นพี่ดู จตุพลรับซองไปเปิดดึงเอกสารที่เป็นภาพบ้านตัวอย่างประมาณสามแบบออกมาดูก็เงยหน้าขึ้นเอ่ยยิ้มชมอีกคน
"อืมแบบบ้านสวยน่ารักดีนะครับไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ทีแรกพี่นึกว่าน้องปัณจะสร้างคฤหาสน์ซะอีก"
คำแซวของหนุ่มรุ่นพี่ทำเอาคนฟังขำคิกเลยทีเดียว
"โอยพี่แจ๊คอย่าไปบ้าตามเนตตี้พูดเลยค่ะ ปัณอยากได้หลังประมาณนี้แหล่ะค่ะห้าห้องนอนไม่หลังใหญ่มาก เพิ่มสระว่ายน้ำแล้วทำโรงจอดรถแค่นั้นพอแล้วค่ะ พื้นที่ส่วนมากปัณจะเน้นทำสวนตกแต่งสวยๆดีกว่า"
"แล้วเอามาให้พี่ดูสามแบบนี่จะเอาแบบไหนครับ เท่าที่ดูมันก็สวยทั้งสามแบบนะพี่ว่า เนตตี้ว่าไงช่วยเพื่อนออกความคิดเห็นหน่อยไหม" จตุพลยื่นแบบภาพบ้านให้คนข้างๆดูด้วย
"อืมก็สวยทั้งสามแบบจริงๆนั่นแหล่ะ เลือกช่วยไม่ถูกเลยยัยปัณ" เนตตี้เมื่อดูเสร็จก็บอกกับเพื่อนให้คนที่คิดจะสร้างบ้านเป็นของตัวเองได้อมยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ถ้าในสายตาสถาปนิกอย่างจตุพลชมว่าสวยแล้วถ้าสร้างเสร็จตกแต่งสมบูรณ์มันก็คงจะน่าอยู่ไม่น้อยเลย
"ถ้าอย่างนั้นปัณเลือกแบบนี้ก็แล้วกันค่ะพี่แจ๊ค" ปัณสิตาชี้ไปยังแบบบ้านที่ตนตัดสินใจเลือกแล้ว
"อืม เข้าใจเลือกนะเรา ว่าแต่ให้เวลาพี่กี่วันนี่รีบหรือเปล่าครับพอดีช่วงนี้พี่ติดออกแบบงานให้อ**บริษัทหนึ่งอยู่น่ะ แต่อีกสองอาทิตย์ก็น่าจะเรียบร้อยแล้วล่ะ"
"โหยปัณไม่รีบขนาดนั้นค่ะเอาที่ช่วงพี่แจ๊คว่างตามสะดวกเลยสองสามเดือนก็ได้ค่ะ"
"โอเคถ้าอย่างนั้นก็เดือนหน้านี่ก็เสร็จแล้วละครับ ส่วนเรื่องช่างรับเหมาก็ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่ติดต่อบริษัทของรุ่นน้องที่รู้จักกันให้เพราะเขาเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างโดยตรงงานดีไม่มีปัญหาแน่นอนพี่รับประกันได้"
"แหม อวยซะขนาดนี้ทำไมไม่บอกไปเลยละคะว่าเก้งของตัวเองก็ทำอยู่บริษัทนี้น่ะคุณพี่แจ๊ค"
เนตตี้จีบปากจีบคอเหน็บอดีตคนรักอย่างหมั่นไส้ ไม่ได้จะอะไรหรอกแค่หมั่นเฉยๆอยากแขวะ
"จริงเหรอคะพี่แจ๊ค ถ้าเป็นแบบนั้นปัณก็สบายใจอย่างน้อยก็ยังมีคนพอที่จะช่วยตามงานให้ได้"
จตุพลยิ้มรับพร้อมพยักหน้าให้
"ครับ เขาอยู่ฝ่ายออกแบบตกแต่งภายในน่ะ ไว้เดี๋ยวก่อนกลับจะแนะนำให้รู้จักกันไว้พอดีเขานั่งอยู่โซนด้านนอกกับเพื่อนที่มาด้วยกันน่ะ"
"ยินดีเลยค่ะพี่แจ๊ค ว่าแล้วก็เริ่มหิวเราสั่งอะไรมาทานกันดีกว่าค่ะ ปัณเป็นเจ้ามือเองวันนี้ ดื่มได้นะคะถ้าคิดว่ากลับไหว"
"ไม่ไหวฉันก็จะหาคนไปส่งย่ะแม่นักลงทุน ว่าแต่แกจะสร้างเรือนหอรอผู้คนไหนเหรอยัยปัณ นี่แกแอบมีความลับกับเพื่อนฝูงเหรอยะหล่อน"
คำพูดแอบจิกเล็กๆของเพื่อนสนิททำให้ปัณสิตาอดยิ้มขำไม่ได้
"ฉันก็สร้างไว้อยู่เองนี่แหล่ะเนตตี้ ส่วนถ้ามีใครเขาเต็มใจอยากมาอยู่ด้วยเดี๋ยวฉันจะบอกนะเพื่อนเลิฟ ตอนนี้สั่งอาหารเถอะหิวแล้ว"
"ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนฉัน ทำอะไรต้องให้คอยลุ้นตามตลอดเลยนะเธอ" เนตตี้ส่งท่าค้อนที่คิดว่าสวยให้เพื่อนสาวตัวเองและมันก็เรียกเสียงหัวเราะขำของปัณสิตากับหนุ่มข้างๆได้ดี
ร่างสูงสมส่วนของคุณหมอคนสวยประจำแผนกสูตินารีเดินออกจากห้องตรวจพร้อมส่งยิ้มให้กับพยาบาลที่นั่งประจำหน้าห้อง
"ไปทานข้าวที่ไหนคะคุณหมอวันนี้" พยาบาลหน้าห้องเอ่ยทักคุณหมอหน้าหวาน
"วันนี้พอดีนัดกับหมอวิไว้น่ะค่ะคงไปทานร้านใกล้ๆแถวนี้แหล่ะหมอขอตัวก่อนนะคะจะได้รีบกลับ"
"ค่ะคุณหมอ"
กวิสราเดินออกมายังส่วนหน้าของโรงพยาบาลที่จัดคล้ายๆลอบบี้โรงแรมก็เห็นวิรัญญานั่งรออยู่แล้ว
"ป่ะวิ วันนี้ไปกินร้านไหนดี"
กวิสราเอ่ยถามเพื่อนที่ลุกขึ้นส่งยิ้มให้กัน
"ร้านครัวไทยที่เดิมละกัน วันนี้ดีหน่อยคนไข้เคสหนักๆไม่มี แล้วแก้มล่ะคนไข้เยอะไหมวันนี้"
"ของเรามีเรื่อยๆแหล่ะก็ถือว่าไม่ได้เยอะหรอก แล้ววันนี้วิไม่มีประชุมอะไรใช่ไหม"
สองสาวเดินคุยกันมาจนถึงรถของวิรัญญาที่จอดอยู่ด้านข้างในโซนจอดรถผู้บริหาร
"ไม่มีจ๊ะ จะมีอีกทีก็วันมะรืนนี้แหล่ะสรุปผลรายงานความคืบหน้าของฝ่ายก่อสร้างตึกใหม่น่ะ"