บทที่ 16

1269 คำ
“เย้! เย้! ได้ครับ คุณอาบลูต้องไปกินเค้กช็อคโกแลตที่บ้านน้องบลูนะครับ คุณแม่ทำอร่อยที่สุดในโลกเลยครับ” ร่างป้อมกระโดดเย้วๆ ด้วยความดีใจที่จะได้หุ่นยนต์หลายตัว และที่สำคัญคุณอาจะไปเที่ยวที่บ้านของตนเองด้วย “น้องบลูชอบกินเค้กช็อคโกแลตหรือครับ” ขณะเอ่ยถาม โดมินิทก็จับร่างป้อมๆ ที่กระโดดโลดเต้นไว้ให้อยู่นิ่งๆ “ชอบที่สู๊ดด...เลยครับ” ปากเล็กทำเสียงสูงบอกให้รู้ว่าชอบมากแค่ไหน “แต่คุณแม่ไม่อยากให้กินเยอะ คุณแม่บอกว่าเดี๋ยวน้องบลูจะอ้วนเกินไป ถ้าเป็นเด็กอ้วนจะไม่สบาย น้องบลูก็เลยแอบไปกินสองคนกับน้าปุ้นครับ” ประโยคหลังน้องบลูพูดกระซิบเบาๆ เหมือนกลัวว่าคุณแม่จะได้ยิน ทำเอาโดมินิทต้องหัวเราะขบขำกับความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวเล็ก “คุณแม่จับได้ไหมครับ” “จับไม่ได้ครับ น้าปุ้นพากินตอนคุณแม่ไม่ได้อยู่ที่ร้านครับ” น้องบลูยิ้มแป้นให้ชายหนุ่ม “ฉลาดจริงๆ เลยนะเรา” โดมินิทดึงตัวน้องบลูเข้ามากอดพลางหอมแก้มซ้ายขวาฟอดใหญ่ด้วยความรัก “คุณอาครับ น้องบลูเจอหุ่นยนต์โรโบคอบแล้วครับ อยู่นี่ไงครับ” น้องบลูชูหุ่นยนต์ที่ตัวเองชอบและอยากได้ให้ชายหนุ่มดู “ตัวนี้เรียกหุ่นยนต์โรโบคอบ น้องบลูอยากได้ตัวนี้ น้องบลูจะเอาไปเล่นกับพี่อาร์ตครับ” “รู้จักชื่อหุ่นยนต์ด้วย” โดมินิทแซวยิ้มๆ “รู้จักครับ น้องบลูรู้จักชื่อหุ่นยนต์ทุกตัวเลย ตัวนั้นชื่ออุลตร้าแมน ตัวนั้นชื่อมดเอ็กซ์ ตัวนั้นชื่อโดราเอมอน ตัวนั้นชื่อ...” น้องบลูกำลังจะบอกชื่อหุ่นยนต์ตัวต่อไป แต่ถูกโดมินิทเอ่ยห้ามทัพไว้เสียก่อน “พอแล้วครับ คุณอาจำได้ไม่หมดหรอกครับ พี่อาร์ตที่น้องบลูจะซื้อหุ่นยนต์ไปฝากคือใครครับ” ชายหนุ่มหยิบหุ่นยนต์โรโบคอบและตัวอื่นๆ ที่น้องบลูเรียกชื่อเมื่อสักครู่เอาใส่ในรถเข็นทุกตัว “พี่อาร์ตอยู่บ้านใกล้ๆ กับน้องบลูครับ ตอนเย็นๆ คุณลุงพันจะพาพี่อาร์ตมาเล่นกับน้องบลูทุกวันเลยครับ น้าปุ้นบอกว่าคุณลุงพันมากินกาแฟและมาจีบคุณแม่ด้วยครับ” เด็กน้อยรายงานด้วยน้ำเสียงแจ้วๆ “คุณพ่อน้องบลูไม่ว่าหรือครับที่มีคนมาจีบคุณแม่” “คุณพ่อไม่ได้อยู่กับน้องบลู น้าปุ้นบอกว่าคุณพ่ออยู่ไกลมากๆ อยู่ต่างประเทศ ถ้าจะไปหาต้องนั่งเครื่องบินไปครับ” “น้องบลูอยากไปหาคุณพ่อไหมครับ” โดมินิทสนใจขึ้นมาทันทีเมื่อน้องบลูบอกว่าคุณพ่ออยู่ต่างประเทศ “อยากครับ แต่น้องบลูหยอดกระปุกออมสินยังไม่เต็มเลย น้องบลูไม่มีเงินซื้อเครื่องบิน” น้องบลูตีหน้าสลด ทำเสียงเศร้าๆ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ โดมินิทยิ้มออกมารู้สึกรักน้องบลูมากขึ้นกว่าเดิม เจ้าตัวคงคิดว่าเครื่องบินลำละไม่กี่บาท จึงหยอดกระปุกออมสินเก็บเงินไว้ซื้อเครื่องบิน “อาบลูซื้อเครื่องบินบังคับวิทยุให้ลำหนึ่งเอาไหมครับ เอาไว้ขับไปหาคุณพ่อ” ชายหนุ่มยิ้มพูดหลอกล่อเด็กน้อย เขาอยากรู้ว่าน้องบลูจะตอบว่ายังไง “เอาครับ แต่มันนั่งไม่ได้นี่ครับ น้องบลูเห็นมันเล็กนิดเดียวเอง คุณอาจะให้น้องบลูนั่งตรงไหนครับ ถ้านั่งทับไปมันต้องหักแน่ๆ เลยครับ” เด็กน้อยแสดงความคิดเห็นอย่างชาญฉลาด ‘เจ้าเด็กคนนี้ฉลาดจริงๆ ท่าทางคุณแม่กับน้าสาวจะเลี้ยงมาดี’ “อืม...ถ้างั้นอาบลูให้ยืมเครื่องบินขับไปหาคุณพ่อดีไหมครับ” โดมินิทหมายถึงเครื่องบินส่วนตัวของเขา น้องบลูได้ยินเช่นนี้ ก็หันมาจับแขนแข็งแรงของโดมินิทไว้ หมดความสนใจในหุ่นยนต์ทุกตัวที่อยากได้ ริมฝีปากเล็กๆ ถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น เพราะอยากเจอคุณพ่อมาก “คุณอาบลู มีเครื่องบินด้วยหรือครับ” “มีครับ มีอยู่ลำหนึ่ง เป็นเครื่องบินของจริงนั่งได้ด้วยครับ” โดมินิทเอ่ยกลั้วหัวเราะ เมื่อเห็นดวงตาสีน้ำเงินเข้มทำตาโตแวววาวตื่นเต้นกว่าเดิม “คุณอาให้น้องบลูยืมได้ไหมครับ น้องบลูจะขับไปหาคุณพ่อ น้องบลูสัญญาว่าจะไม่ทำพังครับ” น้องบลูชูนิ้วชี้กับนิ้วกลางขึ้นทำเป็นเหมือนสัญลักษณ์การสัญญา แต่ดันลืมยกนิ้วนางขึ้นมาด้วยเลยทำให้จากสัญญากลายเป็นสู้ตายแทน โดมินิทอดหัวเราะกับสัญลักษณ์การสัญญาของบลูไม่ได้ ตั้งแต่เจอน้องบลูเขารู้สึกว่าตัวเองมีความสุขขึ้นมาก เขาหัวเราะและยิ้มบ่อยขึ้น หลังจากเจอมรสุมชีวิตในอดีตที่ผ่านมา เขาไม่เคยหัวเราะด้วยความสุขใจอีกเลย เขาดีใจที่ได้พบเด็กน้อยที่น่ารักเหมือนน้องบลู “อาบลูให้ยืมเครื่องบินครับ ว่า...แต่ว่า...ขับเครื่องบินเป็นหรือเปล่านะเรา” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเจือด้วยรอยยิ้มระคนเอ็นดู “ไม่เป็นครับ แต่จะให้อาบลูขับให้ นะครับ...อาบลูขับเครื่องบินพาน้องบลูไปหาคุณพ่อหน่อยนะครับ” เด็กน้อยออดอ้อนโถมตัวเข้าไปกอดขาโดมินิทไว้ ชายหนุ่มย่อตัวลงนั่งหยองๆ บนส้นเท้าตัวเองและกอดน้องบลูไว้ สงสารเด็กน้อยจับใจ “อ้าว! ไหง๋มาให้คุณอาขับให้ล่ะครับ” “ก็อาบลูเป็นคนซื้อ คุณอาก็ต้องขับเป็นสิครับเหมือนน้าปุ้น น้าปุ้นซื้อรถเอง น้าปุ้นยังขับรถเป็นเลย แต่น้าปุ้นขับรถไม่เก่ง เมื่อเดือนก่อนน้าปุ้นขับรถชนกระถางต้นไม้แตกตั้งสี่ใบ ต้นไม้หน้าบ้านหักด้วย” น้องบลูเผาน้าสาวยกใหญ่ โดยไม่รู้ว่าน้าสาวกำลังยืนฟังอยู่ด้านหลัง ณิชาดาหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันควันด้วยความอาย เมื่อโดนหลานเผาต่อหน้าชายหนุ่มทั้งสอง โดยเฉพาะคนที่เดินตามหลังเธอมาติดๆ พอได้ยินคำพูดของน้องบลูก็ปล่อยหัวเราะก๊ากออกมาอย่างขบขัน “กระถางต้นไม้แตกสี่ใบเลยหรือครับน้องบลู” คาเมลถามเสียงกลั้วหัวเราะ ใบหน้าคมเข้มยิ้มพราย สายตายังจับจ้องอยู่ที่สาวสวย ซึ่งยืนตีหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ ตัวเขา “ครับ ไฟข้างหลังรถแตกด้วย เมื่อตะกี้ตอนจอดรถ คุณแม่บอกว่าถ้าน้าปุ้นชนรถคันสวยที่จอดอยู่ข้างๆ คุณแม่จะหักเงินค่าขนมน้าปุ้นสามเดือน” พอน้องบลูพูดจบ คาเมลก็ปล่อยหัวเราะเสียงดังกว่ารอบแรก ทำเอาคนที่เดินซื้อของอยู่แถวๆ นั้นต้องหันมามองด้วยความสนใจ “น้องบลู!” ณิชาดาเรียกหลานเสียงดัง หน้าขาวนวลเปลี่ยนเป็นสีแดงลูกตำลึงสุกด้วยความอับอาย มือบางตีแรงๆ ไปบนต้นแขนคาเมล ซึ่งยืนหัวเราะจนตัวงอหน้าดำหน้าแดง “คุณคาเมล หยุดหัวเราะได้แล้ว ขำอะไรกันนักกันหนากับอีแค่ขับรถชนกระถางต้นไม้แตก” หญิงสาวพยายามทำหน้าบึ้งกลบเกลื่อนความอายของตัวเอง “คุณไม่เคยขับรถชนกระถางต้นไม้หรือยังไง” คราวนี้ณิชาดาหันมาถลึงตาถามคาเมลอย่างเอาเรื่อง “ไม่เคยสักที ขับรถออกมาข้างนอกแบบนี้มีใบขับขี่พกติดตัวหรือเปล่า ฮันนี่” คาเมลเอ่ยถามกลั้วหัวเราะ มองหญิงสาวด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความรัก ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็นโดยไม่คิดปิดบัง “มีสิ ทำไมจะไม่มี คนเขาอุตส่าห์ไปสอบมาเรียบร้อย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม