“แค่ใช้โทรศัพท์ร่วมกันไม่ทำให้ติดเชื้อบ้าได้หรอก แต่ถ้าจะให้ดีต้องจูบคุณเหมือนก่อนหน้านี้ด้วย”
คาเมลยื่นมือใหญ่แตะบนริมฝีปากแดงระเรื่อของหญิงสาว พอณิชาดาอ้าปากจะกัดปลายนิ้ว ชายหนุ่มก็ชักนิ้วออกมาอย่างรู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่าย
“ไม่ต้องมาทำเลยนะ ฉันยังไม่อยากไปฉีดยารอบสะดือ” ณิชาดาถลึงตาใส่อีกฝ่าย แก้มนุ่มแดงปลั่งโมโหที่ชายหนุ่มชอบย้ำเรื่องจูบ!
คาเมลได้ยินคำประชดประชันของหญิงสาวก็ปล่อยหัวเราะออกมาเต็มเสียง เขาไม่เคยทะเลาะกับใครแล้วรู้สึกสนุก และมีความสุขเหมือนได้ทะเลาะกับณิชาดาสาวสวยหน้าหวานที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“คนนะครับ ไม่ใช่หมาบ้าที่โดนกัดแล้วต้องไปฉีดยารอบสะดือ”
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ” ณิชาดาเหน็บแนมกลับทันควัน
“รีบๆ โทรไปเถอะ เจ้านายผมกับน้องบลูเดินไปโน้นแล้ว” คาเมลชี้ให้ดูโดมินิทกับน้องบลูที่จูงมือกันเดินไปถึงแผนกของเล่นเด็กแล้ว
“ส่วนค่าโทรเอาไว้คิดทบต้นทบดอกรอบเดียวแล้วกันนะฮันนี่” ดวงตาสีน้ำตาลแพรวพราวมันระยับ ขณะมองไปยังริมฝีปากสีแดงระเรื่ออย่างมีความหมาย
“เสียใจ ฉันไม่ใช่ธนาคาร ไม่มีต้น ไม่มีดอกให้คุณเบิกคืน”
“ไม่เป็นไร ผมมีวิธีเอาคืนก็แล้วกัน”
ณิชาดาได้แต่กระทืบเท้าด้วยความขัดใจ เมื่อไม่สามารถเอาชนะชายหนุ่มได้ ร่างบางหันหลังให้คาเมลและกดโทรศัพท์โทรไปหาพี่สาวทันที
“ฮัลโหล พี่หมู นี่ข้าวปุ้นเองนะ ปุ้นเจอน้องบลูแล้ว ตอนนี้น้องบลูอยู่กับข้าวปุ้นที่ชั้นสี่ค่ะ”
“เจอน้องบลูแล้วหรือปุ้น พี่ดีใจจังเลย พี่เป็นห่วงน้องบลูแทบแย่”
ปรีชยาพรเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจและโล่งอกเป็นที่สุด จากนั้นก็เอ่ยถามน้องสาวต่อ
“ปุ้นเอาโทรศัพท์ใครโทร พี่โทรหาปุ้นตั้งหลายครั้งแต่โทรไม่ติดเลย”
เมื่อตามหาลูกชายพบแล้ว ปรีชยาพรก็อดต่อว่าน้องสาวไม่ได้
“แฮะๆ โทรศัพท์ปุ้นแบตฯ หมด ปุ้นยืมโทรศัพท์คนแถวๆ นี้โทร เห็นท่าทางซื่อๆ เหมือนคนเพิ่งเข้าเมืองกรุง ก็เลยหลอกขอโทรหน่อย”
ณิชาดาหลอกด่าคาเมล แถมยังพูดประโยคหลังเสียงดังให้คนที่กำลังเดินตามมาได้ยินด้วย
คาเมลได้ยินประโยคหลังที่หญิงสาวหลอกด่าตัวเอง ก็ได้แต่ทำเสียงคำรามฮึดฮัดอยู่ในลำคอ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยตัวแสบ!”
ณิชาดาอ่านริมฝีปากของอีกฝ่าย รู้ว่าคาเมลพูดว่าอะไร ก็ทำปากขมุบขมิบตอบกลับไปว่า
“ไม่รับฝาก”
“ข้าวปุ้น ทำไมเงียบไป ฟังพี่อยู่หรือเปล่า” ปรีชยาพรเรียกน้องสาวเสียงดังผ่านโทรศัพท์ กลัวแบตเตอรี่โทรศัพท์ที่น้องสาวใช้โทรจะหมดอีกเครื่อง
“ฟังอยู่ค่ะพี่หมู” ณิชาดาหันมาคุยโทรศัพท์กับพี่สาวต่อ
“ทำไม ไม่พาน้องบลูมาหาพี่ ปุ้นอยู่ชั้นสี่ใช่ไหม เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปหาเดี๋ยวนี้”
“พี่หมูไม่ต้องขึ้นมาหรอก เดี๋ยวหากันไม่เจออีก ยิ่งติดต่อกันยากๆ อยู่ ปุ้นจะพาน้องบลูไปซื้อหุ่นยนต์ก่อน พี่หมูรออยู่แถวๆ ประชาสัมพันธ์นะ อีกยี่สิบนาที ปุ้นจะลงไปหานะคะ”
“ก็ได้จ้ะ ถ้าเจอน้องบลูแล้วพี่ก็โล่งอก พี่รออยู่ในร้านกาแฟแถวๆ ประชาสัมพันธ์นะ”
“ค่ะพี่หมู แค่นี้ก่อนนะคะ โทรนานแล้วเปลืองค่าโทรศัพท์เขาแย่ เจ้าของเขายิ่งขี้งกคิดค่าโทรแพงด้วย”
ณิชาดาหันไปแขวะคาเมลอีกรอบ ทำเอาคาเมลต้องยิ้มขำ พร้อมกับส่ายหน้าราวกับระอาคนช่างหาเรื่อง
“จ้ะ แค่นี้แหละ พี่รออยู่ในร้านกาแฟนะจ้ะ” ปรีชยาพรย้ำกับน้องสาวอีกครั้ง
“ค่ะ ถ้างั้นเลิกกันนะ” ณิชาดากดวางสายแล้วยื่นโทรศัพท์ให้กับคาเมลคืน
“ใช้เสร็จแล้ว เอาโทรศัพท์คุณคืนไป”
“ฮันนี่ จะไม่ขอบคุณผมสักคำหรือยังไง คนเขาอุตส่าห์ใจดีให้ยืมโทรศัพท์ใช้”
คาเมลไม่ได้หยิบโทรศัพท์กลับคืน แต่มือใหญ่กำมือบอบบางข้างที่ถือโทรศัพท์ไว้แทน
“เรื่องอะไรจะขอบคุณ คุณเป็นคนเอาโทรศัพท์มาให้ฉันโทรเองนะ”
ณิชาดาปฏิเสธ พยายามชักมือกลับ ดวงตาคู่สวยภายใต้ขนตายาวงอนฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเอ่ยพูดว่า
“ขอบคุณก็ได้ ถ้าใจบุญแบบนี้ คราวหน้าขอยืมโทรไปหาเพื่อนที่ฝรั่งเศส สักครึ่งวันนะ”
ณิชาดาทำหน้าทะเล้น แล้วคลี่ยิ้มหวานยื่นหน้าไปขอบคุณใกล้ๆ ใบหน้าคมเข้ม
คาเมลตั้งหลักรอเวลาเอาคืนเหมือนกัน พอใบหน้างามนวลลออยื่นเข้ามาใกล้ เขาก็ดึงมือบางข้างที่กำไว้กระตุกจนร่างบางเซมาปะทะอกกว้าง ใบหน้าคมเข้มคล้ำแดดยื่นเข้าไปหอมแก้มเนียนใสฟอดใหญ่ และเลยไปจูบริมฝีปากแดงระเรื่ออีกด้วย
ณิชาดาเจอลูกเอาคืนแบบนี้ก็รู้ว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบอีกฝ่ายอยู่ นัยน์
ตาคู่สวยถลึงมองคาเมลด้วยความขัดใจ มือบางถูแรงๆ ตรงแก้มข้างที่โดนกดจุมพิต
“ยินดีให้ยืมตลอดเวลาเลยฮันนี่ ถ้าค่าโทรที่ได้รับหวานชื่นใจและหอมกรุ่นแบบนี้”
คาเมลพูดกลั้วหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าเนียนใสแดงก่ำด้วยความโกรธระคนเขินอาย
“ไม่ยืมแล้ว เสียเปรียบ เปลืองตัว”
ณิชาดาพูดกระแทกกระทั้น ถลึงตาเขียวปั้ดใส่คาเมล แล้วรีบเดินหนีไปหาน้องบลูที่แผนกของเล่นเด็ก โดยมีร่างสูงใหญ่ของคาเมลเดินตามหลังมาติดๆ พร้อมกับหัวเราะยั่วเสียงดัง ทำเอาหญิงสาวยิ่งโกรธชายหนุ่มมากกว่าเดิม ร่ำๆ จะซัดลงไปบนใบหน้าหล่อเหลาสักหมัดสองหมัด!
โดมินิทพาน้องบลูมาที่แผนกของเด็กเล่น ซึ่งมีของเล่นเด็กครบครันตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต
น้องบลูมองหุ่นยนต์ที่วางอยู่บนชั้นวางด้วยสายตาแวววาว เอื้อมมือไปลูบคลำหุ่นยนต์ที่วางโชว์ไว้นอกกล่องด้วยความอยากได้ โดมินิทมองตามสายตาของน้องบลูแล้วก็นึกสงสาร อยากซื้อหุ่นยนต์ที่มีอยู่ในแผนกของเล่นเด็กให้น้องบลูทั้งหมด
“น้องบลูอยากได้ตัวไหนก็หยิบใส่รถเข็นได้เลยนะครับ” โดมินิทก้มหน้าบอกเด็กน้อย
“คุณอาบลูจะซื้อหุ่นยนต์ให้น้องบลูทุกตัวเลยหรือเปล่าครับ” น้องบลูถามด้วยความไม่แน่ใจ
“คุณอาซื้อให้ทุกตัวที่น้องบลูอยากได้ครับ” ใบหน้าคมเข้มพยักหน้าตอบรับ
“แต่มันแพงนะครับ ถ้าคุณอาบลูซื้อให้น้องบลูเยอะ เดี๋ยวตังส์คุณอาบลูหมด คุณอาจะไม่มีตังส์ซื้อขนมกินนะครับ” น้องบลูเอ่ยบอกตามประสาเด็กน้อย รู้สึกเป็นห่วงเงินในกระเป๋าของคุณอา
โดมินิทยิ้มเอ็นดูกับความน่ารักชาญฉลาดและมีน้ำใจของเด็กน้อย มือใหญ่ขยี้เบาๆ บนศีรษะกลมทุย แล้วเอ่ยตอบให้น้องบลูสบายใจ
“น้องบลูเลือกตามใจชอบได้เลยครับ จะเอาไปฝากเพื่อนด้วยก็ได้ ถ้าเงินอาบลูหมด ไม่มีเงินซื้อขนม คุณอาไปกินขนมที่บ้านของบลูแทนได้ไหมครับ”