บทที่ 2 ไอ้หื่นเอ๊ย

1751 คำ
แน่นอนว่าตะวันปล่อยให้ชายหนุ่มจูบแล้วจูบเล่า กระทั่งพอใจชายหนุ่มก็ซุกไซ้แก้ม ซอกคอ ทำเอาตะวันสะท้านบิดหนี เผลอแอ่นกายเป็นบางครั้ง จังหวะเดียวกันนั้นชายหนุ่มก็ถลกชายเสื้อตะวันขึ้นเผยอให้เห็นยอดอกและเม็ดนมสีชมพูเชียว           “อื้อ! บ้าเอ๊ย! อื้อ!” ตะวันสบถด้วยว่าเกลียดชังความรู้สึกตัวเอง แต่ร่างกายยิ่งดีดดิ้นทรมานเมื่อชายหนุ่มละเลงลิ้นเลียไปตามแผงอก ก่อนจะงับหัวนมแล้วเอาลิ้นดุนดันดูดเลียแรงๆ คราวนี้ตะวันเกร็งจนต้องจิกมือลงบนที่นอน ให้ตายเถอะ เกิดมายังไม่ถึงถูกผู้ชายด้วยกันเล้าโลม และถ้าปล่อยให้นานกว่านี้ ตะวันเป็นได้เสียพรหมจรรย์ครั้งแรกให้ผู้ชายแน่ๆ ว่าแล้วเขาจึงรวบรวมสติมองซ้ายมองขวาก็เห็นแจกันฝั่งที่ใกล้ที่สุด           “คุณ” ตะวันเรียกชายหนุ่มเสียงนุ่ม กะเอาให้เงยหน้าขึ้นมา จังหวะนี้แหละตะวันก็ฟาดแจกันลงไปบนศีรษะของชายหนุ่มแรงๆ โพล๊ะ!  “อื้อ!” เสียงแจกันกระทบศีรษะแตก และชายหนุ่มสลบฟุบไปกับที่นอน แน่นิ่งไม่ขยับ ตะวันตกใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็ได้อิสระคืนมา           “ตายป่าววะ” ตะวันเอ่ยลอยๆ พลางเอามือเขย่าตัวชายหนุ่มร่างใหญ่ และรีบขยับตัวออกแล้วใส่กางเกงให้เรียบร้อย แต่ไอ้จู๋ยังแข็งโด่อยู่เลย           “โอย... ไอ้หื่น ไอ้บ้าเอ๊ย คงไม่ตายนะ” ตะวันสบถด่า พลางรีบลงจากเตียง แต่ยังไม่ลืมว่าตนเองมาทำอะไร จึงค้นหากระเป๋าเอกสารของเจ้านาย เมื่อไม่เจอเขาก็ไปอีกห้อง และนั่นแหละผิดห้องตั้งแต่แรก เพราะมันเป็นห้องสวีทรูม มีสองห้องทะลุกัน เสือกมาเข้าห้องไอ้หื่นนั่น เป็นใครก็ไม่รู้แต่หล่อ หล่อมากๆ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นบ้าขนาดนี้ เมื่อได้ของที่ต้องการตะวันก็รีบลงจากห้องทันที แล้วกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยง เพื่อนำของไปไห้เจ้านายตามที่ต้องการ แต่ก่อนไปเจอ ก็ต้องดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมเสียก่อน แต่สิ่งที่ลืมคือ           “ลืมหมวก! ไอ้บ้าเอ๊ยยังทิ้งหลักฐานเอาไว้อีก” ตะวันแทบอยากจะเอามือทึ้งหัวตัวเอง แต่ช่างเถอะจะเสียดายทำไหมกะอีแค่หมวก ทิ้งๆ ไปเถอะ ดีกว่ากลับไปเอาแล้วเผชิญกับใครก็ไม่รู้ เมาแล้วบ้า เมาแล้วหื่นไม่เลือกขนาดนั้น           คิดได้อย่างนั้นตะวันจึงรีบกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงทันที ที่ซึ่งมีแต่เหล่าผู้บริหารนั่งดื่มฉลองปาร์ตี้ หลังเสร็จงานเครียดๆ บางคนหนีกลับขึ้นห้องไปแล้วพราะเมามากดื่มต่อไม่ไหว แต่บางคนยังอยู่ซึ่งกำลังดื่มอย่างออกรสออกชาติ ตะวันก็เดินเลี่ยงๆ ผ่านบอร์ดี้การ์ดผู้ติดตามทั้งหลาย ไปจนถึงเจ้านายตัวเอง เขาก็เดินก้มตัวเล็กน้อยเพราะเดินผ่านผู้ใหญ่ กระทั่งถึงมาวินเจ้านายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเข้ม           “กระเป๋าเอกสารได้แล้วครับ คุณวิน” ตะวันบอกด้วยน้ำเสียงเบาและสั่นนิดๆ พร้อมกับเรียกชื่อเจ้านายอย่างสนิท           “ชอบใจ ทำไมไปนานวะ” มาวินถามกลับด้วยความสงสัย น้ำเสียงคล้ายคนเมาเล็กน้อย แต่น้อยกว่าคนที่อยู่บนห้อง           “เอ่อ ผะ... ผะ... ผม มัวแต่ค้นว่ากระเป๋าเอกสารคุณวินอยู่ตรงไหน คุณวินไม่ได้บอกว่ามีสองห้องทะลุกัน” ตะวันบอกเสียงเบาและสั่นอยู่ดังเดิม เหมือนผ่านความกลัวมาหมาดๆ             “อ้าวเหรอ! เอ่อ โทษที” มาวินใช้ให้ไปแล้ว ก็ลืมอีกนั่นแหละว่ามีเพื่อนขึ้นห้องไปก่อน เขาคิด พลางมองหน้าตะวันที่เอาแต่ก้มหน้างุดเหมือนหลบซ่อนอะไรบางอย่าง “ว่าแต่ ก้มหน้าทำไมวะเนี่ย เป็นอะไร” มาวินถามอีกครั้ง “เอ่อ เปล่าครับ” ตะวันตอบและเงยหน้าขึ้นนิดหน่อย จังหวะนี้เองที่มาวินเห็นว่าใบหน้าตะวันมีรอยแดงจ้ำๆ มุมปากแดงๆ ลำคอก็เหมือนเป็นผืนขึ้นแล้วเกาอะไรเทือกนั้น “หน้าไปโดนอะไรมาวะ แดงเป็นปื้นๆ เป็นผืนเหรอ แพ้อะไรหรือเปล่า หรือว่าแพ้เหล้า” มาวินถามด้วยความเป็นห่วงทันที “ปะ! ปะ! เปล่าครับ ไม่ได้แพ้อะไร เอ่อ! สงสัยจะฝุ่นเยอะเลยทำให้คันนิดหน่อย” “แล้วเราจะหลบหน้าหลบตาฉันทำไมวะเนี่ย” “ไม่มีอะไรครับ ผมจะขอตัวไปนั่งกับพวกพี่ๆ ทางนั้นนะฮะ ไม่อยากรบกวนคุณวิน” “เออๆ ไปเถอะ ดื่มกินตามสบายนะ เรื่องกลับดึกไม่ต้องห่วงเดี๋ยวให้คนไปส่ง” “ครับ ขอบคุณครับ” ว่าแล้วตะวันก็ลุกเดินไปสมทบกับหนุ่มๆ รุ่นพี่ซึ่งเป็นผู้ติดตามของผู้บริหารทั้งหลาย รู้จักกันเป็นอย่างดีแต่ตะวันจะเด็กสุด เพราะเป็นเด็กฝึกงานยังเรียนอยู่ แต่ก็ดื่มได้เพราะบรรลุนิติภาวะแล้ว    “ว่าไงเรา ไปซะนานเชียว” พนักงานรุ่นพี่คนหนึ่งถามพลางกระดกเหล้าเข้าปาก “ก็ไปเอากระเป๋าให้คุณวินนั่นแหละ พอดีคุณวินไม่ได้บอกว่าเอาไว้ไหน เลยหานานไปหน่อย” “แล้วเจอยังเนี่ย” “เจอแล้วครับ เอามาให้แล้ว” “งั้นดื่มๆ” อีกคนหนึ่งแทรกขึ้นพลางรินเหล้าให้ตะวันดื่ม “ผมดื่มมากไม่ได้พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้า” “เอาน่าพวกพี่ไปส่งแกเหมือนเดิมนั่นแหละ” จังหวะที่หนุ่มๆ คุยกันอยู่นั้น เลขาคนงามของมาวินก็รีบมานั่งสมทบ “ตะวัน ตั้งแต่มาถึงเนี่ยยังไม่ได้คุยกันเลยนะ ด้ามัวแต่ยุ่งๆ กับดูแลเจ้านายและเพื่อนๆ ท่านน่ะ” เอด้าสาวสวยอายุมากกว่าตะวัน 2 ปี นั่งลงใกล้ๆ พร้อมกับเอามือควงแขนเขาราวกับเป็นคู่รัก “เอ่อ ไม่เป็นไรครับพี่ด้า” ตะวันเรียกซะหญิงสาวดูแก่เชียว “พี่ด้า! อย่ามาเรียกให้แก่แบบนั้น เรียกด้าก็พอ ด้าบอกหลายหนแล้ว เราคนกันเองนะคะ อีกหน่อยพอเราเป็นแฟนกันแล้วก็เรียกตัวเองตัวเอง” ฟังเธอพูดสิ เอ่อออเก่งเสียเหลือเกิน   “รวบหัวรวบหางเก่ง ถามตะวันหรือยังว่าอยากเป็นแฟนกับเราหรือเปล่า” บอร์ดี้การ์ดคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “เอ่อจริงสิ ด้าลืมถาม เราจะเป็นแฟนกันได้หรือยังคะ” หญิงสาวแกล้งเย้าแหย่ “เอ่อ... เอ่อ... ทำไมเราต้องเป็นแฟนกันครับ” ตะวันถามกลับเสียงอึกอัก “เอ้า ด้าก็นึกว่าตะวันจะรู้ซะอีกว่าด้าจีบตะวัน” ผู้หญิงสมัยนี้จะมานั่งกระมิดกระเมี้ยนก็คงไม่ได้ อดกันพอดี รุกได้รุก ตะวันเข้าใจแต่เขาไม่ได้ชอบเธอนี่น่า แต่เธอน่ารักนิสัยดี “คือ... ผม... ผมยังเรียนอยู่ ยังไม่คิดเรื่องนั้น อีกอย่างเพื่อนหญิงของผมค่อนข้างจะมีเยอะ”        “ได้ยินไหมด้า ตะวันหมายความว่าให้เธอไปต่อแถว แถวคงยาวไปถึงดาวพลูโตโน่น” บอร์ดี้การ์ดคนเดิมแทรกขึ้น “เว่อร์น่าพวกพี่ก็ ตะวันไม่ได้บอกแบบนั้นซะหน่อย ใช่ไหมคะตะวัน” “เอ่อ เป็นเพื่อนร่วมงานยั่งยืนกว่าครับ แต่ก็เรียนรู้กันไป” “นั่นไง มีหวังอยู่ ตะวันน่ารักที่สุดเลย” พูดไม่พูดเปล่าแต่เธอเอามือหยิกแก้มของเขาเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว จะไม่ให้หมั่นเขี้ยวได้อย่างไรในเมื่อตะวันหน้าตาน่ารัก ผิวขาวเหมือนลูกคนจีน ปากนิดจมูกหน่อย หน้าหวานเหมือนหนุ่มเกาหลีเลยทีเดียวสเปกเธอเลยเชียว “อื้อ! คอไปโดนอะไรมา ทำไมมันแดงๆ เป็นผืนแพ้อะไรหรือเปล่า” เอด้าถามอย่างแปลกใจ ซึ่งเธอไม่ใช่คนแรกที่ถามแบบนี้ “เอ่อ คะ... คะ... คันครับก็เลยเกา ไม่มีอะไรหรอก” ตะวันตอบเสียงอึกอัก แต่ก็พลันนึกถึงอีตาขี้เมาทั้งดูดที่ซุกไซ้ซอกคอ คิดแล้วยังขนลุกไม่หาย มวลในท้องน้อยไปหมด ทำอย่างไรถึงจะลบภาพนั้นและอารมณ์เสียวๆ แบบนั้นได้วะเนี่ย “สนใจอะไรกับเรื่องแบบนั้น เอ้าชนแก้ว” รุ่นพี่คนหนึ่งบอกพร้อมกับยกแก้วขึ้น จากนั้นทุกคนจึงได้ชูแก้วเหล้าแล้วชนก่อนจะยกดื่ม ตะวันก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาดื่มได้แต่ดื่มไม่เก่ง เพราะไม่ชอบ แต่เมื่อได้มาทำงานพาร์ทไทม์กับองค์กรใหญ่ๆ แบบนี้ จำเป็นต้องปรับตัว “อย่าดื่มเยอะนะคะตะวันเดี๋ยวเมา ด้าไม่อยากให้ตะวันเป็นคนขี้เหล้าเหมือนพวกพี่ๆ” เอด้าแกล้งบอกยิ้มๆ “กลัวอะไร เดี๋ยวเรียนจบปุ๊บตะวันก็ได้ทำงานเต็มตัว บรรจุเป็นพนักงานประจำตอนนั้นก็คอแข็งพอดี ไม่ต่างจากพวกพี่หรอก บางทีก็ต้องดื่มเป็นเพื่อนเจ้านายนะโว้ย” “เอ่อจริงสิพี่ วันนี้งานเลี้ยงอะไร ผมก็ลืมถาม รู้แต่ว่าคุณ  วินเรียกมาใช้งานหลังเลิกเรียนก็รีบมาเลย” “ฉลองตำแหน่งท่านประธานคนใหม่ นายยังไม่เคยเห็นหน้าสินะ” “ยังครับ รู้จักแต่คุณท่านคนก่อน ซึ่งก็ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าอยู่ดี” นั่นก็เพราะตำแหน่งใหญ่ๆ ค่อนข้างจะเข้าถึงตัวหรือเห็นตัวจริงยาก ยิ่งพนักงานตัวเล็กๆ แทบจะไม่ได้เห็น  “ถ้าพรุ่งนี้ว่างจากเรียนก็เข้ามาช่วยงานคุณวิน จะได้เห็นหน้าท่านประธานคนใหม่ไง รู้จักกันเอาไว้เพราะคุณวินคือคนสนิทของท่านเลยนะ เผื่อมีอะไรจะได้ฝากฝังได้” พนักงานรุ่นพี่บอก “ครับ ผมว่าตอนบ่าย เดี๋ยวเข้าไปอยู่แล้ว คุณวินจะได้มีคนทำงานช่วยนานขึ้น” “ป่ะดื่มต่อ คุยอะไรกันเรื่องงาน ปวดหัว” ว่าแล้วทุกคนก็หยุดคุยกันเรื่องงาน แล้วพากันสังสรรดื่มกินอย่างสนุกสนาน มองเจ้านายอยู่ห่างๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงเลย ทุกคนเมามายแทบไม่ได้สติ ต้องให้บอร์ดี้การ์ดลากขึ้นไปยังห้องพักใครมัน เพราะเปิดห้องก็เพื่อการนี้ เจ้านายเมาจะได้ไม่ต้องกลับบ้าน อีกอย่างก็เปิดไว้ให้เพื่อนๆ ที่มาไกลได้พัก จะได้ไม่ต้องกลับบ้านให้เกิดอันตราย และเช่นเดียวกันเมื่อตะวันดูแลเจ้านายจนวินาทีสุดท้ายเขาก็ขอตัวกลับ โดยมีบอร์ดี้การ์ดของมาวินไปส่ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม