ยังมีเรื่องให้เกี่ยวข้องกันอีกเยอะ

1308 คำ
เมื่องานตามหน้าที่ของตนหมดแล้วตากล้องหนุ่มเดินออกไป ไม่ได้สนใจพูดคุยอะไรกับใครอีก... อิงกมลจะเรียกเขาคุยแต่เรียกไม่ทัน จึงได้แต่มองตามตาปรอยโดยที่ไม่มีใครได้สังเกตทัน... แม้จะไม่ได้คุยอะไรกับเขามาก แต่การได้มาร่วมงานกันครั้งนี้ก็ทำให้ได้กลับมาพบเขาอีกครั้ง เท่านี้หล่อนก็พอใจแล้ว ดังนั้นหลังเลิกกอง อิงกมลจึงเข้ามานั่งคุยกับพี่ฉิ่งแทนที่จะคุยกับปัณณ์ แค่ได้คุยกับพี่สาวคนที่ชอบเท่านี้หล่อนก็มีความสุขแล้ว จะเปรียบก็คงเหมือนกับสุภาษิตที่ว่า ไม่ได้เห็นหน้าเห็นหลังคาก็ยังดีอะไรประมาณนั้น ขากลับอิงกมลได้รับโทรศัพท์จากพี่อาร์ต อนุรักษ์ ผู้จัดการส่วนตัวของหล่อนโทรมาแจ้งว่าตอนดึกหล่อนมีงานถ่ายซ่อมละครต่อ หญิงสาวแยกกับศตายุโดยไม่ได้สนใจไต่ถามว่าเขาจะกลับอย่างไร เพราะหล่อนกลัวว่าจะได้เขามาเป็นสมาชิกร่วมทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยนั่นเอง ‘ค่อยโล่งใจหน่อย ดีที่หมอนั่นขับรถมาเอง ถ้าพี่อาร์ตฝากให้กลับด้วย ฉันคงนั่งหงุดหงิดตลอดทางแน่’ อิงกมลคิดในใจขณะมองตามรถจาร์กัว เอ็กซ์เคสีขาวสะอาดของศตายุแล่นออกไป แล้วก็ถึงคราวของหล่อนที่จะล่ำรากับพี่ฉิ่งและทีมงานที่ยืนส่งหล่อนไปขึ้นรถของตัวเองเดินทางกลับกรุงเทพฯ เช่นกัน อิงกมลรู้ว่าการที่หล่อนเชิดใส่ศตายุนั้นไม่ถูก เพราะการมีผู้จัดการคนเดียวกันยังไงก็ควรผูกมิตรกัน แต่หล่อนก็ไม่คิดจะทำ เพราะไม่อยากจะสนใจคนที่หล่อนไม่ชอบอย่างรุนแรงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้า คราวหน้าถ้ามีงานไหนติดต่อมาแล้วมีเขาเอี่ยวด้วย หล่อนก็จะไม่รับให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ก็คนมันเกลียดนี่! ผับหรูกลางกรุงในยามราตรีคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเบียดเสียดกันดื่มกินผ่อนคลายความเครียดและมุ่งหวังสังสรรค์หาความสุขจากสิ่งมอมเมาในชั่วข้ามคืน ศตายุเองก็เป็นอีกหนึ่งคนในนั้นที่ออกมาสังสรรค์กับเพื่อนหลังจากที่อารมณ์เสียกับการทำงานมาทั้งวัน แต่แม้จะมาเจอเพื่อนก๊วนเดิมพร้อมหน้า มีสาวสวยมาคลอเคลียไม่ห่าง แต่มันก็ไม่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาเลย... แน่นอนว่าการถ่ายปกเวดดิ้งสไตล์ของพราวพรรณรายค่อนข้างทำให้เขาคิดมากกับปฏิกิริยาตอบรับที่แย่ๆ ของอิงกมล เพราะตามธรรมดามันไม่น่าจะออกมาเลวร้ายขนาดนั้น ปฏิกิริยาที่หล่อนตอบรับเขามาตลอดเวลาที่ร่วมงานกันทำให้เขางง เพราะไม่เคยมีใครต่อต้านเป็นปฏิปักษ์กับเขาขนาดนี้มาก่อน หล่อนทำอย่างกับว่าเป็นศัตรูที่โกรธกันมา เป็นร้อยชาติ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน และเขาก็มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรให้หล่อนเคืองแค้นมาก่อนแน่นอน “เฮ้ย ไอไทด์ ทำหน้ายุ่งอะไรอย่างนั้นวะ” พลภวัต ลูกชายนักการเมืองชื่อดัง เพื่อนตัวแสบประจำก๊วนตบบ่าของคนที่เหม่อลอยไม่สนใจเพื่อนที่เฮฮากันอยู่ ไม่สนแม้แต่น้องนีน่ากิ๊กเบอร์ล่าสุดที่พยายามคลอเคลียปล้ำจูบแก้มศตายุอยู่ด้วยซ้ำ... “วันนี้ข้าเซ็งๆ ว่ะ” “เซ็งก็ทิ้งเรื่องเซ็งเอาไว้ แล้วก็ผ่อนคลายสิวะ ไม่ใช่มานั่งทำหน้าบูด หรือว่าเอ็งมีเรื่องอะไรไม่สบายใจแล้วพอจะบอกเพื่อนได้เอ็งก็ระบายออกมาก็ได้ จะได้สบายใจขึ้น” รวี หนุ่มที่ดูหน้าตาเนิร์ดแต่เจ้าชู้เป็นเพลย์บอยตัวเอ้ที่สุดของกลุ่มเอ่ยออกมา รวีเป็นคนเต็มที่กับเพื่อนและเป็นห่วงศตายุ เพราะว่าไม่เคยเห็นศตายุเป็นกังวลกับเรื่องอะไรจนทำให้จิตตกขนาดนี้มาก่อน “เออ เอ็งพูดถูก ไอ้วี ข้าถามเอ็งหน่อยสิวะ ถ้าเอ็งเจอผู้หญิงคนหนึ่งครั้งแรก แต่เขากลับทำท่าเหมือนเกลียดเอ็งอย่างกับเอ็งเคยไปทำอะไรไม่ดีใส่เขามาก่อนเนี่ย มันหมายความว่าไงวะ” “โธ่ ไทด์ พูดถึงผู้หญิงอื่นต่อหน้านีน่าได้ไงคะเนี่ย” นีน่าเย้ายิ้มๆ แต่ไม่ได้มีความหมายอะไรจริงจังในน้ำคำนั่นเลย เพราะศตายุและนีน่าหรือแม้แต่เพื่อนคนอื่นก็ต่างรู้กันดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงทุกวันนี้ล้วนฉาบฉวยไม่จริงจัง ต่างฝ่ายต่างพอใจคบกัน ไม่พอใจก็เลิกไปคบคนใหม่ก็เท่านั้น “นี่ไอ้ไทด์ ข้าจะบอกให้นะ ผู้หญิงมีอยู่สองแบบ คือแบบ ทำอะไรตรงกับใจ กับทำไม่ตรงกับใจ ถ้าเอ็งมั่นใจว่าเจอกันครั้งแรกจริงๆ แล้วเจอทำแบบนี้นะ ข้าว่า ยัยผู้หญิงคนนั้นต้องแอบชอบเอ็งมาก่อนแน่ๆ เลยว่ะ ถึงได้แกล้งทำไม่ดีใส่เรียกร้องความสนใจ” พลภวัตผู้สันทัดเรื่องผู้หญิงออกความเห็น ศตายุสาบานได้ว่าตอนนี้เขาขนลุกไปทั้งตัว ไม่ใช่เพราะนีน่าพยายามพ่นลมหายใจอุ่นๆ ที่ซอกคอเขา แต่เป็นเพราะเขาพาลนึกไปถึงภาพที่อิงกมลแอบชอบเขา มันคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน “ข้าก็เห็นด้วยเหมือนไอ้พล เอ็งไม่ต้องไปเสียเซลฟ์หรอกไอ้ไทด์ คนอย่างเอ็งไม่มีใครเชิดหน้าใส่ตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักหรอก เอ็งก็ไม่ได้เป็นคนนิสัยแย่ หน้าตาก็หล่อ พ่อก็รวย” รวีเสริม “เอ หรือว่าที่เอ็งจิตตกอยู่นี่เพราะว่า มองๆ เขาอยู่แต่เขาดันเชิดใส่เลยกังวลวะ” คราวนี้ศตายุถึงกับปั่นป่วนมวนในท้องเหมือนจะอาเจียน เขาไม่มีทางชอบคนแบบนั้นแน่ ทั้งนิสัยไม่ดี และห่างไกลสเป็คของเขาเป็นล้านโยชน์ ไม่มีวันนั้นแน่นอน! “ไม่หรอกว่ะ ข้าแค่งง ที่อยู่ดีๆ โดนเชิดใส่ ไม่มีอะไรมากหรอก” ศตายุบอกเสียงปลงๆ “ผู้หญิงคนนั้นคงแอบชอบไทด์อย่างที่พลว่าแน่ๆ ค่ะ อย่าไปหลงมารยาหญิงเชียวนะไทด์ ไม่งั้นนีน่าไม่ยอม” นีน่าแทรกขึ้นมา “อย่าไปสนใจคนอื่นเลยค่ะ มาดื่มกันดีกว่า” แก้วค็อกเทลสีฟ้าสวยถูกมือเรียวเล็กของนางแบบแถวหน้าของวงการหยิบขึ้นมา สามหนุ่มและอีกสองสาวในกลุ่มนั้นก็ยกแก้วขึ้นมาชน และกลืนน้ำเมรัยลงคอไป บรรยากาศดีขึ้นมาอีกระลอกเมื่อทุกคนล้วนสนุกสนานเฮฮา หากแต่ในใจ ของศตายุ ยังคงครุ่นคิดกังวล เพื่อนๆ ของเขาไม่รู้หรอกว่า ผู้หญิงคนนั้น ที่ศตายุพูดถึง คือ อิงกมล คิมซอฮยอน บวรวรกุล นางเอกสาวลูกครึ่งไทยเกาหลี ลูกสาวคนเดียวของท่านทูตยูเอ็น ดูจากรูปการณ์แล้วคนอย่างหล่อนคงไม่มีทางที่จะหลงรักคนอย่างเขาแน่ หรือว่าเขากับหล่อนเคยรู้จักกันมาก่อน ใบหน้าหล่อนที่เขารู้สึกคุ้นอาจจะไม่ได้คุ้นเพราะเห็นทางทีวี แต่คุ้นเพราะเห็นตัวจริงมาก่อน ไม่หรอกน่า... เขาไม่ใช่คนขี้ลืมขนาดนั้น ศตายุบอกกับตัวเอง ก่อนจะถอนใจ คิดว่าหล่อนจะทำแบบนั้นเพราะอะไรก็ตามแต่ ถ้าเขาแค่ไม่แคร์ มันก็คงจบ นายแบบหนุ่มรูปงามจึงลืมเรื่องชวนอารมณ์เสียนั่นไป ก่อนจะร่วมเฮกับเพื่อนในก๊วน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า เรื่องที่คิดว่าจบ มันไม่จบง่ายๆ เลย เพราะเขากับ อิงกมล ยังมีเรื่องให้เกี่ยวข้องกันอีกเยอะ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม